ยาวนะครับ อยากขอบคุณมากๆที่อ่านและชี้แนะ
เนื่องจากเป็นคนปฏิสัมพันธ์กับใครไม่เก่ง
และค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง
ปัจจุบันอายุ ใกล้ 30 ปีแล้ว
ไม่มีแฟน ขี้อาย ยิ้มให้ใครก่อนยังไม่เคย เพราะเขิน
เป็นคนที่รักเพื่อนฝูง ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหน วันๆอยู่กับที่ทำงาน เวลาส่วนตัวยังน้อยเพราะขยันทำงาน(บ้างาน) และชอบทำงานอดิเรกเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จึงแทบไม่พบปะผู้คน ส่วนใหญ่หมกมุ่นอยู่กับตัวเองล้วนๆ
เพื่อนๆต่างไม่มีแฟน ถึงมีแฟนก็มีประสบการณ์จากผู้หญิงเริ่มต้นก่อนทั้งนั้น
ทั้งนี้ผมเองก็เคยมีผู้หญิงมาจีบมาชอบเรื่อยๆ (เพื่อนบอกว่าผมหน้าตาไม่ขี้เหร่) แต่ไม่เคยเจอใครมีคุณสมบัติดังนี้เลย
ที่ว่าคือ คือ เป็นคนดี เป็นผู้หญิงใจดี และ กาย ใจ บริสุทธิ์ ที่เคยคุย รู้จัก มากสุดก็นิสัยดีแทบทุกอย่าง แต่ร่างกายไม่บริสุทธิ์แล้ว(เนื่องจากอดีตโดนผู้ชายหลอกอย่างเช่นหลายๆคู่ที่คบแล้วหวังมีเพศสัมพันธ์กันทั้งที่ผู้ใหญ่ พ่อแม่ ยังไม่รับรู้) สำหรับผม คนที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ ต้องแต่งก่อน จดทะเบียนตามกฎหมาย ญาติผู้ใหญ่ยอมรับ รับรู้ หรืออย่างน้อยต้องเป็นทางการตามพิธีรีตอง ตามจารีต
เหตุผลที่ผมอยากได้ผู้หญิงบริสุทธิ์เพราะ เธอสะอาดทางความรู้สึก เธอรู้จักการยับยั้งชั่งใจ ไตร่ตรองอะไรๆก่อน มีทัศนคติไปในทางเดียวกัน คือเป็นคนต้องการมีคู่ชีวิตเพียงคนเดียว มอบกายและใจเพื่อคนๆเดียว ไตร่ตรองให้ดี คิดแล้วคิดอีก ผมอาจอธิบายเป็นคำพูดไ่ม่ถูก แต่บอกได้ว่า เป็นความภูมิใจในตัวเธอ ตอนคืนแรกที่เราได้ถอดเสื้อผ้ากันมันคงตื่นเต้นน่าดู อาจทำอะไรๆไม่เป็นแต่พร้อมจะเรียนรู้ไปด้วยกัน อีกอย่าง ในแง่สังคม ทางพ่อแม่ก็ไม่อับอายขายหน้าด้วย ไม่ตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน ว่าเคยเป็นผัวเมียคนอื่นมาก่อน อีกทั้ง เรายังกล้าบอกลูกตัวเองในอนาคตได้เต็มปากว่าพ่อแม่รักกันจริง อดทนรอได้ เป็นคู่แท้คู่ชีวิตของกันและกัน แต่งตามธรรมเนียมประเพณี ไม่ชิงสุกก่อนห่าม ผมถือว่า ชีวิตเป็นของผม แต่ร่างกายพ่อแม่ให้มา (พ่อแม่ตั้งใจให้กำเนิดผมมาด้วยความรัก)
ส่วนพ่อแม่ใครไม่ถือเรื่องอยู่ก่อนแต่งก็ไม่เกี่ยวกับประเด็น
เกริ่นมาเสียเยอะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
การจะเริ่มต้นกับใครนั้นไม่ง่าย(สำหรับผม) เราจะถามคนที่เพิ่งรู้จักได้อย่างไร เพื่อให้แน่ใจและไม่เสียเวลาเรียนรู้กันไปโดยไร้ค่า(ในเรื่องหาคู่ชีวิต)
หรือหากรู้จักระยะหนึ่งแล้ว
เราจะถามผู้หญิงที่เราชอบยังไงได้บ้าง ไม่ให้น่าเกลียด เป็นไปได้ก็ไม่อ้อมค้อม
ให้ได้คำตอบตรงคำถาม ชัดเจน
ว่าเธอเคยจับมือกับผู้ชายมาก่อนไหม เคยจูบเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนหรือไม่ เคยล้วงเคยจับ เคยเผยเรือนร่างที่เป็นของสงวนให้ชายใดดูบ้างหรือเปล่า
อาจฟังดูเหมือนหยามเขา แต่เราไม่มีเจตนานั้น เจตนาคือ อยากมีคู่ครองที่บริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งกายและใจ เป็นคนแรกของกันและกันเท่านั้นเอง
บางคนนิสัยดี ภายนอกภายในดีแทบทุกอย่าง แต่คิดไม่ตรงกับเราในเรื่องนี้ ก็ไม่ว่ากัน เกือบจะเป็นแฟนแล้ว แต่เรายึดมั้นเรื่องนี้มาก ก็จะกล้าถามไปว่าเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนไหม เธอก็บอกเคย (ซึ่งใครๆต่างก็ไม่อยากเชื่อในความไร้เดียงสาของเธอ) หรือ บางคนก็เคยแก้ผ้าให้ผู้ชายดู อาจเรียกได้ว่ามี้เพศสัมพันธ์ แต่ไม่สอดใส่ก็ได้ เพราะคลอเคลีย ดูดดื่มกัน มีการอม นัวเนีย ยกเว้นแค่สอดใส่ ทำให้เธอก็ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แต่แบบนั้นผมไม่ต้องการ ผมต้องการผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรี เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งคนคิดต่างผมก็ยอมรับและไม่ว่าอะไร เขามีสิทธิ์ทำแบบนั้น ซึ่งคนที่จะมาเป็นภรรยาผมจะไม่ใช่คนที่ผ่านเรื่องเพศสัมพันธ์มาก่อนแน่นอน
บางคนก็ชอบอยู่ก่อนแต่ง นั่นก็เป็นสิทธิ์ของเขา ผมเคยเจอผู้หญิงมาให้ท่า มานอนห้องผม มายั่ว ถึงขั้นรุกผม แต่ทุกคนที่เจอ ผมไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากบอกว่าผมไม่ แค่นั้น หลายคนก็มีด่าว่า หยามกันก็มี แต่นั่นก็เรื่องของเขา ส่วนคนที่เข้าใจ ก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนทุกวันนี้
ผมนั้นอยากได้หญิงบริสุทธิ์ ผมเองก็ต้องทำให้ได้ หรือใครอาจว่า ได้ชายซิงเหมือนได้ควาย ก็ช่างเขาเถิด เราพร้อมเปิดกับคนที่ใช่คนเดียวทั้งชีวิตก็พอ
เคยได้ยินคำนี้ไหม "เก็บซิงไว้ชิงโชค เก็บสะโพกไว้โยกกับคนที่ใ่ช่" ผ่ามม !! เล่นเองชงเอง 5555
สุดท้ายนี้ อยากขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้คำแนะนำ
วิจารณ์กันได้เต็มที่ แต่ขอแบบมีเหตุผลและตอบอย่างมีสติปัญญานะครับ ไม่ชอบอะไรไร้สาระ เป็นไปไม่ได้ หรือตอบกวนโทสะ เช่น ไปหาเด็กอนุบาลเถอะ ผู้หญิงซิงไม่มีหรอก เป็นต้น ผมคิดว่าคนเราควรมีการรู้จักยับยั้งชั่งใจหรือควบคุมอารมณ์ให้แสดงออกอย่างสมควร และสิ่งที่แสดงออกมาย่อมสื่อถึงการอบรมเลี้ยงดูหรือรากเหง้าตนเอง ขอบคุณที่รักษามารยาทนะครับ ที่ผมพิมพ์ดักไว้ก่อนเพราะประสบการณ์ที่เจอมา พอเราถามเรื่องทำนองนี้ ย่อมมีคนวิจารณ์หยาบคายเนื่องมาจากความคิดที่ต่างกับตนเองทั้งสิ้น และในชีวิต ผมเจอผู้หญิงที่คิดแบบผมหลายคน แต่เรื่องความรักมักซับซ้อน เธอจะมาในรูปแบบเพื่อน พี่น้อง ฮื้อฮือ~ เศร้า
คนไม่ใช่ ยังไงก็คงไม่ได้คู่กัน ถถถ ปิดกระทู้อย่างวลี
..........
แก้ไขเพิ่มเติม และแก้คำผิด
มีหลายคนมาถามว่า เคยคิดหรือให้โอกาสผู้หญิงบ้างไหม หากรักด้วยใจ และมีแค่เราคนเดียว ดีทุกอย่างเว้นแต่กายไม่บริสุทธิ์ เหตุใดจึงไม่มองปัจจุบัน ที่ผ่านไปล้วนเป็นอดีต ถ้ารักจริงจะไม่มองเรื่องนี้ จะมองด้วยใจ
ผมได้ตอบซ้ำๆกันมาเยอะ และมีแนวโน้มว่า
จะมีถามซ้ำๆทำนองนี้เข้ามาอีก จึงขอชี้แจงว่า
ผมให้โอกาสมาแล้ว และไม่ได้มองแค่เรื่องความบริสุทธิ์ทางกายเพียงอย่างเดียว ผมมองถึงความคิดต่างๆ ความเข้ากันได้ และอื้นๆอีกมากมาย
ผมเคยคบกับผู้หญิงที่ดีมากๆ และเธอเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
เธอก็ให้โอกาสผมตัดสินใจ
ตอนแรกผมคิดว่ารับได้ทุกอย่าง แต่พอได้รู้สึก สัมผัสความจริง ลึกๆแล้วในใจก็รับไม่ได้ อาจเรียกว่าใจแคบหรือไม่นั้นแล้วแต่มุมมอง
ผมรักเธอแต่ผมก็รักตัวเอง ผมทำในส่วนของผมได้แล้ว ผมอยากได้สัมผัสความรู้สึกแรกที่เธออยากมอบให้คนรักจริงๆเช่นกัน เป็นคนแรกของกันและกัน พร้อมใช้ชีวิตคู่กันไปตลอดจริงๆ
ผมอยากลูบหน้าผากเธอ ผมอยากกอดเธอ อยากทำอะไรๆกับเธอ ไม่ต่างจากชายอื่นๆ แต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมหยุดไว้ทันที และคิดว่า ก่อนหน้านี้มีคนเคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อนผม ถึงจะเป็นอดีตที่ผมไม่รู้เรื่องหรือเกี่ยวข้องมาก่อน หัวใจผมแทบแตกสลายในทันที ผมตระหนักว่าผมทำใจไม่ได้แน่นอน หรือหากทำลงไป ผู้ชายในอนาคตเธอถ้าคิดแบบเดียวกับผม เขาจะคิดว่ามีผู้ชายกี่คนที่เคยทำอย่างไรกับเธอมาก่อนถึงเขาบ้าง ความรู้สึกเขาและเธอจะเป็นอย่างไร
หลายคนว่า จับมือก็ไม่ได้หรอ การจับมือ กอดแบบไม่มีเจตนาล่วงเกิน ผมรับได้ สิ่งนั้นเป็นการแสดงความรักทางภาษากาย แต่ถ้าไม่เคยก็คงดี อย่างที่กล่าวไปว่า อยากได้สัมผัสความรู้สึกแรก
ผู้หญิงที่ผ่านการจูบ หรือ มีเพศสัมพันธ์ แน่นอนว่าป้องกันหรือไม่ มีอัตราการเสี้ยงโรคติดต่อ และเสี่ยงกระทบต่อลูก
ถัดมา ปัญหาที่เกิดจากอดีตที่ส่งผลกับปัจจุบันและอนาคต
แน่นอนว่าเธอรู้ ฝ่ายชายรู้ ถ้าคนรักเก่าไม่เปิดเผยเรื่องราวของเธอก็ดีไป แต่หากไม่ล่ะ อย่างกรณีที่ผมพบเจอตั้งแต่สมัยประถม
ยกตัวอย่าง สมมติเพื่อนชื่อ A , B , C
พ่อเพื่อน A เล่าให้ A , B , C ฟัง ว่าแม่ B เคยเป็นเมียพ่อเขามาก่อน เคยทำอย่างโน้น อย่างนี้ อย่างนั้นกันมาก่อน ต่อมา B ไปถามแม่ ทำให้พ่อแม่เขารู้สึกไม่ดี จากนั้น B ก็โดน A , C และเพื่อนๆล้อจนเป็นปมในใจ คนอื้นรู้ นินทา เรื่องกระจายวงกว้าง พ่อ B ขอพบพ่อ A จนมีเรื่องชกต่อยกันในโรงเรียน ปัญหาบานปลาย คนรับรู้นินทากันเพิ้มขึ้น เสียชื่อเสียง อับอายขายหน้าวงค์ตระกูล
ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจไม่เกิด แต่เรื่องคนรับรู้นำไปบอกต่อ เกิดได้แน่นอน และผมไม่มีทางให้คนรักหรือครอบครัวโดนตราหน้าเหยียดหยามแน่ๆ
สุดท้าย ถ้ารักกันจริง ไม่มองแค่นี้หรอก
ใช่ครับ ผมไม่ได้มองแค่เรื่องไม่บริสุทธิ์ แต่ก่อนจะไม่บริสุทธิ์ คุณคิดดีแล้วหรือยัง ถ้าคิดดีแล้วก็รับผลที่ตัดสินใจและรับผิดชอบตัวเอง
ผมมองเรื่องมุมมอง ความเข้าใจเป็นหลัก รับในตัวตน อุปนิสัย เข้ากันได้มากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้สำคัญไม่แพ้กัน ทุกเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่อะไรสำคัญที่สุด แต่ต่างล้วนสำคัญไม่แพ้กัน
ขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาอ่านจนจบครับ
เราจะถามผู้หญิงอย่างไรไม่ให้น่าเกลียดว่าเธอเคยผ่านมือชายมาก่อนหรือไม่
เนื่องจากเป็นคนปฏิสัมพันธ์กับใครไม่เก่ง
และค่อนข้างโลกส่วนตัวสูง
ปัจจุบันอายุ ใกล้ 30 ปีแล้ว
ไม่มีแฟน ขี้อาย ยิ้มให้ใครก่อนยังไม่เคย เพราะเขิน
เป็นคนที่รักเพื่อนฝูง ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหน วันๆอยู่กับที่ทำงาน เวลาส่วนตัวยังน้อยเพราะขยันทำงาน(บ้างาน) และชอบทำงานอดิเรกเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จึงแทบไม่พบปะผู้คน ส่วนใหญ่หมกมุ่นอยู่กับตัวเองล้วนๆ
เพื่อนๆต่างไม่มีแฟน ถึงมีแฟนก็มีประสบการณ์จากผู้หญิงเริ่มต้นก่อนทั้งนั้น
ทั้งนี้ผมเองก็เคยมีผู้หญิงมาจีบมาชอบเรื่อยๆ (เพื่อนบอกว่าผมหน้าตาไม่ขี้เหร่) แต่ไม่เคยเจอใครมีคุณสมบัติดังนี้เลย
ที่ว่าคือ คือ เป็นคนดี เป็นผู้หญิงใจดี และ กาย ใจ บริสุทธิ์ ที่เคยคุย รู้จัก มากสุดก็นิสัยดีแทบทุกอย่าง แต่ร่างกายไม่บริสุทธิ์แล้ว(เนื่องจากอดีตโดนผู้ชายหลอกอย่างเช่นหลายๆคู่ที่คบแล้วหวังมีเพศสัมพันธ์กันทั้งที่ผู้ใหญ่ พ่อแม่ ยังไม่รับรู้) สำหรับผม คนที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ ต้องแต่งก่อน จดทะเบียนตามกฎหมาย ญาติผู้ใหญ่ยอมรับ รับรู้ หรืออย่างน้อยต้องเป็นทางการตามพิธีรีตอง ตามจารีต
เหตุผลที่ผมอยากได้ผู้หญิงบริสุทธิ์เพราะ เธอสะอาดทางความรู้สึก เธอรู้จักการยับยั้งชั่งใจ ไตร่ตรองอะไรๆก่อน มีทัศนคติไปในทางเดียวกัน คือเป็นคนต้องการมีคู่ชีวิตเพียงคนเดียว มอบกายและใจเพื่อคนๆเดียว ไตร่ตรองให้ดี คิดแล้วคิดอีก ผมอาจอธิบายเป็นคำพูดไ่ม่ถูก แต่บอกได้ว่า เป็นความภูมิใจในตัวเธอ ตอนคืนแรกที่เราได้ถอดเสื้อผ้ากันมันคงตื่นเต้นน่าดู อาจทำอะไรๆไม่เป็นแต่พร้อมจะเรียนรู้ไปด้วยกัน อีกอย่าง ในแง่สังคม ทางพ่อแม่ก็ไม่อับอายขายหน้าด้วย ไม่ตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน ว่าเคยเป็นผัวเมียคนอื่นมาก่อน อีกทั้ง เรายังกล้าบอกลูกตัวเองในอนาคตได้เต็มปากว่าพ่อแม่รักกันจริง อดทนรอได้ เป็นคู่แท้คู่ชีวิตของกันและกัน แต่งตามธรรมเนียมประเพณี ไม่ชิงสุกก่อนห่าม ผมถือว่า ชีวิตเป็นของผม แต่ร่างกายพ่อแม่ให้มา (พ่อแม่ตั้งใจให้กำเนิดผมมาด้วยความรัก)
ส่วนพ่อแม่ใครไม่ถือเรื่องอยู่ก่อนแต่งก็ไม่เกี่ยวกับประเด็น
เกริ่นมาเสียเยอะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่า
การจะเริ่มต้นกับใครนั้นไม่ง่าย(สำหรับผม) เราจะถามคนที่เพิ่งรู้จักได้อย่างไร เพื่อให้แน่ใจและไม่เสียเวลาเรียนรู้กันไปโดยไร้ค่า(ในเรื่องหาคู่ชีวิต)
หรือหากรู้จักระยะหนึ่งแล้ว
เราจะถามผู้หญิงที่เราชอบยังไงได้บ้าง ไม่ให้น่าเกลียด เป็นไปได้ก็ไม่อ้อมค้อม
ให้ได้คำตอบตรงคำถาม ชัดเจน
ว่าเธอเคยจับมือกับผู้ชายมาก่อนไหม เคยจูบเคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนหรือไม่ เคยล้วงเคยจับ เคยเผยเรือนร่างที่เป็นของสงวนให้ชายใดดูบ้างหรือเปล่า
อาจฟังดูเหมือนหยามเขา แต่เราไม่มีเจตนานั้น เจตนาคือ อยากมีคู่ครองที่บริสุทธิ์ผุดผ่องทั้งกายและใจ เป็นคนแรกของกันและกันเท่านั้นเอง
บางคนนิสัยดี ภายนอกภายในดีแทบทุกอย่าง แต่คิดไม่ตรงกับเราในเรื่องนี้ ก็ไม่ว่ากัน เกือบจะเป็นแฟนแล้ว แต่เรายึดมั้นเรื่องนี้มาก ก็จะกล้าถามไปว่าเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนไหม เธอก็บอกเคย (ซึ่งใครๆต่างก็ไม่อยากเชื่อในความไร้เดียงสาของเธอ) หรือ บางคนก็เคยแก้ผ้าให้ผู้ชายดู อาจเรียกได้ว่ามี้เพศสัมพันธ์ แต่ไม่สอดใส่ก็ได้ เพราะคลอเคลีย ดูดดื่มกัน มีการอม นัวเนีย ยกเว้นแค่สอดใส่ ทำให้เธอก็ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ แต่แบบนั้นผมไม่ต้องการ ผมต้องการผู้หญิงที่มีศักดิ์ศรี เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งคนคิดต่างผมก็ยอมรับและไม่ว่าอะไร เขามีสิทธิ์ทำแบบนั้น ซึ่งคนที่จะมาเป็นภรรยาผมจะไม่ใช่คนที่ผ่านเรื่องเพศสัมพันธ์มาก่อนแน่นอน
บางคนก็ชอบอยู่ก่อนแต่ง นั่นก็เป็นสิทธิ์ของเขา ผมเคยเจอผู้หญิงมาให้ท่า มานอนห้องผม มายั่ว ถึงขั้นรุกผม แต่ทุกคนที่เจอ ผมไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากบอกว่าผมไม่ แค่นั้น หลายคนก็มีด่าว่า หยามกันก็มี แต่นั่นก็เรื่องของเขา ส่วนคนที่เข้าใจ ก็กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนทุกวันนี้
ผมนั้นอยากได้หญิงบริสุทธิ์ ผมเองก็ต้องทำให้ได้ หรือใครอาจว่า ได้ชายซิงเหมือนได้ควาย ก็ช่างเขาเถิด เราพร้อมเปิดกับคนที่ใช่คนเดียวทั้งชีวิตก็พอ
เคยได้ยินคำนี้ไหม "เก็บซิงไว้ชิงโชค เก็บสะโพกไว้โยกกับคนที่ใ่ช่" ผ่ามม !! เล่นเองชงเอง 5555
สุดท้ายนี้ อยากขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและให้คำแนะนำ
วิจารณ์กันได้เต็มที่ แต่ขอแบบมีเหตุผลและตอบอย่างมีสติปัญญานะครับ ไม่ชอบอะไรไร้สาระ เป็นไปไม่ได้ หรือตอบกวนโทสะ เช่น ไปหาเด็กอนุบาลเถอะ ผู้หญิงซิงไม่มีหรอก เป็นต้น ผมคิดว่าคนเราควรมีการรู้จักยับยั้งชั่งใจหรือควบคุมอารมณ์ให้แสดงออกอย่างสมควร และสิ่งที่แสดงออกมาย่อมสื่อถึงการอบรมเลี้ยงดูหรือรากเหง้าตนเอง ขอบคุณที่รักษามารยาทนะครับ ที่ผมพิมพ์ดักไว้ก่อนเพราะประสบการณ์ที่เจอมา พอเราถามเรื่องทำนองนี้ ย่อมมีคนวิจารณ์หยาบคายเนื่องมาจากความคิดที่ต่างกับตนเองทั้งสิ้น และในชีวิต ผมเจอผู้หญิงที่คิดแบบผมหลายคน แต่เรื่องความรักมักซับซ้อน เธอจะมาในรูปแบบเพื่อน พี่น้อง ฮื้อฮือ~ เศร้า
คนไม่ใช่ ยังไงก็คงไม่ได้คู่กัน ถถถ ปิดกระทู้อย่างวลี
..........
แก้ไขเพิ่มเติม และแก้คำผิด
มีหลายคนมาถามว่า เคยคิดหรือให้โอกาสผู้หญิงบ้างไหม หากรักด้วยใจ และมีแค่เราคนเดียว ดีทุกอย่างเว้นแต่กายไม่บริสุทธิ์ เหตุใดจึงไม่มองปัจจุบัน ที่ผ่านไปล้วนเป็นอดีต ถ้ารักจริงจะไม่มองเรื่องนี้ จะมองด้วยใจ
ผมได้ตอบซ้ำๆกันมาเยอะ และมีแนวโน้มว่า
จะมีถามซ้ำๆทำนองนี้เข้ามาอีก จึงขอชี้แจงว่า
ผมให้โอกาสมาแล้ว และไม่ได้มองแค่เรื่องความบริสุทธิ์ทางกายเพียงอย่างเดียว ผมมองถึงความคิดต่างๆ ความเข้ากันได้ และอื้นๆอีกมากมาย
ผมเคยคบกับผู้หญิงที่ดีมากๆ และเธอเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
เธอก็ให้โอกาสผมตัดสินใจ
ตอนแรกผมคิดว่ารับได้ทุกอย่าง แต่พอได้รู้สึก สัมผัสความจริง ลึกๆแล้วในใจก็รับไม่ได้ อาจเรียกว่าใจแคบหรือไม่นั้นแล้วแต่มุมมอง
ผมรักเธอแต่ผมก็รักตัวเอง ผมทำในส่วนของผมได้แล้ว ผมอยากได้สัมผัสความรู้สึกแรกที่เธออยากมอบให้คนรักจริงๆเช่นกัน เป็นคนแรกของกันและกัน พร้อมใช้ชีวิตคู่กันไปตลอดจริงๆ
ผมอยากลูบหน้าผากเธอ ผมอยากกอดเธอ อยากทำอะไรๆกับเธอ ไม่ต่างจากชายอื่นๆ แต่ผมก็ทำไม่ได้ ผมหยุดไว้ทันที และคิดว่า ก่อนหน้านี้มีคนเคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อนผม ถึงจะเป็นอดีตที่ผมไม่รู้เรื่องหรือเกี่ยวข้องมาก่อน หัวใจผมแทบแตกสลายในทันที ผมตระหนักว่าผมทำใจไม่ได้แน่นอน หรือหากทำลงไป ผู้ชายในอนาคตเธอถ้าคิดแบบเดียวกับผม เขาจะคิดว่ามีผู้ชายกี่คนที่เคยทำอย่างไรกับเธอมาก่อนถึงเขาบ้าง ความรู้สึกเขาและเธอจะเป็นอย่างไร
หลายคนว่า จับมือก็ไม่ได้หรอ การจับมือ กอดแบบไม่มีเจตนาล่วงเกิน ผมรับได้ สิ่งนั้นเป็นการแสดงความรักทางภาษากาย แต่ถ้าไม่เคยก็คงดี อย่างที่กล่าวไปว่า อยากได้สัมผัสความรู้สึกแรก
ผู้หญิงที่ผ่านการจูบ หรือ มีเพศสัมพันธ์ แน่นอนว่าป้องกันหรือไม่ มีอัตราการเสี้ยงโรคติดต่อ และเสี่ยงกระทบต่อลูก
ถัดมา ปัญหาที่เกิดจากอดีตที่ส่งผลกับปัจจุบันและอนาคต
แน่นอนว่าเธอรู้ ฝ่ายชายรู้ ถ้าคนรักเก่าไม่เปิดเผยเรื่องราวของเธอก็ดีไป แต่หากไม่ล่ะ อย่างกรณีที่ผมพบเจอตั้งแต่สมัยประถม
ยกตัวอย่าง สมมติเพื่อนชื่อ A , B , C
พ่อเพื่อน A เล่าให้ A , B , C ฟัง ว่าแม่ B เคยเป็นเมียพ่อเขามาก่อน เคยทำอย่างโน้น อย่างนี้ อย่างนั้นกันมาก่อน ต่อมา B ไปถามแม่ ทำให้พ่อแม่เขารู้สึกไม่ดี จากนั้น B ก็โดน A , C และเพื่อนๆล้อจนเป็นปมในใจ คนอื้นรู้ นินทา เรื่องกระจายวงกว้าง พ่อ B ขอพบพ่อ A จนมีเรื่องชกต่อยกันในโรงเรียน ปัญหาบานปลาย คนรับรู้นินทากันเพิ้มขึ้น เสียชื่อเสียง อับอายขายหน้าวงค์ตระกูล
ซึ่งปัญหาเหล่านี้อาจไม่เกิด แต่เรื่องคนรับรู้นำไปบอกต่อ เกิดได้แน่นอน และผมไม่มีทางให้คนรักหรือครอบครัวโดนตราหน้าเหยียดหยามแน่ๆ
สุดท้าย ถ้ารักกันจริง ไม่มองแค่นี้หรอก
ใช่ครับ ผมไม่ได้มองแค่เรื่องไม่บริสุทธิ์ แต่ก่อนจะไม่บริสุทธิ์ คุณคิดดีแล้วหรือยัง ถ้าคิดดีแล้วก็รับผลที่ตัดสินใจและรับผิดชอบตัวเอง
ผมมองเรื่องมุมมอง ความเข้าใจเป็นหลัก รับในตัวตน อุปนิสัย เข้ากันได้มากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้สำคัญไม่แพ้กัน ทุกเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่อะไรสำคัญที่สุด แต่ต่างล้วนสำคัญไม่แพ้กัน
ขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาอ่านจนจบครับ