สวัสดีค่ะ 
คือว่าในหมู่บ้านเรามีแมวจรตัวหนึ่งที่ครอบครัวเราพากันเรียกมันว่า
"เขียว" ค่ะ
* ขอเกริ่นเรื่องสักหนอยนะคะ *
เมื่อวาน ( 19/08/2560)
มันเดินมาขออาหารที่บ้านเราแต่เห็นมันแค่ดมๆไม่กิน
และสังเกตเห็นว่าปากมันมีคราบเลือดติดปากอยู่ด้วยค่ะ พลิกขึ้นมาดูสรุปคือริมฝีปากล่างของน้องฉีกและหนองเต็มปากเลยเหม็นมากๆ
เราเลยพามันเข้าบ้านค่ะ คิดว่าจะพามันไปรักษา
แม่เราก็บอกเราว่าตอนนี้ที่บ้าน เรื่องเงินมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ไปแล้วจะมีเงินจ่ายให้หรือเปล่า
เราเลยค้น google แล้วไปเจอ "โครงการรักษ์แมว" ที่เข้าใจคือ
ตอนแรกควรจะส่งเอกสารไปก่อน แล้วต้องรอ 2-3 วัน พอคณะกรรมการอนุมัติ ก็ดาวน์โหลดเอกสารแนบบัตรประชาชนส่งไปไปรษณีย์
แต่เราไปเห็นกรณีฉุกเฉินค่ะ ว่าสามารถที่จะส่งรักษาก่อนแล้วค่อยเบิกเงินทีหลังได้
เราเห็นว่ามันดูซึมๆ และกินอาหารไม่ได้เลย เราสงสารมันมากและคิดว่าถ้าปล่อย 2-3 วันมันอาจจะตายแน่ๆ
เรากับแม่เลยตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะไปหาโรงพยาบาลสัตว์ใกล้ๆบ้านทันทีค่ะ
ภาพสยองหนอยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่ 20/08/2560
ได้พาเขียวไปหาที่โรงพยาบาล
ได้พูดกับหมอไว้แล้วว่ามารักษาแบบขอเบิกกับ "โครงการรักษ์แมว"
สรุปคือเขียว กรามล่างหักครึ่ง ปากเน่า หูก็เน่า
วันนั้นหมอให้เขียวแอดมิด
ดึกๆหมอโทรมาบอกว่าจะต้องอยู่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 อาทิตย์
ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเพราะกระดูกสามารถสมานเองได้
ปล่อยกลับบ้านไม่ได้เพราะเดี๋ยวแผลติดเชื้อ
ค่าแอดมินคือวันละ 600 บาท นี้ยังไม่ร่วมค่าอาหาร 150
อาทิตย์หนึ่งก็ปาไป 4200อัพ!!! ช็อคมากๆค่ะ
ภาพสยองหนอยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื่องจากเราเองก็เพิ่งรู้จัก "โครงการรักษ์แมว" มาก่อนเลยอยากสอบถามรายละเอียดให้แน่ใจค่ะ
ตอนนี้จขกท.ส่งแบบฟอร์มขอความช่วยเหลือไปแล้วค่ะ
ที่อยากถามคือ
-ในเคสน้องเขียวนี้ถือว่าอยู่ในกรณีฉุกเฉินไหม?
-เบิกเงินได้จริงหรือเปล่ามีคนเคยได้ไหมคะ?
-เราจะต้องจ่ายเงินก่อนถึงจะเบิกได้ใช่ไหมคะหรือสามารถที่จะขอเงินมาก่อนได้?
-ถ้าคณะกรรมการอนุมัติเราจะต้องดาวน์โหลดเอกสารมาแล้วไปส่งที่อยู่อะไรหรอคะ?
-โครงการรักษ์แมวมีเบอร์โทรติดต่อไหมคะ?
-แล้วถ้าน้องเขียวไม่อยู่ในกรณีเคสฉุกเฉินยังสามารถที่จะได้รับความช่วยเหลือได้อยู่ไหมคะ?
และถ้าเป็นไปได้หากมีคนเคยขอความช่วยเหลือกับ "โครงการรักษ์แมว" ก็อยากจะขอให้เล่าประสบการณ์หนอยได้ไหมคะว่าเป็นอย่างไรบ้าง
*UPDATE 1*
ตอนนี้น้องเขียวแผลที่ปากสมานได้ดีมากเลยค่ะ
อาหารก็กินเองได้ ร่าเริงสุดๆ เป็นมิตรกับพี่ๆคนดูแลและคุณหมอทุกๆคน
ดีใจกับน้องเขียวมากๆ คาดว่า 1 อาทิตย์ก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ค่ะ
*UPDATE2*
ขอโทษด้วยนะคะที่ห่างหายไปนานตอนนี้น้องเขียวย้ายมาอยู่ที่บ้านแล้วล่ะค่ะ
วันแรกที่มารักษาอยู่ที่บ้าน
น้องเขียวอาการปกติแถมยังร่าเริงอีกซะด้วย
แต่พอเข้าวันที่ 2 น้องเขียวมีอาการจาม
ตอนแรกนึกว่าน้องเขียวจะแพ้อะไรบ้างอย่างหรือเปล่า
แต่ไม่ใช่น้องเขียวจามตลอดทั้งวัน
วันที่4 จะป้อนยาแบบเม็ดน้องเขียวไม่กินสำรอกออกมา
และมีอาการน้ำลายไหลไม่หยุดแถมยังตัวร้อนมากๆอีกด้วย
จึงตัดสินใจพาไปหาหมอ
คุณหมอได้พาน้องเขียววัดไข้ ไข้เขียวสูงถึง 105 องศา
หมอจึงฉีดยาไป 3 เข็ม และเช็ดตัวให้น้อง
ได้ทราบจากคุณหมอว่าที่น้องเขียวน้ำลายไหลเพราะว่าเป็นเรื่องปกติของแมวที่กินยาแล้วไม่ได้กลืนยามันติดลิ้นทำให้น้องแมวได้กลิ่นขมๆของยาเลยตีน้ำลายออกมาเยอะๆ
พอชั่งน้ำหนักน้องเขียว น้องเขียวน้ำหนักลงทั้งๆที่กินอาหารครบทุกมื้อและกินเยอะ จึงคาดกันว่าน้องเขียวอาจมีพยาธิเยอะก็ได้จึงขอยาถ่ายพยาธิจากคุณหมอมาให้น้องเขียวกิน
วันนั้นจ่ายไปทั้งหมด 1,100 บาท
วันต่อมา (วันนี้)
น้องเขียวไข้ลดตัวไม่ร้อนอีกแล้วแต่ยังต้องเผ้าดูอาการให้ดีถ้าน้องเขียวตัวร้อนจะต้องจับแมวเขียวเช็ดตัว
*UPDATE 3*
วันที่ 11-2
หลังจากพาไปหาหมอคุณหมอได้ให้ยามา
เราพยายามป้อนให้เขียว เขียวกินยายากมากๆไม่ว่าจะเป็นเม็ดหรือน้ำ หนักใจและสงสารเขียวมาก ยากินได้บางเม็ดก็พ่นออกคายออก
แต่หลังจากกินยาลดไข้หมอเขียวก็ไข้ลดลง แต่น้ำมูกเยอะมาก เขียวสูดจมูกฟืดๆตลอดเวลา
วันที่ 3
วันนี้พยายามป้อนยาเขียวแต่เขียวไม่กินยาเลยแล้วแผลที่ปากก็มีเลือดไหลออกมา เราตกใจจึงหยุดป้อนยาเขียว แล้วพูดกันว่าจะพาเขียวไปป้อนยาที่โรงพยาบาลทุกวันเช้าเย็นดีกว่า
เราพยายามหาโรงพยาบาลที่ไกลบ้านที่สุดเพื่อสะดวกต่อการเดินทาง ได้ไปเจอโรงพยาบาลสัตว์ร่มเกล้าที่ใกล้บ้านและดูสะอาดจึงพาเขียวไป วันนั้นหมอได้ฉีดยาให้เขียว และพ่นยาลดน้ำมูกให้เขียว เราและคุณหมอตดกลงกันว่าจะพาเขียวมาป้อนยาที่โรงพยาบาลทุกวันเช้า-เย็น 50 บาท
วันที่ 4
ตอนเช้าพาเขียวไปป้อนยา คุณหมอป้อนยาเขียวได้ง่ายมากๆ
คุณหมอได้สอนวิธีป้อนยาที่ถูกต้องให้เรา จ่ายเงินไป 50 บาท
ตอนเย็นคุณแม่ตัดสินใจลองป้อนยาให้เขียวด้วยวิธีที่หมอแนะนำ
และเขียวก็กินยาเข้าไปง่ายมากๆ พวกเราดีใจและอุ่นใจสุดๆ
จึงตัดสินใจป้อนยาที่บ้านไม่ต้องไปหาคุณหมอทุกวัน
วันที่ 6
ยาเขียวหมดเหลือแต่ยาลดน้ำมูกแลยพาเขียวไปให้หมอดูอาการ หมอบอกว่าปากเขียวกรามยังเคลื่อนอยู่ และมีหนองอยู่ในซอกปากล่าง หมอแนะนำให้หาซื้อ C20 ผสมกับน้ำเกลือ
และสอนวิธีล่างปากเขียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
*UPDATE 4*
เราพยายามหาซื้อ C20 ที่หมอแนะนำแต่หาไม่เจอเลย
เภสัชแนะนำยาม่วงมาให้ทาปากหลังจากเราเล่าเรื่องเขียวให้เขาฟัง
น้องเขียวอาการดีขึ้นเรื่อยๆ แผลที่ปากมีเนื้อขุ้นมาเยอะขึ้น น้องกินเยอะและร้องเหมียวๆเก่งมากๆ
บางคืนนอนแทบไม่หลับค่ะน้องชอบมานอนทับพุง
ที่บ้านเลี้ยงแมวอยู่แล้ว 1 ตัวเป็นแมวสีสวาทชื่อมะลิ
ป้ามะลิ (อายุ 15) เกลียดเขียวมากขู่ใส่เขียวตลอด ไม่ให้เขียวเข้าใกล้
เขียวก็ไม่เคยขู่มะลิกลับเลยได้แต่มองและบางทีพยายามเข้าหาแต่มะลิไม่ชอบ 5555 ตอนนี้เหมือนจะดีขึ้นแล้วค่ะเหมือนเขาเริ่มจะพอเข้ากันได้ หวังว่ามะลิจะยอมรักน้องซักวัน
วันที่ 26
ไปหาหมอตามนัด หมอบอกแผลปากดีขึ้นเยอะ หมอให้ยามาเพิ่มสำหรับ 1 อาทิตย์และให้ล้างปากต่อไปเรื่อยๆค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สอบถามคนที่เคยเบิกเงิน "โครงการรักษ์แมว" กรณีฉุกเฉิน
คือว่าในหมู่บ้านเรามีแมวจรตัวหนึ่งที่ครอบครัวเราพากันเรียกมันว่า "เขียว" ค่ะ
* ขอเกริ่นเรื่องสักหนอยนะคะ *
เมื่อวาน ( 19/08/2560)
มันเดินมาขออาหารที่บ้านเราแต่เห็นมันแค่ดมๆไม่กิน
และสังเกตเห็นว่าปากมันมีคราบเลือดติดปากอยู่ด้วยค่ะ พลิกขึ้นมาดูสรุปคือริมฝีปากล่างของน้องฉีกและหนองเต็มปากเลยเหม็นมากๆ
เราเลยพามันเข้าบ้านค่ะ คิดว่าจะพามันไปรักษา
แม่เราก็บอกเราว่าตอนนี้ที่บ้าน เรื่องเงินมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่รู้ไปแล้วจะมีเงินจ่ายให้หรือเปล่า
เราเลยค้น google แล้วไปเจอ "โครงการรักษ์แมว" ที่เข้าใจคือ
ตอนแรกควรจะส่งเอกสารไปก่อน แล้วต้องรอ 2-3 วัน พอคณะกรรมการอนุมัติ ก็ดาวน์โหลดเอกสารแนบบัตรประชาชนส่งไปไปรษณีย์
แต่เราไปเห็นกรณีฉุกเฉินค่ะ ว่าสามารถที่จะส่งรักษาก่อนแล้วค่อยเบิกเงินทีหลังได้
เราเห็นว่ามันดูซึมๆ และกินอาหารไม่ได้เลย เราสงสารมันมากและคิดว่าถ้าปล่อย 2-3 วันมันอาจจะตายแน่ๆ
เรากับแม่เลยตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะไปหาโรงพยาบาลสัตว์ใกล้ๆบ้านทันทีค่ะ
ภาพสยองหนอยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันที่ 20/08/2560
ได้พาเขียวไปหาที่โรงพยาบาล
ได้พูดกับหมอไว้แล้วว่ามารักษาแบบขอเบิกกับ "โครงการรักษ์แมว"
สรุปคือเขียว กรามล่างหักครึ่ง ปากเน่า หูก็เน่า
วันนั้นหมอให้เขียวแอดมิด
ดึกๆหมอโทรมาบอกว่าจะต้องอยู่โรงพยาบาลอย่างน้อย 2 อาทิตย์
ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเพราะกระดูกสามารถสมานเองได้
ปล่อยกลับบ้านไม่ได้เพราะเดี๋ยวแผลติดเชื้อ
ค่าแอดมินคือวันละ 600 บาท นี้ยังไม่ร่วมค่าอาหาร 150
อาทิตย์หนึ่งก็ปาไป 4200อัพ!!! ช็อคมากๆค่ะ
ภาพสยองหนอยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เนื่องจากเราเองก็เพิ่งรู้จัก "โครงการรักษ์แมว" มาก่อนเลยอยากสอบถามรายละเอียดให้แน่ใจค่ะ
ตอนนี้จขกท.ส่งแบบฟอร์มขอความช่วยเหลือไปแล้วค่ะ
ที่อยากถามคือ
-ในเคสน้องเขียวนี้ถือว่าอยู่ในกรณีฉุกเฉินไหม?
-เบิกเงินได้จริงหรือเปล่ามีคนเคยได้ไหมคะ?
-เราจะต้องจ่ายเงินก่อนถึงจะเบิกได้ใช่ไหมคะหรือสามารถที่จะขอเงินมาก่อนได้?
-ถ้าคณะกรรมการอนุมัติเราจะต้องดาวน์โหลดเอกสารมาแล้วไปส่งที่อยู่อะไรหรอคะ?
-โครงการรักษ์แมวมีเบอร์โทรติดต่อไหมคะ?
-แล้วถ้าน้องเขียวไม่อยู่ในกรณีเคสฉุกเฉินยังสามารถที่จะได้รับความช่วยเหลือได้อยู่ไหมคะ?
และถ้าเป็นไปได้หากมีคนเคยขอความช่วยเหลือกับ "โครงการรักษ์แมว" ก็อยากจะขอให้เล่าประสบการณ์หนอยได้ไหมคะว่าเป็นอย่างไรบ้าง
อาหารก็กินเองได้ ร่าเริงสุดๆ เป็นมิตรกับพี่ๆคนดูแลและคุณหมอทุกๆคน
ดีใจกับน้องเขียวมากๆ คาดว่า 1 อาทิตย์ก็น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันแรกที่มารักษาอยู่ที่บ้าน
น้องเขียวอาการปกติแถมยังร่าเริงอีกซะด้วย
แต่พอเข้าวันที่ 2 น้องเขียวมีอาการจาม
ตอนแรกนึกว่าน้องเขียวจะแพ้อะไรบ้างอย่างหรือเปล่า
แต่ไม่ใช่น้องเขียวจามตลอดทั้งวัน
วันที่4 จะป้อนยาแบบเม็ดน้องเขียวไม่กินสำรอกออกมา
และมีอาการน้ำลายไหลไม่หยุดแถมยังตัวร้อนมากๆอีกด้วย
จึงตัดสินใจพาไปหาหมอ
คุณหมอได้พาน้องเขียววัดไข้ ไข้เขียวสูงถึง 105 องศา
หมอจึงฉีดยาไป 3 เข็ม และเช็ดตัวให้น้อง
ได้ทราบจากคุณหมอว่าที่น้องเขียวน้ำลายไหลเพราะว่าเป็นเรื่องปกติของแมวที่กินยาแล้วไม่ได้กลืนยามันติดลิ้นทำให้น้องแมวได้กลิ่นขมๆของยาเลยตีน้ำลายออกมาเยอะๆ
พอชั่งน้ำหนักน้องเขียว น้องเขียวน้ำหนักลงทั้งๆที่กินอาหารครบทุกมื้อและกินเยอะ จึงคาดกันว่าน้องเขียวอาจมีพยาธิเยอะก็ได้จึงขอยาถ่ายพยาธิจากคุณหมอมาให้น้องเขียวกิน
วันนั้นจ่ายไปทั้งหมด 1,100 บาท
วันต่อมา (วันนี้)
น้องเขียวไข้ลดตัวไม่ร้อนอีกแล้วแต่ยังต้องเผ้าดูอาการให้ดีถ้าน้องเขียวตัวร้อนจะต้องจับแมวเขียวเช็ดตัว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากพาไปหาหมอคุณหมอได้ให้ยามา
เราพยายามป้อนให้เขียว เขียวกินยายากมากๆไม่ว่าจะเป็นเม็ดหรือน้ำ หนักใจและสงสารเขียวมาก ยากินได้บางเม็ดก็พ่นออกคายออก
แต่หลังจากกินยาลดไข้หมอเขียวก็ไข้ลดลง แต่น้ำมูกเยอะมาก เขียวสูดจมูกฟืดๆตลอดเวลา
วันที่ 3
วันนี้พยายามป้อนยาเขียวแต่เขียวไม่กินยาเลยแล้วแผลที่ปากก็มีเลือดไหลออกมา เราตกใจจึงหยุดป้อนยาเขียว แล้วพูดกันว่าจะพาเขียวไปป้อนยาที่โรงพยาบาลทุกวันเช้าเย็นดีกว่า
เราพยายามหาโรงพยาบาลที่ไกลบ้านที่สุดเพื่อสะดวกต่อการเดินทาง ได้ไปเจอโรงพยาบาลสัตว์ร่มเกล้าที่ใกล้บ้านและดูสะอาดจึงพาเขียวไป วันนั้นหมอได้ฉีดยาให้เขียว และพ่นยาลดน้ำมูกให้เขียว เราและคุณหมอตดกลงกันว่าจะพาเขียวมาป้อนยาที่โรงพยาบาลทุกวันเช้า-เย็น 50 บาท
วันที่ 4
ตอนเช้าพาเขียวไปป้อนยา คุณหมอป้อนยาเขียวได้ง่ายมากๆ
คุณหมอได้สอนวิธีป้อนยาที่ถูกต้องให้เรา จ่ายเงินไป 50 บาท
ตอนเย็นคุณแม่ตัดสินใจลองป้อนยาให้เขียวด้วยวิธีที่หมอแนะนำ
และเขียวก็กินยาเข้าไปง่ายมากๆ พวกเราดีใจและอุ่นใจสุดๆ
จึงตัดสินใจป้อนยาที่บ้านไม่ต้องไปหาคุณหมอทุกวัน
วันที่ 6
ยาเขียวหมดเหลือแต่ยาลดน้ำมูกแลยพาเขียวไปให้หมอดูอาการ หมอบอกว่าปากเขียวกรามยังเคลื่อนอยู่ และมีหนองอยู่ในซอกปากล่าง หมอแนะนำให้หาซื้อ C20 ผสมกับน้ำเกลือ
และสอนวิธีล่างปากเขียว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เภสัชแนะนำยาม่วงมาให้ทาปากหลังจากเราเล่าเรื่องเขียวให้เขาฟัง
น้องเขียวอาการดีขึ้นเรื่อยๆ แผลที่ปากมีเนื้อขุ้นมาเยอะขึ้น น้องกินเยอะและร้องเหมียวๆเก่งมากๆ
บางคืนนอนแทบไม่หลับค่ะน้องชอบมานอนทับพุง
ที่บ้านเลี้ยงแมวอยู่แล้ว 1 ตัวเป็นแมวสีสวาทชื่อมะลิ
ป้ามะลิ (อายุ 15) เกลียดเขียวมากขู่ใส่เขียวตลอด ไม่ให้เขียวเข้าใกล้
เขียวก็ไม่เคยขู่มะลิกลับเลยได้แต่มองและบางทีพยายามเข้าหาแต่มะลิไม่ชอบ 5555 ตอนนี้เหมือนจะดีขึ้นแล้วค่ะเหมือนเขาเริ่มจะพอเข้ากันได้ หวังว่ามะลิจะยอมรักน้องซักวัน
วันที่ 26
ไปหาหมอตามนัด หมอบอกแผลปากดีขึ้นเยอะ หมอให้ยามาเพิ่มสำหรับ 1 อาทิตย์และให้ล้างปากต่อไปเรื่อยๆค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้