โปรดแสดงความคิดเห็นกับกรณีของนิสิตท่านนี้ในประเด็นดังต่อไปนี้อย่างตรงไปตรงมาด้วยนะคะ
1. การกระทำแบบนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งเกียรตินิยม สมควรและเหมาะสมหรือไม่อย่างไร?
2. การกระทำของนิสิตคนนี้ เป็นแบบอย่างที่ดีหรือไม่อย่างไร?
3. วิธีจัดการกับการกระทำของนิสิตที่มีพฤติกรรมแบบนี้?
4. ถ้าคุณมีเพื่อน หรือรู้จักคนที่อยากได้เกียรตินิยมด้วยวิธีการดังกล่าวนี้ คุณอยากจะคบกับเขาต่อไปไหม และอยากจะบอกอะไรกับเขา?
5. ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นอื่นๆ
เรื่องจากนิสิตบางส่วนของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งแถวสามย่าน
(อาจจะเป็นอุเทนถวาย หรือ ช่างกลปทุมวัน ก็ได้)
เรื่องย่อมีอยู่ว่า
ตอนนี้มีนิสิตปี4คนนึง เราไม่ขอบอกชื่อนางนะคะ เดี๋ยวนางจะรู้ตัว นางติดFวิชานึงเมื่อเทอมที่แล้ว(ปี3เทอม2ค่ะ)
แล้วนางก็จะหาทางเอาเกรดFของวิชาตัวนี้ออก เอาFออกเพื่ออะไรนั่นเหรอคะ ก็เอาFออกเพื่อให้ได้เกียรตินิยมค่ะ
แล้วนางก็บอกกับเพื่อนบางคนในชั้นปี และเพื่อนในจุฬาของนางไว้ว่าสาเหตุที่ติดFวิชานี้ เกิดเพราะครอบครัวของนางบังคับกดดันนางจนนางเรียนไม่รู้เรื่องจนทำให้ไม่มีสมาธิอ่านหนึงสือบลาๆๆ และรวมไปถึงวิชานี้อาจารย์คนที่สอนก็สอนไม่รู้เรื่อง บลาๆๆ
แต่นางยังไงรู้มั้ย แต่นางก็ไปบอกน้องในคณะของนางและบอกเพื่อนอีกกลุ่มในจุฬาว่าวิชาที่นางติดF เป็นวิชาที่นางไม่ถนัดค่าาา
เราแอบขรรมอ่ะ แบบนางไม่รู้เหรอว่าบางคนที่นางไปเล่าเรื่องนี้อ่ะ นางก็เล่าแบบซ้ำๆกันอ่ะ คือเราเข้าใจว่านางอาจจะต้องการเล่าให้ส่วนนึงฟังแบบนึง อีกส่วนนึงฟังอีกแบบนึง แต่นางคงลืมไปแล้วมั้งว่าบางคนได้ฟังทั้งสองส่วนเลย เหมือนนางจะปั่นหัวคนอื่น แต่ก็แบบนะ ขรรมหนักมาก น่าจ๋งจ๋านนางจริงๆค่ะ
อันนี้เรากับเพื่อนๆเราสงสัยอ่ะ
คือแบบเฮ้ย แค่เกียรตินิยม ทำไมนางต้องใช้วิธีสกปรกแบบนี้ด้วยอ่ะ หรือนางจะภูมิใจกับวิธีสกปรกๆแบบนี้อ่ะ แหวะ
อันนี้เป็น
ข้อบังคับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่าด้วยการให้ปริญญาเกียรตินิยม พ.ศ.2552 ค่ะ เราจะยกตัวอย่างข้อสำคัญนะคะ
สำหรับเกียรตินิมยมอันดับ2นะคะ
จากข้อ 5 กล่าวว่า
นิสิตผู้ที่สมควรได้รับปริญญาเกียรตินิมยมอันดับสอง จะต้องสอบได้จำนวนหน่วยกิตครบตามหลักสูตร และได้แต้มเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ 3.25 ขึ้นไป และไม่มีรายวิชาใดได้สัญญลักษณ์ F หรือ U
สำหรับเกียรตินิมยมอันดับ1นะคะ
จากข้อ 6 กล่าวว่า
นิสิตผู้ที่สมควรได้รับปริญญาเกียรตินิมยมอันดับหนึ่ง จะต้องสอบได้จำนวนหน่วยกิตครบตามหลักสูตร และได้แต้มเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ 3.60 ขึ้นไป และไม่มีรายวิชาใดได้สัญญลักษณ์ F หรือ U
เรื่องทั้งหมดก็ประมาณนี้ค่ะ ถ้าหากมีข้อสงสัยหรือข้อชี้แนะประการใด ยินดีรับฟังค่ะ
การได้มาซึ่งเกียรตินิยมด้วยวิธีดังกล่าวนี้(ในกระทู้) เป็นวิธีที่ดีแล้วหรือไม่?
1. การกระทำแบบนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งเกียรตินิยม สมควรและเหมาะสมหรือไม่อย่างไร?
2. การกระทำของนิสิตคนนี้ เป็นแบบอย่างที่ดีหรือไม่อย่างไร?
3. วิธีจัดการกับการกระทำของนิสิตที่มีพฤติกรรมแบบนี้?
4. ถ้าคุณมีเพื่อน หรือรู้จักคนที่อยากได้เกียรตินิยมด้วยวิธีการดังกล่าวนี้ คุณอยากจะคบกับเขาต่อไปไหม และอยากจะบอกอะไรกับเขา?
5. ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นอื่นๆ
เรื่องย่อมีอยู่ว่า
ตอนนี้มีนิสิตปี4คนนึง เราไม่ขอบอกชื่อนางนะคะ เดี๋ยวนางจะรู้ตัว นางติดFวิชานึงเมื่อเทอมที่แล้ว(ปี3เทอม2ค่ะ)
แล้วนางก็จะหาทางเอาเกรดFของวิชาตัวนี้ออก เอาFออกเพื่ออะไรนั่นเหรอคะ ก็เอาFออกเพื่อให้ได้เกียรตินิยมค่ะ
แล้วนางก็บอกกับเพื่อนบางคนในชั้นปี และเพื่อนในจุฬาของนางไว้ว่าสาเหตุที่ติดFวิชานี้ เกิดเพราะครอบครัวของนางบังคับกดดันนางจนนางเรียนไม่รู้เรื่องจนทำให้ไม่มีสมาธิอ่านหนึงสือบลาๆๆ และรวมไปถึงวิชานี้อาจารย์คนที่สอนก็สอนไม่รู้เรื่อง บลาๆๆ
แต่นางยังไงรู้มั้ย แต่นางก็ไปบอกน้องในคณะของนางและบอกเพื่อนอีกกลุ่มในจุฬาว่าวิชาที่นางติดF เป็นวิชาที่นางไม่ถนัดค่าาา
เราแอบขรรมอ่ะ แบบนางไม่รู้เหรอว่าบางคนที่นางไปเล่าเรื่องนี้อ่ะ นางก็เล่าแบบซ้ำๆกันอ่ะ คือเราเข้าใจว่านางอาจจะต้องการเล่าให้ส่วนนึงฟังแบบนึง อีกส่วนนึงฟังอีกแบบนึง แต่นางคงลืมไปแล้วมั้งว่าบางคนได้ฟังทั้งสองส่วนเลย เหมือนนางจะปั่นหัวคนอื่น แต่ก็แบบนะ ขรรมหนักมาก น่าจ๋งจ๋านนางจริงๆค่ะ
อันนี้เรากับเพื่อนๆเราสงสัยอ่ะ
คือแบบเฮ้ย แค่เกียรตินิยม ทำไมนางต้องใช้วิธีสกปรกแบบนี้ด้วยอ่ะ หรือนางจะภูมิใจกับวิธีสกปรกๆแบบนี้อ่ะ แหวะ
อันนี้เป็นข้อบังคับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่าด้วยการให้ปริญญาเกียรตินิยม พ.ศ.2552 ค่ะ เราจะยกตัวอย่างข้อสำคัญนะคะ
จากข้อ 5 กล่าวว่า
นิสิตผู้ที่สมควรได้รับปริญญาเกียรตินิมยมอันดับสอง จะต้องสอบได้จำนวนหน่วยกิตครบตามหลักสูตร และได้แต้มเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ 3.25 ขึ้นไป และไม่มีรายวิชาใดได้สัญญลักษณ์ F หรือ U
จากข้อ 6 กล่าวว่า
นิสิตผู้ที่สมควรได้รับปริญญาเกียรตินิมยมอันดับหนึ่ง จะต้องสอบได้จำนวนหน่วยกิตครบตามหลักสูตร และได้แต้มเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ 3.60 ขึ้นไป และไม่มีรายวิชาใดได้สัญญลักษณ์ F หรือ U
เรื่องทั้งหมดก็ประมาณนี้ค่ะ ถ้าหากมีข้อสงสัยหรือข้อชี้แนะประการใด ยินดีรับฟังค่ะ