ตั้งกระทู้มาบ่นค่ะ ไม่รู้จะคุยกับใคร ใครมีเจอเพื่อนคล้ายๆแบบนี้บ้าง ก็แชร์ได้นะคะ
เรามีเพื่อนสนิทมากๆอยู่สองสามคน หนึ่งในนั้นคือ "กอ" (นามสมมุติ) กอเป็นคนอัธยาศัยดี เรียนดีกิจกรรมเด่น เป็นที่รักของเพื่อนๆ เรากับกอสนิทกันมากขนาดที่ว่ามีปัญหาอะไรก็สามารถปรับทุกข์กันได้ คุยกันได้ทุกเรื่อง กอมีปัญหาแค่เรื่องทางบ้าน คือ ทางบ้านกอไม่ได้ร่ำรวยอะไร บางครั้งเราก็จะให้กอยืมเงินบ้างเล็กน้อย แต่กอก็เป็นเพื่อนที่ดี คือถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็พยายามเอาเงินมาใช้คืนเรา ทีละสิบบาทยี่สิบบาทบ้าง ความสัมพันธ์ของเรากับกอถือว่าดีมากเลยทีเดียว
พอถึงช่วงมหาลัยเราต่างแยกย้ายกันไปเรียนคนละที่ นานๆถึงจะกลับมาเจอกันสักที ยิ่งช่วงใกล้เรียนจบ พอเจอกันยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงของกอ อย่างเวลาที่พูดคุยกัน กอมักจะเอาเรื่องของเพื่อนๆที่มหาลัยหรือที่ฝึกงานมาเล่าให้เราฟัง โดยเรื่องที่เล่าก็มักจะเป็นเรื่องในแง่ไม่ดี ไม่ว่าจะคนนั้นท้องก่อนแต่ง คนนี้เข้าโรงแรมกับคนนู้น คือสารพัดเรื่องนินทามากมาย ทั้งที่เมื่อก่อนเรื่องที่คุยกันจะเป็นเรื่องสบายๆไม่ใช่เอาเรื่องคนอื่นมานินทา บางครั้งกอก็พูดถึงไลฟ์สไตล์ของตัวเอง อย่างซื้อปลาตัวละเกือบหมื่นมาเลี้ยงไว้ดูเล่น เที่ยวที่นั่นที่นี่ ซื้อของแพงๆ กินอาหารแพงๆ แล้วบางครั้งก็เกทับว่าเราต้องไม่เคยกินแบบที่เขากินแน่ๆ พอเราบอกว่าเคยนะ รสชาดแบบนี้ๆ เขาบอกไม่ใช่ๆ เราเข้าใจผิดแล้ว จนเรางงไปหมดว่าเขาจะพูดแบบนี้เพื่ออะไร หลังๆเวลาที่คุยกับกอเราระวังคำพูดมาก เพราะกลัวว่าคำพูดที่เราพูดไป เขาจะเอาไปพูดต่อให้คนอื่นฟังในทางเสียหายรึเปล่า
ที่พีคเลยก็คือ มีครั้งหนึ่ึงที่ไปต่างจังหวัดด้วยกัน เราถ่ายรูปแล้วโอนไฟล์ลงโน้ตบุ๊ค กะว่าจะแต่งรูปแล้วอัพลงโซเชียลอีกที แต่พอดีตอนนั้นดึกแล้ว เราเลยจะแต่งรูปวันหลัง เลยเก็บโน้ตยุ๊คเข้ากระเป๋าแล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ พออาบเสร็จ เราเดินออกมาเห็นกอเอาโน้ตบุ๊คเราออกมานอนเล่นบนเตียง ค้นไฟล์ในเครื่อง แล้วหันมาถามเราว่าไฟล์ภาพอยู่ไหน ตอนนั้นคือเรามือสั่นเลย เพราะเราเป็นคนหวงของมาก โดยเฉพาะโน้ตบุ๊คเครื่องนี้ เราถือเป็นของส่วนตัวที่ไม่ใช่ใครจะมาแตะได้ง่ายๆ แต่เราพยายามข่มใจไม่เหวี่ยงออกไป เปิดไฟล์ภาพให้กอดู แล้วตอนที่เรากดคีย์บอร์ดเลื่อนภาพทีละภาพนั้น กอก็ปัดมือเราออก เพื่อกดดูเอง เราอึ้งไปเลย ตอนที่ได้ยินเสียงเพี้ย แล้วรู้สึกเจ็บที่มือ ตอนนั้นในใจเราแบบมีคำว่าพอกันที หลังจากทริปนั้น ด้วยทั้งไม่มีธุระให้พูดคุย ระยะห่าง รวมทั้งเราอยากเฟดตัวเองออกมา เราก็ไม่ได้ติดต่อกับกออีก
มีใครเจอเพื่อนที่เปลี่ยนไปมากๆแบบนี้ไหม หรือเขาเป็นแบบนี้มานานแล้วแต่เราดูไม่ออก มัวโลกสวยในทุ่งลาเวนเดอร์ แต่สงสัยจริงๆค่ะว่าคนเราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้จริงๆเหรอ เพราะอะไรกันคะ แล้วที่เราเหมือนตัดขาดไม่ติดต่อเพื่อนอีกเราทำถูกไหม
ใครเคยมีเพื่อนสนิทสมัยเรียนที่พอมาเจอกันอีกทีแล้วต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า "เราเคยรู้จักกับคนนี้จริงๆเหรอ"
เรามีเพื่อนสนิทมากๆอยู่สองสามคน หนึ่งในนั้นคือ "กอ" (นามสมมุติ) กอเป็นคนอัธยาศัยดี เรียนดีกิจกรรมเด่น เป็นที่รักของเพื่อนๆ เรากับกอสนิทกันมากขนาดที่ว่ามีปัญหาอะไรก็สามารถปรับทุกข์กันได้ คุยกันได้ทุกเรื่อง กอมีปัญหาแค่เรื่องทางบ้าน คือ ทางบ้านกอไม่ได้ร่ำรวยอะไร บางครั้งเราก็จะให้กอยืมเงินบ้างเล็กน้อย แต่กอก็เป็นเพื่อนที่ดี คือถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยแต่ก็พยายามเอาเงินมาใช้คืนเรา ทีละสิบบาทยี่สิบบาทบ้าง ความสัมพันธ์ของเรากับกอถือว่าดีมากเลยทีเดียว
พอถึงช่วงมหาลัยเราต่างแยกย้ายกันไปเรียนคนละที่ นานๆถึงจะกลับมาเจอกันสักที ยิ่งช่วงใกล้เรียนจบ พอเจอกันยิ่งเห็นความเปลี่ยนแปลงของกอ อย่างเวลาที่พูดคุยกัน กอมักจะเอาเรื่องของเพื่อนๆที่มหาลัยหรือที่ฝึกงานมาเล่าให้เราฟัง โดยเรื่องที่เล่าก็มักจะเป็นเรื่องในแง่ไม่ดี ไม่ว่าจะคนนั้นท้องก่อนแต่ง คนนี้เข้าโรงแรมกับคนนู้น คือสารพัดเรื่องนินทามากมาย ทั้งที่เมื่อก่อนเรื่องที่คุยกันจะเป็นเรื่องสบายๆไม่ใช่เอาเรื่องคนอื่นมานินทา บางครั้งกอก็พูดถึงไลฟ์สไตล์ของตัวเอง อย่างซื้อปลาตัวละเกือบหมื่นมาเลี้ยงไว้ดูเล่น เที่ยวที่นั่นที่นี่ ซื้อของแพงๆ กินอาหารแพงๆ แล้วบางครั้งก็เกทับว่าเราต้องไม่เคยกินแบบที่เขากินแน่ๆ พอเราบอกว่าเคยนะ รสชาดแบบนี้ๆ เขาบอกไม่ใช่ๆ เราเข้าใจผิดแล้ว จนเรางงไปหมดว่าเขาจะพูดแบบนี้เพื่ออะไร หลังๆเวลาที่คุยกับกอเราระวังคำพูดมาก เพราะกลัวว่าคำพูดที่เราพูดไป เขาจะเอาไปพูดต่อให้คนอื่นฟังในทางเสียหายรึเปล่า
ที่พีคเลยก็คือ มีครั้งหนึ่ึงที่ไปต่างจังหวัดด้วยกัน เราถ่ายรูปแล้วโอนไฟล์ลงโน้ตบุ๊ค กะว่าจะแต่งรูปแล้วอัพลงโซเชียลอีกที แต่พอดีตอนนั้นดึกแล้ว เราเลยจะแต่งรูปวันหลัง เลยเก็บโน้ตยุ๊คเข้ากระเป๋าแล้วเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ พออาบเสร็จ เราเดินออกมาเห็นกอเอาโน้ตบุ๊คเราออกมานอนเล่นบนเตียง ค้นไฟล์ในเครื่อง แล้วหันมาถามเราว่าไฟล์ภาพอยู่ไหน ตอนนั้นคือเรามือสั่นเลย เพราะเราเป็นคนหวงของมาก โดยเฉพาะโน้ตบุ๊คเครื่องนี้ เราถือเป็นของส่วนตัวที่ไม่ใช่ใครจะมาแตะได้ง่ายๆ แต่เราพยายามข่มใจไม่เหวี่ยงออกไป เปิดไฟล์ภาพให้กอดู แล้วตอนที่เรากดคีย์บอร์ดเลื่อนภาพทีละภาพนั้น กอก็ปัดมือเราออก เพื่อกดดูเอง เราอึ้งไปเลย ตอนที่ได้ยินเสียงเพี้ย แล้วรู้สึกเจ็บที่มือ ตอนนั้นในใจเราแบบมีคำว่าพอกันที หลังจากทริปนั้น ด้วยทั้งไม่มีธุระให้พูดคุย ระยะห่าง รวมทั้งเราอยากเฟดตัวเองออกมา เราก็ไม่ได้ติดต่อกับกออีก
มีใครเจอเพื่อนที่เปลี่ยนไปมากๆแบบนี้ไหม หรือเขาเป็นแบบนี้มานานแล้วแต่เราดูไม่ออก มัวโลกสวยในทุ่งลาเวนเดอร์ แต่สงสัยจริงๆค่ะว่าคนเราเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้จริงๆเหรอ เพราะอะไรกันคะ แล้วที่เราเหมือนตัดขาดไม่ติดต่อเพื่อนอีกเราทำถูกไหม