[CR] ห า ย ไ ป พั ก : "สะบายดี - หลวงพระบาง"

สวัสดีครับ ทุกท่าน นี่ถือว่าเป็นกระทู้รีวิวการเดินทางครั้งแรกของผม
เคยแต่อ่านของท่านอื่นๆ มาเยอะมากมาย วันนี้เลยอยากจะมีรีวิวเป็น
ของตัวเองบ้าง ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ


วันนี้ ผมจะพา หายไปพัก กัน ที่ “สะบายดี - หลวงพระบาง” เมืองมรดกโลก ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว " เมืองหลวงพระบาง " หลายคนมักจะเคยไปกับเที่ยวกันแล้ว แต่สำหรับผมครั้งนี้เป็นครั้งแรก (ไม่รู้ไปอยู่ไหนมา) ผมได้มาเห็นหลวงพระบางในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ภาพที่คิดไว้ก่อนมา กับ ภาพที่มาเห็นด้วยตาตัวเอง มันไม่เหมือนที่คิดไว้ เพราะ มันสวยกว่า มัน “feel good” กว่า มันดีกว่า และ มันทำให้ผมได้ “ห า ย ไ ป พั ก”

ทริปนี้ผมตัดสินใจเร็วมากกับเพื่อนของผม ผมได้จองตั๋วเครื่องบินในวันอังคารที่ 1 สิงหาคม 2560 แล้วก็บินวันที่ 5 สิงหาคม 2560 โจทย์ของผมและเพื่อนคือ อยากจะหาที่พักผ่อน หลังจากที่เราทำงานกันมาหนักพอสมควร เราอยากจะหาที่จะ "หายไปพักกัน"

เตรียมตัวหายไปพัก สะบายดี - หลวงพระบาง โดยขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง Flight บินมีเที่ยวเดียวครับ เวลา 14.40

นั่งเครื่องบินไม่นานประมาณ 1.20 ซม. เราก็เดินทางมาถึง หลวงประบางครับ กับนกเหล็กลำนี้

หลังจากลงเครื่อง ผมและเพื่อนตั้งใจจะเอาของไปเก็บที่โรงแรมก่อน โดยนั่งรถจากสนามบินเข้าเมือง โดยที่รถที่เราใช้บริการจะไปส่งเราถึงที่โรงแรมเลยครับ ครั้งนี้ผมได้เลือกพักที่โรงแรม "สายน้ำคานริเวอร์วิว" ครับ

เริ่มออกไปเดินกันครับ หลวงพระบางถือว่าเป็นเมืองมรดกโลกจริงๆครับ เพราะสามารถทำให้สังคมความเป็นอยู่สมัยใหม่ อยู่กับเรื่องราวสถาปัตยกรรมเก่าๆ ได้อย่างลงตัว เลยครับ

และนี่ถือว่าเป็นสถานที่ ที่คนมาหลวงพระบางต้องมา คือ "หอพระบาง" นั้นเอง

ใครว่าลาวยังไม่พัฒนา ผมขอบอกเลยว่าไม่จริงครับ เด็กๆจับกลุ่มนั่งเล่นเกมส์กันใหญ่

หิวแล้วครับ เพราะ ตั้งแต่ลงเครื่องมาจนมาเดินเล่นยังไม่ได้ทานไรเลย เดินๆไปได้กลิ่นไรหอมๆ ก็ต้องจัดซิครับ และ ที่นี่คือ "ตลาดหลวงพระบาง"

ย่างกันแบบนี้แหละ ทำไมกลิ่นมันถึงหอมมากกกกก "Burn it Burn"

และแล้วเราก็ได้นี่มา ข้าวเหนียวไก่ย่าง+หมูย่างแหนม พร้อมน้ำจิ้มแบบซีฟู๊ด (แอบงงตรงน้ำจิ้ม) แต่ เห้ยย มันเข้ากันแหะ

เดินเล่นกันต่อ เราก็มาเจอร้านกาแฟแบบ ชิคๆ คูลๆ ใครชอบแบบนี้ละก็ กาแฟแก้ว หนังสือเล่ม ชิวครับ

นักท่องเที่ยวเริ่มมาเยอะละครับ และ ที่นี่คือ "ตลาดกลางคืน"

เดินไปเยอะคอแห้ง เลยแวะหาร้านนั่งดื่มชิวๆ กันนิดหน่อย (อยากจะลงรูปเครื่องดื่มนะครับ แต่ ช่วงนี้พี่เค้าตรวจเข้ม เลยขอไม่ลงดีกว่า ฮ่าๆ) ดื่มอย่างเดียวได้ไง มันต้องมีกับแกล้มด้วย โครตจะเข้ากันเลย (อันนี้พูดจริงไม่ได้ประชด) แต่จานนี้โดนไป 125,000 กีบ

เริ่มเช้าวันใหม่ วันนี้เรามีนัดกับการ "ตักบาตรข้าวเหนียว" ครับ

นักท่องเที่ยวต่างตื่นมารอชม ประเพณีและวัฒนธรรมพื้นบ้านกัน

เก้าอี้วางเป็นแนวตรง รอคนมาทำบุญกันครับ (ใครอยากจะมาทำบุญ ไม่ต้องเตรียมอะไรมาเลยครับ ที่นี่เข้ามีบริการนักท่องเที่ยว แถมราคาไม่แพงด้วยครับ)

ภาพนี้ตอนผมถ่าย ผมรู้สึกมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูก มันคือที่ว่างที่รู้สึกถึงความอบอุ่น

พระสงฆ์เริ่มเดินบินฑบาตรละครับ ผมร็สึกถึงความสงบจริงๆ มันไม่สามารถหาได้จากเมืองหลวงใหญ่ๆ ซึ่งที่ตอนเช้าเราต่างเร่งรีบกันไปทำงานหาเลี้ยงชีพกัน

ความสงบที่ลงตัว ที่หลวงพระบางมอบให้

เป็นมุมที่น่ารักๆ อีกมุมนึ่งที่ได้เห็นครอบครัวได้ทำกิจกรรมตอนเช้าร่วมกัน

ขอยืมเป็นแบบหน่อยนะเพื่อนสี่ขา

ถนนตอนเช้าที่หลวงพระบางจะเงียบสงบมากๆ

ถ้ามาหลวงพระบาง วัดเชียงทอง เป็นอีกที่ ที่ต้องมานะครับ

ไหว้พระซะหน่อย ขอพรเพื่อจะเจอแต่สิ่งที่ดีๆ กันนะครับ

เที่ยงกว่าๆ เรามาถึงที่หมายต่อไปแล้ว คือที่ไหน ติดตามรูปถัดไปครับ

และนี่ถือว่าเป็นอีกที่ ที่สวยงามมากจริง ที่นี่คือ "น้ำตกตาดกวางสี" การเดินทางไปก็ไม่ยากครับ เราสามารถติดต่อบริษัททัวร์แถวนั้นได้เลยครับ ราคาไปกลับประมาณ 40,000 กีบ ไม่ร่วมค่าเข้านะครับ

หลังจากท่องเที่ยวน้ำตกเสร็จ กลับเข้าเมืองกันต่อ และนี่คือ "ไนท์มาเก็ต"

อยากที่ผมได้บอกไว้ สังคมที่หลวงพระบาง สามารถทำให้วัฒนธรรมเก่าๆ อยู่กับ วัฒนธรรมใหม่ๆ ได้อย่างลงตัว

และแล้วก็มาถึงวันที่ 3 ที่เป็นวันสุดท้ายสำหรับทริปนี้ครับ
เริ่มเช้าวันใหม่ ด้วยผลไม้ที่แสนจะสดชื่น

ออกไปเดินเล่นเช้านี้กันครับ
เช้านี้ฝนตก จริงๆ ฝนตกทุกวันครับ เพราะ ช่วงที่เราตัดสินใจมา คือ ช่วงหน้าฝนพอดี แต่ก็ดีครับ อากาศสบายๆ ไม่ร้อน เดินตัวปลิวครับ

แม่น้ำโขง ช่วงหน้าฝนไหลเชี่ยวมากครับ

เดินไปเรื่อยๆ เจอรถเต่า classic คันนี้ เห็นแล้วอยากจะเอากลับบ้านด้วย ชอบจริงๆ

คนเมืองหลวงพระบาง เป็นคนที่เป็นมิตรมากครับ ยิ้มแย้มให้เราเสมอ เหมือนกับคุณยายท่านนี้

มาหลวงพระบางไม่ต้องหานะครับ 7-11, Family Mart บอกเลยครับ ไม่มี มีแต่ร้านแบบนี้แหละครับ มีทุกอย่างเหมือนกัน

เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ก่อนที่เราจะกลับกัน

มาหลวงพระบาง แวะส่ง postcard กลับบ้านดีกว่า ส่งที่ "ไปรษณีย์ลาว"

หลังจากส่ง postcard กลับบ้าน ก็ถึงเวลาที่ผมกับเพื่อนจะต้องเดินทางกลับกันแล้ว คราวนี้นั่งรถจากโรงแรมไปเลยครับ
ถึงเวลาที่เราจะต้องเดินทางกลับแล้ว ผมว่าเวลา 3 วัน 2 คืน กำลังพอดีนะครับ สำหรับหลวงพระบาง

เจอนักท่องเที่ยวบนเครื่อง ขอ candid สักหน่อย

สุดท้ายขอจบด้วยรูปจากท้องฟ้า หลวงพระบาง ทำให้ผมรู้สึกดีมากกว่าที่คิด ผมได้เติมไฟในตัวเอง เพื่อนำกลับไปใช้ เพราะ ผมได้ "ห า ย ไ ป พั ก" กับตัวเอง

ผมเชื่อว่าเรื่องราวที่ผมนำเสนอ อาจจะทำให้มุมมองของคนที่เคยไปหลวงพระบางหลายคนเปลี่ยนไป อาจจะดีขึ้น หรือ อาจจะไม่มีความแตกต่าง แต่ สำหรับผมมันดีมากครับ เพราะ ผมคิดว่า การเดินทางสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่จุดหมายปลายทาง แต่มันคือประสบการณ์, มิตรภาพ และ ความทรงจำต่างหากที่มีค่าและสำคัญที่สุด ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทาง ขอบคุณคนลาว และขอบคุณสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มอบมุมมองในครั้งนี้ "สะบายดี หลวงพระบาง"

ขอบคุณทุกท่านที่รับชมมาถึงตรงนี้นะครับ
Blog/เพจ "ห า ย ไ ป พัก" ฝากด้วยนะครับ :
https://www.facebook.com/leavethenrest/
https://leavethenrest.wordpress.com/


หมายเหตุ :
โดยครั้งนี้ผมได้จองตั๋วพร้อมโรงแรมกับทาง AA Go เนื่องจากตัดสินใจกระทันหันกันมาก โดยสนนราคาอยู่ที่ต่อคน คนละ 6,5xx บาท บวกกับ ค่ากินอยู่ คนละประมาณ 2,000 บาท ครับ ถือว่าไม่ได้แพง แต่ก็ไม่ได้ถูกไปสักทีเดียวครับ
ชื่อสินค้า:   หลวงพระบาง ลาว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่