สารภาพตามตรง ฉันมาไม่ทัน สิบนาทีเเรก ที่เค้าเริ่มเขี่ยลูกกลมๆ บนฝืนหญ้า ในสนามรังเหย้าของหงส์ขาว จะว่าไปการมองสังเกตโลโก้ของพวกเค้า มันก็เป็นรูปหงส์จริงๆนะ
ก่อนอันเชิญตัวเองนั่งพักบนเก้าอี้ กึ่งท่านอนท่านั่ง พร้อมขนมขบเคี้ยวที่ไม่มีตราสัญลักษณ์อะไรติดทับเพื่อหลอกให้ราคาสูงขึ้น เพราะฉันซื้อขนมนั่นมาจากคนเฒ่าคนเเก่คนนึง เพียงเพราะเกิดอาการสงสารในรูปลักษณ์ภายนอก
ช่วงดูเขาเล่นฟุตบอลในจอเเก้วใส ฉันมีความรู้สึกว่า ร่างกายฉันบังคับให้ปิดตา เพราะเสียงพากย์อันราบเรียบของผู้บรรยายภาษาอังกฤษเเละการละเล่นที่อยู่ตรงหน้าดูไม่ค่อยจะโสภาเท่าใดนัก
ฉันมามีความเสียวไส้เล็กๆ จากชายที่เคยมีค่าตัวเเพงที่สุดในโลก เค้าดันใช้โทสะ เตะกวาดลานเเบบนักมวยที่ฉันเคยเห็นในไทยไฟท์ อีกจังหวะใกล้ๆกัน เค้าก็สกัดบอลพลาด เกือบโดนใบเหลืองที่สอง โชคดีที่กรรมการ "ไม่ได้ใช้หรรมทำลูกกะตา" จึงรอดพ้นใบเเดงไปได้เเบบหวุดหวิด
เเต่เมื่อใกล้จะหมดเวลา ชายผู้ที่ชอบเปลี่ยนทรงผมคนเดิมได้โขกเปิดล่องชนใสใน ก่อนไบญี่ ผู้คุมเส้นทางการเดินบอลไปหาเดเกอา ได้บรรจงถีบลูกบอลยัดเข้าไปเเบบหนักหน่วง เป็นประตูที่บอกได้คำเดียวว่า " เเสบ ด า ก มากๆ "
พลางขยับเล็กน้อย ชูมือชูไม้อยุ่คนเดียวในห้องเหมือนคนเพี้ยน หลังจากอึดอัดจากการอุดของหงส์ขาว ความรู้สึกนี้อึดอัดเพียงใด มันก็คล้ายๆโดนบังคับไม่ให้ขี้ไหลผ่านช่องเเคบลงไปในโถส้วม อาการเดียวกับการท้องผูกยังไงอย่างนั้น ที่สุดเเล้วฉันก็มีเรื่องตื่นเต้นขึ้นมานิดๆหน่อยๆก่อนจบครึ่งเเรก
หลังจากนั้นที่ฉันถูกใจเเบบสุดๆ คือการปล่อย คนหน้านิ่งลงมาพร้อมกับเสาโทรเลขเบอร์ 1 ให้เข้ามาสมทบในสนาม กับเสาโทรเลขเบอร์ 2 เเละ 3 ตามลำดับ
เท่ากับว่าเรามีเหยาหมิงถึงสามคนในสนามตรงกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีฮอบบิทอยู่ทางขวา เเต่ฮอบบิทน้อยไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะการเอาฮอบบิทไปชนกับยักษ์ที่ปักหลักอยุ่หน้าประตูทางเข้า ดูจะไม่ใช่ประโยชน์มากนัก
พลันให้ความอิสระคนที่ยิงธนูเเม่นที่สุดในสนามอย่างมิกกิขับเคลื่อนเกมส์เเบบฟรีสไตล์ สำหรับมิกกิ ฉันไม่รู้ว่าเค้าจ่ายมากี่ลูกเเล้ว นับตั้งเเต่ปรีซีซั่น เข้าใจว่าเยอะมากๆ
เเละก็ไม่ผิดหวัง มาซิยาลระเบิดฟอร์มจากความสดใหม่ บวกกับความเฉียบคมของมิกกิ อันเชิญประตูเพิ่มได้อีก 3 ดอกเน้นๆ เรียกได้ว่า เเสบ ด า ก คูณ สอง
สารภาพตามตรง ตั้งเเต่เเรกจนจบ ฉันก็ไมได้ขยับ ด า ก ของฉันลุกไปไหน ยังคงอยุ๋ในท่าที่ถนัดใช้ เเม้ว่าเเมนยูจะยิง 4 ดอกเน้นๆในนัดนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ฉันขยันขึ้น
เมื่อร่างไม่ได้อนุญาตให้ขยับมากนัก เเต่อย่างนึงที่ยังพอทำได้คือการยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก หากใครนึกหน้าฉันไม่ออก ก็ขอให้ดูภาพด้านล่าง มันก็คงจะประมาณนี่ อะเเหละ
ท้ายสุดฉันขอสดุดี น้ามู ผู้ปลุกผี ให้ดูดีมีราศี เเม้จะยังเทียบยุคเเพนด้าไม่ได้ เเต่นี่ก็คือนิมิตหมายที่ดี ในการลุ้นเเชมป์พรีเมียลีก ที่ไม่ได้สัมผัสมาอย่างยาวนานเเสนนาน ......
ฉะตัวตัว !! ฉันเสียดายที่คนตายไม่ได้ดูเเมนยู ชุดนี้ !!
ก่อนอันเชิญตัวเองนั่งพักบนเก้าอี้ กึ่งท่านอนท่านั่ง พร้อมขนมขบเคี้ยวที่ไม่มีตราสัญลักษณ์อะไรติดทับเพื่อหลอกให้ราคาสูงขึ้น เพราะฉันซื้อขนมนั่นมาจากคนเฒ่าคนเเก่คนนึง เพียงเพราะเกิดอาการสงสารในรูปลักษณ์ภายนอก
ช่วงดูเขาเล่นฟุตบอลในจอเเก้วใส ฉันมีความรู้สึกว่า ร่างกายฉันบังคับให้ปิดตา เพราะเสียงพากย์อันราบเรียบของผู้บรรยายภาษาอังกฤษเเละการละเล่นที่อยู่ตรงหน้าดูไม่ค่อยจะโสภาเท่าใดนัก
ฉันมามีความเสียวไส้เล็กๆ จากชายที่เคยมีค่าตัวเเพงที่สุดในโลก เค้าดันใช้โทสะ เตะกวาดลานเเบบนักมวยที่ฉันเคยเห็นในไทยไฟท์ อีกจังหวะใกล้ๆกัน เค้าก็สกัดบอลพลาด เกือบโดนใบเหลืองที่สอง โชคดีที่กรรมการ "ไม่ได้ใช้หรรมทำลูกกะตา" จึงรอดพ้นใบเเดงไปได้เเบบหวุดหวิด
เเต่เมื่อใกล้จะหมดเวลา ชายผู้ที่ชอบเปลี่ยนทรงผมคนเดิมได้โขกเปิดล่องชนใสใน ก่อนไบญี่ ผู้คุมเส้นทางการเดินบอลไปหาเดเกอา ได้บรรจงถีบลูกบอลยัดเข้าไปเเบบหนักหน่วง เป็นประตูที่บอกได้คำเดียวว่า " เเสบ ด า ก มากๆ "
พลางขยับเล็กน้อย ชูมือชูไม้อยุ่คนเดียวในห้องเหมือนคนเพี้ยน หลังจากอึดอัดจากการอุดของหงส์ขาว ความรู้สึกนี้อึดอัดเพียงใด มันก็คล้ายๆโดนบังคับไม่ให้ขี้ไหลผ่านช่องเเคบลงไปในโถส้วม อาการเดียวกับการท้องผูกยังไงอย่างนั้น ที่สุดเเล้วฉันก็มีเรื่องตื่นเต้นขึ้นมานิดๆหน่อยๆก่อนจบครึ่งเเรก
หลังจากนั้นที่ฉันถูกใจเเบบสุดๆ คือการปล่อย คนหน้านิ่งลงมาพร้อมกับเสาโทรเลขเบอร์ 1 ให้เข้ามาสมทบในสนาม กับเสาโทรเลขเบอร์ 2 เเละ 3 ตามลำดับ
เท่ากับว่าเรามีเหยาหมิงถึงสามคนในสนามตรงกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีฮอบบิทอยู่ทางขวา เเต่ฮอบบิทน้อยไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก เพราะการเอาฮอบบิทไปชนกับยักษ์ที่ปักหลักอยุ่หน้าประตูทางเข้า ดูจะไม่ใช่ประโยชน์มากนัก
พลันให้ความอิสระคนที่ยิงธนูเเม่นที่สุดในสนามอย่างมิกกิขับเคลื่อนเกมส์เเบบฟรีสไตล์ สำหรับมิกกิ ฉันไม่รู้ว่าเค้าจ่ายมากี่ลูกเเล้ว นับตั้งเเต่ปรีซีซั่น เข้าใจว่าเยอะมากๆ
เเละก็ไม่ผิดหวัง มาซิยาลระเบิดฟอร์มจากความสดใหม่ บวกกับความเฉียบคมของมิกกิ อันเชิญประตูเพิ่มได้อีก 3 ดอกเน้นๆ เรียกได้ว่า เเสบ ด า ก คูณ สอง
สารภาพตามตรง ตั้งเเต่เเรกจนจบ ฉันก็ไมได้ขยับ ด า ก ของฉันลุกไปไหน ยังคงอยุ๋ในท่าที่ถนัดใช้ เเม้ว่าเเมนยูจะยิง 4 ดอกเน้นๆในนัดนี้ ก็ไม่ได้ทำให้ฉันขยันขึ้น
เมื่อร่างไม่ได้อนุญาตให้ขยับมากนัก เเต่อย่างนึงที่ยังพอทำได้คือการยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก หากใครนึกหน้าฉันไม่ออก ก็ขอให้ดูภาพด้านล่าง มันก็คงจะประมาณนี่ อะเเหละ
ท้ายสุดฉันขอสดุดี น้ามู ผู้ปลุกผี ให้ดูดีมีราศี เเม้จะยังเทียบยุคเเพนด้าไม่ได้ เเต่นี่ก็คือนิมิตหมายที่ดี ในการลุ้นเเชมป์พรีเมียลีก ที่ไม่ได้สัมผัสมาอย่างยาวนานเเสนนาน ......