จบตอนของมือปราบเจ้าหัวใจไปแบบเต็มอิ่มเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งไม้ต่อไปให้กับราชนาวีที่รักคืนนี้
แต่เดี๋ยวก่อนละครจบแต่คนไม่จบนะคะ ^ ^ เราดูละครแล้วสนใจเรื่องนึง นั่นก็คืออนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องรองที่เราเห็นในฉากของละคร ทั้งฉากที่มินตรามาขอพรให้คณินทร์ฟื้นจากการถูกรมควันพิษและฉากสุดท้ายที่มาทำความเคารพหลังจากเสร็จภารกิจจับแกงค์ของคุณตาณรงค์แล้ว เมื่ออยากรู้คำตอบเลยต้องเข้าอินเตอร์เน็ต เท่าที่สืบค้นข้อมูลได้รายละเอียดมาตามนี้เลยค่ะ บางข้อความขออนุญาตเรียงประโยคตามความเข้าใจของเราเองค่ะ แต่ข้อมูลทั้งหมดยึดข้อมูลหลักจากเวปตำรวจไทย THAI COP (ตามลิงก์นี้ค่ะ
http://thaicop.blogspot.com/2012/10/blog-post_3059.html) สำหรับท่านที่มีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเพิ่มข้อมูลได้เลยนะคะ เพราะน่าจะมีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับอนุสาวรีย์แห่งนี้อีก
อนุสาวรีย์ตำรวจ : อนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน
อนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน จัดสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2496 โดย พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ได้มอบหมายให้ หม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล เป็นผู้จัดทำแบบแปลน ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี และอาจารย์พิมาน มูลประมุข แห่งกรมศิลปากร เป็นประติมากรผู้ปั้น โดยมุ่งหมายให้เป็นที่ระลึกถึงคุณงามความดีของข้าราชการตำรวจผู้กล้าหาญและเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ อนุสาวรีย์ตำรวจผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน สร้างขึ้นเสร็จพร้อมกับตึกสำนักงานตำรวจและได้ทำพิธีเปิดในวันตำรวจเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2496 ซึ่งนับเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญชิ้นหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เดิมตั้งอยู่หน้าตึกปทุมวัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อมาได้ถูกย้ายไปที่สโมสรตำรวจ ก่อนจะย้ายไปไว้ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งมีพิธีเปิดอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน ในวันที่ 29 กันยายน 2553 เป็นรูปหุ่นตำรวจอุ้มคนเจ็บ มีเด็กญาติคนเจ็บเกาะขา ลักษณะของอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นนี้ ฐานส่วนล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสทำด้วยหินอ่อน มีส่วนกว้างและสูงด้านละ 1.35 เมตร ภายในกลวงสำหรับบรรจุอัฐิตำรวจผู้เสียชีวิตในหน้าที่ราชการ รอบๆ ฐานด้านหน้ามีรูปตราโล่และตัวอักษรจารึกว่า "ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน" ส่วนด้านข้างอีก 2 ด้าน มีพวงหรีดทำด้วยทองเหลืองติดอยู่ และด้านหลังมีประตูเหล็กปิดเปิดสำหรับเก็บอัฐิ บนฐานเป็นรูปหุ่นตำรวจเท่ากับคนตัวจริงหล่อด้วยทองเหลืองยืนอุ้มคนเจ็บและมีเด็กญาติคนเจ็บเกาะขาตำรวจอยู่ ตอนล่างของฐานเป็นแท่งหินอ่อนมีบันใดหินอ่อน 3 ขั้น ขึ้นลงได้ทั้ง 4 ด้าน รองรับอีกชั้นหนึ่ง
อนุสาวรีย์ตำรวจยืนอุ้มคนเจ็บโดยมีเด็กญาติคนเจ็บเกาะขาตำรวจอยู่นี้ มีความหมายว่า นอกจากตำรวจจะทำหน้าที่ในการปราบปรามแล้วยังมีหน้าที่บริการและการช่วยเหลือระงับทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชน อันได้แก่การบริการและการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ช่วยคนเป็นลม คนตกน้ำ คนหลงทาง คนข้ามถนน คนเจ็บป่วย ผู้ประสบอุบัติเหตุ และในเวลาค่ำคืนก็ช่วยเตือนเจ้าบ้านให้ปิดประตูหน้าต่างป้องกันโจรกรรม ตลอดจนเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานกรรมการพิจารณาจัดหาสถานที่ตั้งอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน หรืออนุสาวรีย์ตำรวจอุ้มเด็ก กล่าวว่า คณะกรรมการมีความเห็นในที่ประชุมว่าสมควรย้ายอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชนจากสโมสรตำรวจซึ่งเป็นพื้นที่ไม่เหมาะไปยังโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกว่า อีกทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกของนักเรียนนายร้อยตำรวจ ที่จะจบการศึกษาออกไปปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประชาชน ให้ระลึกเสมอว่าตำรวจต้องดูแลประชาชนให้อยู่อย่างสงบสุข และยังเป็นการเสริมฮวงจุ้ยอีกด้วย ใช้งบประมาณในการเคลื่อนย้ายเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวไม่ได้เป็นงบของทางราชการแต่เป็นเงินจากสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดยการเคลื่อนย้ายอนุสาวรีย์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว และการย้ายมาที่โรงเรียนนายตำรวจก็จะเป็นที่สุดท้ายโดยจะไม่ย้ายไปไหนอีก พล.ต.ท.อมรินทร์ อัครวงษ์ ผบช.รร.นรต. (ในขณะนั้น) กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเห็นสมควรเป็นอย่างยิ่งที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เคลื่อนย้ายอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชนมาไว้ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพราะที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นที่ผลิตตำรวจชั้นสัญญาบัตร ซึ่งจะทำให้นักเรียนนายร้อยตำรวจได้ซึมซับทุกวัน และเกิดความภาคภูมิใจ ในวีรกรรมของตำรวจที่ได้ปกป้องประชาชน เมื่อออกมารับราชการเต็มตัวควรจะดูแลประชาชนอย่างไร “สำหรับอนุสาวรีย์จะนำมาตั้งไว้ที่หน้าหอประชุมชุณหะวัณ ภายในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จากนี้จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อเชิดชูวีรกรรมของตำรวจ ขึ้นภายในวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันตำรวจไทยควบคู่กันเป็นประจำทุกปี”
ดูละครใช่ว่าจะไร้สาระ ไม่ดูละครใช่ว่าจะมีแต่สาระ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ความรู้คู่บันเทิงค่ะ จริงๆ เราอยากรู้ข้อมูลอีกเยอะค่ะ แต่คงต้องค่อยๆหาข้อมูลไป เคยดูรายการเกี่ยวกับการฝึกของทหาร ขนาดดูแค่สั้นๆยังรู้สึกกลัวเลย ทหาร ตำรวจที่ผ่านการฝึกเฉพาะทางมาได้คือต้องอดทน และเก่งมากๆ ซีรีส์ภารกิจรักนอกจากจะให้ความบันเทิงแล้วยังให้ความรู้นอกห้องสมุดกับเรามาด้วย ขอบคุณมากๆนะคะ เราไม่คิดว่าจะตั้งกระทู้ก็มาตั้งเฉยเลย ที่สำคัญเกี่ยวกับละครเรื่องเดียว 2 กระทู้รวดเลย "ยอมใจให้มือปราบเจ้าหัวใจเลยค่ะ"
edit : แก้คำผิด พิมพ์ซ้ำค่ะ
ส่งท้ายมือปราบเจ้าหัวใจ
แต่เดี๋ยวก่อนละครจบแต่คนไม่จบนะคะ ^ ^ เราดูละครแล้วสนใจเรื่องนึง นั่นก็คืออนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องรองที่เราเห็นในฉากของละคร ทั้งฉากที่มินตรามาขอพรให้คณินทร์ฟื้นจากการถูกรมควันพิษและฉากสุดท้ายที่มาทำความเคารพหลังจากเสร็จภารกิจจับแกงค์ของคุณตาณรงค์แล้ว เมื่ออยากรู้คำตอบเลยต้องเข้าอินเตอร์เน็ต เท่าที่สืบค้นข้อมูลได้รายละเอียดมาตามนี้เลยค่ะ บางข้อความขออนุญาตเรียงประโยคตามความเข้าใจของเราเองค่ะ แต่ข้อมูลทั้งหมดยึดข้อมูลหลักจากเวปตำรวจไทย THAI COP (ตามลิงก์นี้ค่ะ http://thaicop.blogspot.com/2012/10/blog-post_3059.html) สำหรับท่านที่มีข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเพิ่มข้อมูลได้เลยนะคะ เพราะน่าจะมีเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับอนุสาวรีย์แห่งนี้อีก
อนุสาวรีย์ตำรวจ : อนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน
อนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน จัดสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2496 โดย พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ได้มอบหมายให้ หม่อมหลวงปุ่ม มาลากุล เป็นผู้จัดทำแบบแปลน ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี และอาจารย์พิมาน มูลประมุข แห่งกรมศิลปากร เป็นประติมากรผู้ปั้น โดยมุ่งหมายให้เป็นที่ระลึกถึงคุณงามความดีของข้าราชการตำรวจผู้กล้าหาญและเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ อนุสาวรีย์ตำรวจผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน สร้างขึ้นเสร็จพร้อมกับตึกสำนักงานตำรวจและได้ทำพิธีเปิดในวันตำรวจเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2496 ซึ่งนับเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญชิ้นหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เดิมตั้งอยู่หน้าตึกปทุมวัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่อมาได้ถูกย้ายไปที่สโมสรตำรวจ ก่อนจะย้ายไปไว้ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งมีพิธีเปิดอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน ในวันที่ 29 กันยายน 2553 เป็นรูปหุ่นตำรวจอุ้มคนเจ็บ มีเด็กญาติคนเจ็บเกาะขา ลักษณะของอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นนี้ ฐานส่วนล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสทำด้วยหินอ่อน มีส่วนกว้างและสูงด้านละ 1.35 เมตร ภายในกลวงสำหรับบรรจุอัฐิตำรวจผู้เสียชีวิตในหน้าที่ราชการ รอบๆ ฐานด้านหน้ามีรูปตราโล่และตัวอักษรจารึกว่า "ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน" ส่วนด้านข้างอีก 2 ด้าน มีพวงหรีดทำด้วยทองเหลืองติดอยู่ และด้านหลังมีประตูเหล็กปิดเปิดสำหรับเก็บอัฐิ บนฐานเป็นรูปหุ่นตำรวจเท่ากับคนตัวจริงหล่อด้วยทองเหลืองยืนอุ้มคนเจ็บและมีเด็กญาติคนเจ็บเกาะขาตำรวจอยู่ ตอนล่างของฐานเป็นแท่งหินอ่อนมีบันใดหินอ่อน 3 ขั้น ขึ้นลงได้ทั้ง 4 ด้าน รองรับอีกชั้นหนึ่ง
อนุสาวรีย์ตำรวจยืนอุ้มคนเจ็บโดยมีเด็กญาติคนเจ็บเกาะขาตำรวจอยู่นี้ มีความหมายว่า นอกจากตำรวจจะทำหน้าที่ในการปราบปรามแล้วยังมีหน้าที่บริการและการช่วยเหลือระงับทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชน อันได้แก่การบริการและการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ช่วยคนเป็นลม คนตกน้ำ คนหลงทาง คนข้ามถนน คนเจ็บป่วย ผู้ประสบอุบัติเหตุ และในเวลาค่ำคืนก็ช่วยเตือนเจ้าบ้านให้ปิดประตูหน้าต่างป้องกันโจรกรรม ตลอดจนเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน
พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประธานกรรมการพิจารณาจัดหาสถานที่ตั้งอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน หรืออนุสาวรีย์ตำรวจอุ้มเด็ก กล่าวว่า คณะกรรมการมีความเห็นในที่ประชุมว่าสมควรย้ายอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชนจากสโมสรตำรวจซึ่งเป็นพื้นที่ไม่เหมาะไปยังโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมกว่า อีกทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกของนักเรียนนายร้อยตำรวจ ที่จะจบการศึกษาออกไปปฏิบัติหน้าที่รับใช้ประชาชน ให้ระลึกเสมอว่าตำรวจต้องดูแลประชาชนให้อยู่อย่างสงบสุข และยังเป็นการเสริมฮวงจุ้ยอีกด้วย ใช้งบประมาณในการเคลื่อนย้ายเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณดังกล่าวไม่ได้เป็นงบของทางราชการแต่เป็นเงินจากสมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดยการเคลื่อนย้ายอนุสาวรีย์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว และการย้ายมาที่โรงเรียนนายตำรวจก็จะเป็นที่สุดท้ายโดยจะไม่ย้ายไปไหนอีก พล.ต.ท.อมรินทร์ อัครวงษ์ ผบช.รร.นรต. (ในขณะนั้น) กล่าวว่า รู้สึกยินดีและเห็นสมควรเป็นอย่างยิ่งที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เคลื่อนย้ายอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชนมาไว้ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เพราะที่โรงเรียนแห่งนี้เป็นที่ผลิตตำรวจชั้นสัญญาบัตร ซึ่งจะทำให้นักเรียนนายร้อยตำรวจได้ซึมซับทุกวัน และเกิดความภาคภูมิใจ ในวีรกรรมของตำรวจที่ได้ปกป้องประชาชน เมื่อออกมารับราชการเต็มตัวควรจะดูแลประชาชนอย่างไร “สำหรับอนุสาวรีย์จะนำมาตั้งไว้ที่หน้าหอประชุมชุณหะวัณ ภายในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จากนี้จะมีการจัดกิจกรรมเพื่อเชิดชูวีรกรรมของตำรวจ ขึ้นภายในวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันตำรวจไทยควบคู่กันเป็นประจำทุกปี”
ดูละครใช่ว่าจะไร้สาระ ไม่ดูละครใช่ว่าจะมีแต่สาระ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ความรู้คู่บันเทิงค่ะ จริงๆ เราอยากรู้ข้อมูลอีกเยอะค่ะ แต่คงต้องค่อยๆหาข้อมูลไป เคยดูรายการเกี่ยวกับการฝึกของทหาร ขนาดดูแค่สั้นๆยังรู้สึกกลัวเลย ทหาร ตำรวจที่ผ่านการฝึกเฉพาะทางมาได้คือต้องอดทน และเก่งมากๆ ซีรีส์ภารกิจรักนอกจากจะให้ความบันเทิงแล้วยังให้ความรู้นอกห้องสมุดกับเรามาด้วย ขอบคุณมากๆนะคะ เราไม่คิดว่าจะตั้งกระทู้ก็มาตั้งเฉยเลย ที่สำคัญเกี่ยวกับละครเรื่องเดียว 2 กระทู้รวดเลย "ยอมใจให้มือปราบเจ้าหัวใจเลยค่ะ"
edit : แก้คำผิด พิมพ์ซ้ำค่ะ