[CR] แบ่งปันประสบการณ์เมื่อใบไม้เปลี่ยนสี @ ญี่ปุ่น 8 วัน 3 เมือง แบบฉบับพนักงานสาวออฟฟิศ

แบ่งปันประสบการณ์เมื่อใบไม้เปลี่ยนสี @ ญี่ปุ่น 8 วัน 3 เมือง และFirst Snow in Tokyo



          ในตอนแรกเราจะบอกขั้นตอนการวางแผนในการจัดทริปนี้ก่อนนะคะ ตั้งแต่การจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก และการซื้อพาสต่างๆ ที่ต้องใช้ในทริป  รวมทั้งไปเที่ยวเมืองยอดฮิตที่ใครๆต่างใฝ่ฝันเมือง kawaguchi เป็นที่ตั้งของ ทะเลสาบคาวากูจิ (Kawaguchi-ko) และใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ โดยการนั่งรถ Retro bus ไปชมอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสี และขึ้นกระเช้าไฟฟ้าชมวิวกันคะ

ติดตามตอนที่ 2 Kyoto-Osaka  https://pantip.com/topic/36784855 จะพาไปเที่ยวศาลเจ้าเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ Fushimi Inari Shrine  ไปเล่นเครื่องเล่นที่ Universal Studios Japan กันคะ
  
          เป็นกระทู้สำหรับแบ่งปันประสบการณ์ในการเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2016 เนื่องจาก จขกท.ได้ดูรีวิวคนไปเที่ยวในห้องบลู  ทำให้เกิดความอยากไปมากกกกกกก (ก.ล้านตัว) จึงได้ชักชวนเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ทำงานไปเที่ยวกัน ซึ่งมีเหยื่อทั้งหมด 5 คนรวม จขกท.แล้ว ซึ่งเรามีเวลาในการเตรียมตัว 4 เดือน ในการจัดทริปนี้ มาเริ่มกันเลยคะ

        รูปเรามีภาพคนเยอะหน่อยนะคะ ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะมารีวิวจึงไม่ได้ถ่ายสถานที่มาเท่าไหร่ แต่อยากแบ่งปันประสบการณ์ตอบแทนสมาชิกในพันทิปจึงเกิดกระทู้นี้ขึ้นมาคะ

ตั๋วเครื่องบิน

         ขั้นแรกเราต้องหาตั๋วเครื่องบินก่อนซึ่งประจวบเหมาะกับที่ “งานเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ซัมเมอร์ ออทัม 2016” จัดที่เซ็นทรัลพระรามเก้าพอดิบพอดี จากที่เดินหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกนั้น มาตกลงที่สายการบิน Air Asia X ซึ่งตั้งบูทที่งานมีส่วนลดสำหรับลูกค้าที่ซื้อตั๋วในงาน 15% หรือ 20% จำไม่ได้ ซึ่งเราได้ตกลงซื้อตั๋วเครื่องบินไป-กลับ TOKYO ลงสนามบินนาริตะในวันที่ 17-24/11/59 รวม 8 วัน พร้อมกับซื้อน้ำหนักกระเป๋าขากลับรวม 140 กก. เฉลี่ยคนละ 28 กก. (แบบฉบับผู้หญิงเยอะแบบเรา)รวมแล้วเฉลี่ยคนละ 11,250 บาท เราซื้ออาหารสำหรับทั้งขาไป-กลับเพิ่ม (เรามาซื้อกันทีหลังสั่งทางออนไลน์คะ)  โอเคมีตั๋วแล้ว ซึ่งตอนที่ซื้อตั๋วเครื่อบินเรายังไม่รู้เลยว่าจะไปเที่ยวไหนกันดี ฮ่าๆๆๆๆ แบบว่าขอให้มีตั๋วเครื่องบินก่อนอย่างอื่นเดี๋ยวตามมาเอง เราไม่ซื้อน้ำหนักสำหรับโหลดกระเป๋าขาไป เพราะว่าเราสมัครบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพที่ร่วมกับ Air Asia (บัตรเครดิตสีแดงๆ) จะได้คูปองโหลดกระเป๋าฟรี 20 กก. แล้วยังได้คูปองเลือกที่นั่ง Hot Seat อีกด้วย สำหรับขาออกจากประเทศไทยเท่านั้นนะคะ แล้วถ้าขึ้นเครื่องแล้วแสดงบัตรเครดิตสามารถรับเครื่องดื่มได้อีกด้วย สำหรับเรายื่นทั้งไป-กลับ เอาน้ำโค้กมาทานค้า 555 สบายจิงๆ (ปล.ใครจะใช้วิธีแบบเราการสมัครบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพต้องใช้เวลาเป็นเดือนนะคะ อย่าชะล่าใจนะคะเดี๋ยวไม่ทัน) และเวลาไปเช็คอินจะมีช่องทางพิเศษไว้สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตด้วย แบบว่าไม่ต้องต่อแถวนาน ซึ่งสมาชิกในกรุ๊ปของเราสมัครผ่านและทันเวลา 1 คนถ้วน ส่วน จขกท.มีอยู่แล้วคะ รวมเป็น 2 บัตรหลัก เราจึงสมัครบัตรเสริมให้สมาชิกได้อีก 2 คน เหลืออีก 1 คน บัตรอนุมัติไม่ทันเสียดายมาก ตอนที่เราไปเช็คอินที่สนามบินดอนเมืองพนักงานของ Air Asia ได้โปรดพวกเราให้คนที่ไม่มีคูปอง Hot Seat ได้นั่งด้วยกัน (ตอนที่เลือกที่นั่งที่สำหรับ Hot Seat เหลือไม่พอสำหรับพวกเรา ต้องแยกกันนั่ง เนื่องจากเราไปเช็คอินค่อนข้างช้าที่นั่งจึงเกือบเต็ม) ซึ่งได้นั่ง Hot Seat 3 ที่นั่ง และได้ไปนั่ง Quiet Zone 2 ที่นั่ง


ระบุเมืองที่จะไป
          ต่อไปเราก็มาวางแผนกันว่าจะไปไหนกันดีนะ....อยากเจอใบไม้เปลี่ยนสีเยอะๆสวยๆ สรุปว่าอยากไปทั้งดูภูเขาฟูจิ โอซาก้า เกียวโต โตเกียว ไหนๆก็ไปญี่ปุ่นทั้งทีต้องไปให้ครบ (ไม่ได้คิดถึงตอนลากกระเป๋าเปลี่ยนเมืองกันเลย)

โรงแรมที่พัก    
          เราจองโรงแรมเผ่าน Booking ทั้งหมดเลย จองก่อนจ่ายเงินทีหลังแถมยกเลิกได้ด้วย ปล.ต้องทำตามกติกาที่เค้าแจ้งไว้นะคะ (บางโรงแรมต้องกันวงเงินในบัตรเครดิตไว้เป็นหลักประกัน) เราจองโรงแรมที่สนใจไว้เป็นตัวเลือกก่อน แล้วมาเลือกโรงแรมที่สะดวกสำหรับเรา ที่เหลือแคนเซิลคะ เพราะว่าบางโรงแรมสามารถยกเลิกได้ก่อนเดินทางช้าสุด 1 วัน เข้า www.booking.com หรือ โหลดแอ็ปในมือถือก็ได้นะคะ เราเริ่มการค้นหาโดยสามารถระบุเมืองที่จะเข้าพัก วันที่ ก็จะมีโรงแรมมาให้เลือกมากมายเลยคะ สำหรับเราเลือกโรงแรมโซนใกล้รถไฟฟ้า ราคาถูก และคะแนนรีวิวที่ค่อนข้างดีประกอบ




วันที่ 21-22/11/59 จองที่พักผ่านเว็ปโดยตรงคะ Shin Osaka Hotel เนื่องจากใน Booking เต็มเราจึงจองผ่านเว็ปโดยตรงเองคะ http://www.st-hotel.jp/honkan/english/

JR Rail Passและตั๋ว USJ

         เราใช้ JR Rail Pass แบบ 7 วัน สามารถใช้ขึ้นชินคันเซ็นทุกสายของกลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น (ยกเว้น รถไฟ"โนโซมิ", รถไฟ"มิซูโฮะ") รถไฟด่วนพิเศษ, รถไฟด่วน, รถไฟเร็ว, รถไฟธรรมดา  BRT (มีรถไฟบางขบวนที่ใช้ไม่ได้) สายท้องถิ่นแต่ละสายของบริษัท และ JR Bus http://www.japanrailpass.net/th/about_jrp.html เพราะเราต้องเดินทางข้ามเมืองกันเราจึงเลือกใช้พาสนี้ แค่เรานั่งชิงกันเซ็งไป-กลับ Osaka ก็คุ้มแล้ว (เรามานั่งเสียดายว่าตอนจองเครื่องบินทำไมไม่ดูมาก่อนว่าจะเที่ยวไหนบ้าง เมื่องั้นเราสามารถลงเครื่องบินที่ Osaka กลับ Tokyo ก็ได้ ไม่ต้องมาซื้อ JR แบบ 7 วัน ประหยัดเงินและเวลาได้อีก) จากที่ดูราคาตัวแทนขายหลายเจ้าแล้ว เราเลือกซื้อกับ KTC World เพราะว่าน่าเชื่อถือและสามารถจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ (รูดก่อนเดี๋ยวค่อยจ่ายแบบฉบับมนุษย์เงินเดือน) แล้วนางยังมีโปรโมชั่นเมื่อจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก JR Pass หรือผลิตภัณฑ์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นผ่านบัตร KTC JCB ครบ 2,000 บาท ขึ้นไป/รายการ สามารถแลกคะแนนสะสม 599 คะแนน รับฟรี บัตรเข้า Universal Studios Japan ฟรี มูลค่า 2,200 บาท 1 บัตรเครดิตสามารถแลกได้ 2 ใบนะคะ ประหยัดค่าตั๋ว USJ ไปได้อีก ซึ่งตอนที่ซื้อราคา JR 9,500 บาท แพงกว่าบางเจ้านิดหน่อย(ตอนที่เราซื้อค่าเงินเยนอยู่ที่ 34 กว่าๆบาทต่อ 100 เยน)



Express USJ

          จากที่เราหาข้อมูลการเที่ยว USJ ส่วนใหญ่บอกว่าเครื่องเล่นยอดฮิตแถวจะยาว และใช้เวลาการการต่อแถวทำให้เสียเวลา เราจึงตัดสินใจที่จะซื้อบัตร Express ซึ่งจะมีแบบ Express 7 อย่าง และ Express 4 อย่าง ซึ่งเราตัดสินใจเอาแค่ 4   อย่างพอเพื่อที่จะระบุเวลาเข้าโซน Harry Potter ไม่ต้องต่อแถว เราซื้อผ่านเว็ป https://www.usj.co.jp/e/ticket/express_pass.html ซึ่ง วิธีการซื้อเราอ่านจากใน Pantip เนี่ยแหละคะ ซึ่งมีอยู่หลายหลายกระทู้เลือกไปศึกษาได้เลยคะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/35079233 https://pantip.com/topic/33072704   https://pantip.com/topic/34425652   เราโหลดแอ็ปมาไว้ในมือถือไว้ด้วยสำหรับการโหลด QR Code Express สำหรับไว้ใช้ในการแสดงให้เจ้าหน้าที่สแกนนะคะ เนื่องจากเราไม่อยากไปต่อแถวเพื่อออกบัตร Express หน้า USJ   เพราะกลัวเสียเวลาคะ