HEMP คืออะไร
HEMP หรือ Hazards and Effects Management Process คือกระบวนการศึกษาความเสี่ยง การชี้บ่งความอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นและการจัดการความเสี่ยงในโรงงานอุตสากรรม ซึ่งในกระบวนการทำงานของ HEMP นั้นใช้วิธีการประเมินหรือระบุถึงอันตรายจากการประชุมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และตัดสินถึงอันตรายความรุนแรง (Consequence) และความถี่ (Likelihood) ในการเกิดผ่านการใช้ตารางเมททริตความเสี่ยง (Risk Assessment Matrix) โดยระดับของควมเสี่ยงจะถูกแบ่งออกเป็น ความเสี่ยงระดับต่ำ (Low Risk) ความเสี่ยงระดับกลาง (Medium Risk) และความเสี่ยงระดับสูง (High Risk) โดยจะถูกระบุอยู่ในบัญชีความเสี่ยง หรือ บัญชีความอันตราย (Hazard Register)
ในความเสี่ยงที่ถูกจัดอยู่ในความเสี่ยงระดับสูง (High Risk) จะถูกนำเสนอผ่านกระบวนการวิเคราะห์ที่เรียกว่า Bowtie Analysis ซึ่ง Bowtie Analysis เป็นการประยุกต์ใช้วิธีวิเคราะห์แบบ fault tree analysis ร่วมกับการวิเคราะห์แบบ event tree analysis

การจัดการความเสี่ยงด้วยวิธี HEMP ที่เป็นที่นิยมของโรงงานอุตสาหรรม คือรูปแบบที่ถูกพัฒนามาจากบริษัท Shell เพื่อใช้ในการระบุความเสี่ยง ซึ่งผลที่ได้จากการวิเคราะห์ความเสี่ยงแบบ HEMP ก็จะได้งานหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง (critical tasks) พร้อมถึงแผนงานในการควบคุม จัดการความเสี่ยง
ขั้นตอนกระบวนการทำ HEMP มีประกอบด้วยกันหลักๆ 4 ขั้นตอน
1. การระบุหรือชี้บ่งความเสี่ยง (Identify)
2. การเข้าใจถึงลักษณะของความเสี่ยง (Assess)
3. การควบคุมความเสี่ยง (Control)
4. การลดความเสี่ยงหรือการจัดการกับความเสี่ยง (Recovery)

ยกตัวอย่าง การระบุหรือการชี้บ่งความเสี่ยง (Identify) เช่น มีโอกาสความเป็นไปได้แค่ไหนที่คน สิ่งแวดล้อม หรือเครื่องจักรจะก่อให้เกิดหรือตกอยู่ในอันตราย แล้วอันตรายที่ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร มีความรุนแรงมากแค่ไหน เกิดบ่อยอย่างไรคือการเข้าใจถึงลักษณะของความเสี่ยง (Assess) มีวิธีการหรือเครื่องมือในการลดความอันตรายไหม นี่คือในส่วนการควบคุมความอันตรายที่อาจจะเกิด (Control) และถ้าต้องการลดความรุนแรงที่จะมีหรือถ้าเกิดอันตรายขึ้นมาจะควบคุมไม่ให้ขยายวงกว้างออกไปคือส่วนของ (Recovery) สุดท้ายก็จะได้ในส่วนงานหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง (Critical task and critical activities) ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบในการจัดการกับอันตรายและความเสี่ยงเหล่านั้น และท้ายสุดก็ควรมีการเปรียบเทียบวิธีการจัดการความเสี่ยงต่างๆกับวิธีปฏิบัติต่างๆ (international design code) หรือกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ขั้นตอนการเปรียบเทียบนี้เรียกว่า Gap Analysis
ทำให้โดยสรุป Hazards and Effects Management Process หรือ HEMP จะทำด้วยกันอยู่ 3 ขั้นตอนใหญ่ๆคือ
1. ขั้นตอนกระบวนการทำ HEMP และทำบัญชีอันตราย (Hazard Register)
2. การวิเคราะห์ความเสี่ยงแบบ Bowtie Analysis
3. การเปรียบเทียบความเสี่ยงกับวิธีปฏิบัติต่างๆ Gap Analysis
HEMP (Hazards and Effects Management Process) คืออะไร
HEMP หรือ Hazards and Effects Management Process คือกระบวนการศึกษาความเสี่ยง การชี้บ่งความอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นและการจัดการความเสี่ยงในโรงงานอุตสากรรม ซึ่งในกระบวนการทำงานของ HEMP นั้นใช้วิธีการประเมินหรือระบุถึงอันตรายจากการประชุมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และตัดสินถึงอันตรายความรุนแรง (Consequence) และความถี่ (Likelihood) ในการเกิดผ่านการใช้ตารางเมททริตความเสี่ยง (Risk Assessment Matrix) โดยระดับของควมเสี่ยงจะถูกแบ่งออกเป็น ความเสี่ยงระดับต่ำ (Low Risk) ความเสี่ยงระดับกลาง (Medium Risk) และความเสี่ยงระดับสูง (High Risk) โดยจะถูกระบุอยู่ในบัญชีความเสี่ยง หรือ บัญชีความอันตราย (Hazard Register)
ในความเสี่ยงที่ถูกจัดอยู่ในความเสี่ยงระดับสูง (High Risk) จะถูกนำเสนอผ่านกระบวนการวิเคราะห์ที่เรียกว่า Bowtie Analysis ซึ่ง Bowtie Analysis เป็นการประยุกต์ใช้วิธีวิเคราะห์แบบ fault tree analysis ร่วมกับการวิเคราะห์แบบ event tree analysis
การจัดการความเสี่ยงด้วยวิธี HEMP ที่เป็นที่นิยมของโรงงานอุตสาหรรม คือรูปแบบที่ถูกพัฒนามาจากบริษัท Shell เพื่อใช้ในการระบุความเสี่ยง ซึ่งผลที่ได้จากการวิเคราะห์ความเสี่ยงแบบ HEMP ก็จะได้งานหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง (critical tasks) พร้อมถึงแผนงานในการควบคุม จัดการความเสี่ยง
ขั้นตอนกระบวนการทำ HEMP มีประกอบด้วยกันหลักๆ 4 ขั้นตอน
1. การระบุหรือชี้บ่งความเสี่ยง (Identify)
2. การเข้าใจถึงลักษณะของความเสี่ยง (Assess)
3. การควบคุมความเสี่ยง (Control)
4. การลดความเสี่ยงหรือการจัดการกับความเสี่ยง (Recovery)
ยกตัวอย่าง การระบุหรือการชี้บ่งความเสี่ยง (Identify) เช่น มีโอกาสความเป็นไปได้แค่ไหนที่คน สิ่งแวดล้อม หรือเครื่องจักรจะก่อให้เกิดหรือตกอยู่ในอันตราย แล้วอันตรายที่ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร มีความรุนแรงมากแค่ไหน เกิดบ่อยอย่างไรคือการเข้าใจถึงลักษณะของความเสี่ยง (Assess) มีวิธีการหรือเครื่องมือในการลดความอันตรายไหม นี่คือในส่วนการควบคุมความอันตรายที่อาจจะเกิด (Control) และถ้าต้องการลดความรุนแรงที่จะมีหรือถ้าเกิดอันตรายขึ้นมาจะควบคุมไม่ให้ขยายวงกว้างออกไปคือส่วนของ (Recovery) สุดท้ายก็จะได้ในส่วนงานหรือกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง (Critical task and critical activities) ใครต้องเป็นคนรับผิดชอบในการจัดการกับอันตรายและความเสี่ยงเหล่านั้น และท้ายสุดก็ควรมีการเปรียบเทียบวิธีการจัดการความเสี่ยงต่างๆกับวิธีปฏิบัติต่างๆ (international design code) หรือกฏหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ขั้นตอนการเปรียบเทียบนี้เรียกว่า Gap Analysis
ทำให้โดยสรุป Hazards and Effects Management Process หรือ HEMP จะทำด้วยกันอยู่ 3 ขั้นตอนใหญ่ๆคือ
1. ขั้นตอนกระบวนการทำ HEMP และทำบัญชีอันตราย (Hazard Register)
2. การวิเคราะห์ความเสี่ยงแบบ Bowtie Analysis
3. การเปรียบเทียบความเสี่ยงกับวิธีปฏิบัติต่างๆ Gap Analysis