ว่าด้วยเริ่อง "ดีแทค" โค้งสุดท้าย ก่อนสัมปทานคลื่นจะหมด

กระทู้สนทนา
อย่างที่เราทราบกันว่า dtac กำลังจะหมดสัมปทานคลื่นความถี่ 1800 และ 850 ลง ในกลางปีหน้า  ณ ปัจจุบัน dtac ให้บริการคลื่น 4g หลักที่คลื่น 2100 จำนวน 5 MHz และ 1800 MHz จำนวน 20 MHz แต่ปล่อยเฉพาะหัวเมือง  ส่วน 3g ปล่อยคลื่น 2100 MHz จำนวน 10 MHz และ คลื่น 850 ซึ่งเตรียมปลดระวางแล้ว    อนึ่งหลังจาก dtac เริ่มปล่อยโปร go no limit ทำให้ความเร็วของดีแทค ตกลงมากโดยเฉพาะช่วง 19.00 - 23.00 ของทุกวัน  บางจุดเทสสปีดคลื่น 1800 4g  ได้แค่ 2 เมก ในขณะที่อัพโหลดแตะถึง 30 เมก  ยิ่งคลื่น 4g 2100 ช่วงเวลาหนาแน่นวิ่งไม่ถึง 1 เมก ทำให้ dtac อยู่ในช่วงขาดแคลนคลื่นความถี่ อย่างสาหัส ณ ปัจจุบัน   เหตุผลหนึ่งที่ดีแทคตกอยู่ในสภาพปัจจุบันคือ การแพ้การประมูลคลื่นจาก กสทช ทั้งคลื่น 1800 และ 900 เมื่อปีที่ผ่านมา  ทำให้ทุกวันนี้ลูกค้าดีแทคใช้งานด้วยควาทลำบาก โดยเฉพาะโซนในเมืองสองสามเดือนมานี้ ไม่เคยเทสสปีดได้เกิน 10 เมก โดยเฉลี่ยทั้งวันเลย  ประกอบกับการขาดคลื่นความถี่ต่ำ ซึ่งเป็นคลื่นสำคัญสำหรับใช้งานในต่างจังหวัด ที่ส่งได้ไกล  จึงมาหลายเสียงออกมาพูดว่า  หากถึงวันที่ดีแทคหมดสัมปทานคลื่น 850 วันนั้นสัญญาณดีแทค จะดรอปลง กว่าครึ่งประเทศ  จริงเท็จแค่ไหนคิดว่าหลายท่านคงพอจะนึกภาพออกดี   เหตุนี้ทำให้ลูกค้าไหลออกจากดีแทค ปัจจุบันดีแทค เหลือลูกค้าในมือที่ 23 ล้านกว่าราย ในขณะที่ทรู เพิ่มขึ้นเป็น 26 ล้านกว่าราย  เป็นภาะชัดเจนที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการบริหารองค์กรแบบตะวันตก คือ บริหารให้มีกำไรไว้ก่อน  โดยประเด็นอื่นเป็นเรื่องรอง  แต่ดีแทคเองก็มีกำไรมาตลอด แต่ลูกค้าลดอย่างน่าใจหาย  อนึ่ง ดีแทคเองก็ไม่นิ่งนอนใจ ร่วมดีลคลื่นความถี่กับ tot เพื่อต่อลมหายใจ  โดยล่าสุดเริ่มมีการติดตั้งสายอากาศคลื่น 2300 แล้วในพื้นที่ กทม จำนวน 400 ชุด  แต่ดิวนี้ก็ยังผ่านด่าน อรหันต์ จากหน่วยงานภาครัฐ ที่จ่อรอคิว สับ อีกหลายด่าน เช่นเดียวกับ กรณีดิว ais tot  ที่ยังไม่สามารถเซ็นต์ใบอนุญาตได้อย่างสมบูรณ์ ยังคงใช้คำว่าทดลองกับ tot ต่อไป ดิว dtac นี้ก็เช่นกัน   แต่ คลื่น 2300 จะมาช่วยดีแทคได้มากแค่ไหน ถ้าดีแทคเองยังสามารถลงเสาได้ละเอียดยิบ เช่นเดียวกับ ais ในพื้นที่ ตจว เพราะอย่างที่ทราบกันความถี่ 2300 รัศมีครอบคลุมน้อยมากไม่เกิน 2 km จากเสาส่ง จะหวังเกาะเสา ais ก็ขึ้นอยู่กับแผนของ ais เขาอีกว่าจะอนุญาตหรือไม่   ทุกเรื่องที่กล่าวมาหวังว่าจะเป็นบทเรียน ครั้งยิ่งใหญ่ของดีแทค ประเทศไทย ที่ เทเลนอร์ ประเมินประเทศผิดคาด หวังไว้ว่า ณ ปัจจุบันไทยแลนท์ต้องย้ายลูกค้า 2g เป็น 3g ให้ครอบก่อน หลังจากนั้นจึงจะเริ่ม 4g อย่างเป็นทางการ และเต็มรูปแบบ แต่ที่ไหนได้  ค่ายสีเขียว กับสีแดง ต่างแข่งกัน จนปัจจุบันเรียกว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นของประเทศไทยทุกตารางเมตร มีสัญญาณของสองเครือข่ายนั้น แม้แต่บนดอย หุบเขาลึก ยังมีเสาโซล่าเซล ไมโครเวฟ ของสองเครือข่าย ส่วนดีแทค No service ตั้งแต่รถเคลื่อนเข้าต่างจังหวัด ในพื้นที่ห่างไกล โดยหากจุดไหนดีแทค มอนิเตอร์แล้วมีลูกค้าต้นเองเยอะ ก็จะเร่งอัดเสาลงแบบถี่ยิบ  หากจุดมอนิเตอร์แล้ว คนใช้ดีแทคน้อย ก็ปล่อยแบบนั้นหรือ No service ต่อไป ไม่อยู่ในแผนถึงแม้จะมีแคมเปญ ช่วยแนะนำติดตั้งเสาดีแทครับเงินหนึ่งหมื่นบาท แต่ดูท่าแล้วจะมีสักกี่รายที่สมหวัง  เพราะโดยมากที่แนะนำไป ต่างแห้วกันถ้วนหน้า เพราะได้รับ sms ตอบกลับไม่อยู่ในแผนการขยายทั้งที่พื้นที่ทำเล เศรษกิจเหมาะสม ?   จากนี้ไปเราคงต้องเฝ้ามอง dtac โดย เทเลนอร์ แห่งนอร์เวร์ผู้ถือหุ้นใหญ่กันต่อไปว่า จะสามารถแก้เกมพลิกกลับมาเป็นอันดับสองอีกครั้งได้หรือไม่ในเรื่องของยอดผู้ใช้งาน และภาพลักษ์ที่ค่อนข้างจะลำบากหนักในการดูแลลูกด้านเครือข่าย  ถึงแม้จะพยายามสร้างสิทธิพิเศษต่างๆ ให้ลูกค้าแต่ก็ยังคงไม่สามารถได้ใจในประสบการณ์การใช้งานของความเร็วของอินเตอร์เน็ต และความครอบคลุมของสัญญาณ  เหล่านี้ล้วนทำให้ดีแทคต้องแอคทิฟตนเองอย่างรวดเร็ว เพื่อกู้สถานการณ์กลับคืนมาให้เร็วที่สุด  จะกู้คืนได้ช้า หรือเร็ว ขึ้นอยู่กับคำสามพะยางค์นี้ คือ "เทเลนอร์"    ประหลาดใจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่