กรณี yellowstone ข้อสงสัยที่ได้รับคำตอบจากอุทยานแห่งชาติ

เพิ่งได้ดูรายการดีเบตที่นำคุณทอมมาสัมภาษณ์ค่ะ ไม่สบายใจเลย

ทางรายการควรจะติดต่อคนที่รู้จริงมาออกและให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนนะคะ ที่ควรทำคือติดต่อถามกับอุทยานโดยตรงเลย หากมีข้อสงสัยอะไร หน่วยงานจะตอบได้ดีที่สุด ไม่ใช่นักธุรกิจที่อยู่อเมริกามานาน และอ้างตำแหน่งน่าเชื่อถือ หรือประสบการณ์ (มันทำให้คนที่ไม่ได้ใช้วิจารณญาณถี่ถ้วนเชื่อได้ง่ายๆค่ะ) หน่วยงานไทยบางทีก็ไม่ได้รู้ดีเท่าอุทยานแห่งชาติค่ะ  ยังแปลกใจว่าทำไมไม่มีสื่อไทยหรือคนไทยคนไหนโทรไปสอบถามกับอุทยานแห่งชาติเลย

ติดตามอ่านกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มาพอสมควร เห็นมีบางคนเชื่อตามคุณแอนนาและคุณนุกูลด้วย จึงอยากจะชี้แจงดังนี้ค่ะ (ตามที่ได้สอบถามโดยตรงกับทางเจ้าหน้าที่อุทยานนะคะ)

1. เรื่องที่คุณทอมบอกว่า หากเราเห็นใครทำผิดที่อุทยานแห่งชาติ เราไม่สามารถถ่ายวิดีโอเขาได้
---ผิดค่ะ ถ่ายได้ค่ะ ไม่ผิดกฎหมาย รูปและวิดีโอเป็นหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ค่ะ พื้นที่อุทยานแห่งชาติกว้างขวางมาก เจ้าหน้าที่ไม่สามารถไปเฝ้าสังเกตการณ์ได้ทุกจุดค่ะ เขารณรงค์ให้ใครก็ตามที่พบเห็นช่วยกันถ่ายไว้ด้วย แจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมกับรอชี้ตัวนะคะ หรือถ้าต้องรีบไปให้ถ่ายทะเบียนรถไว้  (หากมีแค่ภาพและวิดีโอบางทียากที่จะตามตัวค่ะ)   ปกติเจ้าหน้าที่จะคอยสอดส่องหาคนฝ่าฝืนตามสิ่งที่เราโพสต์ในโซเชียลมีเดียต่างๆ ด้วยค่ะ รู้ชื่อ account ก็รู้ตัวคนผิดแล้วค่ะ (เขามีเจ้าหน้าที่พิเศษที่คอยตามสืบหาตัวตนของเจ้าของค่ะ)

2. เรื่องนี้เป็นความผิดเล็กน้อย การันตี อุทยานแห่งนี้ไม่สนใจหรอก
---ผิดค่ะ walk off boardwalk ทางศาลของเยลโล่สโตนซีเรียสมากๆๆๆ เขาปรับเรื่องนี้กันทุกวัน วันละหลายๆ เคส ขั้นต่ำก็ $1000 ต่อคน อัตราต่างกันไปแล้วแต่ความผิด ความร้ายแรง บางคนก็โดน $3500 บางคนก็ทั้งจำคุกทั้งปรับ  ส่วนใหญ่จะได้รับคำสั่งศาลให้มาแสดงตัวที่ศาลและจ่ายค่าปรับ (ความผิดสถานอื่นอาจจะแค่ส่ง ticket ไปให้ที่บ้าน --ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับศาลจะพิจารณาว่าร้ายแรงแค่ไหน) เมื่อวันก่อนก็มีคนโดนเรื่องเดินออกไปจากสะพานเหมือนกัน ไม่ต่ำกว่าสี่ราย โดนลากตัวไปขึ้นศาลเดี๋ยวนั้นเลยค่ะ มีจับได้ทั้งกลุ่มสิบกว่าคนก็มี โดนปรับรายคนเลย  บางคนกลับบ้านไปแล้วยังต้องกลับมาขึ้นศาลที่นี่เลยค่ะ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ไม่เห็นตอนนั้น แต่มาเห็นทีหลังแบบนี้ก็เอาผิดย้อนหลังได้ค่ะ หากสามารถยืนยันตัวตนได้

3. ป้ายเตือนเฉยๆ ไม่ใช่ห้าม ถ้าห้ามและอันตรายจริงต้องมีรั้วกั้น
---ไม่ใช่ค่ะ ป้ายเป็นการบอกว่าห้ามทำ (prohibited) ไม่ใช่แค่เตือนอันตราย ในหน้าเว็บมีบอกกฎข้อห้ามต่างๆ ไว้ ฝ่าฝืนก็คือมีโทษ
Traveling off boardwalks or designated trails in hydrothermal areas เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ กฎของอุทยานแห่งชาติคือ Federal Law ที่ทุกคนต้องปฎิบัติตามค่ะ (จะอ้างอิง CFR ก็ได้ มีลิงก์ส่วนท้ายของคลิปค่ะ)
https://www.nps.gov/yell/planyourvisit/rules.htm

อยากให้ทุกคนไปเที่ยวแล้วปฏิบัติตามกฎที่ออกมาบังคับใช้เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง เงินในกระเป๋า คนรอบข้าง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมค่ะ ตกลงไปในพื้นที่ๆ อันตรายแล้วเสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ไม่มีใครเค้ามาสงสารเราค่ะ สมน้ำหน้าอย่างเดียว แล้วจะด่าเพิ่มข้อหาที่ทำลายสิ่งที่ธรรมชาติสร้างไว้ด้วยค่ะ (ใช้เวลายาวนาน ไม่ใช่แค่ช่วงอายุคนๆ หนึ่ง) อาจพูดแรงไปหน่อย แต่มันคือความจริงน้า

สุดท้ายขอให้มุ่งประเด็นไปที่การฝ่าฝืนกฏอย่างเดียว เรื่องอื่นนอกจากนั้นคือการกระทำเกินกว่าเหตุค่ะ

---------------เพิ่มเติมค่ะ---------------

มีคนสงสัยเรื่องการโพสลงยูทูปว่าผิดไหม ไม่มีนักกฎหมายมาตอบกันเลย เราเลยทำการหาข้อมูลในเนตและสอบถามคนอเมริกันหลายๆ คนที่เรารู้จักมาค่ะ ตอนนี้เราเชื่อว่าคนโพสไม่ผิดค่ะ เนื่องจากสถานที่ๆ ถ่ายคือ public ค่ะ เราเสียความเป็นส่วนตัวไปแล้ว มีกรณีเดียวที่ทำได้คิอ การที่คนโพสหาเงินได้จากหน้าของเราค่ะ (commercializing your image without your consent)

เว็บด้านล่าง เป็นบทความที่อ่านเข้าใจง่ายดีค่ะ (No expectation of privacy in public) ลองเข้าไปอ่านกันนะคะ หรือจะลองหาแหล่งอื่นๆ เพิ่มก็จะดีมากค่ะ

http://carterlawaz.com/2013/06/no-expectation-of-privacy-in-public/

"You have no expectation of privacy in anything you do or say in public.
It used to be that if you did or said something in public that you later regretted, you only had to worry about the people who saw you repeating it to others. Now that everyone carries a smartphone, you should act as if someone is taking photos and shooting video of you all the time and that the footage is going to end up all over the internet or on the front page of the newspaper."

"Some people may order you to stop filming them, including the police. If it’s a situation that is in plain view of the public, they don’t have the right to stop you. "

"One right you do maintain is the right to commercialize your image. If someone takes a photo or video of you in public and is making money off of it, you might have a claim that they are commercializing your image without your consent.
Because we live in a world where people are quick to record everything with their smartphones, think before you act. It’s best to be willing to own everything you do or say in public. That way if anyone ever confronts you with your past behavior in an attempt to humiliate you or tarnish your reputation, you can take the wind out of their sails by owning it. But you better be willing to own anything you do in every situation."
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  เที่ยวต่างประเทศ ปัญหาสังคม
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่