.
แม้เพิ่งเปิดฉากซีซั่นใหม่ได้แค่ 2 นัด ถึงจะยังไม่แพ้ใครเลยในทุกรายการ แต่ฟอร์มการเล่นรวมของทีมนั้นก็เหมือนจะไม่ค่อยถูกอกถูกใจแฟนบอลเท่าไรนัก เมื่อนักเตะหลักในแผงกองหลังชุดเดิมจากทั้งสองนัด ยังเล่นขัดหูขัดตาแฟนบอลในหลายๆจุด และมีผู้เล่นหลายๆคนถูกตำหนิเพียงเพราะมุมมองที่ไม่ได้ให้ความเป็นธรรม เลือกวิจารณ์อย่างมีอคติต่อผู้เล่นบางคน
ซึ่งหากไล่เรียงดูทัศนะความเห็นจากกะทู้สดหรือกะทู้บ้าน ก็จะเห็นผู้เล่นประเภท”
แพะ”ในตำแหน่งแผงกองหลังต่างๆดังนี้
CB เซ็นเตอร์แบ๊คอย่าง เดยัน ลอฟเร่น คือ คนที่โดนตำหนิแทบทุกครั้งที่เขาลงเล่นหากว่าทีมไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ ซึ่งแม้ส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาดในการเล่นของเขาจริงอย่างการที่ทีมต้องเสียลูกจุดโทษเมื่อคืน เพียงแต่มันไม่ยุติธรรมกับเขาเพราะสิ่งที่เซ็นเตอร์คนนี้ทำได้ดีนั้นก็ไม่ได้รับการพูดถึง
ซึ่งบอกกันแบบให้เห็นภาพชัดๆ จาก 2 นัดที่ผ่านมา
สิ่งที่ลอฟเร่นทำได้ดีกว่าคู่เซ็นเตอร์อย่าง โจเอล มาติป คือ การเล่นลูกกลางอากาศ Aerials Won ในนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีคนั้น กับวัตฟอร์ตนั้น ชายผู้นี้คือผู้เล่นที่ดีที่สุดของแมทการแข่งขันในเรื่องการเล่นลูกกลางอากาศ นัดเพลย์ออฟ UCL นัดแรกกับ ฮอฟเฟ่นไฮม ก็เช่นกันเขาก็ยังเหนือกว่าทุกๆคนในสนาม
ซึ่งการเล่นลูกกลางอากาศที่ดีของเขานั้น ก็มีส่วนช่วยในการหาโอกาสทำประตูก็เช่นกัน จากการเติมขึ้นไปเล่นลูกเตะมุมของทีมนั้น เขาก็เป็นผู้เล่นเซ็นเตอร์ที่สร้างโอกาสได้ดีกว่าผู้เล่นเซ็นเตอร์คนอื่นๆในแมทนั้นๆทุกครั้ง จาก 2 นัดในซีซั่นใหม่ แต่จุดนี้ก็ไม่มีใครพูดถึง เพราะว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสนั้นให้เป็นประตูได้ก็เท่านั้นเอง
แต่ด้วยการตั้งรับลูกเซ็ทพีทที่เหมือนทีมไม่เคยซ้อมกันมา และเหมือนว่าจะเป็นจุดอ่อนเรื้อรังของทีมและแผงหลัง ซึ่งแม้ไม่ใช่ความผิดพลาดหรือล้มเหลวในการเล่นของเขาคนเดียว
แต่ก็บดบังจุดเด่นที่ว่าของนักเตะรายนี้ไปหมด และกำหนดให้เขาต้องเป็น “แพะ”เรื่อยไปหากว่าทีมไม่สามารถคว้าชัยได้ในการแข่งขัน
RB LB วิงแบ๊คซ้ายขวา จาก 2 นัดที่ผ่านมา หากจะหาคำตัดสินว่าใครทำหน้าที่แย่กว่ากัน ตามเสียงตำหนิของแฟนบอลลิเวอร์พูล ก็ไม่ยากเลยที่จะชี้มือไปที่ โมเรโน่ แบ๊คซ้าย สัญชาติ “แพะ”ขาประจำ ยิ่งนัดล่าสุด เด็กปั้นอย่าง เทรน อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ทำประตูด้วยลูกฟรีคิกได้อีก ก็ทำให้การรันตรีล่วงหน้าได้เลย ว่า โมเรโน่จะโดนประเมินว่าต่ำกว่าวิงแบ๊ครุ่นน้องไปอีกนานแสนนาน หากลงเล่นพร้อมกัน
และยิ่งการวางบทบาทจากคล็อปให้วิงแบ๊คทั้งสองข้างของทีมนั้น ต้องพร้อมขึ้นไปสนับสนุนเกมส์รุกตลอดเวลา ซึ่งจริงๆนั้น โมเรโน่ทำได้ไม่น้อยหน้าแบ๊คอีกข้างทั้งรุกและรับ ทั้งสถิติอัตราการยิง การเลี้ยงบอล การเข้าสกัด ก็พอๆกัน แถมยังดีกว่าเรื่องอัตราการส่งบอลสำเร็จมากกว่าแบ๊คอีกฝั่งอย่างเห็นได้ชัด
เพียงแต่จุดดีเหล่านี้นั้น ไม่ได้รับการกล่าวถึง เพราะว่าเขารับบท “แพะ” ของทีมมายาวนาน และไม่สามารถตะบันยิงประตูให้ทีมได้ เหมือนแบ๊คเด็กใหม่ที่อยู่อีกฝากของข้างสนาม
ซ้ำร้าย ตำแหน่งการยืนของเขา ที่อยู่ข้างกับ CB อย่างลอฟเร่น ซึ่งเป็นแพะอีกตัวเช่นกัน
ยิ่งทำให้พวกเขานั้น ยิ่งดูย่ำแย่ในสายตาแฟนบอลบางคนเข้าไปอีก
ทั้งๆที่จริงแล้ว 4 ประตูที่เสียไปใน 2 นัดแรก นั้นมาจากพื้นที่รับผิดชอบยืนตำแหน่งป้องกันของฝั่งขวามากกว่า พื้นที่ของฝั่งซ้ายที่สองแพะในแผงหลังต้องรับผิดชอบที่ผลงานที่ผ่านมา 2 นัดนั้น บอกว่าการเสียทั้ง 4 ประตูนั้น มาจากพื้นที่ฝั่งขวาถึง 3 ลูก แต่ทั้งลอฟเร่นและโมเรโน่กลับถูกตำหนิกับว่า ทุกลูกที่เสียประตูนั้น พวกเขาเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งเมื่อดูจากการถูกโจมตีด้วยลูกครอส ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ของการเสียประตูของลิเวอร์พูลนั้น จะเห็นได้ว่า ใน 2 นัดที่ผ่านมานั้นส่วนใหญ่มาจากด้านขวา ซึ่งนั้นแปลว่าการยืนตำแหน่งและป้องกันการเปิดเกมส์จากริมเส้นของคู่ต่อสู้นั้น สองผู้เล่นแผงหลังที่มักถูกตำหนิจากแฟนบอลอยู่ตลอดนั้น ไม่ได้ย่ำแย่ไปกว่าอีกฝั่งซึ่งไม่เคยถูกตำหนิเลย
จากสถิติด้านล่างจะเห็นได้ว่าลิเวอร์พูลถูกโจมตีทางด้านขวามากกว่าด้านซ้ายเกือบครึ่งต่อครึ่ง แต่กลับมีเสียงตำหนิดังจากแค่ฝั่งซ้ายฝั่งเดียว ความเป็นธรรมมันอยู่ที่ไหน
จริงๆตามความรู้สึกผมเอง ที่ฟอร์มการเล่นของทีมดูย่ำแย่ สองคนที่ถูกเอ่ยว่าเป็นจุดอ่อนของทีมนั้น ไม่ได้ทำผลงานย่ำแย่เลย และตัวการที่แท้จริง ก็ไม่ใช่ผู้เล่นอีกสองคนในแผงกองหลังอย่าง มาติปและเทรน อาโนลด์ที่ถูกยกมาเปรียบเทียบด้วย เพราะปัญหาที่แท้จริงนั้นนอกจากการแก้ปัญหาตั้งรับลูกเซ็ทพีทไม่ได้แล้ว ตัวการจริงๆตามสายตาผม
คือ แผนการเล่นที่เน้นเติมริมเส้นด้านข้างโดยวิงแบ๊ค ขณะที่ส่วนผสมของผู้เล่นกองกลาง AMC สามตัว ซึ่งไม่ลงตัว เพราะกองกลางปั้นเกมส์รุกก็ไม่ได้ ลงมาช่วยซัพพอร์ตด้านข้างเวลโดนโต้กลับหรือตั้งรับก็ไม่ดี เหมือนเคมีไม่เข้ากันอย่างแรงของผู้เล่นอย่าง เฮนเดอร์สัน ชาน และไวนาดุม เมื่อแกนกลางของระบบเกเก้นเพลสซิ่ง ไม่สามารถขับเคลื่อนทีมตามแผนการเล่นที่วางไว้ ทุกอย่างมันเลยออกมาห่วย และความซวยก็ตกไปยังผู้เล่นประเภทแพะเจ้าประจำ ที่ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมจากเสียงเชียร์ที่มีอคติในใจ ก็เท่านั้นเอง
ดังนั้นการจ้องจับผิดเฉพาะใครบางคน หรือเชียร์บางคนแบบตั้งหน้าตั้งตาอวย มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย หากใช้อคติในใจเป็นตัวชี้วัดจนไม่มองไม่วัดจากผลงานที่แท้จริงของผู้เล่นในทีมตนเอง
ป.ล. ยินดีต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการร่วมสนทนากันอย่างมีมารยาทสมกับเป็นปัญญาชนนะครับ แต่ไม่ต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการจะใช้พื้นที่กะทู้นี้ เหยียบย่ำซ้ำเติม หรือหาประโยชน์จากข้อความคำใดคำหนึ่งในกะทู้ มาระบายความใคร่ แบบไร้วุฒิภาวะ ทำตัวเป็นขยะสังคมในการแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์ ชี้แจงให้ทราบตามนี้ครับ
*แก้ไขคำผิด
(แพะร้องทุกข์) Liverpool เทียบฟอร์มหาโมเม้นท์ดีๆของกองหลังห่วยๆด้วยผู้เล่นแย่ๆที่แฟนบอลไม่เหลือบแล
แม้เพิ่งเปิดฉากซีซั่นใหม่ได้แค่ 2 นัด ถึงจะยังไม่แพ้ใครเลยในทุกรายการ แต่ฟอร์มการเล่นรวมของทีมนั้นก็เหมือนจะไม่ค่อยถูกอกถูกใจแฟนบอลเท่าไรนัก เมื่อนักเตะหลักในแผงกองหลังชุดเดิมจากทั้งสองนัด ยังเล่นขัดหูขัดตาแฟนบอลในหลายๆจุด และมีผู้เล่นหลายๆคนถูกตำหนิเพียงเพราะมุมมองที่ไม่ได้ให้ความเป็นธรรม เลือกวิจารณ์อย่างมีอคติต่อผู้เล่นบางคน
ซึ่งหากไล่เรียงดูทัศนะความเห็นจากกะทู้สดหรือกะทู้บ้าน ก็จะเห็นผู้เล่นประเภท”แพะ”ในตำแหน่งแผงกองหลังต่างๆดังนี้
CB เซ็นเตอร์แบ๊คอย่าง เดยัน ลอฟเร่น คือ คนที่โดนตำหนิแทบทุกครั้งที่เขาลงเล่นหากว่าทีมไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ ซึ่งแม้ส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาดในการเล่นของเขาจริงอย่างการที่ทีมต้องเสียลูกจุดโทษเมื่อคืน เพียงแต่มันไม่ยุติธรรมกับเขาเพราะสิ่งที่เซ็นเตอร์คนนี้ทำได้ดีนั้นก็ไม่ได้รับการพูดถึง
ซึ่งบอกกันแบบให้เห็นภาพชัดๆ จาก 2 นัดที่ผ่านมา สิ่งที่ลอฟเร่นทำได้ดีกว่าคู่เซ็นเตอร์อย่าง โจเอล มาติป คือ การเล่นลูกกลางอากาศ Aerials Won ในนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีคนั้น กับวัตฟอร์ตนั้น ชายผู้นี้คือผู้เล่นที่ดีที่สุดของแมทการแข่งขันในเรื่องการเล่นลูกกลางอากาศ นัดเพลย์ออฟ UCL นัดแรกกับ ฮอฟเฟ่นไฮม ก็เช่นกันเขาก็ยังเหนือกว่าทุกๆคนในสนาม
ซึ่งการเล่นลูกกลางอากาศที่ดีของเขานั้น ก็มีส่วนช่วยในการหาโอกาสทำประตูก็เช่นกัน จากการเติมขึ้นไปเล่นลูกเตะมุมของทีมนั้น เขาก็เป็นผู้เล่นเซ็นเตอร์ที่สร้างโอกาสได้ดีกว่าผู้เล่นเซ็นเตอร์คนอื่นๆในแมทนั้นๆทุกครั้ง จาก 2 นัดในซีซั่นใหม่ แต่จุดนี้ก็ไม่มีใครพูดถึง เพราะว่าเขาไม่สามารถเปลี่ยนโอกาสนั้นให้เป็นประตูได้ก็เท่านั้นเอง
แต่ด้วยการตั้งรับลูกเซ็ทพีทที่เหมือนทีมไม่เคยซ้อมกันมา และเหมือนว่าจะเป็นจุดอ่อนเรื้อรังของทีมและแผงหลัง ซึ่งแม้ไม่ใช่ความผิดพลาดหรือล้มเหลวในการเล่นของเขาคนเดียว แต่ก็บดบังจุดเด่นที่ว่าของนักเตะรายนี้ไปหมด และกำหนดให้เขาต้องเป็น “แพะ”เรื่อยไปหากว่าทีมไม่สามารถคว้าชัยได้ในการแข่งขัน
RB LB วิงแบ๊คซ้ายขวา จาก 2 นัดที่ผ่านมา หากจะหาคำตัดสินว่าใครทำหน้าที่แย่กว่ากัน ตามเสียงตำหนิของแฟนบอลลิเวอร์พูล ก็ไม่ยากเลยที่จะชี้มือไปที่ โมเรโน่ แบ๊คซ้าย สัญชาติ “แพะ”ขาประจำ ยิ่งนัดล่าสุด เด็กปั้นอย่าง เทรน อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ทำประตูด้วยลูกฟรีคิกได้อีก ก็ทำให้การรันตรีล่วงหน้าได้เลย ว่า โมเรโน่จะโดนประเมินว่าต่ำกว่าวิงแบ๊ครุ่นน้องไปอีกนานแสนนาน หากลงเล่นพร้อมกัน
และยิ่งการวางบทบาทจากคล็อปให้วิงแบ๊คทั้งสองข้างของทีมนั้น ต้องพร้อมขึ้นไปสนับสนุนเกมส์รุกตลอดเวลา ซึ่งจริงๆนั้น โมเรโน่ทำได้ไม่น้อยหน้าแบ๊คอีกข้างทั้งรุกและรับ ทั้งสถิติอัตราการยิง การเลี้ยงบอล การเข้าสกัด ก็พอๆกัน แถมยังดีกว่าเรื่องอัตราการส่งบอลสำเร็จมากกว่าแบ๊คอีกฝั่งอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่จุดดีเหล่านี้นั้น ไม่ได้รับการกล่าวถึง เพราะว่าเขารับบท “แพะ” ของทีมมายาวนาน และไม่สามารถตะบันยิงประตูให้ทีมได้ เหมือนแบ๊คเด็กใหม่ที่อยู่อีกฝากของข้างสนาม
ยิ่งทำให้พวกเขานั้น ยิ่งดูย่ำแย่ในสายตาแฟนบอลบางคนเข้าไปอีก
ทั้งๆที่จริงแล้ว 4 ประตูที่เสียไปใน 2 นัดแรก นั้นมาจากพื้นที่รับผิดชอบยืนตำแหน่งป้องกันของฝั่งขวามากกว่า พื้นที่ของฝั่งซ้ายที่สองแพะในแผงหลังต้องรับผิดชอบที่ผลงานที่ผ่านมา 2 นัดนั้น บอกว่าการเสียทั้ง 4 ประตูนั้น มาจากพื้นที่ฝั่งขวาถึง 3 ลูก แต่ทั้งลอฟเร่นและโมเรโน่กลับถูกตำหนิกับว่า ทุกลูกที่เสียประตูนั้น พวกเขาเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซึ่งเมื่อดูจากการถูกโจมตีด้วยลูกครอส ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ของการเสียประตูของลิเวอร์พูลนั้น จะเห็นได้ว่า ใน 2 นัดที่ผ่านมานั้นส่วนใหญ่มาจากด้านขวา ซึ่งนั้นแปลว่าการยืนตำแหน่งและป้องกันการเปิดเกมส์จากริมเส้นของคู่ต่อสู้นั้น สองผู้เล่นแผงหลังที่มักถูกตำหนิจากแฟนบอลอยู่ตลอดนั้น ไม่ได้ย่ำแย่ไปกว่าอีกฝั่งซึ่งไม่เคยถูกตำหนิเลย จากสถิติด้านล่างจะเห็นได้ว่าลิเวอร์พูลถูกโจมตีทางด้านขวามากกว่าด้านซ้ายเกือบครึ่งต่อครึ่ง แต่กลับมีเสียงตำหนิดังจากแค่ฝั่งซ้ายฝั่งเดียว ความเป็นธรรมมันอยู่ที่ไหน
จริงๆตามความรู้สึกผมเอง ที่ฟอร์มการเล่นของทีมดูย่ำแย่ สองคนที่ถูกเอ่ยว่าเป็นจุดอ่อนของทีมนั้น ไม่ได้ทำผลงานย่ำแย่เลย และตัวการที่แท้จริง ก็ไม่ใช่ผู้เล่นอีกสองคนในแผงกองหลังอย่าง มาติปและเทรน อาโนลด์ที่ถูกยกมาเปรียบเทียบด้วย เพราะปัญหาที่แท้จริงนั้นนอกจากการแก้ปัญหาตั้งรับลูกเซ็ทพีทไม่ได้แล้ว ตัวการจริงๆตามสายตาผม คือ แผนการเล่นที่เน้นเติมริมเส้นด้านข้างโดยวิงแบ๊ค ขณะที่ส่วนผสมของผู้เล่นกองกลาง AMC สามตัว ซึ่งไม่ลงตัว เพราะกองกลางปั้นเกมส์รุกก็ไม่ได้ ลงมาช่วยซัพพอร์ตด้านข้างเวลโดนโต้กลับหรือตั้งรับก็ไม่ดี เหมือนเคมีไม่เข้ากันอย่างแรงของผู้เล่นอย่าง เฮนเดอร์สัน ชาน และไวนาดุม เมื่อแกนกลางของระบบเกเก้นเพลสซิ่ง ไม่สามารถขับเคลื่อนทีมตามแผนการเล่นที่วางไว้ ทุกอย่างมันเลยออกมาห่วย และความซวยก็ตกไปยังผู้เล่นประเภทแพะเจ้าประจำ ที่ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมจากเสียงเชียร์ที่มีอคติในใจ ก็เท่านั้นเอง
ดังนั้นการจ้องจับผิดเฉพาะใครบางคน หรือเชียร์บางคนแบบตั้งหน้าตั้งตาอวย มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย หากใช้อคติในใจเป็นตัวชี้วัดจนไม่มองไม่วัดจากผลงานที่แท้จริงของผู้เล่นในทีมตนเอง
ป.ล. ยินดีต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการร่วมสนทนากันอย่างมีมารยาทสมกับเป็นปัญญาชนนะครับ แต่ไม่ต้อนรับสำหรับผู้ที่ต้องการจะใช้พื้นที่กะทู้นี้ เหยียบย่ำซ้ำเติม หรือหาประโยชน์จากข้อความคำใดคำหนึ่งในกะทู้ มาระบายความใคร่ แบบไร้วุฒิภาวะ ทำตัวเป็นขยะสังคมในการแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์ ชี้แจงให้ทราบตามนี้ครับ
*แก้ไขคำผิด