(ไม่รู้สปอยล์รึเปล่า แต่เอาเป็นว่า อย่าอ่านถ้ากลัวดูหนังแล้วไม่สนุกนะคะ 55)
ปกติ ก็ชอบดูหนังรัก โรแมนติก หรือ ดราม่า ค่ะ ได้ยินชื่อเรื่องนี้มานานละ ก็เล็งๆ ไว้นานจนลืม เพิ่งมีโอกาสเอามาดูค่ะ
ความรู้สึกแบบรวมๆ คือ ทำได้ดี รู้สึกได้เลยว่ามีฝีมือ
งานละเอียด มีคุณภาพ และทำหนังแบบให้ออกมาโทนประมาณนี้ ไม่ได้ทำกันง่ายๆ ค่ะ ยากทีเดียว
ต้องขอชมเชยค่ะ
แต่...
เราดูได้เพลินๆ นะคะ ไม่ได้อินหรือซาบซึ้งอะไรมากนัก
ซึ่งอาจจะไม่ใช่ความผิดของคนทำหนังนะคะ
อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ของเราไม่ได้ relate กับเรื่องราวเหล่านี้ ก็เลยไม่ได้อินอะไรมากนัก
หรืออาจเป็นเพราะปัจจัยอื่นๆ ก็ได้
พวกงานโปรดักชั่นต่างๆ เราว่า ดูดีเชียวค่ะ
วิธีการเล่าเรื่อง ก็เป็นมาตรฐานแบบงานสากลเลย
การแสดงของทุกคนโดยรวมก็โอเคค่ะ ไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไร
(เป็นหนังไทยที่มีคำหยาบน้อยมาก 55 แซวเล่นนะคะ เพราะหนังไทยยุคหลังๆ มีคำหยาบพร่ำเพรื่อเกินจำเป็นไปหน่อย)
เวลาดูหนังเรื่องนี้ เรานึกถึงอารมณ์หนังพวกรักต้องห้าม รักสามเส้า พวกรักปันใจให้คนอื่น (หรือเรียกสั้นๆ ประมาณว่า "มีชู้" นั่นแหละค่ะ 55)
ซึ่งหนังพวกนี้ บางทีมันต้องการเวลา เพื่อเล่าถึง background ตัวละคร ว่าตัวละครมีวิถึชีวิตเป็นไง หรือมีความคิด นิสัยยังไง
แล้วตัวละครไปผูกพันกันได้ยังไง แล้วมีเหตุใดมาทำให้ตัวละครมารักกัน แล้วมีเหตุใดต้องกลายเป็น รักต้องห้าม กดดัน หลบซ่อน
แล้วก็แอบมาสร้างสัมพันธ์กัน
ซึ่งหนังประมาณนี้ของต่างชาติ มีหลายเรื่องเลยค่ะ แต่เรานึกชื่อไม่ค่อยออก
แล้วหนังประมาณนี้ ก็มักจะมีความยาวของหนังมากกว่าปกติ เช่น 2 ชั่วโมงกว่าๆ ถึง 3 ชั่วโมงประมาณนั้น
เพื่อใช้เวลาให้คนดูซึมซาบกับตัวละคร แล้วค่อยๆ อิน ค่อยๆ เข้าใจตัวละคร
ค่อยๆ เอาใจช่วยตัวละคร (ถึงแม้ ตัวละครจะทำผิดศีลธรรม อะไรประมาณนั้น)
วิธีการเล่าเรื่องแบบนี้ บางทีก็จะเนิบนาบ เพราะเหมือนพาเราไปดูชีวิตตัวละคร ให้รู้จักเค้าในหลายๆ มุม ในหลายด้าน
เป็นการสร้างให้ตัวละครมี airtime เยอะๆ 55 เราจะได้รู้สึกผูกพัน อินกับเค้าได้มากขึ้น
แต่ถ้าทำได้ลงตัว มันจะแฝงเสน่ห์ตรงนี้แหละค่ะ คนชอบหนัง action จึงไม่เหมาะกับการเล่าเรื่องเนิบนาบแบบนี้แน่นอน
บางที การที่ตัวละครไม่ถูกปูเรื่องราวอะไรบางอย่าง อาจทำให้คนดูไม่ได้รู้สึกอินกับเรื่องราวมากนัก
หรือบางที ถ้ามีการสร้างจุดเปลี่ยน จุดพลิกผัน หรือ จุดไคลแม็กซ์บางอย่างให้เรื่องราวแบบที่พอดีๆ ไม่เว่อวังอลังการอะไร
ก็อาจจะช่วยให้คนดูตามเอาใจช่วย และมีอารมณ์ร่วมกับหนังได้มากกว่านี้
แต่หนังต่างชาติหลายเรื่อง ก็มีการเล่าเรื่องแบบนี้ค่ะ คือ บางทีก็ไม่ได้ปู background ตัวละครมากนัก
รักกันแบบหน้ามืดตามัว ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยอาจไม่มีเหตุผลอะไรมากนัก
ซึ่งหลายเรื่องก็ทำได้ลงตัว แต่หลายเรื่องเราก็ไม่อินค่ะ
บางอารมณ์ เราก็นึกถึงอารมณ์เคว้งคว้าง เหงาๆ อย่างหนังของหว่อง กา ไว
บางอารมณ์ เราก็นึกถึงหนังฝรั่งเรื่อง english patient
และอีกหลายๆ เรื่องที่นึกไม่ออก ไม่ได้หมายความว่า เค้าไป copy หนังเหล่านี้นะคะ
หมายความว่า อารมณ์ประมาณนี้ เราชอบค่ะ ทำให้นึกถึงหนังเรื่องอื่นๆ ที่เราชอบ
ในฐานะคนทำงานด้านสร้างสรรค์เหมือนกัน เราว่า เรื่องนี้ ทำออกมาได้โทนแบบนี้ ไม่ง่ายค่ะ ถือว่ามีฝีมือทีเดียว
แค่เรายังไม่อินกับเรื่องราวเท่านั้นแหละ แต่อยากดูงานของ ผกก. คนนี้ อีกค่ะ รู้สึกว่าจะเขียนบทเองด้วย
ยังไม่ได้อ่านเครดิตอย่างละเอียด แต่เห็นว่า มีชาวต่างชาติมาทำในหลายส่วนของหนังนี้
ไว้ว่างๆ คงไปหาประวัติของผกก. คนนี้อีกทีค่ะ
ปล. พอดูจนจบ เจอเพลงท้ายเรื่อง ก็ทำให้จำได้ว่า ตอนโปรโมทหนังเรื่องนี้ เราได้ยินเพลงนี้บ่อยมากในทีวีช่องเจ็ดมั้ง
ได้ยินบ่อย จนชอบเพลงนี้ค่ะ ตัวเพลงและนักร้องก็ฮิตไปพร้อมๆ กันในที่สุด 55
เครดิตตามใน link เลยค่ะ
เพิ่งได้ดู a moment in june (ณ ขณะรัก)
ปกติ ก็ชอบดูหนังรัก โรแมนติก หรือ ดราม่า ค่ะ ได้ยินชื่อเรื่องนี้มานานละ ก็เล็งๆ ไว้นานจนลืม เพิ่งมีโอกาสเอามาดูค่ะ
ความรู้สึกแบบรวมๆ คือ ทำได้ดี รู้สึกได้เลยว่ามีฝีมือ
งานละเอียด มีคุณภาพ และทำหนังแบบให้ออกมาโทนประมาณนี้ ไม่ได้ทำกันง่ายๆ ค่ะ ยากทีเดียว
ต้องขอชมเชยค่ะ
แต่...
เราดูได้เพลินๆ นะคะ ไม่ได้อินหรือซาบซึ้งอะไรมากนัก
ซึ่งอาจจะไม่ใช่ความผิดของคนทำหนังนะคะ
อาจจะเป็นเพราะประสบการณ์ของเราไม่ได้ relate กับเรื่องราวเหล่านี้ ก็เลยไม่ได้อินอะไรมากนัก
หรืออาจเป็นเพราะปัจจัยอื่นๆ ก็ได้
พวกงานโปรดักชั่นต่างๆ เราว่า ดูดีเชียวค่ะ
วิธีการเล่าเรื่อง ก็เป็นมาตรฐานแบบงานสากลเลย
การแสดงของทุกคนโดยรวมก็โอเคค่ะ ไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไร
(เป็นหนังไทยที่มีคำหยาบน้อยมาก 55 แซวเล่นนะคะ เพราะหนังไทยยุคหลังๆ มีคำหยาบพร่ำเพรื่อเกินจำเป็นไปหน่อย)
เวลาดูหนังเรื่องนี้ เรานึกถึงอารมณ์หนังพวกรักต้องห้าม รักสามเส้า พวกรักปันใจให้คนอื่น (หรือเรียกสั้นๆ ประมาณว่า "มีชู้" นั่นแหละค่ะ 55)
ซึ่งหนังพวกนี้ บางทีมันต้องการเวลา เพื่อเล่าถึง background ตัวละคร ว่าตัวละครมีวิถึชีวิตเป็นไง หรือมีความคิด นิสัยยังไง
แล้วตัวละครไปผูกพันกันได้ยังไง แล้วมีเหตุใดมาทำให้ตัวละครมารักกัน แล้วมีเหตุใดต้องกลายเป็น รักต้องห้าม กดดัน หลบซ่อน
แล้วก็แอบมาสร้างสัมพันธ์กัน
ซึ่งหนังประมาณนี้ของต่างชาติ มีหลายเรื่องเลยค่ะ แต่เรานึกชื่อไม่ค่อยออก
แล้วหนังประมาณนี้ ก็มักจะมีความยาวของหนังมากกว่าปกติ เช่น 2 ชั่วโมงกว่าๆ ถึง 3 ชั่วโมงประมาณนั้น
เพื่อใช้เวลาให้คนดูซึมซาบกับตัวละคร แล้วค่อยๆ อิน ค่อยๆ เข้าใจตัวละคร
ค่อยๆ เอาใจช่วยตัวละคร (ถึงแม้ ตัวละครจะทำผิดศีลธรรม อะไรประมาณนั้น)
วิธีการเล่าเรื่องแบบนี้ บางทีก็จะเนิบนาบ เพราะเหมือนพาเราไปดูชีวิตตัวละคร ให้รู้จักเค้าในหลายๆ มุม ในหลายด้าน
เป็นการสร้างให้ตัวละครมี airtime เยอะๆ 55 เราจะได้รู้สึกผูกพัน อินกับเค้าได้มากขึ้น
แต่ถ้าทำได้ลงตัว มันจะแฝงเสน่ห์ตรงนี้แหละค่ะ คนชอบหนัง action จึงไม่เหมาะกับการเล่าเรื่องเนิบนาบแบบนี้แน่นอน
บางที การที่ตัวละครไม่ถูกปูเรื่องราวอะไรบางอย่าง อาจทำให้คนดูไม่ได้รู้สึกอินกับเรื่องราวมากนัก
หรือบางที ถ้ามีการสร้างจุดเปลี่ยน จุดพลิกผัน หรือ จุดไคลแม็กซ์บางอย่างให้เรื่องราวแบบที่พอดีๆ ไม่เว่อวังอลังการอะไร
ก็อาจจะช่วยให้คนดูตามเอาใจช่วย และมีอารมณ์ร่วมกับหนังได้มากกว่านี้
แต่หนังต่างชาติหลายเรื่อง ก็มีการเล่าเรื่องแบบนี้ค่ะ คือ บางทีก็ไม่ได้ปู background ตัวละครมากนัก
รักกันแบบหน้ามืดตามัว ในช่วงเวลาสั้นๆ โดยอาจไม่มีเหตุผลอะไรมากนัก
ซึ่งหลายเรื่องก็ทำได้ลงตัว แต่หลายเรื่องเราก็ไม่อินค่ะ
บางอารมณ์ เราก็นึกถึงอารมณ์เคว้งคว้าง เหงาๆ อย่างหนังของหว่อง กา ไว
บางอารมณ์ เราก็นึกถึงหนังฝรั่งเรื่อง english patient
และอีกหลายๆ เรื่องที่นึกไม่ออก ไม่ได้หมายความว่า เค้าไป copy หนังเหล่านี้นะคะ
หมายความว่า อารมณ์ประมาณนี้ เราชอบค่ะ ทำให้นึกถึงหนังเรื่องอื่นๆ ที่เราชอบ
ในฐานะคนทำงานด้านสร้างสรรค์เหมือนกัน เราว่า เรื่องนี้ ทำออกมาได้โทนแบบนี้ ไม่ง่ายค่ะ ถือว่ามีฝีมือทีเดียว
แค่เรายังไม่อินกับเรื่องราวเท่านั้นแหละ แต่อยากดูงานของ ผกก. คนนี้ อีกค่ะ รู้สึกว่าจะเขียนบทเองด้วย
ยังไม่ได้อ่านเครดิตอย่างละเอียด แต่เห็นว่า มีชาวต่างชาติมาทำในหลายส่วนของหนังนี้
ไว้ว่างๆ คงไปหาประวัติของผกก. คนนี้อีกทีค่ะ
ปล. พอดูจนจบ เจอเพลงท้ายเรื่อง ก็ทำให้จำได้ว่า ตอนโปรโมทหนังเรื่องนี้ เราได้ยินเพลงนี้บ่อยมากในทีวีช่องเจ็ดมั้ง
ได้ยินบ่อย จนชอบเพลงนี้ค่ะ ตัวเพลงและนักร้องก็ฮิตไปพร้อมๆ กันในที่สุด 55
เครดิตตามใน link เลยค่ะ