ถ้าวิเคราะห์ดูดีๆหลายๆเหตุการณ์ เนเน่ เป็นคนฉลาดนะ จากเหตุการณ์ล่าสุดหลายคนอาจจะคิดว่าทำไมอาจารย์ถึงต้องทำกับเด็กถึงขนาดนี้ แค่เขาเดินตัดสนามเอง
ที่เขาไม่สามารถเดินออกด้านข้างได้ต้องเดินตัดเพราะกลุ่มอาจารย์อยู่ตรงนั้น กล้องที่จะถ่ายอยู่ตรงนั้น ถ้าเดินออกด้านข้างก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็จะเหมือนเหตุการณ์ปกติที่ทำผ่านๆเหมือนทุกปี เขาไม่อยากให้มันปกติ เขาอยากให้เป็นประเด็น
ส่วนคลิปที่อาจารย์ล็อคคอ ใช่..มันอาจจะไม่สมควร แต่ภาพแค่นั้นมันไม่ได้บอกเรื่องราวตั้งแต่แรกว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้มีการยั่วยุหรือท้าทายอะไรกันไหมเราไม่รู้ เราเห็นภาพที่อารมณ์มันระเบิดไปแล้ว เรื่องแบบนี้ใครๆก็มักจะมองว่าผู้ใหญ่ผิดเสมอ ต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ แต่เราไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ต้น(ซึ่งอาจจะก่อนพิธีด้วยซ้ำ) เราไม่รู้ว่าเขาโดนอะไรมาก่อน เราก็ไม่สามารถไปบอกเขาได้เต็มปากหรอกว่า เป็นอาจารย์ต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ เพราะถ้าเป็นเราโดนยั่วยุปั่นหัวเราอาจจะทำแบบอาจารย์ท่านนั้นก็ได้
เหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์เวลาไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง เราสามารถพูดได้ว่า "ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไม่ทำแบบนี้" แต่พอเอาเข้าจริงๆ บ้างครั้งก็ไม่สามารถทำอย่างที่ตัวเองพูดได้
ผมยอมรับว่าเนเน่เป็นคนฉลาด ฉลาดคิด มีจิตวิทยาสูง แต่เขามักใช้ความฉลาดของเขาโดยทำให้คนเดินตามเกมของเขาหรือหมากที่เขาวางเอาไว้ เขาสามารถพูดโยงเหตุผลที่น่าเชื่อถือในเรื่องนึงมาใช้กับเหตุการณ์อีกเรื่องนึงให้คนที่คล้อยตามเหมารวมว่านี่คือเรื่องเดียวกัน และด้วยความที่เป็นคนที่มีจิตวิทยาสูง แน่นอนเขายอมมองออกว่าจะทำอย่างไรพูดอย่างไรให้เป้าหมายของเขาแสดงพฤติกรรมที่คนอื่นเห็นแล้วรู้สึกแย่ออกมา
ไม่ใช่ผมไม่เห็นด้วยทุกเรื่องที่เขาทำ อะไรที่ว่าดีน่าปรับเปลี่ยนผมก็เห็นด้วย อย่างเรื่องรับน้องที่ควรตรวจสอบได้ผมก็เห็นด้วย เพราะการตรวจสอบได้ไม่ได้ทำอะไรให้มันแย่ลง ส่วนตอนประชุมคำพูดนิ่งเรียบแต่แฝงด้วยความยั่วยุ อย่างที่บอกเนเน่เป็นคนฉลาดและมีจิตวิทยา เขามองคนออกว่าพูดหรือทำแบบไหนแล้วคนนั้นจะของขึ้น แล้วผลที่ออกมาคือประธานคณะนั้นดูแย่ คะแนนนิยมเนเน่เพิ่มขึ้น เขามักใช้กลยุทธให้คนแบ่งพรรคแบ่งพวก โดยสร้างสถานการณ์หรือเหตุการณ์ให้คนส่วนใหญ่ไม่พอใจฝ่ายตรงข้ามของเนเน่ ตามหลักคนมักจะเลือกข้างบางคนพยายามบอกว่าเป็นกลาง แต่เมื่อใดก็ตามที่มีเหตุการณ์ที่ทำให้อีกฝ่ายดูไม่ดี คนที่เป็นกลางและคนที่อยู่ฝ่ายที่ดูไม่ดีก็จะรู้สึกเอนเอียงมาฝ่ายตรงข้าม ที่ผ่านมาเขามักใช้วิธีนี้เสมอ
เนเน่สามารถเข้าเรียนที่ไหนก็ได้เพราะว่าเขาเป็นคนฉลาด ทำไมเขาถึงเลือกเรียนที่จุฬา ที่เขาเลือกเรียนที่นี่เพราะที่นี่เป็นมหาลัยอับดับหนึ่ง ก่อตั้งมานานถ้ามีเรื่องอะไรขึ้นมาจะเป็นกระแสมาก และอีกประการหนึ่งก็คือมหาลัยนี้ผูกติดกับสิ่งที่เขาแอนตี้ ซึ่งแน่นอนสิ่งที่เขาจะทำต่อไปเมื่อเข้ามาได้ ก็ต้องเป็นอะไรที่ทำลงไปแล้วขัดต่อความรู้สึกของสถาบันแน่นอน เขาถึงเลือกที่จะเรียนที่นี่
เขาไม่กลัวเหรอ... แน่นอน เนเน่ ไม่กลัว เพราะถ้าจุฬาจะจัดการเขาสังคมจะมองว่าจุฬารังแกเด็กคนนึงกับเรื่องเล็กน้อยในสายตาคนภายนอก(ถ้าคนภายในก็คือป่วนประเพณี หรือสิ่งที่ทำกันมาในสถาบัน) เนเน่ เล็งเห็นแล้วว่าจุฬาไม่กล้าแน่นอนถ้าเขาไม่ล้ำเส้น แต่ถ้าเนเน่สามารถทำให้จุฬาเหลืออดแล้วจัดการกับเขาได้ เขาก็ทำสำเร็จที่ทำให้เกิดการแตกแยกของคนในสังคมกับจุฬาที่ก่อตั้งโดย....
แต่ที่แน่ๆที่เขาทำเสร็จอย่างนึงในตอนนี้คือ เขาสามารถแบ่งแยกสร้างช่องว่างระหว่าง อาจารย์กับนิสิต ในจุฬาได้แล้วจากเหตุการณ์นี้ เมื่อแบ่งแยกได้ การจะสร้างกลุ่มคลื่นใต้น้ำที่เป็นนิสิตก็จะไม่อยากอะไร เพราะนิสิตก็จะเริ่มไม่เชื่อฟังอาจารย์แล้ว เพราะเห็นว่าเป็ฝ่ายตรงข้าม
ส่วนเรื่องการสร้างกระแสไม่เอาพิธีคลานหมอบกราบ(โยงไปเลิกทาส ซึ่งคือคนละเรื่องกันเลย) มาชูประเด็น มาลองวิเคราะห์ดู
1 ถ้าไม่ชอบ ทำไมถึงมาเลือกเรียนสถาบันที่มีพิธีแบบนี้ซึ่งมันมีมาก่อนที่เนเน่จะเข้ามาเรียนซึ่งก็น่าจะรู้ข้อมูลตรงนี้อยู่ก่อนแล้ว ถ้าบอกว่าก็เรียนเก่งก็เลยจะมาเรียน ไม่ได้จะมาทำพิธีอะไรแบบนี้ งั้นไปข้อ 2
2 เขาไม่บังคับให้เข้าร่วม เขาเอาความสมัครใจ ใครจะเข้าไม่เข้าก็ได้ คำถามคือถ้าไม่ชอบแล้วเข้าร่วมทำไม ถ้าจะบอกว่า แค่อยากอยู่ในพิธีส่วนอื่น แต่เฉพาะตอนทำความเคารพไม่เอาคลานหมอบกราบ งั้นไปข้อ 3
3 เขามีพื้นที่สำหรับคนที่ไม่สะดวกจะ(คลานหมอบกราบ ตามที่เนเน่กล่าวอ้างมาว่ายกเลิกไปแล้ว)เคารพด้วยการถวายบังคม ทำไมไม่ไปอยู่ตรงนั้นแต่จะไปอยู่ตรงกลุ่มคนที่จะถวายบังคมแล้วลุกขึ้นยืนแทน(ตอนปี 1) หรือพยายามเดินตัดสนามทั้งที่เดินออกด้านข้างได้หรือให้คนที่สะดวกถวายบังคมรับหน้าที่ทำแทนประธานนิสิต(ตอนปี 2) เพิ่มเติมเรื่องคลานหมอบกราบ ในพิธีนิสิตไม่ได้คลานเข่าตั้งแต่ทางเดินไปจนถึงกลางสนามแล้วหมอบก้มหน้าตลอดห้ามเงยหน้าเพื่อกราบทำความเคารพ ถ้าไม่อยากตอบคำถามนี้เพราะไม่รู้จะใช้เหตุผลอะไรดี เลยอ้างการประกาศยกเลิกคลานหมอบกราบมาใช้ งั้นไปข้อ 4
4 อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นเนเน่พยายามแสดงให้คนเห็นว่าเขามีเหตุผลโดยเขาพูดความจริงในเรื่องนึง ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เขาได้ทำไว้อีกเรื่องนึง แล้วให้คนที่เห็นด้วยกับเขาโยงกันเอาเองว่ามันคือเรื่องเดียวกัน แล้วคนก็เอาไปโยงเรื่องอื่นต่อไปอีกอย่างเลิกทาส ถ้าเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมา ถ้าสาวความกลับเนเน่ก็จะบอกว่าเขาแค่เสนอความจริงเรื่องยกเลิกหมอบกราบ คนที่เอาไปเชื่อมโยงต่อเอาเองก็จะกลายเป็น...บรู๊ววว
ที่นี้มาดูเรื่องหมอบกราบสมัยก่อนกัน เมื่อก่อน
ทุกๆครั้งเวลาที่เราจะเข้าเฝ้า เราต้องคุกเข่าก้มคลานตั้งแต่หน้าประตูเข้าไป เมื่อเข้าไปใกล้เราต้องก้มหมอบกราบห้ามมอง แต่ชาวต่างชาติกลับไม่ต้องทำแบบนี้ หรือเวลาที่ท่านเสด็จผ่านถ้าเราทำกิจกรรมอะไรอยู่เราต้องหยุดนั่งหมอบก้มกราบจนกว่าท่านจะเสด็จผ่านไป ถ้าไม่ทำแบบนี้จะถือว่าผิด ท่านทรงเล็งเห็นว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปทุกๆครั้งประชนจะลำบาก ท่านเลยประกาศยกเลิก แปลว่าไม่ได้บังคับว่าต้องให้ทำอีกต่อไป แต่ถ้าใครจะทำก็ไม่ได้ว่าอะไรไม่ได้เป็นการฝืนคำสั่ง เป็นแค่การยกเลิกกฎข้อบังคับ นี่คือความจริงในเรื่องนึง ต่อมาคือ
พิธี(นานๆทำที ครบรอบถึงจะทำสักครั้ง)ที่จุฬาที่ถูกโยงกับเรื่องคลานหมอบกราบ ซึ่งในพิธีไม่มีทั้งคลาน ทั้งหมอบ ทั้งกราบ มีแค่การถวายบังคมเท่านั้น ถ้าพิธีนี้ไม่มีทั้งคลานหมอบกราบ จะยกเรื่องคลานหมอบกราบขึ้นมา กับสิ่งที่ตัวเนเน่ไม่ประสงค์จะทำในพิธีที่จุฬาทำไม
5 การยกเลิกการคลานหมบกราบคือการยกเลิกกฎข้อบังคับว่าทุกๆครั้งที่เจอไม่ต้องทำอีกต่อไปแล้ว ทำความ
เคารพแบบอื่นได้ ยกเลิกไม่ได้แปลว่าห้ามทำ ถ้าทำคือผิด ขัดคำสั่ง การก้มกราบอาจจะแสดงถึงทั้ง
ความเคารพหรือการระลึกถึงพระคุณ บ้างคนโยงไปเรื่องทาสถึงต้องทำ การที่เนเน่ต่อต้านหรืออาจจะใช้คำว่าปรับเปลี่ยนอะไรที่ล้าสมัยก็ยกเลิกไป( ความรู้สึกเหมือนตอนดู โหมโรง ตอนใกล้จบ ที่จะจัดระเบียบศิลปะดนตรีไทยเลย) เช่นการคลานหมอบกราบ ก็ต้องถามว่าสิ่งที่มันเป็นอยู่มันบ่งบอกตัวตนของเราหรือไม่ มันทำให้สังคมแย่ลงไหม มันล้าสมัยจนทำให้ประเทศไม่พัฒนาไหม มันทำให้การใช้ชีวิตประจำวันยากลำบากขึ้นไหม มันมีแต่สิ่งที่ไม่ดีหรือไม่ สำหรับการมีอยู่ของมัน ถ้าคำตอบคือไม่ใช่ เราเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงนี้เพื่ออะไร ถ้าเนเน่หรือคนที่สนับสนุนเนเน่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงเรื่องคลานหมอบกราบ ทำไมไม่ทำทั้งแต่ตอนเรียนที่โรงเรียน พิธีวันแม่ พิธีวันพ่อ พิธีไหว้ครู หรือการไหว้พระ เราคลานตั้งแต่ขึ้นเวที เราก้มลงกราบ ทำไมไม่ต่อต้านตั้งแต่ตอนนั้น ทำไมไม่มองว่าเป็นทาส ทำไมต้องมาแสดงออกที่จุฬา จริงๆต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ คนที่กำลังทำอยู่ คุณกำลังต่อต้านตัวพิธีการ หรือพิธีการที่มีต่อเฉพาะบุคคลกันแน่ แล้วสุดท้ายเนเน่จะบอกว่าเปล่าแค่ต้องการบอกว่าคนเราต้องมีสิทธิ์ที่จะเลือกไม่ใช่บังคับให้ทำ งั้นไปข้อสุดท้าย
6 เนเน่บอกว่าการคลานหมอบกราบยกเลิกไปแล้วก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทำ แล้วแสดงพฤติกรรมเชิงสัญลักษณ์ต่างๆทั้งตอนอยู่ปี 1-2 ถ้าเนเน่มีแนวความคิดเรื่องความไม่ทันสมัยต่อตัวพิธีการจริง ทำไมไม่แสดงออกตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียน มีหลายพิธีที่ต้องคลานหมอบกราบจริงๆ แล้วเอาเข้าจริงๆ
พิธี(ต้องย้ำว่าเป็นแค่พิธี ไม่ได้ทำทุกวัน)ที่จุฬา ไม่มีทั้งคลาน ไม่มีทั้งหมอบ ไม่มีทั้งกราบ มีแค่ถวายบังคม เนเน่อยู่ๆอ้างข้อมูลเรื่องหมอบกราบทำไม เนเน่และคนที่สนับสนุนเนเน่มีความตั้งใจที่จะเล่นที่ตัวพิธีการหรือบุคคล ที่เขาไหว้ตอนนี้ไม่ใช่เพราะยำเกรงแต่ทำเพราะระลึกถึงพระคุณ เนเน่อาจจะบอกว่าเปล่า ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยากแสดงให้เห็นถึงสิทธิ์ทางความคิด ไม่ได้ต้องการให้บังคับ เลยอ้างเรื่องการประกาศยกเลิกกฎหมอบกราบมาโยงกับพิธีซึ่งมันคือการเอาเรื่องคนละเรื่องมารวมกัน เลยทำให้คนอื่นเอาเรื่องทาสมารวมอีก ถ้าเนเน่จะบอกว่าไม่อยากให้มีการบังคับกัน เลยอยากถามไปถึงข้อแรกๆว่าจุฬาบังคับตรงไหน เขามีทางออกให้หมดทุกทาง ซึ่งเนเน่ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเขามีให้ แล้วเนเน่จะพูดขึ้นมาทำไมว่าน่าจะมีทางเลือกให้
พูดในสิ่งที่เขามีให้อยู่แล้ว คนที่หลับหูหลับตาฟังเนเน่ว่า "ที่จุฬาน่าจะมีสิทธิ์ให้เลือกบ้าง" เขาจะคิดว่าอย่างไร อย่างที่บอกเนเน่ฉลาดพูด คำพูดและการกระทำของเขาสามารถหลอกคนให้เข้าใจผิดได้ สามารถทำให้คนเกลียดอีกฝ่ายแล้วมาเข้าข้างตนได้ อย่างที่บอกทางจุฬามีทางออกของทางเลือกให้หมด แต่เนเน่ก็วิ่งเข้าไปอีกทางแล้วแสดงพฤติกรรมขัดแย้งขึ้นมาเพื่อให้เขารู้สึกไม่พอใจ ให้เขามาต่อว่าเพื่อแสดงให้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าตัวเนเน่โดนผู้ใหญ่ที่จุฬารังแก บังคับ จำกัดสิทธิ์ จริงๆทางเลือกที่เนเน่ต้องการให้มีคืออะไรกันแน่ ถึงพร่ำพูดเกี่ยวกับการประกาศยกเลิกหมอบกราบ ซึ่งก็ไม่ได้เอามาใช้ในพิธีนี้ พูดถึงว่าต้องมีทางเลือกให้ ทั้งๆที่เขามีให้ พูดขึ้นมาให้คนเข้าใจผิด ใครที่ได้ยินแบบนี้ก็ต้องคิดว่าถูกบังคับให้เข้าร่วม ตั้งใจทำหรือพูดให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด แล้วบอกว่าต้องมีการปรับเปลี่ยน ทำแบบนี้มีเจตนาอะไร ตอนนี้จุฬาก็ทำมาทุกอย่างอยู่แล้วทำมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนเนเน่เข้ามา ขาดอย่างเดียวคือยกเลิกพิธีนี้ จุฬาเขามีทางเลือกให้ว่าจะเข้าหรือไม่เข้าก็ได้ จัดแบ่งพื้นที่ให้แต่ละคนได้มีสิทธิ์ที่จะแสดงออกซึ่งความเคารพตามความคิดของตัวเอง ที่แบ่งโซนเพื่อจะได้เป็นภาพมีความเรียบร้อย ไม่ใช่มากระจุกกัน คนนึงทำอีกอย่างอีกคนจะทำอีกอย่าง เนเน่รู้ว่าที่จุฬามีแบบนี้ให้อยู่แล้ว แต่เนเน่ก็เล่นนอกกติกาตลอด เพื่อให้เกิดภาพเกิดกระแส เรียกร้องหาทางเลือกหาสิทธิ์ โดยเกมที่ตัวเองเล่นไปเบียดเบียนสิทธิ์ของคนอื่น สุดท้ายแล้วเนเน่จะเรียกร้องอะไรกันแน่
ปล เรื่องประเพณีมีบางคนบอกว่าเป็นประเพณีประดิษฐ์ เพิ่งมีจะบอกว่าเป็นประเพณีได้ยังไง อะไรล้าสมัยก็เปลี่ยนมันซะ เลยอยากรู้ว่าต้องนานแค่ไหนถึงเรียกว่าประเพณี ความไม่ดีของสิ่งนี้อยู่ตรงไหน มันทำให้การใช้ชีวิตประจำวันยากลำบากขึ้นไหม
เนเน่เป็นเด็กฉลาด
ที่เขาไม่สามารถเดินออกด้านข้างได้ต้องเดินตัดเพราะกลุ่มอาจารย์อยู่ตรงนั้น กล้องที่จะถ่ายอยู่ตรงนั้น ถ้าเดินออกด้านข้างก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็จะเหมือนเหตุการณ์ปกติที่ทำผ่านๆเหมือนทุกปี เขาไม่อยากให้มันปกติ เขาอยากให้เป็นประเด็น
ส่วนคลิปที่อาจารย์ล็อคคอ ใช่..มันอาจจะไม่สมควร แต่ภาพแค่นั้นมันไม่ได้บอกเรื่องราวตั้งแต่แรกว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านี้มีการยั่วยุหรือท้าทายอะไรกันไหมเราไม่รู้ เราเห็นภาพที่อารมณ์มันระเบิดไปแล้ว เรื่องแบบนี้ใครๆก็มักจะมองว่าผู้ใหญ่ผิดเสมอ ต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ แต่เราไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่ต้น(ซึ่งอาจจะก่อนพิธีด้วยซ้ำ) เราไม่รู้ว่าเขาโดนอะไรมาก่อน เราก็ไม่สามารถไปบอกเขาได้เต็มปากหรอกว่า เป็นอาจารย์ต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ เพราะถ้าเป็นเราโดนยั่วยุปั่นหัวเราอาจจะทำแบบอาจารย์ท่านนั้นก็ได้
เหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์เวลาไม่เกิดขึ้นกับตัวเอง เราสามารถพูดได้ว่า "ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไม่ทำแบบนี้" แต่พอเอาเข้าจริงๆ บ้างครั้งก็ไม่สามารถทำอย่างที่ตัวเองพูดได้
ผมยอมรับว่าเนเน่เป็นคนฉลาด ฉลาดคิด มีจิตวิทยาสูง แต่เขามักใช้ความฉลาดของเขาโดยทำให้คนเดินตามเกมของเขาหรือหมากที่เขาวางเอาไว้ เขาสามารถพูดโยงเหตุผลที่น่าเชื่อถือในเรื่องนึงมาใช้กับเหตุการณ์อีกเรื่องนึงให้คนที่คล้อยตามเหมารวมว่านี่คือเรื่องเดียวกัน และด้วยความที่เป็นคนที่มีจิตวิทยาสูง แน่นอนเขายอมมองออกว่าจะทำอย่างไรพูดอย่างไรให้เป้าหมายของเขาแสดงพฤติกรรมที่คนอื่นเห็นแล้วรู้สึกแย่ออกมา
ไม่ใช่ผมไม่เห็นด้วยทุกเรื่องที่เขาทำ อะไรที่ว่าดีน่าปรับเปลี่ยนผมก็เห็นด้วย อย่างเรื่องรับน้องที่ควรตรวจสอบได้ผมก็เห็นด้วย เพราะการตรวจสอบได้ไม่ได้ทำอะไรให้มันแย่ลง ส่วนตอนประชุมคำพูดนิ่งเรียบแต่แฝงด้วยความยั่วยุ อย่างที่บอกเนเน่เป็นคนฉลาดและมีจิตวิทยา เขามองคนออกว่าพูดหรือทำแบบไหนแล้วคนนั้นจะของขึ้น แล้วผลที่ออกมาคือประธานคณะนั้นดูแย่ คะแนนนิยมเนเน่เพิ่มขึ้น เขามักใช้กลยุทธให้คนแบ่งพรรคแบ่งพวก โดยสร้างสถานการณ์หรือเหตุการณ์ให้คนส่วนใหญ่ไม่พอใจฝ่ายตรงข้ามของเนเน่ ตามหลักคนมักจะเลือกข้างบางคนพยายามบอกว่าเป็นกลาง แต่เมื่อใดก็ตามที่มีเหตุการณ์ที่ทำให้อีกฝ่ายดูไม่ดี คนที่เป็นกลางและคนที่อยู่ฝ่ายที่ดูไม่ดีก็จะรู้สึกเอนเอียงมาฝ่ายตรงข้าม ที่ผ่านมาเขามักใช้วิธีนี้เสมอ
เนเน่สามารถเข้าเรียนที่ไหนก็ได้เพราะว่าเขาเป็นคนฉลาด ทำไมเขาถึงเลือกเรียนที่จุฬา ที่เขาเลือกเรียนที่นี่เพราะที่นี่เป็นมหาลัยอับดับหนึ่ง ก่อตั้งมานานถ้ามีเรื่องอะไรขึ้นมาจะเป็นกระแสมาก และอีกประการหนึ่งก็คือมหาลัยนี้ผูกติดกับสิ่งที่เขาแอนตี้ ซึ่งแน่นอนสิ่งที่เขาจะทำต่อไปเมื่อเข้ามาได้ ก็ต้องเป็นอะไรที่ทำลงไปแล้วขัดต่อความรู้สึกของสถาบันแน่นอน เขาถึงเลือกที่จะเรียนที่นี่
เขาไม่กลัวเหรอ... แน่นอน เนเน่ ไม่กลัว เพราะถ้าจุฬาจะจัดการเขาสังคมจะมองว่าจุฬารังแกเด็กคนนึงกับเรื่องเล็กน้อยในสายตาคนภายนอก(ถ้าคนภายในก็คือป่วนประเพณี หรือสิ่งที่ทำกันมาในสถาบัน) เนเน่ เล็งเห็นแล้วว่าจุฬาไม่กล้าแน่นอนถ้าเขาไม่ล้ำเส้น แต่ถ้าเนเน่สามารถทำให้จุฬาเหลืออดแล้วจัดการกับเขาได้ เขาก็ทำสำเร็จที่ทำให้เกิดการแตกแยกของคนในสังคมกับจุฬาที่ก่อตั้งโดย....
แต่ที่แน่ๆที่เขาทำเสร็จอย่างนึงในตอนนี้คือ เขาสามารถแบ่งแยกสร้างช่องว่างระหว่าง อาจารย์กับนิสิต ในจุฬาได้แล้วจากเหตุการณ์นี้ เมื่อแบ่งแยกได้ การจะสร้างกลุ่มคลื่นใต้น้ำที่เป็นนิสิตก็จะไม่อยากอะไร เพราะนิสิตก็จะเริ่มไม่เชื่อฟังอาจารย์แล้ว เพราะเห็นว่าเป็ฝ่ายตรงข้าม
ส่วนเรื่องการสร้างกระแสไม่เอาพิธีคลานหมอบกราบ(โยงไปเลิกทาส ซึ่งคือคนละเรื่องกันเลย) มาชูประเด็น มาลองวิเคราะห์ดู
1 ถ้าไม่ชอบ ทำไมถึงมาเลือกเรียนสถาบันที่มีพิธีแบบนี้ซึ่งมันมีมาก่อนที่เนเน่จะเข้ามาเรียนซึ่งก็น่าจะรู้ข้อมูลตรงนี้อยู่ก่อนแล้ว ถ้าบอกว่าก็เรียนเก่งก็เลยจะมาเรียน ไม่ได้จะมาทำพิธีอะไรแบบนี้ งั้นไปข้อ 2
2 เขาไม่บังคับให้เข้าร่วม เขาเอาความสมัครใจ ใครจะเข้าไม่เข้าก็ได้ คำถามคือถ้าไม่ชอบแล้วเข้าร่วมทำไม ถ้าจะบอกว่า แค่อยากอยู่ในพิธีส่วนอื่น แต่เฉพาะตอนทำความเคารพไม่เอาคลานหมอบกราบ งั้นไปข้อ 3
3 เขามีพื้นที่สำหรับคนที่ไม่สะดวกจะ(คลานหมอบกราบ ตามที่เนเน่กล่าวอ้างมาว่ายกเลิกไปแล้ว)เคารพด้วยการถวายบังคม ทำไมไม่ไปอยู่ตรงนั้นแต่จะไปอยู่ตรงกลุ่มคนที่จะถวายบังคมแล้วลุกขึ้นยืนแทน(ตอนปี 1) หรือพยายามเดินตัดสนามทั้งที่เดินออกด้านข้างได้หรือให้คนที่สะดวกถวายบังคมรับหน้าที่ทำแทนประธานนิสิต(ตอนปี 2) เพิ่มเติมเรื่องคลานหมอบกราบ ในพิธีนิสิตไม่ได้คลานเข่าตั้งแต่ทางเดินไปจนถึงกลางสนามแล้วหมอบก้มหน้าตลอดห้ามเงยหน้าเพื่อกราบทำความเคารพ ถ้าไม่อยากตอบคำถามนี้เพราะไม่รู้จะใช้เหตุผลอะไรดี เลยอ้างการประกาศยกเลิกคลานหมอบกราบมาใช้ งั้นไปข้อ 4
4 อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นเนเน่พยายามแสดงให้คนเห็นว่าเขามีเหตุผลโดยเขาพูดความจริงในเรื่องนึง ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับเหตุการณ์ที่เขาได้ทำไว้อีกเรื่องนึง แล้วให้คนที่เห็นด้วยกับเขาโยงกันเอาเองว่ามันคือเรื่องเดียวกัน แล้วคนก็เอาไปโยงเรื่องอื่นต่อไปอีกอย่างเลิกทาส ถ้าเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมา ถ้าสาวความกลับเนเน่ก็จะบอกว่าเขาแค่เสนอความจริงเรื่องยกเลิกหมอบกราบ คนที่เอาไปเชื่อมโยงต่อเอาเองก็จะกลายเป็น...บรู๊ววว
ที่นี้มาดูเรื่องหมอบกราบสมัยก่อนกัน เมื่อก่อนทุกๆครั้งเวลาที่เราจะเข้าเฝ้า เราต้องคุกเข่าก้มคลานตั้งแต่หน้าประตูเข้าไป เมื่อเข้าไปใกล้เราต้องก้มหมอบกราบห้ามมอง แต่ชาวต่างชาติกลับไม่ต้องทำแบบนี้ หรือเวลาที่ท่านเสด็จผ่านถ้าเราทำกิจกรรมอะไรอยู่เราต้องหยุดนั่งหมอบก้มกราบจนกว่าท่านจะเสด็จผ่านไป ถ้าไม่ทำแบบนี้จะถือว่าผิด ท่านทรงเล็งเห็นว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปทุกๆครั้งประชนจะลำบาก ท่านเลยประกาศยกเลิก แปลว่าไม่ได้บังคับว่าต้องให้ทำอีกต่อไป แต่ถ้าใครจะทำก็ไม่ได้ว่าอะไรไม่ได้เป็นการฝืนคำสั่ง เป็นแค่การยกเลิกกฎข้อบังคับ นี่คือความจริงในเรื่องนึง ต่อมาคือพิธี(นานๆทำที ครบรอบถึงจะทำสักครั้ง)ที่จุฬาที่ถูกโยงกับเรื่องคลานหมอบกราบ ซึ่งในพิธีไม่มีทั้งคลาน ทั้งหมอบ ทั้งกราบ มีแค่การถวายบังคมเท่านั้น ถ้าพิธีนี้ไม่มีทั้งคลานหมอบกราบ จะยกเรื่องคลานหมอบกราบขึ้นมา กับสิ่งที่ตัวเนเน่ไม่ประสงค์จะทำในพิธีที่จุฬาทำไม
5 การยกเลิกการคลานหมบกราบคือการยกเลิกกฎข้อบังคับว่าทุกๆครั้งที่เจอไม่ต้องทำอีกต่อไปแล้ว ทำความเคารพแบบอื่นได้ ยกเลิกไม่ได้แปลว่าห้ามทำ ถ้าทำคือผิด ขัดคำสั่ง การก้มกราบอาจจะแสดงถึงทั้งความเคารพหรือการระลึกถึงพระคุณ บ้างคนโยงไปเรื่องทาสถึงต้องทำ การที่เนเน่ต่อต้านหรืออาจจะใช้คำว่าปรับเปลี่ยนอะไรที่ล้าสมัยก็ยกเลิกไป( ความรู้สึกเหมือนตอนดู โหมโรง ตอนใกล้จบ ที่จะจัดระเบียบศิลปะดนตรีไทยเลย) เช่นการคลานหมอบกราบ ก็ต้องถามว่าสิ่งที่มันเป็นอยู่มันบ่งบอกตัวตนของเราหรือไม่ มันทำให้สังคมแย่ลงไหม มันล้าสมัยจนทำให้ประเทศไม่พัฒนาไหม มันทำให้การใช้ชีวิตประจำวันยากลำบากขึ้นไหม มันมีแต่สิ่งที่ไม่ดีหรือไม่ สำหรับการมีอยู่ของมัน ถ้าคำตอบคือไม่ใช่ เราเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงนี้เพื่ออะไร ถ้าเนเน่หรือคนที่สนับสนุนเนเน่ต้องการให้เปลี่ยนแปลงเรื่องคลานหมอบกราบ ทำไมไม่ทำทั้งแต่ตอนเรียนที่โรงเรียน พิธีวันแม่ พิธีวันพ่อ พิธีไหว้ครู หรือการไหว้พระ เราคลานตั้งแต่ขึ้นเวที เราก้มลงกราบ ทำไมไม่ต่อต้านตั้งแต่ตอนนั้น ทำไมไม่มองว่าเป็นทาส ทำไมต้องมาแสดงออกที่จุฬา จริงๆต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ คนที่กำลังทำอยู่ คุณกำลังต่อต้านตัวพิธีการ หรือพิธีการที่มีต่อเฉพาะบุคคลกันแน่ แล้วสุดท้ายเนเน่จะบอกว่าเปล่าแค่ต้องการบอกว่าคนเราต้องมีสิทธิ์ที่จะเลือกไม่ใช่บังคับให้ทำ งั้นไปข้อสุดท้าย
6 เนเน่บอกว่าการคลานหมอบกราบยกเลิกไปแล้วก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทำ แล้วแสดงพฤติกรรมเชิงสัญลักษณ์ต่างๆทั้งตอนอยู่ปี 1-2 ถ้าเนเน่มีแนวความคิดเรื่องความไม่ทันสมัยต่อตัวพิธีการจริง ทำไมไม่แสดงออกตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียน มีหลายพิธีที่ต้องคลานหมอบกราบจริงๆ แล้วเอาเข้าจริงๆ พิธี(ต้องย้ำว่าเป็นแค่พิธี ไม่ได้ทำทุกวัน)ที่จุฬา ไม่มีทั้งคลาน ไม่มีทั้งหมอบ ไม่มีทั้งกราบ มีแค่ถวายบังคม เนเน่อยู่ๆอ้างข้อมูลเรื่องหมอบกราบทำไม เนเน่และคนที่สนับสนุนเนเน่มีความตั้งใจที่จะเล่นที่ตัวพิธีการหรือบุคคล ที่เขาไหว้ตอนนี้ไม่ใช่เพราะยำเกรงแต่ทำเพราะระลึกถึงพระคุณ เนเน่อาจจะบอกว่าเปล่า ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยากแสดงให้เห็นถึงสิทธิ์ทางความคิด ไม่ได้ต้องการให้บังคับ เลยอ้างเรื่องการประกาศยกเลิกกฎหมอบกราบมาโยงกับพิธีซึ่งมันคือการเอาเรื่องคนละเรื่องมารวมกัน เลยทำให้คนอื่นเอาเรื่องทาสมารวมอีก ถ้าเนเน่จะบอกว่าไม่อยากให้มีการบังคับกัน เลยอยากถามไปถึงข้อแรกๆว่าจุฬาบังคับตรงไหน เขามีทางออกให้หมดทุกทาง ซึ่งเนเน่ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าเขามีให้ แล้วเนเน่จะพูดขึ้นมาทำไมว่าน่าจะมีทางเลือกให้ พูดในสิ่งที่เขามีให้อยู่แล้ว คนที่หลับหูหลับตาฟังเนเน่ว่า "ที่จุฬาน่าจะมีสิทธิ์ให้เลือกบ้าง" เขาจะคิดว่าอย่างไร อย่างที่บอกเนเน่ฉลาดพูด คำพูดและการกระทำของเขาสามารถหลอกคนให้เข้าใจผิดได้ สามารถทำให้คนเกลียดอีกฝ่ายแล้วมาเข้าข้างตนได้ อย่างที่บอกทางจุฬามีทางออกของทางเลือกให้หมด แต่เนเน่ก็วิ่งเข้าไปอีกทางแล้วแสดงพฤติกรรมขัดแย้งขึ้นมาเพื่อให้เขารู้สึกไม่พอใจ ให้เขามาต่อว่าเพื่อแสดงให้คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าตัวเนเน่โดนผู้ใหญ่ที่จุฬารังแก บังคับ จำกัดสิทธิ์ จริงๆทางเลือกที่เนเน่ต้องการให้มีคืออะไรกันแน่ ถึงพร่ำพูดเกี่ยวกับการประกาศยกเลิกหมอบกราบ ซึ่งก็ไม่ได้เอามาใช้ในพิธีนี้ พูดถึงว่าต้องมีทางเลือกให้ ทั้งๆที่เขามีให้ พูดขึ้นมาให้คนเข้าใจผิด ใครที่ได้ยินแบบนี้ก็ต้องคิดว่าถูกบังคับให้เข้าร่วม ตั้งใจทำหรือพูดให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด แล้วบอกว่าต้องมีการปรับเปลี่ยน ทำแบบนี้มีเจตนาอะไร ตอนนี้จุฬาก็ทำมาทุกอย่างอยู่แล้วทำมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ก่อนเนเน่เข้ามา ขาดอย่างเดียวคือยกเลิกพิธีนี้ จุฬาเขามีทางเลือกให้ว่าจะเข้าหรือไม่เข้าก็ได้ จัดแบ่งพื้นที่ให้แต่ละคนได้มีสิทธิ์ที่จะแสดงออกซึ่งความเคารพตามความคิดของตัวเอง ที่แบ่งโซนเพื่อจะได้เป็นภาพมีความเรียบร้อย ไม่ใช่มากระจุกกัน คนนึงทำอีกอย่างอีกคนจะทำอีกอย่าง เนเน่รู้ว่าที่จุฬามีแบบนี้ให้อยู่แล้ว แต่เนเน่ก็เล่นนอกกติกาตลอด เพื่อให้เกิดภาพเกิดกระแส เรียกร้องหาทางเลือกหาสิทธิ์ โดยเกมที่ตัวเองเล่นไปเบียดเบียนสิทธิ์ของคนอื่น สุดท้ายแล้วเนเน่จะเรียกร้องอะไรกันแน่
ปล เรื่องประเพณีมีบางคนบอกว่าเป็นประเพณีประดิษฐ์ เพิ่งมีจะบอกว่าเป็นประเพณีได้ยังไง อะไรล้าสมัยก็เปลี่ยนมันซะ เลยอยากรู้ว่าต้องนานแค่ไหนถึงเรียกว่าประเพณี ความไม่ดีของสิ่งนี้อยู่ตรงไหน มันทำให้การใช้ชีวิตประจำวันยากลำบากขึ้นไหม