
สวัสดีค่า... หายหน้าไปตั้งนาน กลับมาคราวนี้หน้าม้าแต่งงานแล้วนะคร่าาา แฮ่.....
ส่วนตัวแฮปปี้มากกกกก กับงานที่ผ่านพ้นไป
ส่วนฟีดแบ็คจากเพื่อนๆ คือ
“ after party สนุกมากกก อยากให้จัดอีกกกก”
“ เป็นงาน after ที่ใช้มิกน้อยมากๆๆ ( เพราะทุกคนโดนเจ้าบ่าวจับกรอกเหล้าเพียว )”
“ อยากแต่งงานอีกรอบจังเลยยยย”
“ อยากได้งานแบบเน้ๆๆๆ “
ดังนั้นเราไม่รอช้าค่ะ
เพราะเราเชื่อแห่งสังคมการแบ่งปัน
วันนี้เราจะมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆทราบถึงรายละเอียดกัน
ในรีวิวเพื่อนๆที่จะแต่งงานและเพื่อนๆที่อยากจะจัดงานแต่งอีกรอบ จะได้รู้สิ่งต่อไปนี้
- เปรียบเทียบข้อดีระหว่าง จัดในสตูดิโอ vs จัดในโรงแรม
- สรุปสิ่งที่ต้องรู้ก่อนจัดงาน เพื่อบริหารให้อยู่ในงบ
- สิ่งที่ต้องระวัง ปัญหาที่จะเกิดขึ้นก่อนและระหว่างงาน
สารบาญ.....
Part I : พรีเวดดิ้ง
Part II: งานเช้า
Part III: งานเย็น
---------------------------------------------------------------------------
Part I : พรีเวดดิ้ง
คอนเซป : พรีเวดดิ้งริมชายหาด เน้นสบายๆ เป็นตัวของตัวเอง
สถานที่ : The Naka , Phuket
ทีมถ่ายภาพ : OatPhoto
ทีมแต่งหน้า : แต่งเอง
ชุด : Tr_ateliar
สำหรับคนที่รู้จักแป้ง จะรู้ว่าเราเป็นคนชอบไปทะเล มากกก
ดังนั้น สิ่งแรกที่แวบบ เข้ามาในหัวตอนคิดสถานที่ถ่ายพรีก็คือ “ ทะเล “ นั่นเองงงง แตีนแต้นนน
ลืมบอกไปคร่ะ ทุกอย่างเราจัดภายในเวลา 2 เดือนเท่านั้นจริงๆ นับตั้งแต่พรีจนถึงวันแต่ง
พรีก็เช่นกัน หลังจากโดนเซอไพรส์ขอแต่งงานไป + เรามีทริปจะไปภูเก็ตอยู่แล้ว
จึงมีไอเดียว่า เอาหวะ ถ่ายพรีนู้นแม่มเลยละกัน
ระยะเวลาเตรียมกันคือ 6 วันกว่าๆ
สิ่งแรกที่ทำคือโทรหารุ่นพี่เคยสนิท เอ้ย คนสนิท ที่เป็นช่างภาพขั้นเทพ
ทันทีที่เราบอกสิ่งที่ต้องการขอความช่วยเหลือ รุ่นพี่ที่น่ารักก็ตกลงทันที
จากนั้นก็ต่อสายถึงรุ่นน้อง ดีไซเนอร์ที่มีแบรนชุดราตรี เพื่อขอยืมชุดแต่งงาน แน่นอนว่าน้องสุดที่รักตอบรับอย่างทันที
ทีมทั้งหมอจะประกอบไปด้วย รุ่นพี่คนสนิท 2 คนและ สามีของนางอีก 1 คน + กับเพื่อนสนิทเน็ตไอดอลอีก 1
รวมว่าที่บ่าวสาวด้วยเป็น 6
ค่าใช้จ่ายอยากจะบอกว่าถ้าคิดตามเรตจิงๆก็คงจะหลักๆ 6-7 หมื่น ( ตามเกรดของชุดและช่างภาพ ไหนจะค่าที่พัก ค่าเดินทาง ที่เราต้องรับผิดชอบ)
แต่ด้วยความที่ทุกคนเป็นคนสนิทของเราทั้งนั้น งานนี้เลยจ่ายเพียงค่าตั๋วเครื่องบินให้พี่ๆเท่านั้นค่ะ ( ซาบซึ้งง)
และนี้คือภาพที่ได้มาค่ะ ^^ .....
Part II : งานเช้า
คอนเซป : เรียบๆแต่หรูหราสไตล์ผู้ดีอังกฤษ
สถานที่ : Valavera , BKK
ทีมถ่ายภาพ : 95 photo
ทีมแต่งหน้า : Armytoast
ทำผม : Alexandul
ชุด : Tr_ateliar (white dress) / Darastu (red dress)
เราเชื่อว่าสาวๆหลายคน ลังเลระหว่างการจัดในสตูดิโอกับโรงแรม....
และเกิดการจิตป่วนกันว่าจะเลือกที่ไหนดี ไม่มากก็น้อย
เราเองก็เช่นกัน
เพราะโจทก์เราที่ต้องการคือ
- งานแต่งต้องแนว open อารม์อยู่ในสวน ต้องเห็นท้องฟ้า เห็นหญ้า ไม่อยากได้จัดแบบห้องๆในโรงแรมบนตึก
- งานฉลอง ต้องมันส์สุดเหวี่ยง ให้สมกับที่เพื่อนๆรอคอย >> ต้องมีดนตรี เต้นกันถึงดึกได้ เสียงดังได้ >> เมาแล้วต้องนอนได้ด้วย
และนี้ของข้อสรุปข้อดีข้อเสียของ สตูดิโอ vs โรงแรม

สุดท้ายเราจึงตัดสินใจแยก งานหมั้น และงานฉลองเป็น 2วัน
และจัดแยกกัน สถานที่ละ 1 งาน เนื่องจาก
1: ไม่อยากเหนื่อยจนเกินไป ( เพราะปกติไม่ใช่คนตื่นเช้ากันเลยยยย )
2: สไตล์งานหมั้นและงานแต่ง ค่อนข้างไปคนละทิศ จึงตัดสินใจจัดแยกสถานที่กัน
เนื่องด้วยภาพใรฝันของเรานั้นคือการแต่งงานแบบเรียบๆ สวยๆ สไตล์มินิมอล
มีเพื่อนและญาติสนิทแต่งตัวคุมโทนอารมณ์ผู้ดีอังกฤษนัดกันมานั่งจิบชา ( ฮาาาา....)
ไฮไลท์คือเปิดตัวบ่าวสาวพร้อมหลานตัวน้อยทั้ง 2 ที่ทำหน้าที่ถือแหวนให้ว่าที่บ่าวสาว
แขกไม่ต้องมากมายอะไร ขอเพียงญาติและเพื่อนสนิทมาร่วมแสดงความยินดี
เราก็ไปตระเวนดูสตูดิโอที่สวยๆ มามากมาย
สุดท้ายมาลงที่ “Valavera”
เพราะที่นี้สวยด้วยตัวของมันเอง แทบไม่ต้องจัดอะไรมากมาย
สวยในแบบที่เจ้าสาวก็ชอบ เจ้าบ่าวก็ชอบ ( ไม่หวาน ไม่แมน จนเกินไป)
ค่าจัดงานขั้นต่ำก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ส่วนทีมที่จัด decoration ก็สนิทกัน เลยไม่ห่วงเลยยเรื่องสไตล์
แถมเป็นที่แรกที่เริ่มต้นดู จนสุดท้ายก็วนมาเลือกที่นี้ ( เหมือนพรหมลิขิตไว้แล้วว ^^ )
และนี้คือภาพความประทับของเราวันนั้น ^^
Part III : งานเย็น
คอนเซป : ปาร์ตี้กันให้สุดๆ เมากันไปข้าง!!
สถานที่ : Compass Skyview Hotel , BKK
ทีมถ่ายภาพ : Loveroom
ทีมแต่งหน้า : nattiwz
ทำผม: nattiwz
ชุด : Tr_ateliar / ossy_official
ส่วนงานเย็นเนื่องจากเราต้องการจัดปาร์ตี้ ชนิดที่ว่าอยากให้ทุกคนที่มางานเราสนุก และจดจำช่วงเวลานี้ไว้
ดังนั้นเราจึงจัดเต็มกันมากๆค่ะ สำหรับ after party
เนื่องด้วยบทซึ้งเล่นไปแล้วงานหมั้น
ดังนั้นงานฉลองจะมีแต่ความสนุกและกันเองค่ะ
และนี้คือสิ่งที่เราจัดเตรียมกันสำหรับค่ำคืนแห่งความทรงจำ
- จัดวงดนตรี live band ที่เป็นวงดนตรีประจำร้านนั่งเล่น
- ต่อด้วย DJ ONO ที่จะมารับช่วงต่อกะดึก 4 ทุ่มถึงตี 1
- จ้างระบบ แสง สี มาติดเพิ่มเติมในงานเพื่อเพิ่มสีสัน
- จ้างจอ LED มาเพิ่มเพื่อแสดงกราฟฟิกในระหว่าง party
- FB Live สำหรับคนที่ไม่สะดวกมา
และนี้คือภาพที่เรารู้สึกคุ้มค่าเหลือเกินสมกับที่ตั้งใจจัดงาน

สุดท้ายเราทำสรุปขั้นตอนการเริ่มต้นให้เพื่อให้ทิศทางของงานชัดเจนและคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้บานปลาย
มันคือ 3 ก้อนใหญ้ๆแล้วสำหรับงานแต่ง ที่เหลือคือตัวเลขกระจุกกระจิก ( ไม่รวมค่าสินอดนะ 55555++)
ข้อแนะนำ
- จ้างออแกไนซ์ช่วยรันคิว
-ทุกอย่างต้องใส่ deadline ให้ชัดเจน ไม่งั้นจะเลท
- วันงานต้องมีซ้อม blocking ก่อนเพื่อให้รู้คิวกันทั้ง บ่าวสาวและผู้ที่เกี่ยวข้อง
- ให้ assign งานให้บ่าวหรือสาวไปเลย จะได้ไม่เกี่ยงกัน โดยให้คนๆนั้นรับผิดชอบงานนั้นๆไปเลย โดยอีกคนคอยให้ความคิดเห็น
- วันงาน ก่อนเวลาจริง ให้เดินเช็คความพร้อมกับทุกฝ่ายอีกรอบก่อนไปแต่งตัวบ่าวสาว
- ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในงาน ล้วนดีเสมอ จงยิ้มเข้าวัน เพราะนี้คือวันของเรา ^^
จัดงานแต่งแบบยำใหญ่ใส่สารพัด พรีเวดดิ้งชายทะเล งานหมั้นแนวผู้ดี ปิดท้ายด้วยปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยง
สวัสดีค่า... หายหน้าไปตั้งนาน กลับมาคราวนี้หน้าม้าแต่งงานแล้วนะคร่าาา แฮ่.....
ส่วนตัวแฮปปี้มากกกกก กับงานที่ผ่านพ้นไป
ส่วนฟีดแบ็คจากเพื่อนๆ คือ
“ after party สนุกมากกก อยากให้จัดอีกกกก”
“ เป็นงาน after ที่ใช้มิกน้อยมากๆๆ ( เพราะทุกคนโดนเจ้าบ่าวจับกรอกเหล้าเพียว )”
“ อยากแต่งงานอีกรอบจังเลยยยย”
“ อยากได้งานแบบเน้ๆๆๆ “
ดังนั้นเราไม่รอช้าค่ะ
เพราะเราเชื่อแห่งสังคมการแบ่งปัน
วันนี้เราจะมาเขียนรีวิวให้เพื่อนๆทราบถึงรายละเอียดกัน
ในรีวิวเพื่อนๆที่จะแต่งงานและเพื่อนๆที่อยากจะจัดงานแต่งอีกรอบ จะได้รู้สิ่งต่อไปนี้
- เปรียบเทียบข้อดีระหว่าง จัดในสตูดิโอ vs จัดในโรงแรม
- สรุปสิ่งที่ต้องรู้ก่อนจัดงาน เพื่อบริหารให้อยู่ในงบ
- สิ่งที่ต้องระวัง ปัญหาที่จะเกิดขึ้นก่อนและระหว่างงาน
สารบาญ.....
Part I : พรีเวดดิ้ง
Part II: งานเช้า
Part III: งานเย็น
---------------------------------------------------------------------------
Part I : พรีเวดดิ้ง
คอนเซป : พรีเวดดิ้งริมชายหาด เน้นสบายๆ เป็นตัวของตัวเอง
สถานที่ : The Naka , Phuket
ทีมถ่ายภาพ : OatPhoto
ทีมแต่งหน้า : แต่งเอง
ชุด : Tr_ateliar
สำหรับคนที่รู้จักแป้ง จะรู้ว่าเราเป็นคนชอบไปทะเล มากกก
ดังนั้น สิ่งแรกที่แวบบ เข้ามาในหัวตอนคิดสถานที่ถ่ายพรีก็คือ “ ทะเล “ นั่นเองงงง แตีนแต้นนน
ลืมบอกไปคร่ะ ทุกอย่างเราจัดภายในเวลา 2 เดือนเท่านั้นจริงๆ นับตั้งแต่พรีจนถึงวันแต่ง
พรีก็เช่นกัน หลังจากโดนเซอไพรส์ขอแต่งงานไป + เรามีทริปจะไปภูเก็ตอยู่แล้ว
จึงมีไอเดียว่า เอาหวะ ถ่ายพรีนู้นแม่มเลยละกัน
ระยะเวลาเตรียมกันคือ 6 วันกว่าๆ
สิ่งแรกที่ทำคือโทรหารุ่นพี่เคยสนิท เอ้ย คนสนิท ที่เป็นช่างภาพขั้นเทพ
ทันทีที่เราบอกสิ่งที่ต้องการขอความช่วยเหลือ รุ่นพี่ที่น่ารักก็ตกลงทันที
จากนั้นก็ต่อสายถึงรุ่นน้อง ดีไซเนอร์ที่มีแบรนชุดราตรี เพื่อขอยืมชุดแต่งงาน แน่นอนว่าน้องสุดที่รักตอบรับอย่างทันที
ทีมทั้งหมอจะประกอบไปด้วย รุ่นพี่คนสนิท 2 คนและ สามีของนางอีก 1 คน + กับเพื่อนสนิทเน็ตไอดอลอีก 1
รวมว่าที่บ่าวสาวด้วยเป็น 6
ค่าใช้จ่ายอยากจะบอกว่าถ้าคิดตามเรตจิงๆก็คงจะหลักๆ 6-7 หมื่น ( ตามเกรดของชุดและช่างภาพ ไหนจะค่าที่พัก ค่าเดินทาง ที่เราต้องรับผิดชอบ)
แต่ด้วยความที่ทุกคนเป็นคนสนิทของเราทั้งนั้น งานนี้เลยจ่ายเพียงค่าตั๋วเครื่องบินให้พี่ๆเท่านั้นค่ะ ( ซาบซึ้งง)
และนี้คือภาพที่ได้มาค่ะ ^^ .....
Part II : งานเช้า
คอนเซป : เรียบๆแต่หรูหราสไตล์ผู้ดีอังกฤษ
สถานที่ : Valavera , BKK
ทีมถ่ายภาพ : 95 photo
ทีมแต่งหน้า : Armytoast
ทำผม : Alexandul
ชุด : Tr_ateliar (white dress) / Darastu (red dress)
เราเชื่อว่าสาวๆหลายคน ลังเลระหว่างการจัดในสตูดิโอกับโรงแรม....
และเกิดการจิตป่วนกันว่าจะเลือกที่ไหนดี ไม่มากก็น้อย
เราเองก็เช่นกัน
เพราะโจทก์เราที่ต้องการคือ
- งานแต่งต้องแนว open อารม์อยู่ในสวน ต้องเห็นท้องฟ้า เห็นหญ้า ไม่อยากได้จัดแบบห้องๆในโรงแรมบนตึก
- งานฉลอง ต้องมันส์สุดเหวี่ยง ให้สมกับที่เพื่อนๆรอคอย >> ต้องมีดนตรี เต้นกันถึงดึกได้ เสียงดังได้ >> เมาแล้วต้องนอนได้ด้วย
และนี้ของข้อสรุปข้อดีข้อเสียของ สตูดิโอ vs โรงแรม
สุดท้ายเราจึงตัดสินใจแยก งานหมั้น และงานฉลองเป็น 2วัน
และจัดแยกกัน สถานที่ละ 1 งาน เนื่องจาก
1: ไม่อยากเหนื่อยจนเกินไป ( เพราะปกติไม่ใช่คนตื่นเช้ากันเลยยยย )
2: สไตล์งานหมั้นและงานแต่ง ค่อนข้างไปคนละทิศ จึงตัดสินใจจัดแยกสถานที่กัน
เนื่องด้วยภาพใรฝันของเรานั้นคือการแต่งงานแบบเรียบๆ สวยๆ สไตล์มินิมอล
มีเพื่อนและญาติสนิทแต่งตัวคุมโทนอารมณ์ผู้ดีอังกฤษนัดกันมานั่งจิบชา ( ฮาาาา....)
ไฮไลท์คือเปิดตัวบ่าวสาวพร้อมหลานตัวน้อยทั้ง 2 ที่ทำหน้าที่ถือแหวนให้ว่าที่บ่าวสาว
แขกไม่ต้องมากมายอะไร ขอเพียงญาติและเพื่อนสนิทมาร่วมแสดงความยินดี
เราก็ไปตระเวนดูสตูดิโอที่สวยๆ มามากมาย
สุดท้ายมาลงที่ “Valavera”
เพราะที่นี้สวยด้วยตัวของมันเอง แทบไม่ต้องจัดอะไรมากมาย
สวยในแบบที่เจ้าสาวก็ชอบ เจ้าบ่าวก็ชอบ ( ไม่หวาน ไม่แมน จนเกินไป)
ค่าจัดงานขั้นต่ำก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ส่วนทีมที่จัด decoration ก็สนิทกัน เลยไม่ห่วงเลยยเรื่องสไตล์
แถมเป็นที่แรกที่เริ่มต้นดู จนสุดท้ายก็วนมาเลือกที่นี้ ( เหมือนพรหมลิขิตไว้แล้วว ^^ )
และนี้คือภาพความประทับของเราวันนั้น ^^
Part III : งานเย็น
คอนเซป : ปาร์ตี้กันให้สุดๆ เมากันไปข้าง!!
สถานที่ : Compass Skyview Hotel , BKK
ทีมถ่ายภาพ : Loveroom
ทีมแต่งหน้า : nattiwz
ทำผม: nattiwz
ชุด : Tr_ateliar / ossy_official
ส่วนงานเย็นเนื่องจากเราต้องการจัดปาร์ตี้ ชนิดที่ว่าอยากให้ทุกคนที่มางานเราสนุก และจดจำช่วงเวลานี้ไว้
ดังนั้นเราจึงจัดเต็มกันมากๆค่ะ สำหรับ after party
เนื่องด้วยบทซึ้งเล่นไปแล้วงานหมั้น
ดังนั้นงานฉลองจะมีแต่ความสนุกและกันเองค่ะ
และนี้คือสิ่งที่เราจัดเตรียมกันสำหรับค่ำคืนแห่งความทรงจำ
- จัดวงดนตรี live band ที่เป็นวงดนตรีประจำร้านนั่งเล่น
- ต่อด้วย DJ ONO ที่จะมารับช่วงต่อกะดึก 4 ทุ่มถึงตี 1
- จ้างระบบ แสง สี มาติดเพิ่มเติมในงานเพื่อเพิ่มสีสัน
- จ้างจอ LED มาเพิ่มเพื่อแสดงกราฟฟิกในระหว่าง party
- FB Live สำหรับคนที่ไม่สะดวกมา
และนี้คือภาพที่เรารู้สึกคุ้มค่าเหลือเกินสมกับที่ตั้งใจจัดงาน
สุดท้ายเราทำสรุปขั้นตอนการเริ่มต้นให้เพื่อให้ทิศทางของงานชัดเจนและคุมค่าใช้จ่ายไม่ให้บานปลาย
มันคือ 3 ก้อนใหญ้ๆแล้วสำหรับงานแต่ง ที่เหลือคือตัวเลขกระจุกกระจิก ( ไม่รวมค่าสินอดนะ 55555++)
ข้อแนะนำ
- จ้างออแกไนซ์ช่วยรันคิว
-ทุกอย่างต้องใส่ deadline ให้ชัดเจน ไม่งั้นจะเลท
- วันงานต้องมีซ้อม blocking ก่อนเพื่อให้รู้คิวกันทั้ง บ่าวสาวและผู้ที่เกี่ยวข้อง
- ให้ assign งานให้บ่าวหรือสาวไปเลย จะได้ไม่เกี่ยงกัน โดยให้คนๆนั้นรับผิดชอบงานนั้นๆไปเลย โดยอีกคนคอยให้ความคิดเห็น
- วันงาน ก่อนเวลาจริง ให้เดินเช็คความพร้อมกับทุกฝ่ายอีกรอบก่อนไปแต่งตัวบ่าวสาว
- ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในงาน ล้วนดีเสมอ จงยิ้มเข้าวัน เพราะนี้คือวันของเรา ^^