สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
มองอะไรมุมเดียวเกินไป เอาแค่ได้ไปฝึกวินัย ฟิตเนส โภชนาการ ประสบการ์ณแค่นี้ก็แทบจะไม่ขาดทุนแล้ว ถ้ายิ่งเป็นใบเบิกทางให้นักเตะไทยได้ยิ่งกำไร โอเคว่าซัปโปโร่ ไม่ใช่ทีมที่ดีเด่อะไรนัก เจ เลยไม่ค่อยได้มีโอกาสทำอะไรซักเท่าไหร่
แต่คุณเห็นหรือไม่ว่าเวลาเจได้บอล คู่แข่งก็ไม่ปล่อยให้เจสร้างโอกาสได้ง่ายๆ เลี้ยงหลบได้ชิลๆเหมือนกัน มันคือความเขี้ยวในอีกรูปแบบ
สมมุติอยู่ไทย เจ ได้บอล 40 ครั้ง เลี้ยงกินตัวได้ 10 ครั้ง สร้างโอกาสให้เพื่อนจ่ายต่อได้ 5 ครั้ง จ่ายให้เพื่อนทำประตูได้ 5 ครั้ง ได้คลอสบอล 5 ครั้ง พลิกบอลได้ 5 ครั้ง ยิงเอง 5 ครั้ง ทำเสีย 5 ครั้ง
แต่อยู่ญี่ปุ่น จากที่เคยเสียบอล 5 ครั้งจากการสัมผัสลูก 40 ครั้ง กลายเป็นเสียลูก 5 ครั้งจากการสัมผัสลูก 25 ครั้ง จากที่ทุกครั้งที่ได้สัมผัสบอลก็สร้างโอกาสได้เป็น 10 กลายเป็นทั้งเกมส์สร้างโอกาสได้แค่ 5 ครั้ง โอกาสได้บอลน้อยลง ครองบอลได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเลี้ยงกินตัวได้ บางครั้งถูกเข้าเร็ว บางครั้งถูกเบีบให้เลี้ยงไปตัน พวกนี้แหล่ะจะช่วยฝึกเจให้ใช้โอกาสที่มีน้อยนิดให้มีประสิทธิภาพและเฉียบคมขึ้น
แน่นอน การอยู่กับเมืองทองได้เจอทีม ระดับ BU บุรีรัมย์ BG แต่อยู่ซัปโปโร่ เราได้เจอทีมระดับนี้เกือบ 10 ทีม ทั้ง มารินอส , กัมบะ , อุระวะ , คาชิม่า , ฟอนตาเล่ , เรย์โซล , จูบิโล่ , เอฟซี โตเกียว แล้วก็ทีมอื่นๆที่พร้อมจะยกระดับได้ทุกปี แบบนี้ไม่ได้พัฒนาได้ยังไง
จริงอยู่ที่ตอนนี้เจไปเล่นกับซัปโปโร่มันดูน่าเบื่อ แต่มันก็อยู่ในช่วงเริ่มต้นใหม่ เจต้องไปเรียนรู้การเคลื่อนที่หาช่องเพื่อจะเล่นเกมส์รุก แบบที่ไม่เสียตำแหน่งหากต้องไปช่วยรับ ซึ่งเจบอกว่ามันยังยากและยังไม่รู้จังหวะเท่าไหร่ ถ้าปรับตัวหรือยกระดับตัวเองได้เมื่อไหร่เจก็ได้พัฒนาขึ้นไปอีกแน่ๆ
แต่คุณเห็นหรือไม่ว่าเวลาเจได้บอล คู่แข่งก็ไม่ปล่อยให้เจสร้างโอกาสได้ง่ายๆ เลี้ยงหลบได้ชิลๆเหมือนกัน มันคือความเขี้ยวในอีกรูปแบบ
สมมุติอยู่ไทย เจ ได้บอล 40 ครั้ง เลี้ยงกินตัวได้ 10 ครั้ง สร้างโอกาสให้เพื่อนจ่ายต่อได้ 5 ครั้ง จ่ายให้เพื่อนทำประตูได้ 5 ครั้ง ได้คลอสบอล 5 ครั้ง พลิกบอลได้ 5 ครั้ง ยิงเอง 5 ครั้ง ทำเสีย 5 ครั้ง
แต่อยู่ญี่ปุ่น จากที่เคยเสียบอล 5 ครั้งจากการสัมผัสลูก 40 ครั้ง กลายเป็นเสียลูก 5 ครั้งจากการสัมผัสลูก 25 ครั้ง จากที่ทุกครั้งที่ได้สัมผัสบอลก็สร้างโอกาสได้เป็น 10 กลายเป็นทั้งเกมส์สร้างโอกาสได้แค่ 5 ครั้ง โอกาสได้บอลน้อยลง ครองบอลได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเลี้ยงกินตัวได้ บางครั้งถูกเข้าเร็ว บางครั้งถูกเบีบให้เลี้ยงไปตัน พวกนี้แหล่ะจะช่วยฝึกเจให้ใช้โอกาสที่มีน้อยนิดให้มีประสิทธิภาพและเฉียบคมขึ้น
แน่นอน การอยู่กับเมืองทองได้เจอทีม ระดับ BU บุรีรัมย์ BG แต่อยู่ซัปโปโร่ เราได้เจอทีมระดับนี้เกือบ 10 ทีม ทั้ง มารินอส , กัมบะ , อุระวะ , คาชิม่า , ฟอนตาเล่ , เรย์โซล , จูบิโล่ , เอฟซี โตเกียว แล้วก็ทีมอื่นๆที่พร้อมจะยกระดับได้ทุกปี แบบนี้ไม่ได้พัฒนาได้ยังไง
จริงอยู่ที่ตอนนี้เจไปเล่นกับซัปโปโร่มันดูน่าเบื่อ แต่มันก็อยู่ในช่วงเริ่มต้นใหม่ เจต้องไปเรียนรู้การเคลื่อนที่หาช่องเพื่อจะเล่นเกมส์รุก แบบที่ไม่เสียตำแหน่งหากต้องไปช่วยรับ ซึ่งเจบอกว่ามันยังยากและยังไม่รู้จังหวะเท่าไหร่ ถ้าปรับตัวหรือยกระดับตัวเองได้เมื่อไหร่เจก็ได้พัฒนาขึ้นไปอีกแน่ๆ
แสดงความคิดเห็น
[คิดยังไง] แป๊ะ ยุทธพงศ์ วิชัยดิษฐ์ บอกว่า นักบอลไทยจะไม่ได้อะไรจาก J-League ถ้าเป็นทีมแบบเดียวกับ Sapporo
คุณคิดยังไง?
นักฟุตบอลของ Hokkaido Consadole Sapporo เทียบตำแหน่งต่อตำแหน่ง กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ถือว่า เหนือกว่าหรือไม่?
บางทีสิ่งที่เนวินไม่ให้ไอ้อุ้มย้ายไป J-League เมื่อหลายปีก่อนเพราะตั้งคำถามว่า ทีม J-League เหนือกว่า บุรีรัมย์ ตรงไหน อาจถูกต้องก็ได้