[CR] กระทิงเปลี่ยวแบกเป้ขี่รถ ตะลุยฝน ฝ่าพายุ ฝ่าแดด ดินแดนลาวใต้ [ 4 วัน 3 คืน ]

สวัสดีครับ เป็นกระทู้ที่ 5 ของผมที่เขียนรีวิวเกี่ยวกับการเที่ยว สปป. ลาว แบบ Backpacker ช่วงนี้เขียนถึงแต่เมืองลาวหมด
ก็ไม่รู้ว่าทำไมนะครับ ผมชอบไปเที่ยวลาว.... ฮ่าๆ... ในกระทู้นี้ผมจะพูดถึงการขี่รถมอเตอร์ไซด์ตะลุยลาวใต้ ทั้งเมืองปากเซและ
เมืองปากซอง  ซึ่งการเข้าไปเที่ยวครั้งนี้ ก็เป็นครั้งที่ 3 ของผม ซึ่งในแต่ละครั้งที่ได้ไป ผมก็ยังชอบและสนุกเหมือนเดิม มีความฟิน
อาจจะเป็นเพราะหลงรักการเดินทาง และได้พบมิตรภาพดีๆอยู่เสมอ แถมยังมีน้ำตกสวยๆให้ได้ชมอีกด้วย  
จะเป็น สมัน หรือ กระทิง ก็คอยดูกันครับ  .... ขอขอบคุณผู้ร่วมเดินทางด้วยกัน พี่ต๊ะ พี่อั้ม พี่มะเดี่ยว น้องเต้ย
ถ้าหากชอบเที่ยวในแบบเดียวกัน กดติดตามได้เลยครับ > https://www.facebook.com/angkhanphotograph
หรือเข้าไปชมคลิปวีดีโอทริปนี้กันได้ที่ > https://www.youtube.com/watch?v=xAGXxnkYR5Q&t=5s
ความตั้งใจของทริปนี้ จัดให้ได้ครบทุกอารมย์ในการเที่ยว [ 4 วัน 3 คืน ]
- ขี่มอเตอร์ไซด์ - Backpacker กินลม ชมวิว ตากแดด ตากฝน  มีความเสพธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา  
- แบกเป้เดินป่า - หลงไหลการเดินป่า และก็หลงไหลในป่าเมืองลาวอยู่พอสมควร เพราะทั้งเขียว สด และดิบ
- ค้างแรมในป่า - คิดถึงการนอนตั้งแคมป์กันในป่า ฟังเสียงน้ำตก เสียงนก เสียงธรรมชาติ และก็ทำอาหารทานด้วยกัน  
- นอนโฮมสเตย์บ้านหนองหลวง - ชอบบรรยากาศการดื่มเบยลาว มีชาวบ้าน มีลูกหาบ มานั่งพูดคุย เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้  
- Zip line  - รอบนี้จะขาด Zip line ไม่ได้ เพราะพวกเราอยากเล่นมากๆ จะบอกได้ว่าตั้งใจมาเล่นเลย

สถานที่ท่องเที่ยวที่ไป
- บ้านหนองหลวง - เป็นหมู่บ้านที่อยู่บริเวณเทือกเขาโบโลเวน จากปากเซ - บ้านหนองหลวง ระยะทาง 62km
- ตาดสักการะ - อยู่ในเทือกเขาโบโลเวน ต้องเดินจากหมู่หนองหลวง เดินเท้าไป 7km ค้างแรมในป่า 1 คืน มีจุดตั้งแคมป์
- ตาดฟาน - อยู่ถนนสาย 16E  จากปากเซ - ตาดฟาน 38 กิโลเมตร จะมีป้ายบอกให้เลี้ยวขวา (ต้องสังเกตดีๆ)
- วัดพูสะเหลา - ทางขึ้นจะอยู่ก่อนข้ามสะพานเข้าไปยังเมืองปากเซ เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของปากเซ
- ปราสาทวัดพู - เมืองจำปาสัก ขี่รถไปประมาณ 42km

วันที่ 1 - การเดินทางไปบ้านหนองหลวง
       ผมนัดเจอสมาชิกชาวกระทิงเปลี่ยวที่ด่านช่องเม็ก ประมาณ 8.00 น. เพราะผมเองพักอยู่รีสอร์ท แถวๆด่านช่องเม็ก
ผมมาค้างแรมอยู่ก่อนหน้านี้ 1 วัน เพื่อมารอเพื่อนๆ ที่เดินทางมาจาก กทม. โดยเราต่างเดินทางมาเจอกันที่ ด่านช่องเม็ก
เราเจอกันประมาณ 8.00 น. ทานอาหารเช้าแถวช่องเม็ก
ทำเรื่องผ่านแดนเสร็จ จะเสียค่าผ่านแดนที่ด่านวังเต่า 100 บาท เป็นอันเสร็จขั้นตอนในการเที่ยวครั้งนี้
เมื่อข้ามมายัง ด่านวังเต่า สปป.ลาว สิ่งจำเป็นที่ต้องทำก็มีดังนี้ครับ

สิ่งที่ 1 - การแลกเงิน
เมื่อเราข้ามจากด่านช่องเม็ก ยังด่านวังเต่า จะมีซุ่มรับแลกเงินอยู่ทางเดินข้ามไปยังที่ทำเรื่องเข้าเมือง สปป.ลาว  
ให้แลกตรงนั้น ค่อนข้างให้ราคาที่ดีครับ พวกเราก็แลกไป 3,000 บาท ได้เงินกีบมา 753.000kip อัตราแลกเปลี่ยน
จะอยู่ประมาณ 100 บาท จะได้ 25,000  ที่แลกไปน้อยเพราะ คิดว่าปากเซ เราคงใช้เงินบาท ทอนเงินบาทได้ (คิดผิดเล็กน้อย)
ปากเซใช้เงินบาทได้ แต่จะทอนเป็นเงินกีบ ซึ่งเราจะขาดทุนเล็กน้อย ในแต่ละครั้งที่จ่าย แนะนำให้แลกเงินกีบไปเยอะๆเลยครับ  

สิ่งที่ 2 - การสื่อสาร และ Internet
ส่วนตัวผมเอง เข้าออก สปป.ลาว อยู่เป็นประจำ จะมีทั้งซิม internet (หลัก9) และซิมโทร(หลัก5) ติดตัวไว้เสมอ
ทริปนี้ผมจัดการแค่เติมเงิน ทั้ง 2 ซิม อย่างละ 10.000kip และกดสมัครโปรโมชั่น internet Unlimited 5 วัน เป็นอันเสร็จ
การสื่อสารเป็นสิ่งจำเป็นมาก เวลาเราเดินทางในต่างประเทศ ทั้งติดต่อเพื่อนร่วมทริปในเวลามีปัญหา เช่น รถแต่ละคนมีปัญหา
หากันไม่เจอ ดู GPS หรือ หาข้อมูลที่พัก ถ้าหากเราไม่มีซิมเน็ต สามารถหาซื้อได้ที่หน้าด่านวังเต่า จะมีคนเดินมาขายเยอะมากๆ
ผมแนะนำให้ซื้อซิม Internet ของหลัก 9 สัญญาณมีถึงบ้านหนองหลวง ส่วนพื้นที่อื่นๆ หายห่วงสัญญาณดีมาก

สิ่งที่ 3 - ม้าสีหมอก
เมื่อผมข้ามถึงด่านวังเต่า ผมได้ติดต่อรถตู้ไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะไปส่งพวกเราที่เมืองปากเซ เพราะต้องเช่ารถมอเตอร์ไซด์ขี่เที่ยวอีก
แถวด่าน ไม่มีรถมอเตอร์ไซด์ให้เช่านะครับ จึงต้องเข้าไปที่ตัวเมืองปากเซก่อน เพื่อหารถเช่าเอาแถวนั้น รถค่อนข้างเยอะและราคาไม่แพง
ส่วนรถตู้ VIP ก็ตกลงกันวันไปส่งและวันมารับ ที่ปากเซ เพราะขากลับเราก็ต้องคืนรถ และให้รถตู้มาส่งที่ด่าน

เมื่อเราทำเรื่องครบทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว ก็เก็บของขึ้นรถตู้พร้อมออกเดินทางไปปากเซ

นั่งรถประมาณ 30 นาที ก็ใกล้ถึงปากเซแล้วครับ
เมื่อมาถึงปากเซ ต้องหามาสีหมอก เพื่อใช้สำหรับเดินทางในทริป และก็เจอร้านเช่าแล้ว อยู่หน้าที่พัก " Vilaysing Guest House "
ก็ได้ถูกสุด 40.000kip/วัน ต่อรองแล้ว ก็ประมาณวันละ 160 บาท/วัน ทำสัญญาเช่า 4 วัน โดยต้องมี Passport ไว้เป็นหลักฐานด้วยนะครับ
ทางทีมร้านเช่ารถจะพาเดินมาเลือกรถและหมวกกันน๊อค ตรงนี้เหมือนเป็นร้านเช่ารถจริงๆครับ
สมาชิกในทริปพร้อมออกเดินทาง เหมือนม้ากำลังอยากออกศึก พี่อั้มเติมพลังไปบ้าง ระยะทางจากตรงนี้ไปปากซอง 50km
คงใช้เวลาราวๆ 1 ชม. สำหรับการขี่รถ กินลม ชมวิว อิอิ
เมื่อออกเดินทางสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ น้ำมัน ต้องเติมเต็มถังไว้นะครับ เติมไปประมาณ 30.000kip ถึงไหนถึงกันคร๊าบบ
ราคาน้ำมันลิตรละ 7.730 kip หรือ ลิตรละ 30 บาท
ถ้าพร้อมแล้ว ไปครับ ... "ไปให้สุดขอบฟ้าา จะไม่มองย้อนมา"  หนทางอีกยาวไกล ฟ้าก็ครึ้มๆ แดดอ่อนๆ ลมเย็นๆ ไม่ร้อนมาก
เริ่มออกนอกเมืองปากเซ ก็จะเจอเส้นทางราดยาง แต่ก็มีการขยายถนนไปด้วย ก็ต้องระวังหินนิดหน่อยครับ ข้างทางกำลังปรับปรุง
ถนนจะเป็นแบบนี้จนถึงปากซองเลยครับ โปรดระวังเลยครับ
ขี่รถจากปากเซมาได้สักพัก 18km ก็จะพบกันโรงงานกาแฟดาว หรือ Dao Coffee Factory , ໂຮງງານ ກາເຟດາວ
วันแรกเราจะมุ่งหน้าอย่างเดียว แล้วก็มาถึงปั้ม ปตท.ปากซอง ประมาณ 12.10 น. เราก็พักทานข้าวเที่ยงกัน
เราสั่งขาหมูมาทานกัน ร้านนี้อยู่ในปั้ม ปตท. เลยนะครับ เจ้าของร้านเป็นคนไทย  ขาหมูจานละ 18.000kip

อิ่มแล้วไปต่อครับ ต้องไปหาเสบียงที่ตลาดปากซองอีกหลายอย่าง เมนูที่คิดไว้ ก็มี หมูกระทะ ทอดหมู ไข่ต้ม
เครื่องครัวก็มีทุกอย่าง ผักก็หาได้ครับ ไม่ต้องหิ้วมาจากไทยเด้อ มาแถวนี้เลยครับ สะดวก และสดด้วยครับ
เมื่อหาทุกอย่างครบแล้ว ก็ต้องลุยต่ออีก 12km เพื่อไปบ้านหนองหลวง ต่อไปนี้ คือทางดินล้วนๆฝนใหม่ๆ พอเริ่มเข้าถนนก็ได้ลุ้นแล้วครับ
หน้าพี่มะเดี่ยว คงสนุกกับการลุยขี้ตม หน้าบ่งบอกว่ามันส์มากๆ  555555
พี่ต๊ะ ตะลุยมา เหมือนรถปัดท้ายนะครับ  ผมนี่ ยืนช่วยลุ้นเลย คุมรถดีๆพี่  ฮ๋าๆๆ
ทางสุดโหดครับ ช่วงนี้ฝนตกใหม่ๆ เละเป็นเละ เปื้อนเป็นเปื้อน การขี่ก็ขี่ช้าๆนะครับ มือนิ่งๆ เพราะมันลื่นมากๆ เดินยังเซ เลยครับ
ถึงบ้านหนองหลวงแล้วครับ เวลาประมาณ 15.00 น. เติมพลัง จัดกระเป๋า เจอลูกหาบ พร้อมออกเดินทางไปจุดตั้งแคมป์แล้ว
ได้เวลาเดินเท้าเข้าป่า ไปจุดตั้งแคมป์แล้ว ตลอดระยะทางเดินเท้า 6km เดินตามทางหมู่บ้าน ทางชัด ไม่ชันมาก เดินทางราบ
10 เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ ยังรู้พลั้ง จะเดินแข็งจากไหน ก็มีพลาดได้บ้างนะครับ  555555+
เดินต่อไปเรื่อยๆ  ใช้เวลาเดินเท้า จากหมู่บ้านหนองหลวง ถึงตั้งแคมป์ ประมาณ 2 ชม. ฝนก็เริ่มตกปรอยๆ รู้สึกงานจะเข้าซะแล้ว
หลังจากตั้งแคมป์ พวกเราก็เริ่มตั้งวง พี่อั้มเป็นคนเปิดน้ำหวานก่อน และน้องเต้ยเฝ้าระวังทาก เพราะจุดที่เราไปนอน คือดงทากชัดๆ
พี่ต๊ะ ก็คอยดูแลเรื่องแคมป์ พี่มะเดียว ทอดหมูให้กินไปพรางๆ เพราะก่อไฟยังไม่ได้ เลยต้องใช้แก๊ซช่วยไปเบื้องต้น
หลังจาก ก่อกองไฟนานแสนนาน ฟื้นค่อนข้างชื้นมากๆ ก็สามารถทำ ซิ้นดาด(หมูกระทะ) ได้แล้ว ได้กินกันหมด ทั้งพวกผมและลูกหาบ

วันที่ 2 - ตาดสักการะ
สภาพแคมป์ที่เรานอนกันครับ เละเป็นโจ๊ก หลังจากฝนตกหนักทั้งคืน กระเป๋า ถุงนอนเปียกหมด แต่เราก็ยังนอนหลับเนอะ 55555+
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ประมาณ 09.30 น. ก็พร้อมเดินทางไป ตาดสักการ ระยะทางจากแคมป์ไปตาดสักการะ ประมาณ 1km
แต่ทางชันมากๆ เหมือนตามหน้าผาลงไปครับ คือหลายๆจุดต้องใช้เชือกมัด และดึงเชือกลงไป
ชาวบ้านเริ่มมัดเชือกไว้ตามจุดต่างๆ ให้เราดึงไปตามเชือก เพราะทางชันมาก ผมก็ไม่เคยเดินชันๆแบบนี้ บางเส้นต้องถางป่าเข้าไป
เริ่มไต่เชือกลงไปเรื่อยๆครับ ช่วงนี้จะค่อนข้างช้า เพราะต้องปลอดภัยเป็นอันดับแรกก่อนเสมอ เราจะไม่เสี่ยงครับ
จุดนี้เป็นอะไรที่ยากมากๆครับ ต้องให้พี่ลูกหาบ คอยจับเท้าวางให้ และก็ค่อยๆดึงเชือกลงมา
ไม่ว่าจะใครละครับ ตะไคร่น้ำก็เยอะ ลื่นก็ลื่น ต้องไต่ลงมาช้าๆ
ไต่หินมาเรื่อยๆ ได้ยินเสียงน้ำตกดังขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เจอน้ำตกแล้ว
พวกเราก็ได้เจอน้ำตกสักการะ แล้ววว หรือชาวลาวจะเรียกว่า "ตาดสักการะ"  
ใช้เวลาเดินเท้ามาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ก็ถึงครับ ระยะทาง 1km แต่ต้องระวังเดินกันระวังมากๆครับ
สภาพมอมแมมมากๆครับ ทั้งคลาน ทั้งมุด ทั้งกลิ้ง ช่วงนี้คือฟ้าปิดตลอด หมอกก็เยอะครับ
ชื่อสินค้า:   กรุบกริบทัวร์ - https://www.facebook.com/angkhanphotograph
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่