เป็นหนึ่งคนที่จะพยายามจะใช้ Samsung Pay ทุกครั้งถ้ามีโอกาส
และเท่าที่ใช้มา หลายๆครั้ง ขอจำแนกพนักงานที่เจอออกเป็น 3 กลุ่ม
1. ประเภทที่คล่อง ใช้เป็น ถือว่าเป็นจำพวกที่ช่ำชอง ไม่มีอาการงงอะไร ซึ่งน่าจะรู้จักหรือคุ้นเคยกับการจ่ายด้วยระบบนี้มาก่อน
2. ประเภทที่ไม่เคยใช้มาก่อน แต่ยินยอมที่จะลอง กลุ่มนี้จะเริ่มมีอาการงงเล็กๆ อาจจะมีตะกุกตะกักชะเง้อหารุ่นพี่/ผู้จัดการมาช่วยบ้าง แต่ก็ถือว่าให้ความร่วมมือในการใช้กับเราด้วยดี
3. ประเภทที่ไม่เคยใช้ และไม่คิดที่จะเรียนรู้ใดๆ...และพยายามหาข้ออ้างต่างๆนานามาปัดสวะให้พ้นตัว
โชคดีที่ตลอด 2-3 เดือนที่ผมใช้มา
มักจะเจอพนักงานกลุ่มสอง เป็นส่วนใหญ่
เจอกลุ่มแรกที่คล่องๆบ้าง โดยส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานที่ Tops Supermarket / CTFH
(ผมอยู่ จ.เชียงใหม่ จะว่าไปแล้วแสดงว่าน่าจะมีคนเชียงใหม่ใช้ Samsung Pay บ้างพอสมควรนะนี่ )
จนมาเมื่อครู่ เป็นครั้งแรกเลย ที่ต้องเผชิญกับพนักงานประเภทที่ 3 เป็นครั้งแรก
เป็นพนักงานหญิง ที่ดูมีอายุหน่อย
พนักงาน : " ทั้งหมด...xxx...บาท นะคะ"
เรา : " โอเคครับ จ่ายด้วยบัตรครับ" (พร้อมควักมือถือออกมา สแกนนิ้วเตรียมแตะ)
พนักงาน : " แบบนี้ใช้จ่ายไม่ได้นะคะ. . . .เครื่องยังไม่ได้ลงโปรแกรม "
เรา : " ไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรเพิ่มนะครับ ใช้ได้เลย"
พนักงาน : " ต้องเป็นเครื่องรุ่นใหม่ค่ะ เครื่องที่นี่ใช้ไม่ได้ "
เรา : (เริ่มโดนมั่วไปกันใหญ่ละ) "โดยปกติเครื่อง edc รับชำระวิธีนี้ได้ทุกเครื่องอยู่แล้วครับ.."
พนักงาน : " จ่ายไม่ได้จริงๆค่ะ "
เรา : "เคยลองแล้วเหรอครับ....ปกติผมจ่ายวิธีนี้ที่สาขาอื่นยังจ่ายได้เลย"
พนักงาน : (ไม่ตอบ...ทำหน้าเอือมใส่...เคาะปุ่มสองสามที แล้วทำมือเชิญเราให้ลองแตะจ่าย)
เรา : (แตะจ่ายไปปกติ...)
~ เงียบไปราวๆ 4-5 วิเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ~
พนักงาน : "เห็นมั๊ยคะ จ่ายไม่ได้จริงๆ" (ทำหน้าแบบผู้ชนะ)
~ หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีสลิปบัตรเครดิตก็พิมพ์หมุนออกมา...~
เรา : " แบบนี้ที่เรียกว่าใช้ไม่ได้ใช่ไหมครับ ???. . . ." (ตอนนั้นเครื่องเริ่มร้อนแล้ว เลยแอบแซะไปเบาๆ)
เรา : " คราวหน้าคราวหลังอย่าเพิ่งบอกว่าไม่ได้สิคุณ ลองดูก่อน เรียนรู้อะไรใหม่ๆ
แล้วถ้าวันนี้ผมไม่มาพยายามใช้ สักวันก็จะมีคนอื่นมาพยายามลองใช้กับคุณอยู่ดี คุณจะหนีเทคโนโลยีพวกนี้ไปได้ยังไง "
พนักงาน : "ค่ะ" (เสียงอยู่ในลำคอ)
~ ระหว่างบทสนทนาข้างบนก็เซ็นสลิปเสร็จพอดี...~
เรา : " ขอบคุณนะครับ " (แล้วก็เดินหิ้วถุงออกมา)
อยากจะบอกว่า คนเราทุกคนมีเรื่องที่เราไม่รู้ จึงต้องมีการเรียนรู้
สิ่งที่เลวร้ายกว่าความไม่รู้ คือรู้ไม่จริง ไม่คิดจะเรียนรู้ แล้วแถมยังโชว์ความไม่รู้ออกมามั่วๆ นี่แหละ
พนักงานที่มีอายุ มีความอาวุโส น่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพนักงานรุ่นใหม่นะครับ
ไม่ใช่ไม่พัฒนา ไม่เรียนรู้อะไรเลย อยู่กับที่แบบนี้
หากวันนีงโดนโละออกจากงานขึ้นมา ก็เดือดร้อนอีก
อันที่จริงที่ผมพยายามใช้ SamsungPay เพราะชอบและอยากผลักดัน cashless society (Wallet ผมก็ใช้แทบทุกอย่างที่มีโอกาส)
ไม่ใช่ว่าใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อโชว์เท่อะไร มันก็มีมาเกือบขวบปีแล้ว
มันทำให้เราสะดวก ไม่ต้องพกไม่ต้องควักเงินสด
มือถือก็มักจะอยู่ในมือตลอดอยู่แล้ว สะดวกกว่าการควักบัตรแน่ๆ
ในขณะที่บัตรและเลขบัตรของเราก็ไม่ต้องไปผ่านมือผ่านตาใครด้วย
ดังนั้นจึงขอนำเรื่องนี้มาบอกเล่า และขอโทษหลายๆคนที่อาจจะเคยต่อคิวถัดจากผม หรือคนอื่นๆ ที่ใช้ Samsung Pay
อาจจะสงสัยว่าคนพวกนี้มันรุงรังอะไรพนักงานกัน ทำไมบางทีจ่ายช้า ทำไมบางทีก็ทำเรื่องอะไรที่พนักงานไม่รู้ให้มันยุ่งยาก
ซึ่งผมอยากจะอธิบายว่าถ้าไม่มีพวกคนรุงรังซึ่งเป็นพวกตัวตายตัวแทนนี้ อีกสองปีข้างหน้า 2562
เราก็จะยังต้องมาเจอข้ออ้าง "เครื่องรุ่นเก่ายังใช้ไม่ได้ค่ะ" / "เครื่องยังไม่ได้ลงโปรแกรมค่ะ"
ขอยืนยันว่าตัวผมเองจะเป็นหนึ่งเสียง หนึ่งแรง ที่พยายามผลักดันและใช้งาน Samsung Pay ต่อไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสครับ
และเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังใช้อยู่ หรืออยากที่จะลองใช้ แต่ไม่กล้าบ้าง กลัวหน้าแตก กลัวใช้ไม่ได้บ้าง
ขอสนับสนุนว่าอย่าไปกลัวครับ พยายามลองใช้ดู ไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยจ่ายวิธีอื่นไป มันไม่ได้เสียเวลาคนอื่นเยอะหรอก
ซึ่งเท่าที่ผมใช้มาแทบจะจ่ายได้สำเร็จ 100% มีเพียงแค่ไม่กี่ครั้งที่ไม่ได้ในครั้งแรก แล้วต้องลองทำซ้ำเป็นครั้งที่สองจึงจะได้
(แต่ไม่ใช่ประเภทที่ลองแล้วไม่ได้จริงๆ ก็ยังหัวแข็ง ลองซ้ำเรื่อยๆหลายรอบแบบไม่เกรงใจคิวข้างหลังทั้งที่ยาวเหยียดเป็นกิโลนะครับ ไม่สนับสนุนแบบนั้นเช่นกัน)
ปล.....อาจจะเอ๊ะ ดูเหมือนผมมาโฆษณาให้ซัมซุงเลย 55555 แต่จริงๆไม่ใช่นะครับ เพราะตอนนี้ Samsung Pay เป็นระบบเดียว
ที่เราจะสร้าง Payment โดยใช้มือถือแทนบัตรเครดิตได้
คือถ้ามีระบบใดๆ เข้ามาอีกเพิ่มเติม เช่น Apple pay ผมก็พร้อมที่จะใช้เช่นกันครับ เพราะปกติก็พกมือถือทั้งระบบ iOS และ android อยู่แล้วครับ ^^
. . . . . จากใจคนๆ นึง ที่พยายามใช้ Samsung Pay มาตลอด 3 เดือน . . . .
และเท่าที่ใช้มา หลายๆครั้ง ขอจำแนกพนักงานที่เจอออกเป็น 3 กลุ่ม
1. ประเภทที่คล่อง ใช้เป็น ถือว่าเป็นจำพวกที่ช่ำชอง ไม่มีอาการงงอะไร ซึ่งน่าจะรู้จักหรือคุ้นเคยกับการจ่ายด้วยระบบนี้มาก่อน
2. ประเภทที่ไม่เคยใช้มาก่อน แต่ยินยอมที่จะลอง กลุ่มนี้จะเริ่มมีอาการงงเล็กๆ อาจจะมีตะกุกตะกักชะเง้อหารุ่นพี่/ผู้จัดการมาช่วยบ้าง แต่ก็ถือว่าให้ความร่วมมือในการใช้กับเราด้วยดี
3. ประเภทที่ไม่เคยใช้ และไม่คิดที่จะเรียนรู้ใดๆ...และพยายามหาข้ออ้างต่างๆนานามาปัดสวะให้พ้นตัว
โชคดีที่ตลอด 2-3 เดือนที่ผมใช้มา
มักจะเจอพนักงานกลุ่มสอง เป็นส่วนใหญ่
เจอกลุ่มแรกที่คล่องๆบ้าง โดยส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานที่ Tops Supermarket / CTFH
(ผมอยู่ จ.เชียงใหม่ จะว่าไปแล้วแสดงว่าน่าจะมีคนเชียงใหม่ใช้ Samsung Pay บ้างพอสมควรนะนี่ )
จนมาเมื่อครู่ เป็นครั้งแรกเลย ที่ต้องเผชิญกับพนักงานประเภทที่ 3 เป็นครั้งแรก
เป็นพนักงานหญิง ที่ดูมีอายุหน่อย
พนักงาน : " ทั้งหมด...xxx...บาท นะคะ"
เรา : " โอเคครับ จ่ายด้วยบัตรครับ" (พร้อมควักมือถือออกมา สแกนนิ้วเตรียมแตะ)
พนักงาน : " แบบนี้ใช้จ่ายไม่ได้นะคะ. . . .เครื่องยังไม่ได้ลงโปรแกรม "
เรา : " ไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรเพิ่มนะครับ ใช้ได้เลย"
พนักงาน : " ต้องเป็นเครื่องรุ่นใหม่ค่ะ เครื่องที่นี่ใช้ไม่ได้ "
เรา : (เริ่มโดนมั่วไปกันใหญ่ละ) "โดยปกติเครื่อง edc รับชำระวิธีนี้ได้ทุกเครื่องอยู่แล้วครับ.."
พนักงาน : " จ่ายไม่ได้จริงๆค่ะ "
เรา : "เคยลองแล้วเหรอครับ....ปกติผมจ่ายวิธีนี้ที่สาขาอื่นยังจ่ายได้เลย"
พนักงาน : (ไม่ตอบ...ทำหน้าเอือมใส่...เคาะปุ่มสองสามที แล้วทำมือเชิญเราให้ลองแตะจ่าย)
เรา : (แตะจ่ายไปปกติ...)
~ เงียบไปราวๆ 4-5 วิเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ~
พนักงาน : "เห็นมั๊ยคะ จ่ายไม่ได้จริงๆ" (ทำหน้าแบบผู้ชนะ)
~ หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีสลิปบัตรเครดิตก็พิมพ์หมุนออกมา...~
เรา : " แบบนี้ที่เรียกว่าใช้ไม่ได้ใช่ไหมครับ ???. . . ." (ตอนนั้นเครื่องเริ่มร้อนแล้ว เลยแอบแซะไปเบาๆ)
เรา : " คราวหน้าคราวหลังอย่าเพิ่งบอกว่าไม่ได้สิคุณ ลองดูก่อน เรียนรู้อะไรใหม่ๆ
แล้วถ้าวันนี้ผมไม่มาพยายามใช้ สักวันก็จะมีคนอื่นมาพยายามลองใช้กับคุณอยู่ดี คุณจะหนีเทคโนโลยีพวกนี้ไปได้ยังไง "
พนักงาน : "ค่ะ" (เสียงอยู่ในลำคอ)
~ ระหว่างบทสนทนาข้างบนก็เซ็นสลิปเสร็จพอดี...~
เรา : " ขอบคุณนะครับ " (แล้วก็เดินหิ้วถุงออกมา)
อยากจะบอกว่า คนเราทุกคนมีเรื่องที่เราไม่รู้ จึงต้องมีการเรียนรู้
สิ่งที่เลวร้ายกว่าความไม่รู้ คือรู้ไม่จริง ไม่คิดจะเรียนรู้ แล้วแถมยังโชว์ความไม่รู้ออกมามั่วๆ นี่แหละ
พนักงานที่มีอายุ มีความอาวุโส น่าจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับพนักงานรุ่นใหม่นะครับ
ไม่ใช่ไม่พัฒนา ไม่เรียนรู้อะไรเลย อยู่กับที่แบบนี้
หากวันนีงโดนโละออกจากงานขึ้นมา ก็เดือดร้อนอีก
อันที่จริงที่ผมพยายามใช้ SamsungPay เพราะชอบและอยากผลักดัน cashless society (Wallet ผมก็ใช้แทบทุกอย่างที่มีโอกาส)
ไม่ใช่ว่าใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อโชว์เท่อะไร มันก็มีมาเกือบขวบปีแล้ว
มันทำให้เราสะดวก ไม่ต้องพกไม่ต้องควักเงินสด
มือถือก็มักจะอยู่ในมือตลอดอยู่แล้ว สะดวกกว่าการควักบัตรแน่ๆ
ในขณะที่บัตรและเลขบัตรของเราก็ไม่ต้องไปผ่านมือผ่านตาใครด้วย
ดังนั้นจึงขอนำเรื่องนี้มาบอกเล่า และขอโทษหลายๆคนที่อาจจะเคยต่อคิวถัดจากผม หรือคนอื่นๆ ที่ใช้ Samsung Pay
อาจจะสงสัยว่าคนพวกนี้มันรุงรังอะไรพนักงานกัน ทำไมบางทีจ่ายช้า ทำไมบางทีก็ทำเรื่องอะไรที่พนักงานไม่รู้ให้มันยุ่งยาก
ซึ่งผมอยากจะอธิบายว่าถ้าไม่มีพวกคนรุงรังซึ่งเป็นพวกตัวตายตัวแทนนี้ อีกสองปีข้างหน้า 2562
เราก็จะยังต้องมาเจอข้ออ้าง "เครื่องรุ่นเก่ายังใช้ไม่ได้ค่ะ" / "เครื่องยังไม่ได้ลงโปรแกรมค่ะ"
ขอยืนยันว่าตัวผมเองจะเป็นหนึ่งเสียง หนึ่งแรง ที่พยายามผลักดันและใช้งาน Samsung Pay ต่อไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสครับ
และเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่กำลังใช้อยู่ หรืออยากที่จะลองใช้ แต่ไม่กล้าบ้าง กลัวหน้าแตก กลัวใช้ไม่ได้บ้าง
ขอสนับสนุนว่าอย่าไปกลัวครับ พยายามลองใช้ดู ไม่ได้จริงๆ ก็ค่อยจ่ายวิธีอื่นไป มันไม่ได้เสียเวลาคนอื่นเยอะหรอก
ซึ่งเท่าที่ผมใช้มาแทบจะจ่ายได้สำเร็จ 100% มีเพียงแค่ไม่กี่ครั้งที่ไม่ได้ในครั้งแรก แล้วต้องลองทำซ้ำเป็นครั้งที่สองจึงจะได้
(แต่ไม่ใช่ประเภทที่ลองแล้วไม่ได้จริงๆ ก็ยังหัวแข็ง ลองซ้ำเรื่อยๆหลายรอบแบบไม่เกรงใจคิวข้างหลังทั้งที่ยาวเหยียดเป็นกิโลนะครับ ไม่สนับสนุนแบบนั้นเช่นกัน)
ปล.....อาจจะเอ๊ะ ดูเหมือนผมมาโฆษณาให้ซัมซุงเลย 55555 แต่จริงๆไม่ใช่นะครับ เพราะตอนนี้ Samsung Pay เป็นระบบเดียว
ที่เราจะสร้าง Payment โดยใช้มือถือแทนบัตรเครดิตได้
คือถ้ามีระบบใดๆ เข้ามาอีกเพิ่มเติม เช่น Apple pay ผมก็พร้อมที่จะใช้เช่นกันครับ เพราะปกติก็พกมือถือทั้งระบบ iOS และ android อยู่แล้วครับ ^^