▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
จังหวัดฉะเชิงเทรา
เที่ยวตลาดน้ำ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
One Day Trip
แปดริ้ว กินเที่ยวเพลินๆใน 1 วัน
https://www.facebook.com/man.money.month/
ทริปนี้มีนต้องขอขอบคุณการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่มีบริการรถไฟฟรี ชั้น 3 คอยให้บริการแก่ประชาชน ในการเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ
การขึ้นรถไฟชั้น 3 อาจไม่สะดวกสะบายเหมือนรถยนต์ส่วนตัว ไม่หรูหราสวยงามเหมือนรถไฟชั้น 1 แต่ในตู้รถไฟชั้น 3 มีเพื่อนร่วมทางที่ไม่ว่าเราจะไปไหน มันก็ไปกับเรา ไปลำบากกับเรา ไปสนุกกับเรา โดยที่ไม่ต้องใช้เงินอะไรมากมาย ในเมื่อจุดหมายปลายทางก็ไปถึงได้เช่นเดียวกัน
เอาล่ะ หลังจากพรรณนาเรื่องรถไฟชั้น 3 แล้ว เราจะขอเล่าต่อเลยแล้วกัน
แม้จะไม่มีรถยนต์ เราก็ไปเที่ยวเมืองแปดริ้วได้นะเออ เที่ยวแบบเรา ชิวๆ สบายๆ แต่ขากลับจะเหนื่อยหน่อย หรืออาจจะเหนื่อยไม่หน่อยก็ได้นะ
แล้วมีเวลา 1 วัน นั่งรถไฟไป จะพาไปกิน แล้วก็เที่ยวไปในตัว ก็มันช่วยไม่ได้นี่ ของกินเมืองแปดริ้วมันยั่วน้ำลายซะเหลือเกิน เริ่มตั้วแต่ยังไม่ทันถึงแปดริ้ว ก็มีป้าๆเดินขายของ ทั้งคาวและหวาน ในรถไฟกันเป็นว่าเล่น
เอาล่ะ ถึงแล้วค่ะ เมืองแปดริ้ว
“แม่น้ำบางปะกงแหล่งชีวิต พระศักดิ์สิทธิ์หลวงพ่อโสธร พระยาศรีสุนทรปราชญ์ภาษาไทย อ่างฤๅไนป่าสมบูรณ์”
ก่อนอื่นเราต้องออกจากสถานีรถไฟ หากหันหน้าเข้าหาสถานีรถไฟให้เราเดินไปทางซ้ายมือ ประมาณ 10 นาที หากไม่อยากเดินแนะนะขึ้นรถสองแถวค่ะ คันสีขาวมีแถบสีเขียว เพื่อไปยังตลาดสดขนส่งค่ะ ถึงแล้วเดินหารถสองแถวคันสีส้มเลยค่ะ ที่แรกที่เราจะไปคือตลาดน้ำบางคล้า ไปเดินหาของกินของฝากกันที่นี่ค่ะ
การเดินทางโดยรถสองแถวสีส้มจากตลาดสดขนส่งไปตลาดน้ำบางคล้า ใช้เวลาเดินทางราว 45 นาที สิ้นสุดปลายทางของรถสองแถวสีส้ม เราต้องเดินเท้ากันต่อราว 10 นาทีค่ะ เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอกับป้ายบอกทางไปตลาดน้ำบางคล้าเป็นระยะๆ
ตลาดน้ำบางคล้า มีความพิเศษในเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ส่วนใหญ่จำหน่ายสินค้าทางเรือ โดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายนั้นเป็นสินค้าที่ผสมผสานความเป็นไทยในอดีตกับปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้บรรจุภัณฑ์ หีบห่อของอาหารที่ทำจากใบตอง ภาชนะใส่เครื่องดื่มทำจากดินปั้นดิเผา เป็นต้น อีกทั้งยังมีอาหารคาวหวานให้เลือกมากมาย เช่น หมูสะเต๊ะ ห่อหมก กุ้งเผา ปลาเผา ส้มตำ ปลาหมึกย่าง ขนมจ้าง หมี่กรอบ ข้าวหลาม กะหรี่ปั๊บ และขนมไทยอื่นๆ อีกมากมาย
เมื่อท้องอิ่มเราก็เดินเท้ากลับไปยังจุดขึ้นรถสองแถวคันสีส้มเพื่อเดินทางต่อค่ะ จุดขึ้นรถสองแถวเป็นคิวรถสามล้อเครื่องไทยโบราณ ตำนานบางคล้า ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นรถที่ไม่ได้เห็นทั่วไปค่ะ ที่นั่นเค้าเรียกกันว่า สกายแล็ป โดยที่คิวรถแห่งนี้จะมีทั้งรถสองแถว รถสามล้อเครื่อง และรถสกายแล็ปที่ไม่ได้มีให้เห็นกันทั่วไปนะคะ พี่ๆที่นี่เค้าใจดีค่ะ ขอนั่งถ่ายรูปเป็นคนขับ พี่ๆเค้าอาสานั่นเป้นผู้โดยสารให้ด้วย
#ไปบางคล้าลองแวะใช้บริการสกายแล็ปและสามล้อเครื่องของที่นี่ดูนะคะ (จุดลงรถสองแถวสายสีส้ม หากไม่อยากเดินไปยังตลาดน้ำบางคล้าก็สามารถใช้บริการพี่ๆเค้าได้นะคะ)
เรานั่งรถสองแถวคันสีส้มไปลงหน้าสถานีรถไฟค่ะ จากนั้นรอรถสองแถวฝั่งหน้าสถานีคันสีเหลืองเพื่อไปจุดหมายต่อไปนั่นคือ วัดโสธรวรารามวรวิหาร วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองฉะเชิงเทรา เป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร พระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพสักการะของชาวแปดริ้วค่ะ
ก่อนเดินเข้าวัด เราก็สังเกตเห็นน้ำตาลสดที่สีไม่เหมือนน้ำตาลสดทั่วๆไปค่ะ เพราะน้ำตาลสดที่นี่สีน้ำตาลเข้ม มีลักษณะเหมือนน้ำตาลไหม้ก็ว่าได้