จุดเริ่มต้น!!! ของสัมผัสพิเศษ (สัมผัสที่ 6)

สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมในการเขียนพันทิป ดังนั้นหากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยครับ

ก่อนอื่นผมต้องขอกล่าวก่อนว่า เรื่องราวที่จะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวผมจริงๆ ไม่ได้มีเจตนา ลบหลู่ ดูหมิ่น ส่งเสริม หรือเจตนาอื่นๆแอบแฝงในกระทู้นี้ และไม่ได้มีเจตนาพลาดพิงถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง

ขอแนะนำตัวเองก่อนครับ ผมชื่อ ณ (นามแฝง ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อจริงนะครับ) เป็นคนธรรมดาคนนึงที่เกิดและเติบโตในต่างจังหวัด ซึ่งผมเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมืองที่มีประวัติศาสตร์และบารมีขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมไม่เคยสัมผัสหรือพบเจอกับสิ่งลี้ลับเลยสักครั้งเดียว แต่เรื่องราวมันเริ่มจากการที่ผมเรียนจบในระดับชั้นมัธยมศึกษา และสอบเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของภาคใต้ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ผมเองไม่เคยไปจังหวัดภูเก็ตเลยสักครั้ง และครั้งนี้เป็นวันที่ผมจะต้องไปสอบสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัย นับเป็นครั้งแรกที่ได้มาสัมผัสกลิ่นอายของทะเลฝั่งอันดามัน ไม่น่าเชื่อว่าทุกอย่างในวันนั้นมันจะลงล็อคไปหมด คุณพ่อและคุณแม่ของผมแยกกันทำงานคนละจังหวัด คุณพ่อของผมทำงานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ส่วนคุณแม่อยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ดังนั้นการเดินทางไปยังภูเก็ตผมจึงเดินทางไปด้วยตัวคนเดียว เพราะมีคุณพ่อรอรับอยู่ที่สถานีขนส่งจังหวัดภูเก็ต วันนั้นผมเดินทางไปถึงตอนเย็นแล้ว ดังนั้นคุณพ่อจึงรีบพาไปดูสถานที่สอบและตอนกลับจากมหาวิทยาลัยคุณพ่อได้พูดอย่างเสียงเบาๆว่า
พ่อมีเรื่องจะบอก "คือวันพรุ่งนี้พ่อติดงานเช้ามากๆเลย ทำให้ไม่สามารถมานอนกับลูกและพาลูกไปสอบได้นะ"
ผมก็ตอบไปว่า "ไม่เป็นไรครับ พ่อไปทำงานเถอะ ผมไปเองได้ ลูกพ่อคนนี้โตแล้วนะ แต่พ่อพาไปหาที่พักใกล้ๆด้วยนะครับ"

---- ขอเว้นช่วงด้วยการบรรยายสถานที่ตั้งมหาวิทยาลัยและโรงแรมนะครับ ----
- +++ - เนื่องด้วย มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ทางไปป่าตอง อยู่ติดกับเชิงเข้ากระทู้พอดี คุณพ่อจึงพาไปพักโรงแรมใกล้เคียง โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ทางโค้งพอดี ลักษณะทางโค้งนี้จะมีทุ่งนาป่ารกร้างข้างทางโดยระดับของถนนและทุ่งนาจะต่างกันประมาณตึกหนึ่งชั้นครึ่ง เรียกได้ว่าเหมือนเป็นเหวลึกลงไปจากระดับถนนพอสมควร โรงแรมแห่งนี้ทอดตัวตั้งฉากกับถนนพอดี และชั้น 1 ของโรงแรมนั้น อยู่ในระดับเดียวกับถนน - +++ -

(ตอนนี้ประมาณเวลา 18.00 น.) เมื่อไปถึงที่โรงแรมก็เชคอินเข้าห้องพัก ผมไม่ได้จองมาก่อน จึงเลือกห้องไม่ได้เท่าไหร่ และแจ้งเค้าไปว่าไม่ต้องเอาห้องชั้นบนก็ได้ ขอเป็นห้องไหนก็ได้ครับเพราะนอนแค่แปบเดียว หลังจากได้ห้องแล้ว คุณพ่อก็ไปส่งที่ห้องและคุณพ่อก็เดินทางกลับบ้านที่กลมา ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ไม่เคยประสบพบเจอกับอะไรที่ลี้ลับมาก่อนเลย ทำให้ผมไม่ได้ไหว้เจ้าที่เจ้าทางของที่นั้นก่อนที่จะเข้าไปพักผ่อน ประกอบกับผมเองเป็นคนที่นอนหลับยากมากๆ ยิ่งต่างสถานที่จะยิ่งนอนไม่หลับ โชคดีหน่อยที่โรงแรมมีอาหารสั่งมาทานที่ห้องได้ ก็เลยไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย ด้วยความที่เป็นคนอยากรู้อยากเห็นจึงเดินสำรวจห้องพักเช็คดูความเรียบร้อยเผื่อห้องชำรุดจะได้แจ้งพนักงาน สรุปคือห้องเรียบร้อยดี ทุกอย่างก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แต่หลังห้องมีกรงเหล็กกันขโมย ไอ้เราก็ไม่คิดมากเพราะคิดว่าชั้นหนึ่งอาจจะมีคนปีนมาขโมยของก็ได้ ดีแล้วที่มีกรงเหล็ก ชะเง้อดูจากกรงเหล็กก็ค่อนข้างเป็นเหวลึกลงไปพอสมควร เป็นทุ่งหญ้าวัชพืชรกร้างที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย ระเบียงหลังห้องค่อนข้างกว้างพอสมควร ประตูหลังห้องอยู่ติดกับประตูห้องน้ำ โอเค เช็คเสร็จเรียบร้อย อากาศก็ดี ปิดประตู เปิดทีวี นอนดูทีวีไปเรื่อยๆเพื่อกล่อมตัวเองให้ง่วง สรุปคือไม่มีทีท่าว่าจะง่วงเลย จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. กว่าๆ ผมได้ยินเสียงเคาะประตูจำนวน 5 ครั้ง แต่ไม่แน่ใจว่าเสียงมาจากทางไหนกันแน่

ก็อก ... ก็อก .... ก็อก ..... ก็อก ...... ก็อก

อากาศในห้องเย็นลงเฉียบพลัน (คิดไปเอง) ด้วยความสงสัยว่าเสียงมาจากไหน จึงรีบลดเสียงทีวีดู เผื่อว่ามีพนักงานมาเคาะประตูหรือปล่าว ในจังหวะที่เสียงทีวีเงียบลงนั้น ก็มีเสียงเคาะประตูอีกครั้ง ครั้งนี้เสียงมันดังชัดมากๆ และเสียงมันค่อนข้างเคาะช้าลงกว่าเดิมจำนวนครั้งเท่าเดิม 5 ครั้ง

ก็อก ...... ก็อก ....... ก็อก ........ ก็อก ......... ก็อก

(ในใจ) อื้อหือ เสียงมันมาจากหลังห้องนี้หว่า แต่เห้ยหลังห้องมีระเบียงกว้างมาก ถ้าเป็นขโมยจะมาเคาะหรอคงไม่ใช่นะ คงไม่มีใครแขนยาวพอขนาดนั้นหรอก ต้องใช่แน่ๆ เจอดีเข้าให้แล้วไงตู จะไม่เปิดประตูไปดูแน่ๆ

จังหวะนั้นผมรีบเปิดเสียงทีวีดังๆกลบเกลื่อนเลยครับ ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น พยายามบอกตัวเองว่าไม่มีอะไร แต่ด้วยความที่เป็นคนสะอาด(มั้ง) ยังไงก็ต้องอาบน้ำนอน ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ เป็นช่วงเวลาที่ผมกระพริบตาน้อยมากที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ สายตาของผมจ้องไปที่ช่องระบายอากาศของห้องน้ำ ฉากในหนังผีทุกฉากวิ่งผ่านเข้ามาให้หัวเยอะมาก กลัวว่าจะมีใครมาจ้องดู สายตาแดงๆ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น โล่งใจครับ จึงรีบอาบน้ำและไปเช็ดตัวบริเวณเตียงนอนและเปิดไฟนอน เปิดทีวีทั้งคืน เรียกได้ว่าคืนนั้นผมไม่ได้นอน ตื่นเช้ามาผมรีบเช็คเอ้าท์ตั้งแต่รุ่งสาง รีบออกไปยังมหาวิทยาลัย รอรถสองแถวก็ไม่มี เลยนั่งวินไปแทน คำตอบที่ผมเตรียมตัวมาตอบคำถามนั้นหายเกลี้ยง ไม่มีจิตใจนึกถึงเลย เพราะคิดแค่ว่า ใช่แน่ๆ เมื่อคืนที่เจอนั้น ต้องใช่แน่ๆ และพอสอบเสร็จผมก็รีบเดินทางกลับไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช และเล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ฟัง แม่ก็ปลอบขวัญยกใหญ่ คนไม่เคยเจอ พอมาเจอแบบนี้มันก็ขวัญเสียกันพอสมควรครับ และคิดว่านี่แค่ครั้งแรกนะ แล้วครั้งต่อไปล่ะ เราจะเจออีกมั้ย จะเจออะไร ก็คอยภาวนาอยู่ว่าขอให้เจอแต่สิ่งดีๆ

ครั้นถึงเวลาเปิดเทอม ผมก็ไปรายงานตัวและรับน้อง เข้ากิจกรรมต่างๆตามที่รุ่นพี่ๆได้จัดให้ แต่ก็ไม่แคล้ว สิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้นั้นมันมาหาเราอีกครั้ง
(เสียง) ครั้งแรกเป็นเสียงเรียกหาจากคนนิรนามหลังห้อง (คนหรือปล่าวนะ)
(จิตวิญญาณ) แล้วครั้งต่อไปก็เป็นความรู้สึกที่คิดไปเองหรือปล่าวกันนะ โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาตั้งแต่ตอนต้นจนจบครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่