ตามหัวข้อกระทู้ครับ และจะมาแชร์ประสบการณ์ที่ลูกผมกำลังเผชิญให้ฟัง
ผมเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวลูกสองคน ซึ่งลูกคนโตนั้นเป็นลูกติดแม่(แต่อยู่กับผม) และแม่เขาเองไม่เคยติดต่อมา ไม่เคยสนใจอะไรที่บ้านเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้ลูกไม่รู้สึกผูกพันธ์รวมทั้งไม่เคยรู้สึกว่ามีแม่ และมักจะเรียกย่าของเขาว่าแม่เสมอ ลูกคนโตผมอายุ 9 ขวบ ส่วนคนเล็กนั้น 7 ขวบ ลูกผมทั้งสองคนมักจะมีปัญหากับกิจกรรมนี้บ่อยๆ แต่คนเล็กน้อยหน่อยครับเพราะแม่เขาทิ้งไปตอนที่เขายังไม่ค่อยได้สนใจอะไรเท่าไหร่ ไม่ผูกพันธ์กับแม่อยู่แล้ว รวมทั้งจิตใจเข้มแข็งครับ พอมีกิจกรรมวันแม่ที เขาก็จะมาบอกที่บ้านว่าครูให้พาแม่ไปไหว้วันแม่ แต่หนูไม่มีแม่ ครูบอกหนูให้หยุดได้ อันนี้สำหรับเด็ก ป.1 นะครับผมคิดว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่โอเคอยู่ เพราะผมเองก็ทำงานไม่สดวกไปแทนเหมือนกัน แต่ผมก็เคยถามลูกว่ามีใครมาล้อหนูมั้ยว่าไม่มีแม่ ลูกผมก็บอกว่ามี แต่หนูจะเตะมันเวลามันล้อ ผมรู้สึกไม่โอเคที่ลูกตอบผมมาแบบนี้ แต่อีกใจนึงผมคิดว่ามันคงเป็นวิธีแก้ปัญหาความอายของเขา จึงเลือกใช้พฤติกรรมที่รุนแรง เลยบอกให้ลูกเลิกทำพฤติกรรมแบบนั้น แล้วไม่ต้องไปคุยกับเพื่อนคนนั้นแทน ลูกก็บอกว่าต้องเจอกันทุกวัน ให้ทำไง ผมก็พูดไม่ออกได้แต่ภาวนาให้เพื่อนๆที่โรงเรียนไม่ล้อเขาก็พอ
ส่วนลูกคนโต ยอมรับเลยครับว่าหนักจริงๆ ลูกคนโตผมเป็นคนค่อนข้างอ่อนแอ ทั้งร่างกายที่ป่วยบ่อยๆ และจิตใจที่ไม่ค่อยเข้มแข็ง เพราะเขาเริ่มรู้เรื่องรู้ราว และจำแม่เขาได้ มีความผูกพันธ์กับแม่เขาในระดับนึง พอมีกิจกรรมวันแม่มาที ก็จะมีการ์ดระบายสีบอกรักแม่ แล้วเขาเองก็จะเอาการ์ดวันแม่นั้นมาให้ผมตลอด ผมน้ำตาซึมทุกครั้งที่เห็นลูกคนโตทำอะไรแบบนี้ให้ อาจเป็นเพราะผมห่วงเขามากกว่าลูกคนเล็ก เพราะปู่กับย่าค่อนข้างลำเอียงไปทางคนเล็กมากกว่า ลูกคนโตสนิทกับแม่ ผม และ ผมที่สุดในบ้าน แต่เวลาเขามีอะไรในใจ เขาเลือกที่จะบอกผมมากกว่าย่าของเขา เขาเคยบอกว่าเกลียดวันแม่ ไม่อยากให้มาถึง หนูโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ มีแต่คนไม่ดี คุณครูบอกว่าใครไม่ดีให้อย่าไปคบ แต่คนล้อหนูเกือบทุกคน มีอยู่สองคนที่ดีกับหนูไม่เคยแกล้งไม่เคยล้อเลย ผมก็ได้แต่บอกลูกว่า ให้อดทน คนเราเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน สมัยพ่อยังเรียนพ่อก็โดนล้อ แต่พอโตมาแล้วพอก็รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันเป็นแค่การหยอกล้อแบบพูดไม่ได้คิด ซึ่งโตมาแล้วเพื่อนๆพวกนั้นเขาก็จะรู้สึกผิดเองแหละ เพราะพ่อเองก็เคยล้อคนอื่นแบบนี้เหมือนกันตอนเด็กๆ ลูกผมก็ยังยืนยันว่าวันแม่เขาไม่อยากไปโรงเรียนอยู่ดี เพราะอายเพื่อน
ผมคิดแล้วว่าควรจะเลิกกิจกรรมนี้ได้แล้วครับ ควรจะแค่ให้ระบายสี หรือทำอะไรเพื่อเก็บเอากลับไปให้คนที่บ้านก็พอ เพราะมันสาหัสจริงๆสำหรับคนที่ไม่มีแม่ นี่ถ้าลูกคนโตผมเขารู้ความจริงที่ว่าผมไม่ใช่พ่อแท้ๆของเขา เขาคงจะรับมันไม่ไหวแน่ๆแหละครับ ขอให้ผูกหลักผู้ใหญ่พิจรณาตรงนี้ด้วยนะครับ
กิจกรรมวันแม่ของเด็กที่โรงเรียน อาจส่งผลต่อจิตใจเด็กบางคนโดยมหาศาล ถึงเวลาแล้วรึยังที่จะยกเลิกการพาแม่ไปโรงเรียน?
ผมเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวลูกสองคน ซึ่งลูกคนโตนั้นเป็นลูกติดแม่(แต่อยู่กับผม) และแม่เขาเองไม่เคยติดต่อมา ไม่เคยสนใจอะไรที่บ้านเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้ลูกไม่รู้สึกผูกพันธ์รวมทั้งไม่เคยรู้สึกว่ามีแม่ และมักจะเรียกย่าของเขาว่าแม่เสมอ ลูกคนโตผมอายุ 9 ขวบ ส่วนคนเล็กนั้น 7 ขวบ ลูกผมทั้งสองคนมักจะมีปัญหากับกิจกรรมนี้บ่อยๆ แต่คนเล็กน้อยหน่อยครับเพราะแม่เขาทิ้งไปตอนที่เขายังไม่ค่อยได้สนใจอะไรเท่าไหร่ ไม่ผูกพันธ์กับแม่อยู่แล้ว รวมทั้งจิตใจเข้มแข็งครับ พอมีกิจกรรมวันแม่ที เขาก็จะมาบอกที่บ้านว่าครูให้พาแม่ไปไหว้วันแม่ แต่หนูไม่มีแม่ ครูบอกหนูให้หยุดได้ อันนี้สำหรับเด็ก ป.1 นะครับผมคิดว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่โอเคอยู่ เพราะผมเองก็ทำงานไม่สดวกไปแทนเหมือนกัน แต่ผมก็เคยถามลูกว่ามีใครมาล้อหนูมั้ยว่าไม่มีแม่ ลูกผมก็บอกว่ามี แต่หนูจะเตะมันเวลามันล้อ ผมรู้สึกไม่โอเคที่ลูกตอบผมมาแบบนี้ แต่อีกใจนึงผมคิดว่ามันคงเป็นวิธีแก้ปัญหาความอายของเขา จึงเลือกใช้พฤติกรรมที่รุนแรง เลยบอกให้ลูกเลิกทำพฤติกรรมแบบนั้น แล้วไม่ต้องไปคุยกับเพื่อนคนนั้นแทน ลูกก็บอกว่าต้องเจอกันทุกวัน ให้ทำไง ผมก็พูดไม่ออกได้แต่ภาวนาให้เพื่อนๆที่โรงเรียนไม่ล้อเขาก็พอ
ส่วนลูกคนโต ยอมรับเลยครับว่าหนักจริงๆ ลูกคนโตผมเป็นคนค่อนข้างอ่อนแอ ทั้งร่างกายที่ป่วยบ่อยๆ และจิตใจที่ไม่ค่อยเข้มแข็ง เพราะเขาเริ่มรู้เรื่องรู้ราว และจำแม่เขาได้ มีความผูกพันธ์กับแม่เขาในระดับนึง พอมีกิจกรรมวันแม่มาที ก็จะมีการ์ดระบายสีบอกรักแม่ แล้วเขาเองก็จะเอาการ์ดวันแม่นั้นมาให้ผมตลอด ผมน้ำตาซึมทุกครั้งที่เห็นลูกคนโตทำอะไรแบบนี้ให้ อาจเป็นเพราะผมห่วงเขามากกว่าลูกคนเล็ก เพราะปู่กับย่าค่อนข้างลำเอียงไปทางคนเล็กมากกว่า ลูกคนโตสนิทกับแม่ ผม และ ผมที่สุดในบ้าน แต่เวลาเขามีอะไรในใจ เขาเลือกที่จะบอกผมมากกว่าย่าของเขา เขาเคยบอกว่าเกลียดวันแม่ ไม่อยากให้มาถึง หนูโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ มีแต่คนไม่ดี คุณครูบอกว่าใครไม่ดีให้อย่าไปคบ แต่คนล้อหนูเกือบทุกคน มีอยู่สองคนที่ดีกับหนูไม่เคยแกล้งไม่เคยล้อเลย ผมก็ได้แต่บอกลูกว่า ให้อดทน คนเราเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน สมัยพ่อยังเรียนพ่อก็โดนล้อ แต่พอโตมาแล้วพอก็รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นมันเป็นแค่การหยอกล้อแบบพูดไม่ได้คิด ซึ่งโตมาแล้วเพื่อนๆพวกนั้นเขาก็จะรู้สึกผิดเองแหละ เพราะพ่อเองก็เคยล้อคนอื่นแบบนี้เหมือนกันตอนเด็กๆ ลูกผมก็ยังยืนยันว่าวันแม่เขาไม่อยากไปโรงเรียนอยู่ดี เพราะอายเพื่อน
ผมคิดแล้วว่าควรจะเลิกกิจกรรมนี้ได้แล้วครับ ควรจะแค่ให้ระบายสี หรือทำอะไรเพื่อเก็บเอากลับไปให้คนที่บ้านก็พอ เพราะมันสาหัสจริงๆสำหรับคนที่ไม่มีแม่ นี่ถ้าลูกคนโตผมเขารู้ความจริงที่ว่าผมไม่ใช่พ่อแท้ๆของเขา เขาคงจะรับมันไม่ไหวแน่ๆแหละครับ ขอให้ผูกหลักผู้ใหญ่พิจรณาตรงนี้ด้วยนะครับ