วันนี้ (10 ส.ค.) นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้จะไปพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. เวลา 11.00 น. โดยอ้างว่าเพื่อลงรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี (ปจว.) ทั้งที่การลงประจำวันเสร็จสมบูรณ์และได้ลงลายมือชื่อใน ปจว. แล้ว ข้ออ้างดังกล่าวมีขึ้นเพื่อให้ตนกลับมาอยู่ในการควบคุมของ พงส. อีกครั้งเพื่อจะเอาตัวผมไปฝากขังที่ศาล
นายวัฒนา ระบุว่า ตามกฎหมาย พงส. ไม่มีอำนาจที่จะควบคุมตัวตน เนื่องจากตนได้มาพบ พงส. ด้วยตนเองและการสอบสวนได้เสร็จสิ้นลงแล้ว กล่าวคือ แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ตนให้การปฏิเสธแล้ว และพิมพ์ลายนิ้วมือเรียบร้อยและอนุญาตให้ตนเดินทางกลับแล้ว ความจำเป็นที่จะต้องควบคุมตัวจึงหมดลง อีกทั้งทุกคดีก่อนหน้าก็ปฏิบัติเช่นนี้ ล่าสุดคือคดีของคุณประวิตร โรจนพฤกษ์ อย่างไรก็ตาม หาก พงส. เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะให้ศาลออกหมายขัง ก็จะต้องดำเนินการโดยทันทีแต่ต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมง นับจากครั้งแรกที่ตนเดินทางมาพบ ดังนั้น หากจะนำตัวตนไปศาลก็คือการเลือกปฏิบัติและใช้อำนาจบังคับที่ตนไม่อาจขัดขืนได้
นายวัฒนา ระบุอีกว่า ผู้ใหญ่หลายท่านขอให้ตนเลื่อนการมาพบ พงส. ออกไปก่อน แต่ตนเห็นว่า ไม่ผิดและทำตามกฎหมาย ย่อมได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมาย เหตุการณ์ที่จะเกิดกับตน จะเป็นบทพิสูจน์คำพูดของพลเอกประยุทธ์ที่ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย ซึ่งต้องหมายถึงรัฐด้วยไม่ใช่แค่ประชาชนเท่านั้นที่ต้องเคารพ ส่วนใครก็ตามที่ใช้อำนาจบังคับเอาตัวตนไปศาล นอกจากจะเป็นการหน่วงเหนี่ยว กักขังแล้วยังเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ซึ่งผมจะฟ้องและดำเนินคดีกับทุกคนเพื่อปกป้องสิทธิของตนอย่างแน่นอน ดังนั้น หากตนไม่ได้ออกจาก บก. ปอท. ก่อน 12.00 น. ก็แปลว่าถูกบังคับให้ไปศาล ใครอยากเจอตนก็ไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งผมเชื่อว่าตนจะได้รับความเป็นธรรมและการคุ้มครองจากศาล
JJNY : วัฒนา เผย ปอท.เรียกพบ อ้างลงรายงานบันทึกประจำวัน คาดเป้าหมายคุมตัวฝากขัง
นายวัฒนา ระบุว่า ตามกฎหมาย พงส. ไม่มีอำนาจที่จะควบคุมตัวตน เนื่องจากตนได้มาพบ พงส. ด้วยตนเองและการสอบสวนได้เสร็จสิ้นลงแล้ว กล่าวคือ แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ตนให้การปฏิเสธแล้ว และพิมพ์ลายนิ้วมือเรียบร้อยและอนุญาตให้ตนเดินทางกลับแล้ว ความจำเป็นที่จะต้องควบคุมตัวจึงหมดลง อีกทั้งทุกคดีก่อนหน้าก็ปฏิบัติเช่นนี้ ล่าสุดคือคดีของคุณประวิตร โรจนพฤกษ์ อย่างไรก็ตาม หาก พงส. เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะให้ศาลออกหมายขัง ก็จะต้องดำเนินการโดยทันทีแต่ต้องไม่เกิน 48 ชั่วโมง นับจากครั้งแรกที่ตนเดินทางมาพบ ดังนั้น หากจะนำตัวตนไปศาลก็คือการเลือกปฏิบัติและใช้อำนาจบังคับที่ตนไม่อาจขัดขืนได้
นายวัฒนา ระบุอีกว่า ผู้ใหญ่หลายท่านขอให้ตนเลื่อนการมาพบ พงส. ออกไปก่อน แต่ตนเห็นว่า ไม่ผิดและทำตามกฎหมาย ย่อมได้รับความคุ้มครองโดยกฎหมาย เหตุการณ์ที่จะเกิดกับตน จะเป็นบทพิสูจน์คำพูดของพลเอกประยุทธ์ที่ขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย ซึ่งต้องหมายถึงรัฐด้วยไม่ใช่แค่ประชาชนเท่านั้นที่ต้องเคารพ ส่วนใครก็ตามที่ใช้อำนาจบังคับเอาตัวตนไปศาล นอกจากจะเป็นการหน่วงเหนี่ยว กักขังแล้วยังเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ซึ่งผมจะฟ้องและดำเนินคดีกับทุกคนเพื่อปกป้องสิทธิของตนอย่างแน่นอน ดังนั้น หากตนไม่ได้ออกจาก บก. ปอท. ก่อน 12.00 น. ก็แปลว่าถูกบังคับให้ไปศาล ใครอยากเจอตนก็ไปที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งผมเชื่อว่าตนจะได้รับความเป็นธรรมและการคุ้มครองจากศาล