ก็แค่อยากรู้เล่นๆ ว่าก่อนหน้านี้เปลี่ยนรถเมล์จากสีเขียวเป็นสีส้ม
ก็ยังขับกันห่วยๆ เหมือนเดิม ใช่หรือไม่??
แล้ว
ทุกวันนี้คนขึ้นรถเมลล์ส่วนมากคือคนที่มีค่าครองชีพต่ำใช่หรือไม่??
ทุกวันนี้คนขึ้นรถเมลล์ที่แก่ ลุง,ป้า, ตา, ยาย ที่พยายามเล็งหาเลขรถที่ตนเองจะต้องขึ้นใช่หรือไม่? ?
ทุกวันนี้รถเมลล์ไม่เคยจอดตรงป้ายใช่หรือไม่?
ทุกวันนี้รถเมลล์บางคันจอดกลางถนนใช่หรือไม่??
ทุกวันนี้รถเมลล์บางคัน ปาดซ้ายปาดขวา แซงไปแซงมายิ่งกว่า The Fate of the Furious ใช่หรือไม่????
ทุกวันนี้คนขับรถเมลล์ยังดูดบุหรี่บนรถรถอยู่เลย ใช่หรือไม่??????
เคยได้อ่านบทความเรื่องหนึ่ง "ทำไมกรุงเทพฯ รถติด"
เราว่าน่าสนใจ เค้าบอกว่า "ประเทศไหนที่พัฒนาแล้ว คนจะใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น"
แล้วเกี่ยวอะไรกับกรุงเทพฯ รถติด หลักง่ายๆคือ คนที่เคยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ แล้วรู้สึกว่ามันแย่ มันห่วย ทั้งทางร่างกาย ทั้งทางจิตใจ พอมีกำลังพอจะซื้อรถยนต์ ต่อให้กู้หนี้ยืมสิน ก็พร้อมที่จะเอาตัวเองออกไปจากวัตถจักรเดิมๆ จำนวนรถยนต์จึงมีมากขึ้น รถเลยติด (รถมากขึ้นถนนเท่าเดิม)
แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำไมรถไม่ติด ก็เพราะระบบสาธารณะที่ดี รถตรงเวลา (คนขับเขาก็ อืมมมมม) ประหยัดกว่าขับรถเอง ไม่ต้องจ่ายค่าที่จอดรถ (ที่ต่างประเทศค่าจอดรถมหาโหด) เอาง่ายๆ ที่ญี่ปุ่นเวลานัด เค้าบอกเลยจากที่นี่ ไปที่นั่นใช้เวลากี่นาที
ของเราบอกเป็นกี่โลเมตร เผื่อเวลากันเป็นชั่วโมง
ก็แค่สงสัยว่าเราแก้ไขปัญหากันตรงจุดหรือเปล่า "คันตรงนั้น ไปเกาอีกที่ เมื่อไหร่จะหายคัน"
ก็แค่สงสัยว่า
อันไหนควรพัฒนาก่อนกันระหว่างรูปลักษณ์ภายนอก กับ "คุณภาพชีวิตประชาชน"
เปลี่ยนเลขสายรถเมล์ใหม่แล้ว คุณภาพชีวิตเราจะดีขึ้นจริงหรือ?
ก็ยังขับกันห่วยๆ เหมือนเดิม ใช่หรือไม่??
แล้ว
ทุกวันนี้คนขึ้นรถเมลล์ส่วนมากคือคนที่มีค่าครองชีพต่ำใช่หรือไม่??
ทุกวันนี้คนขึ้นรถเมลล์ที่แก่ ลุง,ป้า, ตา, ยาย ที่พยายามเล็งหาเลขรถที่ตนเองจะต้องขึ้นใช่หรือไม่? ?
ทุกวันนี้รถเมลล์ไม่เคยจอดตรงป้ายใช่หรือไม่?
ทุกวันนี้รถเมลล์บางคันจอดกลางถนนใช่หรือไม่??
ทุกวันนี้รถเมลล์บางคัน ปาดซ้ายปาดขวา แซงไปแซงมายิ่งกว่า The Fate of the Furious ใช่หรือไม่????
ทุกวันนี้คนขับรถเมลล์ยังดูดบุหรี่บนรถรถอยู่เลย ใช่หรือไม่??????
เคยได้อ่านบทความเรื่องหนึ่ง "ทำไมกรุงเทพฯ รถติด"
เราว่าน่าสนใจ เค้าบอกว่า "ประเทศไหนที่พัฒนาแล้ว คนจะใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น"
แล้วเกี่ยวอะไรกับกรุงเทพฯ รถติด หลักง่ายๆคือ คนที่เคยใช้ระบบขนส่งสาธารณะ แล้วรู้สึกว่ามันแย่ มันห่วย ทั้งทางร่างกาย ทั้งทางจิตใจ พอมีกำลังพอจะซื้อรถยนต์ ต่อให้กู้หนี้ยืมสิน ก็พร้อมที่จะเอาตัวเองออกไปจากวัตถจักรเดิมๆ จำนวนรถยนต์จึงมีมากขึ้น รถเลยติด (รถมากขึ้นถนนเท่าเดิม)
แต่ในประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำไมรถไม่ติด ก็เพราะระบบสาธารณะที่ดี รถตรงเวลา (คนขับเขาก็ อืมมมมม) ประหยัดกว่าขับรถเอง ไม่ต้องจ่ายค่าที่จอดรถ (ที่ต่างประเทศค่าจอดรถมหาโหด) เอาง่ายๆ ที่ญี่ปุ่นเวลานัด เค้าบอกเลยจากที่นี่ ไปที่นั่นใช้เวลากี่นาที
ของเราบอกเป็นกี่โลเมตร เผื่อเวลากันเป็นชั่วโมง
ก็แค่สงสัยว่าเราแก้ไขปัญหากันตรงจุดหรือเปล่า "คันตรงนั้น ไปเกาอีกที่ เมื่อไหร่จะหายคัน"
ก็แค่สงสัยว่า
อันไหนควรพัฒนาก่อนกันระหว่างรูปลักษณ์ภายนอก กับ "คุณภาพชีวิตประชาชน"