เที่ยวชม ทำบุญตักบาตร ณ วัดอาจาโรรังสี


สวัสดีค่ะทุกคน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของดิฉัน วันนี้ดิฉันจะพาเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เที่ยวชมวัดอาจาโรรังสีนะค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง ก่อนอื่นดิฉันขอแนะนำตัวเองก่อน ดิฉันชื่อ นางสาวไข่มุก อิ้มพัฒน์ กำลังศึกษาอยู่ชั้นปี 3  ขอฝากกระทู้นี้ไว้ด้วยนะค่ะ
อมยิ้ม04


      วัดอาจาโรรังสีแห่งนี้  ถือกำเนิดและวัฒนาถาวรมาจนขณะนี้  เริ่มแต่ชื่อวัดอันเป็นมิ่งมหาสิริมงคลที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงประทานนามให้ ว่า “อาจาโรรังสี”  นั้น ก็เป็นที่ยอมรับและเข้าใจกันโดยปริยายว่า หมายถึงฉายาของพระมหาเถระ  ๒  รูป  คือ  “อาจาโร”  ของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฝั้น  และ “เทสรังสี” ของพระเดชพระคุณหลวงปู่เทสก์  ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช  ทรงเคารพนับถือในพระมหาเถระทั้งสอง และเคยสมาคมติดต่อกันมาแต่อดีตกาล ในวันที่ข้าพเจ้าได้มีโอกาสเข้าเฝ้ากราบแทบพระบาทเพื่อขอประทานความเห็น ทั้งขอคำแนะนำในการจะสร้างวัดแห่งนี้


พระอธิการทรงวุฒิ  ธฺมมวโร  

เจ้าอาวาสวัดอาจาโรรังสี


วัดอาจาโรรังสี    ตั้งขึ้นและจะพัฒนาถาวรต่อไป  ก็ต้องอาศัยแรงศรัทธาสามัคคีของพุทธศาสนิกชน  ขณะเดียวกันพระสงฆ์สามเณรที่เข้ามาพำนักอาศัยในสถานที่นี้ก็ต้องเป็นผู้ปฏิบัติตามธรรมวินัย  คำสั่งสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า  ผู้เป็นเจ้าของพระศาสนาด้วย    ข้าพเจ้าพยายามยึดถือหลักของความอนุเคราะห์สงเคราะห์เกื้อกูลซึ่งกันเป็นปัจจัยที่สำคัญ
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านกับวัดที่บรรพบุรุษถือปฏิบัติมาแต่ครั้งโบราณกาล



อาคารพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์ครบรอบ  ๑๐๐  ปี  หลวงปู่เทสก์  เทสรังสี  (๒๖  เมษายน  ๒๕๔๕)
       อนึ่ง เนื่องจากนามอันเป็นสิริมงคลที่สมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช  ทรงประทานให้ดังกล่าวมาแล้วนั้น  บรรดาศิษยานุศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ทั้งในเขตจังหวัดสกลนคร   และจังหวัดใกล้เคียง  ตลอดทั้งทางไกลถึงกรุงเทพฯ  และปักษ์ใต้
ต่างมาช่วยสนับสนุนทำนุบำรุงกิจการพระพุทธศาสนา  ณ  วัดอาจาโรรังสี  เป็นลำดับมา  พอมาถึง
กลางปี พ.ศ. ๒๕๔๓  บรรดากรรมการวัดและญาติโยมจึงหารือกันว่า ในวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๔๕
หากพระเดชพระคุณหลวงปู่เทสก์  เทสรังสี  ยังมีชีวิตอยู่  ท่านจะมีอายุครบ   ๑๐๐  ปีบริบูรณ์
              อนึ่ง  ท่านก็ได้บำเพ็ญหิตานุหิตประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาและแก่ประเทศชาติไว้มากจนเป็นที่ประจักษ์แล้ว  วัดอาจาโรรังสีน่าจะมีถาวรวัตถุเป็นสาราณียธรรมานุสรณ์ ถึงท่านสักอย่างหนึ่งกอรปกับในช่วงนั้น พ.ศ. ๒๕๔๓  หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ ๒๖ สกลนคร  ได้นำราชการทหารเจ้าหน้าที่  ลูกจ้าง  ตลอดจนเยาวชนมารับการอบรมธรรมะอย่างต่อเนื่อง  แต่สถานที่ที่เรามีอยู่  (ศาลาการเปรียญ)  ไม่สะดวกเพียงพอ  จึงได้ตกลงวางแผนที่จะสร้างอาคารทรงไทยคอนกรีต
เสริมเหล็ก สองชั้น ชั้นล่าง เป็นห้องโถงโล่ง  เพื่ออำนวยความสะดวกแก่การอบรมและปฏิบัติธรรม  ชั้นบนสำหรับจัดเป็นอนุสรณ์แก่พระเดชพระคุณหลวงปู่เทสก์   เทสรังสี   การก่อสร้างดังกล่าว
ไม่มีงบประมาณ (เพราะไม่มีงบจะประมาณ)  จึงไม่มีแบบแปลนใดๆ  เพียงแต่วางแผนผังโครงสร้างแล้วดำเนินการ  กะว่ามีทุนเท่าใดก็จะทำตามกำลังความสามารถเท่านั้น ให้สำเร็จประโยชน์ใช้สอยโดยมุ่งความแข็งแรงเป็นหลักเมื่อเริ่มดำเนินการก็มีศรัทธาสนับสนุน
ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์ครบรอบ  ๑๐๐  ปี  หลวงปู่เทสก์  เทสรังสี


พระพุทธทุกขนิโรธบารมี


พระบรมสารีริกธาตุ


นขาธาตุ


ทันตาธาตุ


ตโจธาตุ


เกสาธาตุ


โลมาธาตุ


อัฐบริขารพระกรรมฐาน



ศาลาธรรมานุสรณ์ ๙ รอบนักษัตร  (๑๐๘ปี)

หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี  

           เมื่อมารำลึกถึง...พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์  เทสรังสี)  ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย  ในระหว่างที่ยังดำรงขันธ์อยู่นั้นท่านได้ยึดมั่นปฏิบัติสมณกิจตามพระธรรมวินัย  เป็นแบบอย่างอันงดงามแก่ภิกษุสามเณรผู้บวชอุทิศพระพุทธศาสนาสมควรที่จะดำเนินรอยตาม  ทั้งยังได้บำเพ็ญสมณกิจอันเป็นหิตานุหิตประโยชน์แก่ตนและสาธารณนัยตลอดอายุขัย จวบจนกระทั่งละรูปสังขารคืนสู่สภาวะของธรรมชาติเมื่อวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนอ้าย ปีจอ ตรงกับวันเสาร์ที่  ๑๗  ธันวาคม  พุทธศักราช  ๒๕๓๗   หากคำนวณนับปีตั้งแต่ชาตกาลเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๖  เมษายน  พุทธศักราช ๒๔๔๕  ปีขาล ก็จะครบ ๙ รอบนักษัตร ( ๑๐๘ ปี )  ในวันที่  ๒๖  เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๓ ปีขาล และแม้ว่าท่านจะจากโลกนี้ไปแล้ว   อมฤตธรรมคำสอนของท่านก็ยังคงเป็นสักขีพยานยืนยันอริยสัจธรรมของพระบรมศาสดา  เชื้อเชิญทายท้าให้ผู้มีศรัทธาเลื่อมใสน้อมนำไปปฏิบัติได้ตลอดกาลทุกเมื่อ   อันบรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลายที่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนจากท่าน  ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมก็ย่อมประจักษ์ด้วยตนเอง  น้อยหรือมากตามแต่อุปนิสัยวาสนาบารมีแห่งเหตุปัจจัยของตนๆ  อันชวนให้รำลึกถึงพระคุณของท่านเสมออยู่มิรู้ลืม
            อีกประการหนึ่งเล่า  พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณ พระราชญาณมุนีที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร    (ธ.)   เมื่อครั้งท่านยังดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดสกลนคร    (ธ.)   เห็นว่าวัดอาจาโรรังสีมีความพร้อมและเหมาะสมที่จะเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด     ท่านจึงมีเมตตาสนับสนุนส่งเสริม   จนกระทั่งมหาเถรสมาคมได้มีมติที่  ๒๑๖/๒๕๕๑  ให้วัดอาจาโรรังสี  เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสกลนคร (ธ.) แห่งที่ ๒ (การประชุมเมื่อวันที่  ๒๑  เมษายน  ๒๕๕๑ )  เป็นเหตุให้หน่วยงานของรัฐและเอกชน  ตลอดจนโรงเรียนและสถานศึกษานำบุคลากร  เยาวชน  นักเรียนนักศึกษามาใช้สถานที่นี้อบรมคุณธรรมจริยธรรม  และปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ทั้งจำนวนรุ่นและจำนวนคนในแต่ละรุ่น  ทำให้อาคารสถานที่ที่มีอยู่เดิมนั้นขาดความคล่องตัวในการรับรองกิจกรรมดังกล่าว
บรรยายกาศด้านใน



ภาพงานการบำเพ็ญกุศลวันเทสรังสีรำลึก (ปีที่ ๒๓)
วันอาทิตย์ที่   ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐



เลี้ยงอาหารกลางวันนักเรียน ♦♦♦
๖ มีนาคม ๒๕๕๘
เลี้ยงอาหารกลางวัน (ข้าวมันไก่ + ข้าวเหนียวสังขยา)
นักเรียนโรงเรียนบ้านคำข่า (๑๕๐ คน)



โครงการบรรพชา - อุปสมบทหมู่ เฉลิมพระเกียรติ  ๘๔  พรรษามหาราชัน
เฉลิมขวัญ สานสามัคคี ภักดีสยามินทร์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  เนื่องในวโรกาสมหามงคล
เฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๗ รอบ (๘๔ พรรษา) ๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔



ข้อมูลและแผนที่เดินทาง

ก็จบทริปครั้งนี้ไปแล้วนะค่ะ อยากบอกทุกคนว่าที่ท่องเที่ยวยังไม่หมดแค่นี้น๊า ยังมีอีกเยอะมาก ฝากด้วยนะค่ะ มาเที่ยวชมและมาร่วมทำบุญด้วยกันนะค่ะ ขอบคุณค่ะอมยิ้ม04

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก watarjarorungsee.com/watarjarorungsee.html ด้วยนะค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่