แบบนี้เป็นกรรมหรือผีหลอกคะ?

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ ฉันพึ่งสมัครเข้ามาใช้งานในพันทิป เพราะมีเรื่องสงสัยอยากจะขอความเห็น และอยากแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องหลอนที่เคยพบเจอ
    
     เรื่องนี้เริ่มขึ้นตอนมัธยมต้น (ม.1) ฉันสอบเข้าโรงเรียนประจำแห่งหนึ่งได้  โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำที่เป็นกรรมสิทธิ์ของวัดชื่อดัง โดยเด็กที่สอบเข้ามาจะต้องอยู่โรงเรียนแบบกินนอนที่หอเลย เดือนนึงถึงได้กลับบ้านหนึ่งครั้ง คือทุกวันศุกร์ของสิ้นเดือน  เดือนแรกที่เข้าไปเรียน ฉันได้ฟังเรื่องเล่าเก่าๆ เรื่องลี้ลับมากมายจากรุ่นพี่ที่หอ ยอมรับว่าแอบหลอนอยู่หลายคืนค่ะ แต่ก็พยายามคิดว่ามันไม่มีอะไรหรอก เพราะที่โรงเรียนนี้สอนเรื่องบุญกรรมอยู่แล้ว เลยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่วันนึงก็เกิดเหตุให้ ฉันต้องหลอนจนนอนไม่หลับไปหลายคืน  

     วันนั้นเป็นวันศุกร์สิ้นเดือน นั่นหมายความว่าเป็นวันที่เด็กนักเรียนสามารถกลับบ้านได้ โดยการให้ผู้ปกครองมาเซ็นรับหลังเวลาเลิกเรียน และมาส่งอีกทีในวันอาทิตย์ ซึ่งเด็กส่วนใหญ่เลือกที่จะกลับบ้าน เพราะคิดถึงพ่อแม่ แต่ฉันเป็นส่วนน้อยที่เลือกไม่กลับบ้านในเดือนนั้น เพราะมีงานค้างต้องทำส่ง และขี้เกียจเอาหนังสือกลับบ้าน จึงโทรไปบอกพ่อว่าไม่ต้องมารับ แต่ให้ซื้อของใช้ ขนม ผลไม้ และนำ้พริกปลาร้าผัดเจ้าประจำมาให้ที่หอในวันอาทิตย์แทน  

     เอาล่ะค่ะ เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เย็นวันศุกร์ ประมาณ 6 โมง  อาจารย์คุมหอหญิงและหอชายเป่านกหวีดเป็นสัญญาณเรียกรวมตัวเด็กที่เหลือ เพื่อให้ลงมากินข้าวที่โรงอาหารรวม  ทุกอย่างดูปกติดี เพียงแค่เด็กน้อยลงเท่านั้นเอง ฉันกับเพื่อนสนิทอีกคน (ขอใช้นามสมมุติว่าอายนะคะ) ฉันกับอายนั่งกินข้าวกันตรงที่ประจำ  และคุยกันสัพเพเหระทั่วไป  พอกินข้าวเสร็จ เด็กทุกคนจะต้องเอาเศษอาหารไปทิ้งที่แพลอยน้ำด้านหลัง (แพตรงนั้นติดกับแม่น้ำสะแกกรัง) มันเป็นสิ่งที่ทำกันมานาน เพราะที่นี่คิดว่าเป็นการแบ่งเศษอาหารให้ปลาสวายในแม่น้ำนี้ค่ะ  ฉันกับอายรวมเศษอาหารไว้ในถ้วยเดียว และเดินไปแพฝั่งผู้หญิง  ฉันเป็นถือจานเปล่าทั้งหมด ส่วนอายถือถ้วยที่ใส่เศษอาหารนั้น  พอเราสองคนเดินไปถึงแพ ท้องฟ้าก็เริ่มมืด ตะวันตกดินไปแล้ว มีเพียงแสงจากสปอร์ตไลท์ดวงใหญ่ที่ส่องมาจากตึกโรงอาหารเท่านั้น  อายบอกว่ารีบล้างน้ำเปล่าเถอะ เพราะใกล้ค่ำแล้ว ที่แพตรงนั้นมีรุ่นพี่ 2-3 คน อายแล้วก็ฉันที่กำลังล้างจานด้วยน้ำเปล่าจากแม่น้ำอยู่ ฉันนั่นยองๆคล้ายการนั่งโถส้วมแบบเก่า (คิดว่าทุกคนคงนึกออกนะคะ)  มือนึงถือจาน อีกมือเอื้อมไปวักน้ำมาล้าง จนเหลือจานใบสุดท้าย ระหว่างที่กำลังเอื้อมมือไปวักน้ำ ฉันกลับรู้สึกว่าน้ำมันอยู่ไกลกว่าเดิม ฉันพยายามเอื้อมมือไป แต่ไม่โดนน้ำสักที แล้วจู่ๆฉันก็รู้สึกเหมือนโดนกระชากผมให้ตกลงไปในแม่น้ำนั้น  ตอนที่ตกลงไปฉันไม่รู้สึกตัวเลยจนกระทั่งขาแต่ถึงพื้นดินใต้น้ำ ถึงได้รู้ว่าตัวเองตกน้ำ  ฉันตะกายตัว พยายามใช้แรงทั้งหมดที่มี ภาพบนผิวน้ำฉันมองเห็นอาย และรุ่นพี่พยายามตะโกนขอความช่วยเหลือ และเอื้อมมือมาช่วยฉัน แต่ฉันไม่สามารถพาตัวเองขึ้นไปได้เลยทั้งที่ว่ายน้ำเป็น เหมือนว่าขาของฉันติดอะไรสักอย่างอยู่ ฉันก้มลงไปมองที่ขอของตัวเอง สิ่งที่เห็นคือมือสองข้างดึงขาฉันอยู่  ฉันมองเห็นแววตาสีแดงคู่หนึ่ง ตอนที่เห็นรุ้สึกกลัวมาก แขนขาอ่อนแรงไปหมด ไม่มีแรงจะตะกายขึ้นไปแล้ว กลัวมาก แต่แล้วในหัวก็นึกถึงหลวงพ่อเจ้าอาวาสขึ้นมา  เมื่อได้สติ ฉันใช้แรงเฮือกสุดท้ายตีขาอีกครั้งจนหลุดจากมือคู่นั้น ตอนโผล่พ้นผิวน้ำได้ ฉันเอื้อมมือไปจับเหล็กใต้แพ เพื่อนยันตัวเองขึ้นมา แต่ทำไม่ได้อีกครั้งเพราะมือคู่เดิมจับขาไว้อีก จนรุ่นพี่ผู้ชายที่วิ่งข้ามแพมาจากอีกฝั่งถอดสร้อยพระที่คอออกมา พี่เขาพึมพำอะไรสักอย่าง แล้วพันสร้อยไว้ที่มือ ฉันยื่นมือให้พี่เขาจับได้ เมื่อจับมือรุ่นพี่ได้ ฉันก็รู้สึกว่าขาทั้งสองข้างได้รับอิสระ  พี่คนนั้นดึงฉันขึ้นมาจากน้ำได้ด้วยมือข้างเดียว ฉันนอนสำลักน้ำอยุ่อย่างนั้นนานพอสมควร จนอาจารย์คุมหอมาถึง ท่านบอกให้อายกับรุ่นพี่พาฉันขึ้นหอ ไปอาบน้ำพักผ่อนซะ และบอกให้รุ่นพี่ผู้ชายที่มาช่วยไปพบหลวงพี่ที่คุมโรงเรียนที่ห้อง  


เรื่องยังไม่จบนะคะ เดี๋ยวมาต่อ  หากมีตรงไหนพิมพ์ผิดต้องขออภัยด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่