สวัสดีค่ะ เราชื่อหนุนนะคะ นี่เป็นกระทู้แรกที่หนุนเขียนรีวิว ซึ่งเป็นการตั้งรีวิวด้วยจากความประทับใจ และความสมัครใจ เพื่อเป็นแนวทางให้แก่เพื่อน ๆ ที่สนใจจะทำศัลยกรรมตาสองชั้นค่ะ ถ้าหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า วันนี้หนุนตั้งใจจะมารีวิวศัลยกรรมตาสองชั้น ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่า ก่อนที่จะทำตาสองชั้น หนุนเป็นคนตาสองชั้นแบบหลบใน จนแทบไม่เห็นชั้นตา เลยทำให้เหมือนว่าดูเป็นคนตาชั้นเดียว และตาตี่มาก หน้าออกหมวย ๆ บางทีก็ดูตี๋ ๆ แล้วก็มักจะมีคนทักว่าหน้าดูแมน เวลาแต่งหน้าก็ค่อนข้างลำบาก ต้องติดสติกเกอร์ตาสองชั้น รู้สึกเสียเวลามากเลยค่ะ แล้วถ้าวันไหนไม่แต่งหน้านะคะจะดูโล้นมากเลย เพราะมีช่องห่างระหว่างตากับคิ้วเยอะมาก ไขมันที่ตาก็เยอะ ตาจะดูตุ่ย ๆ หน่อย จนวันนึงเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เลยอยากที่จะทำตาสองชั้น อยากมีตาที่โต แล้วก็อยากหน้าหวานกว่านี้ เลยหาสถานที่ทำตาสองชั้น พูดตรง ๆ ว่าตอนแรกหาหลายที่มากค่ะ ดูรีวิวเยอะมาก จนมาเจอ Grand Esta Clinic เห็นดารา เซเลป ไปทำศัลยกรรมที่นี่เยอะ ก็เลยลองหารีวิวดู ซึ่งพอดูรีวิวแล้วค่อนข้างชอบการทำตาสองชั้นของคลินิกนี้ แล้วก็ชอบที่คลินิกนี้มีบริการฉายแสงลดบวมหลังจากทำศัลยกรรมเสร็จ เพื่อช่วยลดบวม และทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังทำ จากนั้นหนุนเลยเข้าไปทางเพจ Facebook ของคลินิกเพื่อดูรีวิวเพิ่มเติม ซึ่งวันที่หนุนเข้าไปที่เพจ เป็นช่วงที่ทางคลินิกมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกพอดี ซึ่งกิจกรรมนี้มอบรางวัลให้เป็นการศัลยกรรมตาสองชั้นฟรี หนุนก็เลยลองเล่นดู ถ้าได้ก็โชคดี แต่ถ้าไม่ได้หนุนก็ยังคงเลือกที่จะทำตาสองชั้นกับคลินิกนี้
พอวันประกาศผลมาถึง..
ปรากฏว่าหนุนเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลนี้ รู้สึกดีใจมากกก เพราะในที่สุดก็จะได้ทำตาสองชั้นสักที แถมยังเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลอีกด้วย
หลังจากประกาศผล ทางคลินิกก็ติดต่อมาเพื่อนัดวันเวลาในการเข้าไปพบคุณหมอเพื่อปรึกษา และเตรียมตัวทำศัลยกรรมตาสองชั้นค่ะ ซึ่งนี่เป็นภาพก่อนที่จะทำศัลยกรรมตาสองชั้นค่ะ

และวันที่หนุนได้เข้าไปพบคุณหมอก็มาถึง..
ก้าวแรกที่ก้าวเข้าไปที่ Grand Esta Clinic เท่าที่จำได้ ความรู้สึกแรกที่เดินเข้าไป รู้สึกค่อนข้างประทับใจกับพี่ ๆ พนักงาน ที่ให้การดูแล และต้อนรับเป็นอย่างดี เหมือนหนุนเป็นลูกค้าคนนึง ทำให้รู้สึกอุ่นใจยิ่งขึ้น จากนั้นก็ได้เข้าพบคุณหมอ คุณหมอก็จะประเมินตาเราเบื้องต้น แล้วคุณหมอก็จะถามถึงปัญหาที่เราอยากจะแก้ ถามว่าเราต้องการตาแบบไหน ชั้นตาหนามากน้อยแค่ไหน ซึ่งหนุนก็ได้บอกความต้องการกับหมอไปว่า อยากได้ชั้นตาที่โตขึ้น หนาขึ้น แต่ยังดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหนาจนเกินไป แล้วก็อยากให้หน้าดูหวานขึ้นด้วยค่ะ คุณหมอเลยแนะนำว่าให้เปิดหัวตาร่วมด้วย ตาจะได้ดูยาวขึ้น หวานขึ้น และโตขึ้นโดยคุณหมอจะลองจิ้มที่ชั้นตาให้เราดูว่า หนาประมาณนี้โอเคไหม จิ้มให้เราดูจนกว่าเราจะได้ชั้นตาที่พอใจ จากนั้นคุณหมอก็จะร่างบนชั้นตาของเรา เพื่อเตรียมตัวเข้าทำศัลยกรรมต่อไป
เมื่อถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัด..
บอกตรง ๆ ว่าเป็นคนค่อนข้างกลัวห้องผ่าตัด เพราะในความคิดเราจะรู้สึกว่าห้องผ่าตัดบรรยากาศจะดูเงียบ ๆ อึมครึม แต่พอได้เข้าไปจริง ๆ แล้ว ลืมความรู้สึกนั้นไปเลยค่ะ เพราะพี่ ๆ ที่เป็นผู้ช่วยคุณหมอ แล้วก็ตัวคุณหมอเอง เป็นกันเองมาก ๆ แล้วก็ดูแลเป็นอย่างดี มีเปิดเพลงคลอเบา ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย

ซึ่งพอเข้าไปแล้ว พี่ ๆ ผู้ช่วยก็จะทำความสะอาดหน้าเรา เพื่อเตรียมผ่าตัดตาสองชั้น ซึ่งของหนุนคุณหมอจะทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวและเปิดหัวตาร่วมด้วยค่ะ ขั้นตอนต่อมาหลังจากเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คุณหมอก็จะฉีดยาชา ขั้นตอนนี้เท่าที่เคยอ่านรีวิวมา ทุกคนบอกว่าเป็นขั้นตอนที่เจ็บมาก ซึ่งตอนแรกเรากลัว แต่เอาเข้าจริง ๆ คือคุณหมอมือเบามาก เลยผ่านขั้นตอนนี้ไปได้แบบสบาย ๆ เลย

ในขณะที่ทำ..
ในขณะที่ทำนั้น ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ ยาชาเอาอยู่จริง ๆ

คุณหมอเริ่มจากเปิดหัวตาก่อน แล้วค่อยเริ่มกรีดตาสองชั้น แล้วก็ตัดไขมันออกค่ะ บรรยากาศเป็นไปอย่างสบาย ๆ นอนฟังเพลงไปเรื่อย ๆ จนเกือบหลับ

จากนั้นคุณหมอจะคอยให้เราหลับตาและลืมตา เพื่อเช็คว่าได้ชั้นตาที่โอเคหรือยัง ซึ่งคุณหมอค่อนข้างใส่ใจในรายละเอียด และเย็บแผลให้เป็นอย่างดี คุณหมอจะปรับชั้นตาให้จนกว่าเราจะรู้สึกพอใจ ซึ่งในจุดนี้รู้สึกประทับใจมาก ๆ ที่คุณหมอใส่ใจเป็นอย่างมาก ปลื้มสุดดดด
เคสหนุนใช้เวลาทำประมาณ 2 ชั่วโมง เพราะเปิดหัวตาด้วย เลยใช้เวลาค่อนข้างนาน เมื่อทำเสร็จทางคลินิกได้ทำการฉายแสงลดบวมให้ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งตอนฉายแสงรู้สึกสบายมากจนเผลอหลับไปเลย
พอฉายแสงเสร็จ ก็ออกมารับยา และรับคำแนะนำในการดูแลตาก่อนที่จะมาตัดไหมในอีก 7 วันข้างหน้าค่ะ พอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลากลับแล้วค่ะ ซึ่งวันที่ทำ เป็นวันที่หนุนต้องเดินทางไปต่างจังหวัดพอดี พอทำเสร็จก็เดินทางทันที ซึ่งประมาณชั่วโมงแรกอาจจะรู้สึกตึง ๆ และปวด ๆ ที่แผลนิดหน่อยไม่รุนแรงมาก พอกินยาแล้วก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ จากนั้นก็ไม่รู้สึกปวดอีกเลย สามารถเดินทางกลับต่างจังหวัดได้อย่างสบายใจ และนี่เป็นภาพตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ 6 ก่อนจะตัดไหมค่ะ

ภาพนี้เป็นภาพวันแรกหลังจากที่ทำเสร็จ และกลับถึงบ้านแล้ว (ต้องคอยประคบเย็นจะช่วยลดอาการบวมได้ค่ะ)


หลังจากทำแล้วไม่ต้องพักฟื้น สามารถไปเรียนและใช้ชีวิตได้ตามปกติค่ะ

ภาพนี้เป็นภาพเปรียบเทียบตาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ 6 ค่ะ (อาจจะบวม และมีรอยช้ำบาง เนื่องจากเป็นการกรีดตาแบบยาว)
พอครบ 7 วัน ก็ถึงเวลาตัดไหมแล้วค่ะ

ภาพนี้หลังจากตัดไหมแล้วค่ะ ชั้นตาอาจจะยังดูบวม ๆ อยู่ แต่รอยช้ำหายเกือบหมดแล้ว พอตัดไหมแล้วก็หมั่นประคบร้อน จะช่วยให้อาการบวมนั้นลดน้อยลง ซึ่งอาการบวมจะยุบลงเรื่อย ๆ จนชั้นตาเข้าที่ค่ะ
หลังจากตัดไหม ทางคลินิกก็ยังคงติดตามอาการอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประทับใจมาก ๆ อีกสิ่งนึง และรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ ที่ทำตาสองชั้นกับที่นี่
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ หนุนทำตามาครบ 6 เดือนแล้วค่ะ ชั้นตาเข้าที่แล้ว เป็นธรรมชาติ และเป็นที่พอใจอย่างมาก ต่อจากนี้จะเป็นภาพอัพเดตตาแบบรวม ๆ ตั้งแต่เดือนแรกจนถึงปัจจุบันค่ะ

และนี่ก็เป็นภาพ ณ ปัจจุบันซึ่งทำตามาครบ 6 เดือนแล้วค่ะ

ส่วนภาพนี้เป็นภาพเปรียบเทียบ Before After ค่ะ

จบแล้วค่ะสำหรับการรีวิว ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แล้วก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังสนใจจะทำตาสองชั้นไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เบอร์โทรคลินิก 02-021-7666, 091-426-9665, 089-822-6266
[SR] รีวิว ศัลยกรรมตาสองชั้น เปลี่ยนสาวหน้าหมวยตาตี่ ให้เป็นสาวหน้าหวาน โดย Grand Esta Clinic
มาเริ่มกันเลยดีกว่า วันนี้หนุนตั้งใจจะมารีวิวศัลยกรรมตาสองชั้น ก่อนอื่นต้องขอบอกเลยว่า ก่อนที่จะทำตาสองชั้น หนุนเป็นคนตาสองชั้นแบบหลบใน จนแทบไม่เห็นชั้นตา เลยทำให้เหมือนว่าดูเป็นคนตาชั้นเดียว และตาตี่มาก หน้าออกหมวย ๆ บางทีก็ดูตี๋ ๆ แล้วก็มักจะมีคนทักว่าหน้าดูแมน เวลาแต่งหน้าก็ค่อนข้างลำบาก ต้องติดสติกเกอร์ตาสองชั้น รู้สึกเสียเวลามากเลยค่ะ แล้วถ้าวันไหนไม่แต่งหน้านะคะจะดูโล้นมากเลย เพราะมีช่องห่างระหว่างตากับคิ้วเยอะมาก ไขมันที่ตาก็เยอะ ตาจะดูตุ่ย ๆ หน่อย จนวันนึงเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เลยอยากที่จะทำตาสองชั้น อยากมีตาที่โต แล้วก็อยากหน้าหวานกว่านี้ เลยหาสถานที่ทำตาสองชั้น พูดตรง ๆ ว่าตอนแรกหาหลายที่มากค่ะ ดูรีวิวเยอะมาก จนมาเจอ Grand Esta Clinic เห็นดารา เซเลป ไปทำศัลยกรรมที่นี่เยอะ ก็เลยลองหารีวิวดู ซึ่งพอดูรีวิวแล้วค่อนข้างชอบการทำตาสองชั้นของคลินิกนี้ แล้วก็ชอบที่คลินิกนี้มีบริการฉายแสงลดบวมหลังจากทำศัลยกรรมเสร็จ เพื่อช่วยลดบวม และทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังทำ จากนั้นหนุนเลยเข้าไปทางเพจ Facebook ของคลินิกเพื่อดูรีวิวเพิ่มเติม ซึ่งวันที่หนุนเข้าไปที่เพจ เป็นช่วงที่ทางคลินิกมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกพอดี ซึ่งกิจกรรมนี้มอบรางวัลให้เป็นการศัลยกรรมตาสองชั้นฟรี หนุนก็เลยลองเล่นดู ถ้าได้ก็โชคดี แต่ถ้าไม่ได้หนุนก็ยังคงเลือกที่จะทำตาสองชั้นกับคลินิกนี้
พอวันประกาศผลมาถึง..
ปรากฏว่าหนุนเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลนี้ รู้สึกดีใจมากกก เพราะในที่สุดก็จะได้ทำตาสองชั้นสักที แถมยังเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลอีกด้วย
หลังจากประกาศผล ทางคลินิกก็ติดต่อมาเพื่อนัดวันเวลาในการเข้าไปพบคุณหมอเพื่อปรึกษา และเตรียมตัวทำศัลยกรรมตาสองชั้นค่ะ ซึ่งนี่เป็นภาพก่อนที่จะทำศัลยกรรมตาสองชั้นค่ะ
และวันที่หนุนได้เข้าไปพบคุณหมอก็มาถึง..
ก้าวแรกที่ก้าวเข้าไปที่ Grand Esta Clinic เท่าที่จำได้ ความรู้สึกแรกที่เดินเข้าไป รู้สึกค่อนข้างประทับใจกับพี่ ๆ พนักงาน ที่ให้การดูแล และต้อนรับเป็นอย่างดี เหมือนหนุนเป็นลูกค้าคนนึง ทำให้รู้สึกอุ่นใจยิ่งขึ้น จากนั้นก็ได้เข้าพบคุณหมอ คุณหมอก็จะประเมินตาเราเบื้องต้น แล้วคุณหมอก็จะถามถึงปัญหาที่เราอยากจะแก้ ถามว่าเราต้องการตาแบบไหน ชั้นตาหนามากน้อยแค่ไหน ซึ่งหนุนก็ได้บอกความต้องการกับหมอไปว่า อยากได้ชั้นตาที่โตขึ้น หนาขึ้น แต่ยังดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูหนาจนเกินไป แล้วก็อยากให้หน้าดูหวานขึ้นด้วยค่ะ คุณหมอเลยแนะนำว่าให้เปิดหัวตาร่วมด้วย ตาจะได้ดูยาวขึ้น หวานขึ้น และโตขึ้นโดยคุณหมอจะลองจิ้มที่ชั้นตาให้เราดูว่า หนาประมาณนี้โอเคไหม จิ้มให้เราดูจนกว่าเราจะได้ชั้นตาที่พอใจ จากนั้นคุณหมอก็จะร่างบนชั้นตาของเรา เพื่อเตรียมตัวเข้าทำศัลยกรรมต่อไป
เมื่อถึงเวลาเข้าห้องผ่าตัด..
บอกตรง ๆ ว่าเป็นคนค่อนข้างกลัวห้องผ่าตัด เพราะในความคิดเราจะรู้สึกว่าห้องผ่าตัดบรรยากาศจะดูเงียบ ๆ อึมครึม แต่พอได้เข้าไปจริง ๆ แล้ว ลืมความรู้สึกนั้นไปเลยค่ะ เพราะพี่ ๆ ที่เป็นผู้ช่วยคุณหมอ แล้วก็ตัวคุณหมอเอง เป็นกันเองมาก ๆ แล้วก็ดูแลเป็นอย่างดี มีเปิดเพลงคลอเบา ๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย
ในขณะที่ทำ..
ในขณะที่ทำนั้น ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ ยาชาเอาอยู่จริง ๆ
เคสหนุนใช้เวลาทำประมาณ 2 ชั่วโมง เพราะเปิดหัวตาด้วย เลยใช้เวลาค่อนข้างนาน เมื่อทำเสร็จทางคลินิกได้ทำการฉายแสงลดบวมให้ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งตอนฉายแสงรู้สึกสบายมากจนเผลอหลับไปเลย
พอฉายแสงเสร็จ ก็ออกมารับยา และรับคำแนะนำในการดูแลตาก่อนที่จะมาตัดไหมในอีก 7 วันข้างหน้าค่ะ พอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงเวลากลับแล้วค่ะ ซึ่งวันที่ทำ เป็นวันที่หนุนต้องเดินทางไปต่างจังหวัดพอดี พอทำเสร็จก็เดินทางทันที ซึ่งประมาณชั่วโมงแรกอาจจะรู้สึกตึง ๆ และปวด ๆ ที่แผลนิดหน่อยไม่รุนแรงมาก พอกินยาแล้วก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ จากนั้นก็ไม่รู้สึกปวดอีกเลย สามารถเดินทางกลับต่างจังหวัดได้อย่างสบายใจ และนี่เป็นภาพตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ 6 ก่อนจะตัดไหมค่ะ
ภาพนี้เป็นภาพวันแรกหลังจากที่ทำเสร็จ และกลับถึงบ้านแล้ว (ต้องคอยประคบเย็นจะช่วยลดอาการบวมได้ค่ะ)
หลังจากทำแล้วไม่ต้องพักฟื้น สามารถไปเรียนและใช้ชีวิตได้ตามปกติค่ะ
ภาพนี้เป็นภาพเปรียบเทียบตาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ 6 ค่ะ (อาจจะบวม และมีรอยช้ำบาง เนื่องจากเป็นการกรีดตาแบบยาว)
พอครบ 7 วัน ก็ถึงเวลาตัดไหมแล้วค่ะ
ภาพนี้หลังจากตัดไหมแล้วค่ะ ชั้นตาอาจจะยังดูบวม ๆ อยู่ แต่รอยช้ำหายเกือบหมดแล้ว พอตัดไหมแล้วก็หมั่นประคบร้อน จะช่วยให้อาการบวมนั้นลดน้อยลง ซึ่งอาการบวมจะยุบลงเรื่อย ๆ จนชั้นตาเข้าที่ค่ะ
หลังจากตัดไหม ทางคลินิกก็ยังคงติดตามอาการอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประทับใจมาก ๆ อีกสิ่งนึง และรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ค่ะ ที่ทำตาสองชั้นกับที่นี่
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ หนุนทำตามาครบ 6 เดือนแล้วค่ะ ชั้นตาเข้าที่แล้ว เป็นธรรมชาติ และเป็นที่พอใจอย่างมาก ต่อจากนี้จะเป็นภาพอัพเดตตาแบบรวม ๆ ตั้งแต่เดือนแรกจนถึงปัจจุบันค่ะ
และนี่ก็เป็นภาพ ณ ปัจจุบันซึ่งทำตามาครบ 6 เดือนแล้วค่ะ
ส่วนภาพนี้เป็นภาพเปรียบเทียบ Before After ค่ะ
จบแล้วค่ะสำหรับการรีวิว ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แล้วก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่กำลังสนใจจะทำตาสองชั้นไม่มากก็น้อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น