ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 8/8/2017 (เทพเจ้าดาวอังคาร)

กระทู้คำถาม


ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น





สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


วันนี้วันอังคาร สีชมพูก็เขียนไปแล้ว งั้นเขียนเกี่ยวกับดาวอังคารบ้างดีกว่า เผื่อทำความคุ้นเคยกันไว้ก่อน
(พระจันทร์กับดาวศุกร์ก็เคยเขียนคร่าวๆ ไปแล้ว)

เราคุยเล่นกันบ่อยๆ ในห้องเพลงว่าทำไร่แห้วกันจนล้นตลาด ต้องส่งไปขายดาวอังคารบ้างแล้ว
หนังหลายๆ เรื่องก็สร้างเกี่ยวกับดาวอังคาร เราไปทำความรู้จักดาวอังคารกันค่ะ  

ดาวอังคาร

ดาวอังคารเป็นดาวเคราะห์หินในลำดับที่สี่จากดวงอาทิตย์

ดาวเคราะห์หิน (rocky planet) คือดาวเคราะห์ที่มีพื้นผิวชัดเจน (terrestrial planet)
ในระบบสุริยะประกอบด้วยดาวเคราะห์ 4 ดวงคือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และ ดาวอังคาร

ภาพเปรียบเทียบขนาดของดาวเคราะห์หินทั้งสี่ คือ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก และ ดาวอังคาร ตามลำดับ (จากซ้ายไปขวา)


ฤดูกาลของดาวอังคารมีความใกล้เคียงกับโลกมากที่สุด เพราะความเอียงของแกนการหมุนคล้ายคลึงกันกับโลก
แต่ระยะเวลาของแต่ละฤดูกาลบนดาวอังคารมีความยาวประมาณสองเท่าของฤดูกาลบนโลก
เพราะดาวอังคารมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่า หนึ่งปีของดาวอังคารจึงยาวนานร่วมสองปีของโลก

ดาวอังคารห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 230 ล้านกิโลเมตร (143 ล้านไมล์)
คาบการโคจรเท่ากับ 687 วัน (โลก) แสดงด้วยวงสีแดง สีน้ำเงินคือวงโคจรโลก



บางครั้งเรามักเรียกดาวอังคารว่า "ดาวแดง" (Red Planet) เพราะดาวอังคารมีสีแดง
(ความจริงจะเห็นเป็นสีค่อนไปทางส้มอมชมพู) เนื่องจากมีฝุ่นของไอออนออกไซด์ (iron oxide)
หรือที่เรารู้จักกันว่าเป็น สนิมเหล็ก อากาศบนดาวอังคารจะมีความแปรปรวนสูงมาก




พื้นผิวของดาวอังคารจะมีความแตกต่างระหว่างหุบเหวที่ลึกมากและภูเขาไฟที่สูงมากที่สุดเมื่อเทียบกับดาวเคราะห์อื่นในระบบสุริยะ
พื้นผิวของดาวอังคารในปัจจุบันมีความแห้งแล้งแต่ก็มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าดาวอังคารเคยมีน้ำมาก่อน
    
ดาวอังคารมีดาวบริวาร หรือดวงจันทร์ขนาดเล็ก 2 ดวง คือ โฟบอส (Phobos) และเดมอส (Deimos)
โดยทั้งสองดวงมีรูปร่างบิดเบี้ยวไม่เป็นทรงกลม

โฟบอส (ซ้าย) และ เดมอส (ขวา)



ที่ผ่านมามีการส่งยานสำรวจดาวอังคาร และมีการเสนอแผนปฏิบัติการส่งมนุษย์สู่ดาวอังคารหลายต่อหลายครั้ง
แต่ยังไม่มีแผนใดที่ดำเนินการจริงอย่างเร็วที่สุดก่อนปี 2025 (พ.ศ. 2568)

ภาพถ่ายชุดนี้เป็นภาพของพระอาทิตย์ขึ้นที่ดาวอังคาร จากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ
หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อองค์การ NASA  รับรองสวยงาม ตื่นตาตื่นใจ และไม่เคยเห็นมาก่อน




ตำนาน เทพเจ้าดาวอังคาร Mars เทพเจ้าแห่งสงคราม

ดาวอังคารทางสากลนิยมได้ชื่อตามเทพเจ้าแห่งสงครามของโรมัน
ดาวอังคารเป็นตัวแทนของความเข้มแข็ง ความเป็นชาย และความเยาว์วัย
มีสัญลักษณ์เป็นรูปวงกลมที่มีลูกศรชี้ออกมาจากด้านขวาบน ซึ่งยังใช้เป็นสัญลักษณ์แทนเพศชายอีกด้วย



เทพแอรีส (กรีก) หรือ มาร์ส (Mars) ตามที่ชาวโรมันชอบเรียก เป็นหนึ่งในสิบสองของเทพโอลิมปัส
ถือเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม อาวุธ และชุดเกราะ




ชาวโรมันเทิดทูนสดุดีเทพองค์นี้มาก ตรงกันข้ามกับชาวกรีก ซึ่งนอกจากจะไม่นิยมเลื่อมใสเทพองค์นี้แล้ว
ยังถือว่าแอรีสเป็นเทพที่มีนิสัยป่าเถื่อนดุร้าย ปราศจากความเมตตากรุณา

ทั้งที่แอรีสเป็นเทพแห่งสงครามไม่ต่างกับอธีน่า แต่อธีน่ากลับได้รับการยกย่องมากกว่า
เพราะอธีน่าถือเป็นเทพีที่ใช้สติปัญญาในการวางแผนสู้รบได้เป็นอย่างดี ขณะที่แอรีสเป็นเทพที่นิยมใช้ความดุดันและโหดร้าย

เทพแอรีสเป็นโอรสของเทพซูสกับเทวีฮีร่า และทรงเป็นโอรสที่ถูกพระบิดาตราหน้าว่า
“เจ้าเป็นที่น่ารังเกียจ น่าชัง มากที่สุดในบรรดาลูกของข้าทั้งหมด เจ้าทั้งโหดร้าย และดื้อด้านเหมือนกับแม่เจ้าไม่ผิด!”  
แต่เทพซูสกลับโปรดปรานยกย่องธิดาอย่างอธีน่าเป็นอย่างมาก เพราะนิสัยที่สุขุม ฉลาด และเต็มไปด้วยความกล้าหาญ

เพราะเหตุนี้แอรีสจึงอิจฉาอธีน่า ทั้งสองจึงไม่ถูกกัน เจอหน้ากันทีไรก็ปะทะกันทุกที




การเป็นเทพแห่งสงครามตามปกติ จะต้องชนะการรบในทุกที่ แต่สำหรับเทพแอรีสแล้วกลับจะปราชัยเสียมากกว่า
เพราะนอกจากจะพ่ายแพ้แก่เทวีอธีน่าแล้ว เทพแอรีสยังพ่ายแพ้ต่อมนุษย์อีกหลายคนด้วย เช่น เฮอร์คิวลิส

เทพแอรีสเดินทางไปไหนต่อไหนได้โดยรถศึกเทียมม้าที่มีฝีเท้าจัดมากมาย
และมีแสงเกราะและแสงศาตราวุธคู่กาย ที่ส่องแสงสว่างเจิดจ้าบาดตาบุคคลผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

เทพแอรีสมีบริวารคู่ใจที่คอยตามติดอยู่ 2 คน ได้แก่ เดมอส (Deimos) ที่หมายความว่าความกลัว
กับ โฟบอส (Phobos) ที่หมายความว่า น่าสยองขวัญ

ในเชิงดาราศาสตร์ ได้ตั้งชื่อดาวอังคารว่า มาร์ส ตามชื่อเทพแห่งสงครามแล้ว
จึงมีการก็ตั้งชื่อดวงจันทร์ที่เป็นบริวารที่โคจรอยู่รอบดาวอังคารทั้งสองดวงว่า เดมอส กับ โฟบอส ตามไปด้วย

วงโคจรของโฟบอสและเดมอสรอบดาวอังคาร



ขอบคุณแหล่งข้อมูลและภาพประกอบ  
http://www.space.mict.go.th/knowledge.php?id=planet_mars
https://en.wikipedia.org/wiki/Mars
http://andaman2002.blogspot.com/2009/01/ares-mars.html
https://www.google.co.th/url?sa=i&rct=j&q=&esrc=s&source=images&cd=&ved=0ahUKEwiB3eD4wMfVAhUIsI8KHQwCCjYQjhwIBQ&url=https%3A%2F%2Fwww.pinterest.com%2Fpin%2F467037423831885634%2F&psig=AFQjCNGMZbJCjj3Z0e2X7uo7jKOp2m_5dw&ust=1502277193910467
http://www.nationalgeographic.com.au/tv/mars/
https://pantip.com/topic/34842057



....................................................................


แปดโมงเช้าวันอังคาร - ปาล์มมี่


https://www.youtube.com/watch?v=bCw8v70DUDE
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ




แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่