(อยากได้คำแนะนำ) อยู่ม.6 แต่กลับคิดไม่ออกว่าจะเรียนอะไร..

สวัสดีค่ะ ตอนนี้ทั้งๆที่เราเรียนอยู่ม.6 แล้วแต่ไม่รู้ว่าตัวเองจะเรียนอะไร... อยากได้คำแนะนำจริงๆค่ะเพราะหมดทางที่จะหาตัวเองเจอแล้วค่ะ เหมือนไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอาชีพอะไรต่อไป เหมือนหายใจทิ้งไปวันๆ รู้สึกผิดหวังกับตัวเองมากๆ เราเรียนสายวิทย์-คณิตค่ะ แต่ทุกคนคงคิดว่าเด็กที่เรียนวิทย์-คณิตแล้วทุกคนจะเก่ง มันไม่ใช่เลย เพราะเราเป็นคนที่เรียนคณิต-ได้แบบถึงขั้นวิกฤตเพราะรู้แค่บางบทจริงๆ มีทำได้บ้างไปจนถึงบทที่ทำไม่ได้เลย วิทย์-เคมี/ฟิสิกส์/ชีวะ ฟิสิกส์นี่ล่มจมมากๆ ไม่รู้เรื่องสุดๆ ตกทุกครั้งที่สอบ สอบทีก็คะแนนน่าสงสารมาก พอมาเคมีจริงๆก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เลยแต่ก็อยู่ในขั้นกลางๆ ไม่ได้ยาก และไม่ได้ง่าย ส่วนชีวะนั้นเราคิดว่าเราทำได้ค่ะ ไม่ได้แย่เกินไป แต่สุดท้ายแล้วให้มาเฉลี่ยๆกัน คะแนนพวกภาษาไทย สังคม หรือพวกประวัติศาสตร์ ยังมากกว่าคะแนนวิทย์-คณิตหลายเท่า เราเป็นคนที่เรียนบ้างเล่นบ้างค่ะ ไม่ได้เครียดติดเรียนจนเกินไปและไม่ได้เล่นจนเกินขนาดที่ไม่ได้เรียนเลย ตอนนี้ที่รร.เราเพิ่งออก GPAX เฉลี่ย 4 เทอมมาค่ะ เห็นแล้วไม่อยากคุยกับคนอื่นเลย เราได้ 2.55 ค่ะ ดิ่งมากค่ะ เข้าขั้นวิกฤตสุดๆ ไร้ทางแก้ปัญหาเลย

ที่บ้านก็รู้ค่ะว่าเราได้เกรดมายังไงบ้าง >>> จริงๆแล้วเราเป็นิด็กวิทย์ที่หัวไปทางด้านศิลป์ค่ะ ก็ง่ายๆคือโดนบังคับให้มาเรียนสายวิทย์-คณิต ที่บ้านจะมีน้าคนนึงที่ทำงานเป็นเภสัชกรค่ะ มีร้านยาเป็นของตัวเอง รายได้ดีเลยอยากให้เราเรียนเภสัชค่ะเพราะมีร้านของน้ารองรับ แต่ด้วยช่วงม.ปลายแรกๆไม่คิดว่าจะยากค่ะ ทำไปทำมาเกรดแรกที่ได้คือ 2.50 เป๊ะเลยค่ะ จากที่ไม่เคยได้เลข 2 นำหน้า ร้องไห้โฮกับแม่เลย แม่เราจริงๆก็ไม่โอเคหรอกแต่เพราะเราร้องไห้และรู้สึกผิดก็เลยบอกว่าครั้งหน้าก็พยายามใหม่ เราเลยถูกฝังตั้งแต่แรกว่าต้องเรียนเภสัชเท่านั้น เลยไม่ได้คิดอะไรมากเลยค่ะเรียนไปอย่างเดียว ทั้งๆที่รู้สึกว่าตัวเองพยายามแล้วนะคะ แต่สุดท้ายเกรดก็ออกมาได้เรื่อยๆก็แค่ 2.54 2.62 2.54 จริงๆเราก็รู้ค่ะว่าทำไม เราทำเกรดฟิสิกส์ไม่ได้ค่ะ ฟิสิกส์เรามักจะได้เกรด 2 คณิตก็ประมาณ 2.5  หลังจากนั้นเราเลยปลงค่ะ ทำได้เท่าที่จะทำได้ เหรดดลยห่วยจนเฉลี่ยได้ 2.55 นี่แหละค่ะ /ตัดไปที่ตัวเราเองคิดว่าเราเป็นคนที่วาดภาพได้ ถ่ายภาพได้ ทำงานคอมได้ แต่ไม่เคยได้ฝึกทำค่ะ จริงๆจะบอกพรสวรรค์ก็ได้ แต่ทุกคนถึงมีพรสวรรค์มาก็ต้องหาพรแสวงเพื่อให้ได้ผลงานดีขึนไปอีก แต่ > เวลาวาดภาพเคยแต่รับจ้างทำงานวาดภาพให้เพื่อนเวลามีงาน ไม่เคยฝึกวาดลายเส้นให้ได้แบบจริงๆจังๆค่ะ >เวลาถ่ายภาพก็จะชอบเป็นตากล้องให้เพื่อนไม่ค่อยมีรูปตัเองเลยค่ะเพราะจะชอบเป็นคนถ่าย เคยถามคนทีรู้เรื่องกล้องมาบ้างแต่ก็ไม่ได้จริงจังและแม่ก็ไม่ให้ซื้อค่ะเพราะกลัวเราจะเหลวไหล > เวลาทำงานที่ต้องใช้คอมจะเป็นคนเสนอตัวทำตลอดค่ะบางครั้งเพื่อนก็ไว้ใจเสนอให้เราทำ แต่ไม่ได้ทำโปรแกรมหรือฝึกที่จะเก่งเรื่องคอมอย่างจริงจัง สุดท้ายไม่มีอะไรที่เราทำได้เลยค่ะ ...แค่พอได้ทำ
ตอนม.5 เทอม2 เรากลายเป็นคนที่เป็นโรคเครียดค่ะต้องไปหาหมอโรงพยาบาล แล้วหมอแนะนำให้ไปสราญรมย์น่ะ(โรงพยาบาลบ้า) เพราะด้วยเหตุที่ว่ามียาที่กินแล้วเคมีจะเข้ากับสใองเรามากที่สุด ตอนนั้นช็อคเลยค่ะ นี่คือกูบ้าไปแล้วหรอ! พอแม่ฟังจากหมอนี่แม่เราเงียบเลยค่ะ มีอะไรก็จะพยายามไม่ทำให้เราเครียด แต่ก็ยังยัดเยียดเราเรียนเภสัชเหมือนเดิมค่ะด้วยคำที่บอกว่า ถ้าไม่ได้ก็เรียนเอกชน ตอนนั้นเราตื้อทุกทางค่ะ ตำได้แค่ต้องยอมไปเท่านั้น ทุกคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราไม่บอกว่าเราไม่ชอบ หรือปฏิเสธแม่ไปบ้าง บอกได้เลยว่าเคยมีตอนม.5เทอม1ค่ะ เราเริ่มเบนสายไปทางศิลป์ เลยขอคุยกับแม่ พอเราบอกว่าอยากเรียนนิเทศ สาขาดิจิทัล หรืออยากเรียนพวกสถาปัตย์ออกแบบแม่ก็เงียบค่ะ ตอนนั้นน้ำตาเราเริ่มไหลเลยค่ะทะเลาะกัน แล้วแม่ก็พูดขึ้นมาว่า จบแล้วทำงานอะไร ได้เงินเท่าไหร่ จะมีงานทำหรอ เราพูดไม่ถูกเลยค่ะ ปกติเรากับแม่เป็นคนที่เงียบๆทั้งคู่อยู่แล้ว แม่จะเป็นคนให้เราอยู่ในกรอบตลอดเวลา พอมาเจอคำถามแบบนี้เราเถียงอะไรไม่ได้ อธิบายไม่ได้ตื้อไปหมด จนคำสุดท้ายอยู่ๆแม่ก็ร้องไห้ตามเราแล้วพูดว่า "เรียนให้แม่ได้มั้ย" เราเลยตัดสินใจหยุดโต้อะไรค่ะ จนถึงวันนั้นเราก็เลยรู้ว่าเราไม่สามารถคุยกับแม่ได้อีกเลยซึมซับแต่คำว่า เภสัช เภสัช เภสัช ไปเรื่อยๆ จนมันมาถึงจุดที่ต้องทำอะไรสักอย่างคือม.6 เริ่มคาบแนะแนวคาบแรกทำเราคิดได้ค่ะ เพื่อนเราพูดขึ้นมาว่า "จะอยู่กลับเภสัชไปตลอดชีวิตเลยนะ" เราจึกเลยค่ะได้แต่ทำหน้าทำตาแบบปัดๆให้มันไป สุดท้ายวันนั้นกลับไปเราร้องไห้แล้วโทรหาแม่ค่ะ (ลืมบอกเราอยู่หอนะคะ กลับเสาร์-อาทิตย์ แต่พอช่วงม.6ไม่ค่อยได้กลับเลยค่ะพิมพพ์แล้วคิดถึงแม่เลย) เราพูดความรู้สึกทุกอย่างให้ฟังว่าเราไม่โอเคแค่ไหนที่โดนบังคับนู้นนี่ ผ่านไปนานมากค่ะจนแม่เรายอมว่าโอเคแม่เข้าใจแล้ว แต่พูดกลับมาว่า "แล้วจะเรียนอะไร" คำนี้ยังตราตรึงในใจเรามากค่ะ ตอนนั้นเราตอบกลับไปเลยว่า "ถ้าแม่เป็นน้องแม่จะรู้สึกว่าการที่ผู้ใหญ่บังคับให้เด็กอยู่ในกรอบแล้วใส่เอาเรื่องที่บังคับเข้ามาไปในกรอบเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนมันอัดแน่นไปด้วยคำว่าบังคับ แล้วเด็กคนนั้นจะคิดอะไรได้นอกจากคำว่า บังคับ" >> คือเราจะสื่อว่าเราอ่ะโดนบังคับให้เรียนเภสัชจนในหัวมีแต่เภสัชแล้วตอนนี้เราไม่รู้ว่าจะเรียนอะไรเลย
หลังจากนั้นแม่เรายอมทุกอย่างค่ะ ด้วยกลัวเราจะคิดมาก เลยบอกน้าบอกกับทุกคนว่าเราไม่อยากเรียน ยังดีค่ะที่ทุกคนยังเข้าใจ แต่ปัญหาหลังจากนั้น คือ จะเรียนอะไร จะทำอะไรต่อ ..

จบกันค่ะ หาทางออกไม่ได้เลย เราพยายามหาข้อมูลทุกคณะเลยค่ะ จนเมื่อวานค่ะอยู่ๆก็ร้องไห้เลยเพราะเหนื่อยมาก จนคิดว่าตัวเองไม่มีค่าที่จะอยู่เลย... อย่าด่าเลยค่ะเราคิดแบบนั้นจริงๆ มันเหมือนคนหมดทางจะก้าวต่อเลย เราร้องไห้ตั้งแต่ 3 ทุ่มจนไม่ได้นอนค่ะ พอมาวันนี้ที่เราตั้งกระทู้นี้เรามารู้ GPAX 4เทอมค่ะ ยิ่งเครียดกว่าเดิม..

เราอยากได้คำแนะนำดีๆค่ะ อ่านแล้วขอวอนจริงๆอย่าว่าอะไรเราเลยค่ะ เราพยายามสุดๆแล้ว รู้แค่ว่าตัวเองเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นคนชอบทำงานเบื้องหลัง ไม่ได้อยากได้หน้าตาหรือชื่อเสียง อยากมีรายได้ที่พอเหมาะกับเลี้ยงครอบครัวไม่ต้องรวยจนล้นฟ้า อยากใช้ชีวิตธรรมดา แค่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง เรียนจบปริญญาให้แม่ เราชอบเรียนสังคม กับชีวะค่ะ ถึงจะเก่งศิลป์แต่ไม่ชอบให้เป็นอาชีพหลักค่ะเพราะมันเริ่มไม่มั่นคง ตอนนี้เริ่มอยากศึกษาคณะพวกบริหาร วิทยาการจัดการ เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ มนุษศาสตร์ แต่ก็เหลวค่ะรอบportเราคงยังไม่ได้เลยเพราะเกรด... จริงๆหวังรอบ portfolio มากค่ะเพราะคิดว่าตัวเองก็ทำพอร์ตได้น่าสนใจ แต่ก็เหลวตรงเกรดนี่แหละค่ะ

ดังนั้นเราขอคำแนะนำหรือกำลังใจเล็กๆน้อยหน่อยค่ะ จากผู้ใหญ่หรือเพื่อนๆก็ได้ค่ะ อยากปรึกษาจนต้องมาสมัครแอคพันทิปจริง

สุดท้ายนี้ขอบคุณมากๆค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่