[CR] หมูอ้วนตัวกลมสะพายเป้เที่ยว ตอน ไปขับรถเที่ยวที่โอกินาว่ากันเถอะ!!

กระทู้รีวิว

บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ เที่ยวญี่ปุ่น สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ Backpack

ทริปนี้เกิดจากการที่โดนโฆษณาทางการตลาดของสายการบิน Peach Air อยู่บ่อยครั้งทั้งทางเมลและสื่อออนไลน์ต่างๆ พร้อมกับราคาที่โดนใจจริงๆ ไป-กลับญี่ปุ่นด้วยงบไม่เกิน 5,000 บาท ทำให้อดใจไม่ไหวกดคลิกจองตั๋วพร้อมชำระค่าเสียหายเรียบร้อย เราเดินทางกันทั้งหมด 4 คน ไปกัน 4 วัน 3 คืน เดือนที่เราไปคือเดือน ก.ค. เป็นหน้าร้อนของโอกินาว่าเลย ต้องบอกว่าร้อนมากจริงๆเมืองไทยยังอายเลยและที่สำคัญเป็นน่า High Season ของโอกินาว่าเลยเรื่องโรงแรมเลยราคาจะสูงกว่าปกติ เพราะตอนแรกเราเข้าใจผิดคิดว่าหน้า High ของเค้าถือหน้าหนาวแต่ที่นี่กลับไม่ใช่แต่จะทำยังไงได้จองไปแล้วเนอะ ซึ่งเที่ยวบินของสายการบินนี้ถือว่าปล่อยออกมาตรงใจกับมนุษย์เงินเดือนแบบเราเลย บินกลางคืนจากไทยถึงเช้าที่ญี่ปุ่น และบินกลับดึกจากญี่ปุ่น ถึง ดึกมากของประเทศไทย มีเที่ยวบินรอบเดียวให้เลือกเท่านั้นนะครับ แต่ผมคิดว่าคงโดนใจใครหลายคนแน่นอน เราไปกันทั้งหมด 4 คน จะไปเยอะกว่านี้ก็ลำบากเพราะลางานกันไม่ได้เยอะกว่านี้นะครับ ต่อมาเราก็มาหาข้อมูลว่าโอกินาว่ามันเป็นยังไง มันแตกต่างกับโตเกียวหรือโอซาก้าตรงไหนไหม สรุปง่ายๆคือสถานที่เที่ยวส่วนใหญ่อยู่นอกเมืองซึ่งไม่ได้มีรถไฟวิ่งไปถึงแบบโตเกียวหรือว่าโอซาก้า แต่จะมีตัวเลือกอยู่สำหรับคนที่จะเที่ยวนอกเมืองคือรถบัสกับเช่ารถขับเอง ดังนั้นเราไปกัน 4 คนก็ต้องเช่ารถแน่นอนครับเพื่อความสะดวกและเที่ยวได้แบบสบายใจเลย ต่อมาก็มาเลือกที่เที่ยวกันเลยว่าจะเที่ยวแบบไหนบ้างที่โอกินาว่าเที่ยวง่ายกว่าที่คิดเพราะว่าเราสามารถเปิด GPS ที่รถไปได้ทุกที่เลย ดังนั้นเลยไม่ต้องวางแผนเรื่องเที่ยวด้วยรถไฟแบบโตเกียวหรือโอซาก้าเลย แค่จิ้มว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนก็กดไปได้เลยเราจะแบ่งการเที่ยวเป็น 3วันแรกเราจะเที่ยวนอกเมืองและพักนอกเมืองส่วนวันสุดท้ายเราจะกลับมาเที่ยวในเมืองนะครับ รายละเอียดต่างๆ ติดตามกันต่อได้เลยครับ

สิ่งที่ขาดไม่ได้หลักๆเลยสำหรับเที่ยวรอบนี้ ขอแค่ 3 อย่างพอ 1. เงิน 2. Passport 3.ใบขับขี่สากล ผมขออธิบายคร่าวๆเกียวกับใบขับขี่สากลนะครับ นอกนั้นทุกคนคงพร้อมและรู้อยู่แล้ว การทำใบขับขี่สากลนั้นแค่ฟังนั้นเหมือนจะยากแต่จริงๆมันง่ายมากๆจนเราตกใจว่ามันง่ายขนาดนี้เลยหรอ ขอเพียงแค่คุณมีใบขับขี่ที่ใช้ในประเทศไทยอยู่แล้วแค่นี้คุณก็สบายใจได้เลย รายละเอียดตามที่กรมขนส่งกำหนดเลยครับ https://www.dlt.go.th/th/driving-license/view.php?_did=90 พร้อมกับเตรียมเงินไป 505 บาท ด้วยนะ

ทุกอย่างมีพร้อมแล้วก็ลุยกันเลยครับ สายการบินนี้บินที่สุวรรณภูมินะครับ เดินขาเมื่อยเลย gate อยู่ในสุดเลยตอนเช็คอินทางเจ้าหน้าที่เค้าแนะนำพวกเราว่าเผื่อเวลาเดินหน่อยนะ ตอนสายการบินนี้เปิดใหม่ๆได้ยินปัญหาเรื่องการดีเลย์บ้าง การบริการบ้าง แต่ที่เรามาเจอรอบนี้ทุกอย่างปกติดีครับไม่มีดีเลย์และติดขัดอะไรเครื่องออกปกติเลย เราเดินทางเวลาตี 1.40 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4-5ชั่วโมง จะถึงเวลาในญี่ปุ่นก็คือ 8โมงเช้าครับ พอขึ้นเครื่องทุกอย่างพร้อมแล้วไม่รอช้าหลับยาวๆเลยครับ แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่าสายการบินนี้มันเป็น Low Cost ของญี่ปุ่น เครื่องจะไม่ได้ใหญ่มากนะครับ แต่สำหรับผมคิดว่าราคาแบบนี้กับการนั่งแบบนี้ก็ถือว่าสมเหตุสมผลครับ

นอนไปสักพักก็สะดุ้งตื่นลองเปิดออกมาดูก็เห็นแสงอาทิตย์กำลังจะขึ้นเลย ดูเวลาก็อีกประมาณ 1 ชั่วโมงถึงครับ หลับได้อีกรอบหนึ่งครับ

เมื่อมาถึงก็ไม่รอช้าครับ สิ่งแรกเลยที่ต้องเตรียมตัวก่อนลุยวันนี้คือล้างหน้า แปรงฟันก่อนครับ หลังจากผ่าน ตม กันมาแล้วก็ทำธุระส่วนตัวกันให้เรียบร้อย และเดินออกมาจะเจอบูธบริษัทเช่ารถของที่นี่เยอะเลยครับ เราได้จองไว้กับบริษัท OTS rent-a-car https://www.otsinternational.jp/otsrentacar/en/okinawa/ จริงๆตอนแรกเรามีจองไว้กับบริษัท ABC แต่ตอนจะไปยังไม่มีการส่งเมลตอบกลับมาก่อนจะไปแค่ 1 วันเลยตัดสินใจเปลี่ยนที่เช่ารถเลยครับดีนะยังได้ราคาไม่แพง พอมาติดต่อที่บูธเค้าจะให้เรารอแปปหนึง จะมีรถบัสของบริษัทมารับเราจากสนามบินไปถึงบริษัทเค้าเลยครับ

มาถึงก็มาติดต่อเรื่องรถได้เลยครับ จะจ่ายเงินสดหรือเครดิตการ์ดได้เลยครับ เค้าก็จะแนะนำวิธีการขับรถของที่นี่และกฏหมายของการขับรถที่นี่ให้เราฟังครับพร้อมกับเอกสารและแผนที่สำหรับที่ๆเราจะไปต่างๆ พร้อมกับใบประกัน ทางผมได้ทำประกันเพิ่มไปนะครับ กันไว้ดีกว่าแก้เนอะ เราเช่ารถทั้งหมด 3 วัน รวมประกันเป็นเงินทั้งหมด 19,400 เยน ก็ตกคนละ 4,850 เยน หรือเป็นเงินไทยก็คือตกวันละ 500 บาท ครับ และที่ดีกว่านั้นคือเค้าสอบถามว่ามากันกี่คนกระเป๋ากี่ใบเราก็ตอบไปตามความจริงว่ามากัน 4คน กระเป๋า 4 ใบ เค้าเลยอัพเกรดรถให้เราขึ้นโดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรเลย ใจดีสุดๆ คืนรถไม่เกิน 6 โมงเย็นนะครับของทุกวัน หลังเอารถมาคืนจะมีบริการไปส่งที่สนามบินให้ครับ

ภายในบริษัทก็จะมีขายตั๋วสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆซึ่งราคาจะถูกกว่าเราไปซื้อที่ทางเข้านั้นนะครับ แนะนำว่าควรซื้อสถานที่ๆเราจะไปแน่นอนไว้ครับ ส่วนบางที่เราไม่มั่นใจว่าจะได้ไปหรือเปล่า หรือ ว่าไปไม่ทันยังไงอย่าไปเสี่ยงซื้อเลยครับ

มาดูรถที่เราเช่ากันเลยครับ เจ้าหน้าที่พามาสำรวจรถว่ามีรอยตรงไหน เปิด-ปิดตรงไหน น้ำมันเต็มถัง และเดี๋ยวตอนมาส่งคืนก็เติมเต็มถังกลับ ซึ่งจุดที่ดีของที่นี่คือปั้มน้ำมันอยู่ติดกับบริษัทเช่ารถเลยดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการหาปั้มน้ำมันเลย รถที่เราได้คือ Corolla Axio Hybrid เป็นรถใหม่เอี่ยมเลย ขับนิ่มและประหยัดน้ำมัน

เป้าหมายแรกที่เราจะไปก็คือ Okinawa Churaumi Aquarium แต่เนื่องจากตั้งแต่ลงเครื่องมายังไม่ได้กินข้าวกันเลยและกว่าจะทำเรื่องเช่ารถเสร็จก็ 11 โมงแล้ว ต้องหาอะไรกินกันก่อนแล้ว เราได้ตั้ง GPS โดยการใส่ Code map เข้าไป โดยจะต้องขึ้นทางด่วนซึ่งขับได้ไม่เกิน80 km/ชั่วโมง ได้ยินไม่ผิด 80km/ชั่วโมงจริงๆ ซึ่งตอนแรกยังไม่ชินกับการขับรถช้าแบบนี้ในถนนโล่งๆเลย ทางด่วนเค้าก็จะมีจุดพักรถเหมือนมอเตอร์เวย์บ้านเราเหมือนกันเลยกินข้าวที่นี่เลย