เรารู้จักกันผ่าน Tinder ประมาณ 2 เดือนก่อนค่ะ
เรามีคำอธิบายใน Tinder ว่าเราอยากฝึกษาอังกฤษ
คุยกันถูกคอ เลยมีโอกาสได้แลกไลน์กันไว้ค่ะ
แล้วก็มีการคุยกันต่อมาเรื่อยๆ ประมาณ 2 สัปดาห์
(โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่มีการพูดถึงเรื่องรักๆใคร่ๆเลยนะคะ
ไม่มีเรื่องอย่างว่า มีแต่เรื่องชีวิต ธรรมชาติ วัฒนธรรม งาน เป็นต้น)
หลังจากนั้นเราก็มีโอกาสได้เจอกัน 2 ครั้ง โดยที่เป็นการนัดไปกินข้าว
ดูหนัง จิบเบียร์ริมทะเล ไปเที่ยวเกาะด้วยกัน ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวใดๆทั้งสิ้น
มีการตกลงว่าจะแชร์ค่าใช้จ่ายกันนะ ยกเว้นบางรายการที่ใครสักคนอยากจะสลับกันจ่ายให้
เวลาไปเที่ยวด้วยกันพอตอนจะแยกย้าย เค้าก็จะขอบคุณตลอด บอกว่าสนุกมากๆเลย
แล้วก็จะหาโอกาสชวนเที่ยวด้วยกันอีกรอบหน้า
ระหว่างนั้นที่คุยกันมาเรารู้สึกว่าเค้าใส่ใจรายละเอียดของเรานะคะ
พยามสอนภาษาตลอด ตรงไหนผิดก็จะแก้ให้ แล้วก็สอนภาษาบ้านเกิดของเค้า
คุยแล้วสนุกดีค่ะ แล้วก็ดุแคร์เราบ้าง เช่น ก่อนจะสูบบุหรี่ก็จะถามว่าเราโอเคไหมถ้าเค้าจะสูบตรงนี้
หรือว่ายังไง อยากไปไหน อยากทำอะไร ก็จะมา prefer กัน
จนวันนึงก็ไปกินข้าว ไปเที่ยวด้วยกันตามปกติ แต่ว่าวันนี้ไปจิบเบียร์กันต่อที่ลานหน้าคอนโดของเค้า
ซึ่งลานนั้นจะค่อนข้างเงียบ ส่วนตัว แล้วตอนนั้นก็ดึกมาแล้วด้วย ประมาณเที่ยงคืน
เริ่มเมาเล็กน้อย ชวนคุยกันเรื่อยเปื่อย เค้าก้ถามเราว่าคนไทยเวลากินเบียร์ มีเกมส์เล่นไหม
เราก็เลยเสนอเกมส์สลับกันถามคำถาม ถ้าคำถามนั้นตอบไม่ได้ ให้กินเบียร์ตามที่เราสั่ง
ก็เลยมีการพูดถึงเรื่องอย่างว่า เรื่องส่วนกันบ้าง แต่ไม่ได้ลามกนะคะ เหมือนเป็นคำถามที่ตั้งมาเพื่อสืบเรื่องส่วนตัวอย่างนั้นเลย
อยู่ดีๆเราก็ถามเค้าว่า ตอนที่คุณกลับประเทศคุณไปแล้ว เราจะมีโอกาสได้เจอกันอีกไหม
เค้าก็บอกว่า ดูเหมือนจะยากเลย เราอยู่ห่างกันครึ่งโลกเลยนะ ทำไมคุณถามเรื่องนี้ล่ะ คุณ feel something หรอ?
เราก็บอกไปนะคะว่า เราถามเฉยๆ เค้าก็ดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก
เจ้ากรรม ฝนลงเม็ดเราเลยจะย้ายที่นั่งไปนั่งที่ lobby ด้านใน แต่....
ฝนหยุดค่ะ ก็เลยย้ายไปนั่งเก้าอี้ใกล้ๆ lobby แทน ซึ่งลักษณะเก้าเป็นเก้าอี้หวายสานกลมๆ
พอที่จะให้คน 2 คน lay down ด้วยกันได้
ตอนนั้นตี 2 เราก็เริ่มเมาแล้วค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านี้ที่ร้านอาหารซัดคอกเทลไป 2 แก้ว
แล้วยังมานั่งกินเบียร์ต่ออีก พอได้นอนลงไปก็รู้สึกเหมือนจะหลับ ก็ชวนคุยหนุงหนิงกันไปเรื่อยๆ
เราก็บอกว่าเราหนาว เท่านั้นแหละค่ะ
เค้าดึงเราไปกอด แบบให้เราหนุนแขน แล้วเอาอีกมือโอบ แล้วก็จับขาเรามาก่ายเค้า
แล้วก็นอนลูบหัวเราไปเรื่อย
เรา...หลับสิคะ แต่ตอนนั้นแบบสลึมลือคุยกันอยู่นานเลยแหละ แต่จำไม่ได้
จำได้คร่าวๆ ประมาณนนี้ค่ะ
เค้าบอกว่า อยากให้เค้าทำอะไรให้ไหม
เค้าบอกว่า เราเป็น best friend ของเค้ามากๆ เค้าไม่อยากให้เรารู้สึก suffer รู้สึกแย่และเศร้าเวลาเค้ากลับประเทศไปแล้ว
ตอนนี้เรา closer มากๆ ถ้าเราไม่เมา เรากับเค้าอาจจะไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้ เพราะว่าเหมือนจะไม่ต้องการ
ขณะเดียวกันเค้าก็เอาจมูกเค้ามาถูๆเรา เอามือจับหู
ตอนนั้นเราคิดแล้วว่าต้องโดนจูบแน่ๆ แต่เค้าไม่ได้ทำค่ะ
พอเราลืมตา เค้าก็นอนมองเรา ลูบหัวอยู่อย่างนั้นแหละ
แล้วก็บอกว่า ให้นอนพักไปก่อน เดี๋ยวต้องขับรถอีก เดี๋ยวเค้าปลุกเอง อีก 10 นาที
สรุปว่าเรางอแง ไม่ยอมตื่น 40 นาทีผ่านไป ก็นอนกอดกันอย่างนั้นแหละค่ะ
แต่เราก็สัมผัสได้ว่าเวลาขยับมาเราลูบเบาๆที่ตัวเค้า เค้าก็จะลูบกลับเบาๆ ที่เอวหรือหน้า
คืนนั้นก็จบด้วยเหตุการณ์ประมาณนั้นแหละค่ะ
ก่อนแยกย้ายที่ลิฟก็กอดลา เราก็ kiss เค้าเบาๆทีนึง ก็หัวเราะๆกันไป
แล้วก็ไลน์มาบอกว่า ถึงบ้านแล้วก็ให้บอกด้วยนะ
มันเป็นฟีลลิ่งที่ดีมากเลยล่ะค่ะ จริงๆมันออกจะดูไม่รักนวลสงวนตัวสักเท่าไหร่
แต่อายุเราก็เยอะประมาณนึงแล้วแหละ มีงานทำดูแลตัวเองได้
แล้วก็รู้สึกว่า เค้าไม่ได้ฉวยโอกาส การกอดที่บ้านเค้าอาจจะดูเป็นการแสดงความรักอย่างนึง รึป่าว ??
เราก็เลยสงสัยว่า สถานการณ์ประมาณนี้ การกระทำแบบนี้ เค้าจริงใจไหมคะ เค้าจะรู้สึกอะไรกับเราสักนิดนึงไหม
มีโอกาสที่เราจะชอบกันได้จริงๆไหม เพราะว่า จริงๆเราก็คงเศร้าอยู่ไม่น้อย ถ้าถึงเวลาที่เราจะต้องจากกันจริงๆ
เพราะในสายตาเรา เค้าน่ารักและสุภาพมากๆเลยล่ะค่ะ
ฝรั่งมีท่าทีประมาณนี้ เค้าจริงใจกับเราไหมคะ
เรามีคำอธิบายใน Tinder ว่าเราอยากฝึกษาอังกฤษ
คุยกันถูกคอ เลยมีโอกาสได้แลกไลน์กันไว้ค่ะ
แล้วก็มีการคุยกันต่อมาเรื่อยๆ ประมาณ 2 สัปดาห์
(โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่มีการพูดถึงเรื่องรักๆใคร่ๆเลยนะคะ
ไม่มีเรื่องอย่างว่า มีแต่เรื่องชีวิต ธรรมชาติ วัฒนธรรม งาน เป็นต้น)
หลังจากนั้นเราก็มีโอกาสได้เจอกัน 2 ครั้ง โดยที่เป็นการนัดไปกินข้าว
ดูหนัง จิบเบียร์ริมทะเล ไปเที่ยวเกาะด้วยกัน ไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวใดๆทั้งสิ้น
มีการตกลงว่าจะแชร์ค่าใช้จ่ายกันนะ ยกเว้นบางรายการที่ใครสักคนอยากจะสลับกันจ่ายให้
เวลาไปเที่ยวด้วยกันพอตอนจะแยกย้าย เค้าก็จะขอบคุณตลอด บอกว่าสนุกมากๆเลย
แล้วก็จะหาโอกาสชวนเที่ยวด้วยกันอีกรอบหน้า
ระหว่างนั้นที่คุยกันมาเรารู้สึกว่าเค้าใส่ใจรายละเอียดของเรานะคะ
พยามสอนภาษาตลอด ตรงไหนผิดก็จะแก้ให้ แล้วก็สอนภาษาบ้านเกิดของเค้า
คุยแล้วสนุกดีค่ะ แล้วก็ดุแคร์เราบ้าง เช่น ก่อนจะสูบบุหรี่ก็จะถามว่าเราโอเคไหมถ้าเค้าจะสูบตรงนี้
หรือว่ายังไง อยากไปไหน อยากทำอะไร ก็จะมา prefer กัน
จนวันนึงก็ไปกินข้าว ไปเที่ยวด้วยกันตามปกติ แต่ว่าวันนี้ไปจิบเบียร์กันต่อที่ลานหน้าคอนโดของเค้า
ซึ่งลานนั้นจะค่อนข้างเงียบ ส่วนตัว แล้วตอนนั้นก็ดึกมาแล้วด้วย ประมาณเที่ยงคืน
เริ่มเมาเล็กน้อย ชวนคุยกันเรื่อยเปื่อย เค้าก้ถามเราว่าคนไทยเวลากินเบียร์ มีเกมส์เล่นไหม
เราก็เลยเสนอเกมส์สลับกันถามคำถาม ถ้าคำถามนั้นตอบไม่ได้ ให้กินเบียร์ตามที่เราสั่ง
ก็เลยมีการพูดถึงเรื่องอย่างว่า เรื่องส่วนกันบ้าง แต่ไม่ได้ลามกนะคะ เหมือนเป็นคำถามที่ตั้งมาเพื่อสืบเรื่องส่วนตัวอย่างนั้นเลย
อยู่ดีๆเราก็ถามเค้าว่า ตอนที่คุณกลับประเทศคุณไปแล้ว เราจะมีโอกาสได้เจอกันอีกไหม
เค้าก็บอกว่า ดูเหมือนจะยากเลย เราอยู่ห่างกันครึ่งโลกเลยนะ ทำไมคุณถามเรื่องนี้ล่ะ คุณ feel something หรอ?
เราก็บอกไปนะคะว่า เราถามเฉยๆ เค้าก็ดูไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นัก
เจ้ากรรม ฝนลงเม็ดเราเลยจะย้ายที่นั่งไปนั่งที่ lobby ด้านใน แต่....
ฝนหยุดค่ะ ก็เลยย้ายไปนั่งเก้าอี้ใกล้ๆ lobby แทน ซึ่งลักษณะเก้าเป็นเก้าอี้หวายสานกลมๆ
พอที่จะให้คน 2 คน lay down ด้วยกันได้
ตอนนั้นตี 2 เราก็เริ่มเมาแล้วค่ะ เพราะว่าก่อนหน้านี้ที่ร้านอาหารซัดคอกเทลไป 2 แก้ว
แล้วยังมานั่งกินเบียร์ต่ออีก พอได้นอนลงไปก็รู้สึกเหมือนจะหลับ ก็ชวนคุยหนุงหนิงกันไปเรื่อยๆ
เราก็บอกว่าเราหนาว เท่านั้นแหละค่ะ
เค้าดึงเราไปกอด แบบให้เราหนุนแขน แล้วเอาอีกมือโอบ แล้วก็จับขาเรามาก่ายเค้า
แล้วก็นอนลูบหัวเราไปเรื่อย
เรา...หลับสิคะ แต่ตอนนั้นแบบสลึมลือคุยกันอยู่นานเลยแหละ แต่จำไม่ได้
จำได้คร่าวๆ ประมาณนนี้ค่ะ
เค้าบอกว่า อยากให้เค้าทำอะไรให้ไหม
เค้าบอกว่า เราเป็น best friend ของเค้ามากๆ เค้าไม่อยากให้เรารู้สึก suffer รู้สึกแย่และเศร้าเวลาเค้ากลับประเทศไปแล้ว
ตอนนี้เรา closer มากๆ ถ้าเราไม่เมา เรากับเค้าอาจจะไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้ เพราะว่าเหมือนจะไม่ต้องการ
ขณะเดียวกันเค้าก็เอาจมูกเค้ามาถูๆเรา เอามือจับหู
ตอนนั้นเราคิดแล้วว่าต้องโดนจูบแน่ๆ แต่เค้าไม่ได้ทำค่ะ
พอเราลืมตา เค้าก็นอนมองเรา ลูบหัวอยู่อย่างนั้นแหละ
แล้วก็บอกว่า ให้นอนพักไปก่อน เดี๋ยวต้องขับรถอีก เดี๋ยวเค้าปลุกเอง อีก 10 นาที
สรุปว่าเรางอแง ไม่ยอมตื่น 40 นาทีผ่านไป ก็นอนกอดกันอย่างนั้นแหละค่ะ
แต่เราก็สัมผัสได้ว่าเวลาขยับมาเราลูบเบาๆที่ตัวเค้า เค้าก็จะลูบกลับเบาๆ ที่เอวหรือหน้า
คืนนั้นก็จบด้วยเหตุการณ์ประมาณนั้นแหละค่ะ
ก่อนแยกย้ายที่ลิฟก็กอดลา เราก็ kiss เค้าเบาๆทีนึง ก็หัวเราะๆกันไป
แล้วก็ไลน์มาบอกว่า ถึงบ้านแล้วก็ให้บอกด้วยนะ
มันเป็นฟีลลิ่งที่ดีมากเลยล่ะค่ะ จริงๆมันออกจะดูไม่รักนวลสงวนตัวสักเท่าไหร่
แต่อายุเราก็เยอะประมาณนึงแล้วแหละ มีงานทำดูแลตัวเองได้
แล้วก็รู้สึกว่า เค้าไม่ได้ฉวยโอกาส การกอดที่บ้านเค้าอาจจะดูเป็นการแสดงความรักอย่างนึง รึป่าว ??
เราก็เลยสงสัยว่า สถานการณ์ประมาณนี้ การกระทำแบบนี้ เค้าจริงใจไหมคะ เค้าจะรู้สึกอะไรกับเราสักนิดนึงไหม
มีโอกาสที่เราจะชอบกันได้จริงๆไหม เพราะว่า จริงๆเราก็คงเศร้าอยู่ไม่น้อย ถ้าถึงเวลาที่เราจะต้องจากกันจริงๆ
เพราะในสายตาเรา เค้าน่ารักและสุภาพมากๆเลยล่ะค่ะ