คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
คือตามภาพที่ จขกท.วาดมา มันคือระบบที่เรียกว่า Binary system ครับ
หรือ ระบบดาวคู่ นั่นเอง ระบบดาวคู่เมื่อมันกำเนิดขึ้นมาแล้ว จะมีลักษณะการโคจรรอบกันอยู่ 3 แบบ
ตามภาพล่างนี้ครับ ดาวเคราะห์ที่จะโคจรรอบดาวฤกษ์ในระบบดาวคู่ จะเรียกว่า Circumbinary planet ครับ
ระบบดาวคู่สามารถแบ่งรูปแบบได้ 3 แบบ ดังนี้
1. ดาวคู่ที่ใกล้กันไม่เกิน 3 AU ก็จะสามารถเกิดแผ่นจานมวลสาร และพัฒนาไปเป็นดาวเคราะโคจรรอบดาวฤกษ์ทั้ง 2 ได้
2. ดาวคู่ที่โคจรใกล้กันระหว่าง 3 - 50 AU ก็จะไม่มีโอกาสมีดาวเคราะห์ได้ เพราะแผ่นจานมวลสาร
ที่เป็นต้นกำเนิดดาวเคราะห์ ไม่สามารถ form ตัวในสภาพแรงโน้มถ่วงรอบดาว 2 ดวงนี้ได้
3. หากดาวคู่นั้นห่างกันมาก 50 - 500 AU ดาวเคราะก็อาจไปกำเนิดใกล้ดาวฤกษ์ดวงใดดวงหนึ่งครับ
โดยนิยามนี้ ดาวฤกษ์ทั้งสองดวงจะถือเป็น Host Stars ทั้งคู่ ไม่มีใครเป็นบริวารใคร
ดาวบริวารคือดาวเคราะห์ Circumbinary planet เท่านั้น
ดังนั้น ภาพที่ จขกท.ทำมาให้นี้ ก็จะเข้าในกรณีที่ 3 ครับ ซึ่งกรณีที่ 3 นี้
หากโลกเราโคจรอยู่กับดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ ดวงอาทิตย์ดวงเล็กทางขวาก็จะต้อง
อยู่ห่างจากโลกเรา (ประมาณ) 55 - 500 AU. ซึ่งหากพิจารณาที่ระยะ 55 AU
เราก็จะเห็นดวงอาทิตย์ดวงเล็กสว่างน้อยกว่าดวงใหญ่ประมาณ 3,100 เท่าครับ
และหากดวงอาทิตย์ดวงเล็กห่างจากเรา 500 AU เราก็จะเห็นแสงจากมันสว่าง
เท่ากับดวงจันทร์เต็มดวงเท่านั้นครับ คือเป็นจุดเล็กนิดเดียว แต่สว่างเท่า Fullmoon
หรือ ระบบดาวคู่ นั่นเอง ระบบดาวคู่เมื่อมันกำเนิดขึ้นมาแล้ว จะมีลักษณะการโคจรรอบกันอยู่ 3 แบบ
ตามภาพล่างนี้ครับ ดาวเคราะห์ที่จะโคจรรอบดาวฤกษ์ในระบบดาวคู่ จะเรียกว่า Circumbinary planet ครับ
ระบบดาวคู่สามารถแบ่งรูปแบบได้ 3 แบบ ดังนี้
1. ดาวคู่ที่ใกล้กันไม่เกิน 3 AU ก็จะสามารถเกิดแผ่นจานมวลสาร และพัฒนาไปเป็นดาวเคราะโคจรรอบดาวฤกษ์ทั้ง 2 ได้
2. ดาวคู่ที่โคจรใกล้กันระหว่าง 3 - 50 AU ก็จะไม่มีโอกาสมีดาวเคราะห์ได้ เพราะแผ่นจานมวลสาร
ที่เป็นต้นกำเนิดดาวเคราะห์ ไม่สามารถ form ตัวในสภาพแรงโน้มถ่วงรอบดาว 2 ดวงนี้ได้
3. หากดาวคู่นั้นห่างกันมาก 50 - 500 AU ดาวเคราะก็อาจไปกำเนิดใกล้ดาวฤกษ์ดวงใดดวงหนึ่งครับ
โดยนิยามนี้ ดาวฤกษ์ทั้งสองดวงจะถือเป็น Host Stars ทั้งคู่ ไม่มีใครเป็นบริวารใคร
ดาวบริวารคือดาวเคราะห์ Circumbinary planet เท่านั้น
ดังนั้น ภาพที่ จขกท.ทำมาให้นี้ ก็จะเข้าในกรณีที่ 3 ครับ ซึ่งกรณีที่ 3 นี้
หากโลกเราโคจรอยู่กับดวงอาทิตย์ดวงใหญ่ ดวงอาทิตย์ดวงเล็กทางขวาก็จะต้อง
อยู่ห่างจากโลกเรา (ประมาณ) 55 - 500 AU. ซึ่งหากพิจารณาที่ระยะ 55 AU
เราก็จะเห็นดวงอาทิตย์ดวงเล็กสว่างน้อยกว่าดวงใหญ่ประมาณ 3,100 เท่าครับ
และหากดวงอาทิตย์ดวงเล็กห่างจากเรา 500 AU เราก็จะเห็นแสงจากมันสว่าง
เท่ากับดวงจันทร์เต็มดวงเท่านั้นครับ คือเป็นจุดเล็กนิดเดียว แต่สว่างเท่า Fullmoon
สมาชิกหมายเลข 2712040 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 833192 ทึ่ง, บ๊วยเถี่ยวฮวง ถูกใจ, โคลนซอส์ ถูกใจ, ขออนุญาตลบกระทู้ ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 2229968 ถูกใจ, Strega ทึ่ง, iampoypoy ถูกใจ, ทานูกิตัวอ้วน ถูกใจ, oatzhu ถูกใจรวมถึงอีก 24 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
สมุมติน่ะ สมมุติ เฉย ถ้าหาว่า โลกมี พระอาทิตย์ 2 ดวง
ตามราูปเลย
สีฟ้าคือโลก
สีส้มคือ ดวงอาทิตย์
สีเขียว ก็เหมือน ดาว ศุกร์ ดาว เสาร์
อาจจะมีต่อจาก ดวงอาทิตย์ ลูกเล็ก 7 8 ดวง
ดวงอาทิตย์ลูกเล็ก อาจจไม่ได้ร้อนมาก และอาจจะอยู่ห่างจากโลกเรามากเช่นกัน เพื่อให้มีสิ่งมีชีวิต
แล้วดวงอาทิตย์ลูกเล็ก โคจร รอบดวงอาทิตย์ลูกใหญ๋เช่นกัน และโคจรขนานตามโลกเราเลยด้วย
พูดง่ายๆ ก็คือว่า ไม่ มี กลางคืนนั่นเอง และแถม มีพลังงานแสงอาทิตย์ตลอดเวลา แต่ไม่ได้ร้อนขนาดเป็นดินแห้ง น้ำระเหย จนไม่เอื้อต่อสิ่งมีชิวิต
ตามเงื่อนไขข้างบน อยากรู้จัง โลกแบบนั้นจะเป็นอย่างไง แผ่นดิน ภูเขา แม่น้ำ ท้องฟ้า สิ่งมีชิต อารยธรรม และอื่นๆ
คำถาม sci-fi