เกริ่นนำเกี่ยวกับ Tom Clancy

หากเอ่ยถึงชื่อ "Tom Clancy" พร้อมตัวละครปลายปาก "Jack Ryan" นั้น แล้ว
คอนิยายฝรั่ง/นิยายแปล โดนเฉพาะท่านที่เป็นแฟนคลับของนักแปลรุ่นเก๋า "สุวิทย์ ขาวปลอด" ก็คงจะรู้จักกันเป็นส่วนใหญ่
(ส่วนใครที่เป็นคอหนังยุคเก่าขึ้นไปหน่อยก็จะเห็นหน้า Harrison Ford กับ Sean Connery ลอยมาด้วย แต่ถ้าใครเป็นคอเกม ก็คงจะรู้จักชื่อของ Tom Clancy ผ่านเกมแนว tactical shooting อย่าง Rainbow Six รอ Ghost Recon) นิยายของ Tom Clancy ส่วนใหญ่นั้น จะมีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือ
"ช้า แต่หนักแน่น น่าติดตาม" โดยตัวผู้เขียนนั้น มีฝีไม้ลายมือในการพยายามสร้างสถานการณ์ให้ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ พร้อมด้วยข้อมูลเทคโนโลยีทางการทหารอย่างแน่นปึ้ก ก่อนจะไปถึงฉากปะทะกันแบบจัดหนัก ตอนท้ายเล่ม (อาจจะยกเว้น Red Storm Rising ที่เป็นเรื่องที่ผมชอบมากที่สุด เรื่องนี้จะบู๊จัดหนักเร็วกว่าเรื่องอื่นๆ)

สำหรับผม Tom Clancy ก็เป็นนิยายเล่มแรกๆ ที่ผมเริ่มอ่านเป็นภาษาอังกฤษ โดยเรื่องแรกที่อ่านจบก็คือ Cardinal of Kremlin ตามด้วย Rainbow Six (ตอนนั้นเกม Rainbow Six กำลังดังอยู่) หลังจากนั้นก็ขยับขยายซื้อมาอ่านเพิ่มเรื่อยๆในฉบับภาษาไทยบ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง จน "เกือบ" ครบทั้ง Series Jack Ryan (พ่วง Red Storm Rising) โดยเรื่องที่ยหนุ่มยังไม่อ่านนั้นก็มี The Hunt for Red October (แต่ดูหนังแล้ว เพลงเพราะมาก แต่ได้อารมณ์เพลงต้องคำสาปสำหรับผม เพราะเวลาเปิดฟังทีไร มักจะเจอเรื่องซวย เลยไม่กล้าเปิดฟังอีก) Patriot Games (ดูหนังแล้ว) และClear and Present Danger
พอนิยายเดินเรื่องจากยุค Jack Ryan มาสู่ยุค Jack Ryan Jr. ใน Teeth of the Tiger ผมก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ค่อยสนุกสักเท่าไร (ความจริง เรื่อง Red Rabbit เองที่เล่าเรื่อง Jack วัยหนุ่ม) เลยไม่ได้ตามต่อ หลังจากนั้นไม่นาน Tom Clancy ก็เสียชีวิต หลังจากนั้น แม้จะมีนักเขียนท่านอื่นมาเขียนนิยายชุดนี้ต่อ
แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจติดตามเท่าไรนัก อย่างไรก็ดี ลึกๆในใจ ก็อยากจะอ่านนิยายแนวๆนี้อีกอยู่เหมือนกัน
จนกระทั่งเร็วๆนี้ ผมได้มีโอกาสอ่านกระทู้แนวสงครามเรื่องหนึ่งในห้องหว้ากอ เกี่ยวกับสงครามจีนปะทะญี่ปุ่น ในกระทู้มีสมาชิกท่านหนึ่งแนะนะการ์ตูนเรื่อง Aircraft Carrier Ibuki (Kuubo Ibuki) ด้วยความสนใจ ผมจึงลองไปที่ร้านเช่าการ์ตูนแถวบ้าน (ที่ญี่ปุ่น) ผลที่ได้ปรากฎว่าไม่ผิดหวังเลย การ์ตูนทั้งหกเล่มที่มีอยู่ในร้านเช่าถูกอ่านจบไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความเลือดลมพลุ่งพล่าน ลุ้นระทึก ทุกทีที่อ่านแต่ละเล่มจบก็รำพึงในใจว่า "นี่สินะ Red Storm Rising ภาคญี่ปุ่น"
ความน่าสนใจของ Aircraft Carrier Ibukน
1. เนื้อเรื่องทันสถานการณ์
- เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตามข่าวระหว่างประเทศหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้อพิพามเกาะเซนกากุ (หรือเตียวหยู)
การบุกยึดเกาะในพื้นที่พิพาทของทัพเรือจีนและสร้างฐานทัพเพื่อเคลมอาณาเขต โดนที่ประชาคมระหว่างประเทศได้แต่ดูอยู่เงียบๆ
(ในเรื่องไม่มีเกาหลีเหนือมาเอี่ยวด้วย แต่ถ้าเข้ามาเมื่อไรเรื่องจะยิ่งพีคไปใหญ๋)
- อาวุธยุทโธปกรณ์ของทั้งสองฝ่าย update ทันสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน F-35 เรือพิฆาตดาดฟ้าเรียบ (แต่ในการ์ตูนนี่จะยกระดับเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินจริงๆ) และเรือ Aegis ส่วนฝ่ายจีนก็มาทั้งเรือรบเหลียวหนิง เครื่องบินรบ Stealth รุ่น J-20 พร้อมอาวุธต่างๆอีกมากมาย ทั้งภาคพื้นดิน พื้นน้ำ และห้วงอากาศ
2. ความสมจริง
ที่จริงกระทู้ Modern Warfare จีน vs. ญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องใหม่ในหว้ากอนัก แต่ไม่ว่ากระทู้ไหนๆก็จะมีคำตอบแนวเดิมๆ
- สายจีน ; ต้องยอมรับว่าสายนี้มากับข้อมูลแน่นๆ ทางอาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมข่าวประกอบความยิ่งใหญ่ของจีนเป็นระยะๆ จนโดนคนที่ไม่ชอบแขวะว่า
ยูเป็นสายลับจีนหรือเปล่าฟะ (แม้ผู้เชี่ยวชาญในพันทิป ไม่น่าจะเป็นสายลับก็ตาม แต่การที่จีนมีฝ่าย IO กระจายเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของจีนนั้นเป็นเรื่องจริงส่วนหนึ่งครับ )
https://www.vox.com/world/2017/8/2/16019562/china-internet-freedom-dissent-twitter-facebook
- สายญี่ปุ่น ; น่าเสียดายที่ฝั่งญี่ปุ่นและพันธมิตรยังมีผู้ตอบสายข้อมูลมากนัก หรือไม่ก็จะตอบแนวกว้างๆอย่างเช่น ชนะเพราะมีอเมริกา หรือไม่ก็ออกแนวลอยๆอย่างเช่น ญี่ปุ่นมีของเด็ดซ่อนอยู่ ญี่ปุ่นมีระเบียบกว่า ถ้าเจอวิญญาณบูชิโดคืนชีพแล้วจะหนาว (อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ญี่ปุ่นสามารถกลายเป็นประเทศนิวเคลียร์ได้อย่างรวดเร็วนั้นเป็นเรื่องที่มีพื้นความจริงครับ
http://www.japantimes.co.jp/news/2016/06/24/national/politics-diplomacy/japan-get-nuclear-weapons-virtually-overnight-biden-tells-xi/)
- สายฮา - ไม่ต้องห่วง ญี่ปุ่นมีทั้งกันดั้ม ดราก้อนบอล เซนต์เซย่า ยาราไนก้า นารูโตะ คาเมนไรเดอร์ แต่ถ้าเมืองแตกเมื่อไร น้องๆ AV หนีมาหาพี่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม การ์ตูนเรื่อง Aircraft Carrier Ibuki กลับทำมาได้สมจริงและทำให้ผู้สนใจเห็นภาพชัดขึ้นครับ
- จีนไม่ได้บ้าเลือดแบบที่ฝ่ายจีนห้องหว้ากอวิเคราะห์กัน ไม่ได้กดปุ่มทีเดียวถล่มญี่ปุ่นราบ มีการเสนอเจรจาารทูต แถลงข่าวประกอบ
เดินเกมแบบทีละขั้น มีการซื้อเวลา
ทหารที่บุกมาก็ไม่ไช่แนวเจอชาวบ้านแล้วจับไปฆ่าให้เรียบ มีการให้อาหารรับประทาน และเคารพกฎเจนีวาในระดับหนึ่ง
- การตีโจทย์ในเรื่อง ไม่ได้เป็นแนวเน้น Total Warfare หรือยึดญี่ปุ่นเป็นเมืองขึ้นทั้งหมด อย่างที่ชาวหว้ากอคุยกันบ่อยๆ
แต่จะเน้นไปที่การยึดเกาะเล็กๆ ในน่านน้ำญี่ปุ่น เพื่อขยายอาณาเขตของจีนไปให้ได้มากที่สุด (แน่นอนพร้อมสิทธิในทรัพยากรที่ตามมาด้วย) และทำให้ญี่ปุ่นอ่อนแอลง ซึ่งในปุจจุบัน จีนก็ใช้วิธีการนี้สำเร็จกับกลุ่มอาเซียนมาแล้ว
- การเดินทัพในเรื่องไม่ได้มีแค่ เดินหน้าแล้วฆ่ามัน แต่ต้องมีการข่าว การแอบสำรวจข่อมูล การเติมน้ำมัน อาวุธมีจำกัด
- ฝั่งญี่ปุ่นเก่ง จีนก็เก่ง เฉือนกันไปมา ชนะกันแบบเฉือนกันไปมา วัดใจกัน
3. ความลุ้นและกดดัน
- อย่างที่รู้ๆ จีนมีความเหนือกว่าในปริมาณ ด้านเทคโนโลยีก็โหดเหมือนกัน
- จีนมาแบบเหนือชั้นกับท่าทีที่แสดงให้ฝ่ายญี่ปุ่นทราบโดยไม่ต้องพูดเป็นถ้อยคำว่า
"ฉันพร้อมที่จะยิงคนของคุณให้ตายโดยไม่ลังเล
คนคุณตาย คุณกัยพันธมิตรก็ได้แค่โวย
คุณยิงคนของฉันตายเมื่อไร หากเรื่องบานปลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ ฉันไม่รับผิดชอบนะ"
- นอกจากต้องเผชิญหน้ากับจีนแล้ว ฝ่ายพระเอกก็ต้องเจอศึกภายในจากทั้งฝ่ายค้าน สื่อมวลชนที่เคารพ และคนดีศรี NGO
(ซึ่งจะว่าไปแล้ว นี่เป็นทั้ง"สิ่งน่ารำคาญ" และ "สิ่งจำเป็น" ในระบอบประชาธิปไตย) ซึ่งฝ่ายจีนก็รู้จุดอ่อนนี้และนำมาใช้สู้ด้วย
4. ไม่เป็นแนว American Hero จนเกินไป
ข้อเสียของนิยายแนว action thriller สไตล์อเมริกัน จำนวนมากก็คือจะสามารถเห็นได้ถึงแนวคิดพรรค Republican อย่างชัดเจน
พระเอกสามารถไล่ฆ่าผู้ร้ายได้แบบไม่กระพริบตา พระเอกหนังบู๊ส่วนมากจะเป็นแฟนคลับ
ในทางกลับกัน ใน Aircraft Carrier Ibuki จะมีการกล่าวถึงฝ่ายตรงข้ามในมิติที่เป็นมนุษย์มากขึ้น
ฝ่ายญี่ปุ่น บางทีก็มีการคำนึงว่า ถ้าเราจมเรือศัตรูไป คนที่ตายไปก็จะมีเท่านี้ๆ ทหารจีนที่สู้จนตัวตายก็ถูกนำไปฝังแล้วได้รับการวันทยาวุธแสดงความเคารพ ทหารที่อยู่ในสภาพที่สู้ไม่ได้ก็ได้รับการดูแลตามกฎเจนีวส
ฝ่ายจีนเองก็มีทหารที่ทำเพื่อชาติ แม้จะไม่เห็นด้วยกับพรรค หรือมีนายทหารระดับสูงที่นับถือในความเก่งของอีกฝ่าย
(แต่ก็ยอมรับว่าด้วยความกดดันในเรื่อง เวลาฝ่ายพระเอกสวนกลับ ผู้อ่านก็จะตบเข่าฉาดตามไปด้วยในหลายฉาก)
โดยส่วนตัวแล้ว อยากให้ทำเป็นหนัง แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะเดี๋ยวคงมีดราม่ากับเพื่อนบ้าน (ที่สามารถทำหนังแนวไล่ฆ่าผู้ร้ายญี่ปุ่นกระจุยกระจายได้สบายๆ แบบรายปี)
ปัจจุบันการ์ตูนเรื่องนี้ยังไม่จบ ออกมาแค่ 7 เล่ม และยังไม่ได้เข้าไทย หากใครสนใจเชิญหามาอ่านได้ตามสะดวกครับ
Aircraft Carrier Ibuki : การ์ตูน Modern Warfare "จีน vs. ญี่ปุ่น" ที่แฟนๆ Tom Clancy/Red Storm Rising ห้ามพลาด!!
หากเอ่ยถึงชื่อ "Tom Clancy" พร้อมตัวละครปลายปาก "Jack Ryan" นั้น แล้ว
คอนิยายฝรั่ง/นิยายแปล โดนเฉพาะท่านที่เป็นแฟนคลับของนักแปลรุ่นเก๋า "สุวิทย์ ขาวปลอด" ก็คงจะรู้จักกันเป็นส่วนใหญ่
(ส่วนใครที่เป็นคอหนังยุคเก่าขึ้นไปหน่อยก็จะเห็นหน้า Harrison Ford กับ Sean Connery ลอยมาด้วย แต่ถ้าใครเป็นคอเกม ก็คงจะรู้จักชื่อของ Tom Clancy ผ่านเกมแนว tactical shooting อย่าง Rainbow Six รอ Ghost Recon) นิยายของ Tom Clancy ส่วนใหญ่นั้น จะมีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือ
"ช้า แต่หนักแน่น น่าติดตาม" โดยตัวผู้เขียนนั้น มีฝีไม้ลายมือในการพยายามสร้างสถานการณ์ให้ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ พร้อมด้วยข้อมูลเทคโนโลยีทางการทหารอย่างแน่นปึ้ก ก่อนจะไปถึงฉากปะทะกันแบบจัดหนัก ตอนท้ายเล่ม (อาจจะยกเว้น Red Storm Rising ที่เป็นเรื่องที่ผมชอบมากที่สุด เรื่องนี้จะบู๊จัดหนักเร็วกว่าเรื่องอื่นๆ)
พอนิยายเดินเรื่องจากยุค Jack Ryan มาสู่ยุค Jack Ryan Jr. ใน Teeth of the Tiger ผมก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ค่อยสนุกสักเท่าไร (ความจริง เรื่อง Red Rabbit เองที่เล่าเรื่อง Jack วัยหนุ่ม) เลยไม่ได้ตามต่อ หลังจากนั้นไม่นาน Tom Clancy ก็เสียชีวิต หลังจากนั้น แม้จะมีนักเขียนท่านอื่นมาเขียนนิยายชุดนี้ต่อ
แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจติดตามเท่าไรนัก อย่างไรก็ดี ลึกๆในใจ ก็อยากจะอ่านนิยายแนวๆนี้อีกอยู่เหมือนกัน
จนกระทั่งเร็วๆนี้ ผมได้มีโอกาสอ่านกระทู้แนวสงครามเรื่องหนึ่งในห้องหว้ากอ เกี่ยวกับสงครามจีนปะทะญี่ปุ่น ในกระทู้มีสมาชิกท่านหนึ่งแนะนะการ์ตูนเรื่อง Aircraft Carrier Ibuki (Kuubo Ibuki) ด้วยความสนใจ ผมจึงลองไปที่ร้านเช่าการ์ตูนแถวบ้าน (ที่ญี่ปุ่น) ผลที่ได้ปรากฎว่าไม่ผิดหวังเลย การ์ตูนทั้งหกเล่มที่มีอยู่ในร้านเช่าถูกอ่านจบไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับความเลือดลมพลุ่งพล่าน ลุ้นระทึก ทุกทีที่อ่านแต่ละเล่มจบก็รำพึงในใจว่า "นี่สินะ Red Storm Rising ภาคญี่ปุ่น"
ความน่าสนใจของ Aircraft Carrier Ibukน
1. เนื้อเรื่องทันสถานการณ์
- เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ตามข่าวระหว่างประเทศหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นข้อพิพามเกาะเซนกากุ (หรือเตียวหยู)
การบุกยึดเกาะในพื้นที่พิพาทของทัพเรือจีนและสร้างฐานทัพเพื่อเคลมอาณาเขต โดนที่ประชาคมระหว่างประเทศได้แต่ดูอยู่เงียบๆ
(ในเรื่องไม่มีเกาหลีเหนือมาเอี่ยวด้วย แต่ถ้าเข้ามาเมื่อไรเรื่องจะยิ่งพีคไปใหญ๋)
- อาวุธยุทโธปกรณ์ของทั้งสองฝ่าย update ทันสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน F-35 เรือพิฆาตดาดฟ้าเรียบ (แต่ในการ์ตูนนี่จะยกระดับเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินจริงๆ) และเรือ Aegis ส่วนฝ่ายจีนก็มาทั้งเรือรบเหลียวหนิง เครื่องบินรบ Stealth รุ่น J-20 พร้อมอาวุธต่างๆอีกมากมาย ทั้งภาคพื้นดิน พื้นน้ำ และห้วงอากาศ
2. ความสมจริง
ที่จริงกระทู้ Modern Warfare จีน vs. ญี่ปุ่น ไม่ใช่เรื่องใหม่ในหว้ากอนัก แต่ไม่ว่ากระทู้ไหนๆก็จะมีคำตอบแนวเดิมๆ
- สายจีน ; ต้องยอมรับว่าสายนี้มากับข้อมูลแน่นๆ ทางอาวุธยุทโธปกรณ์ พร้อมข่าวประกอบความยิ่งใหญ่ของจีนเป็นระยะๆ จนโดนคนที่ไม่ชอบแขวะว่า
ยูเป็นสายลับจีนหรือเปล่าฟะ (แม้ผู้เชี่ยวชาญในพันทิป ไม่น่าจะเป็นสายลับก็ตาม แต่การที่จีนมีฝ่าย IO กระจายเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของจีนนั้นเป็นเรื่องจริงส่วนหนึ่งครับ )
https://www.vox.com/world/2017/8/2/16019562/china-internet-freedom-dissent-twitter-facebook
- สายญี่ปุ่น ; น่าเสียดายที่ฝั่งญี่ปุ่นและพันธมิตรยังมีผู้ตอบสายข้อมูลมากนัก หรือไม่ก็จะตอบแนวกว้างๆอย่างเช่น ชนะเพราะมีอเมริกา หรือไม่ก็ออกแนวลอยๆอย่างเช่น ญี่ปุ่นมีของเด็ดซ่อนอยู่ ญี่ปุ่นมีระเบียบกว่า ถ้าเจอวิญญาณบูชิโดคืนชีพแล้วจะหนาว (อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ญี่ปุ่นสามารถกลายเป็นประเทศนิวเคลียร์ได้อย่างรวดเร็วนั้นเป็นเรื่องที่มีพื้นความจริงครับ http://www.japantimes.co.jp/news/2016/06/24/national/politics-diplomacy/japan-get-nuclear-weapons-virtually-overnight-biden-tells-xi/)
- สายฮา - ไม่ต้องห่วง ญี่ปุ่นมีทั้งกันดั้ม ดราก้อนบอล เซนต์เซย่า ยาราไนก้า นารูโตะ คาเมนไรเดอร์ แต่ถ้าเมืองแตกเมื่อไร น้องๆ AV หนีมาหาพี่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม การ์ตูนเรื่อง Aircraft Carrier Ibuki กลับทำมาได้สมจริงและทำให้ผู้สนใจเห็นภาพชัดขึ้นครับ
- จีนไม่ได้บ้าเลือดแบบที่ฝ่ายจีนห้องหว้ากอวิเคราะห์กัน ไม่ได้กดปุ่มทีเดียวถล่มญี่ปุ่นราบ มีการเสนอเจรจาารทูต แถลงข่าวประกอบ
เดินเกมแบบทีละขั้น มีการซื้อเวลา
ทหารที่บุกมาก็ไม่ไช่แนวเจอชาวบ้านแล้วจับไปฆ่าให้เรียบ มีการให้อาหารรับประทาน และเคารพกฎเจนีวาในระดับหนึ่ง
- การตีโจทย์ในเรื่อง ไม่ได้เป็นแนวเน้น Total Warfare หรือยึดญี่ปุ่นเป็นเมืองขึ้นทั้งหมด อย่างที่ชาวหว้ากอคุยกันบ่อยๆ
แต่จะเน้นไปที่การยึดเกาะเล็กๆ ในน่านน้ำญี่ปุ่น เพื่อขยายอาณาเขตของจีนไปให้ได้มากที่สุด (แน่นอนพร้อมสิทธิในทรัพยากรที่ตามมาด้วย) และทำให้ญี่ปุ่นอ่อนแอลง ซึ่งในปุจจุบัน จีนก็ใช้วิธีการนี้สำเร็จกับกลุ่มอาเซียนมาแล้ว
- การเดินทัพในเรื่องไม่ได้มีแค่ เดินหน้าแล้วฆ่ามัน แต่ต้องมีการข่าว การแอบสำรวจข่อมูล การเติมน้ำมัน อาวุธมีจำกัด
- ฝั่งญี่ปุ่นเก่ง จีนก็เก่ง เฉือนกันไปมา ชนะกันแบบเฉือนกันไปมา วัดใจกัน
3. ความลุ้นและกดดัน
- อย่างที่รู้ๆ จีนมีความเหนือกว่าในปริมาณ ด้านเทคโนโลยีก็โหดเหมือนกัน
- จีนมาแบบเหนือชั้นกับท่าทีที่แสดงให้ฝ่ายญี่ปุ่นทราบโดยไม่ต้องพูดเป็นถ้อยคำว่า
"ฉันพร้อมที่จะยิงคนของคุณให้ตายโดยไม่ลังเล
คนคุณตาย คุณกัยพันธมิตรก็ได้แค่โวย
คุณยิงคนของฉันตายเมื่อไร หากเรื่องบานปลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ ฉันไม่รับผิดชอบนะ"
- นอกจากต้องเผชิญหน้ากับจีนแล้ว ฝ่ายพระเอกก็ต้องเจอศึกภายในจากทั้งฝ่ายค้าน สื่อมวลชนที่เคารพ และคนดีศรี NGO
(ซึ่งจะว่าไปแล้ว นี่เป็นทั้ง"สิ่งน่ารำคาญ" และ "สิ่งจำเป็น" ในระบอบประชาธิปไตย) ซึ่งฝ่ายจีนก็รู้จุดอ่อนนี้และนำมาใช้สู้ด้วย
4. ไม่เป็นแนว American Hero จนเกินไป
ข้อเสียของนิยายแนว action thriller สไตล์อเมริกัน จำนวนมากก็คือจะสามารถเห็นได้ถึงแนวคิดพรรค Republican อย่างชัดเจน
พระเอกสามารถไล่ฆ่าผู้ร้ายได้แบบไม่กระพริบตา พระเอกหนังบู๊ส่วนมากจะเป็นแฟนคลับ
ในทางกลับกัน ใน Aircraft Carrier Ibuki จะมีการกล่าวถึงฝ่ายตรงข้ามในมิติที่เป็นมนุษย์มากขึ้น
ฝ่ายญี่ปุ่น บางทีก็มีการคำนึงว่า ถ้าเราจมเรือศัตรูไป คนที่ตายไปก็จะมีเท่านี้ๆ ทหารจีนที่สู้จนตัวตายก็ถูกนำไปฝังแล้วได้รับการวันทยาวุธแสดงความเคารพ ทหารที่อยู่ในสภาพที่สู้ไม่ได้ก็ได้รับการดูแลตามกฎเจนีวส
ฝ่ายจีนเองก็มีทหารที่ทำเพื่อชาติ แม้จะไม่เห็นด้วยกับพรรค หรือมีนายทหารระดับสูงที่นับถือในความเก่งของอีกฝ่าย
(แต่ก็ยอมรับว่าด้วยความกดดันในเรื่อง เวลาฝ่ายพระเอกสวนกลับ ผู้อ่านก็จะตบเข่าฉาดตามไปด้วยในหลายฉาก)
โดยส่วนตัวแล้ว อยากให้ทำเป็นหนัง แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะเดี๋ยวคงมีดราม่ากับเพื่อนบ้าน (ที่สามารถทำหนังแนวไล่ฆ่าผู้ร้ายญี่ปุ่นกระจุยกระจายได้สบายๆ แบบรายปี)
ปัจจุบันการ์ตูนเรื่องนี้ยังไม่จบ ออกมาแค่ 7 เล่ม และยังไม่ได้เข้าไทย หากใครสนใจเชิญหามาอ่านได้ตามสะดวกครับ