ขอบอกก่อนเลยว่า เป็นคนที่ติดตามแท็กเรื่องเล่าสยองขวัญมานาน ชอบเรื่องน่ากลัวมาก และเป็นคนที่กลัวมากๆเช่นกัน พอดีวันนี้มีเวลาว่าง อยากจะมาแชร์มาประการณ์ตรง อาจเล่าได้ไม่ถึงอารมณ์เท่าที่ควรแต่จะพยายามครับ
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อจังหวัดผสมอยู่ในชื่อเต็มถึง 2 จังหวัดครับ
ตอนนั้นเรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งทุกอย่างก็เรียบร้อยดีเป็นปกติ จนกระทั่งเรียนเสร็จนั่งสองแถวกลับถึงบ้านเรียบร้อย ผมไม่รอช้าทำการเปลี่ยนเสื้อผ้า และเตรียมพร้อมที่จะไปร้านเกม โดยให้แม่เป็นคนปั่นจักรยานไปส่ง ( ขอท้าวความนิดนึงครับว่า ผมเป็นคนติดเกมพอสมควร ประมาณว่าต้องเล่นทุกวัน เล่นมากเล่นน้อยไม่เป็นไร ขอให้ได้เล่น พอมานึกถึงตอนนี้เข้าใจได้เลยครับว่า การเล่นที่ร้านเกมมันสนุกแค่ไหน เมื่ออยู่กับเพื่อนๆพี่ๆคนรู้จัก ต้องบอกเลยว่าผมผลาญเงินพ่อแม่ไปมากโขอยู่ แต่ทุกครั้งที่ผมไปจะมีการบ้านเสมอๆ พวกทำรายงาน ปิ้นส่งน่ะครับ พอทำเสร็จก็เล่นเกม เลยรอดตัวจากพ่อแม่ได้ตลอด )
กลับมาต่อครับ หลังจากนั้นแม่ก็ปั่นจักยานไปส่งผมที่ร้านเกม แต่ไปถึงได้แค่กลางทางครับ ซึ่งจักรยานของแม่หยุดอยู่ตรงทาง 4 แยกพอดี (มีแยกหนึ่งเป็นทางตัน) พร้อมกับได้ยินเสียงดังตูม ด้วยตัวที่ผมนั่งซ้อนซ้ายพอแม่เบรก หัวของผมก็ถูหลังของแม่ทันที จึงได้ถามแม่กลับไปว่าหยุดรถทำไม แม่ไม่พูด ผมจึงมองตามสายตาแม่ไป จึงปรากฏภาพของเด็กคนหนึ่งนอนอยู่ใต้รถกระบะ สภาพคอ แขน ขา หัก เสียชีวิตคาที่ ในขณะที่มอเตอร์ไซค์ที่เด็กคนนั้นขับกระเด็นมาอีกฟากของถนน สิ่งต่อมาที่ผมเห็ฯคือ หน้าของน้องนั้นเขียวมาก ดวงตาถนน มีเลือดไหลออกมาจากตา หลังจากนั้นผมหันหน้าหนี ขอเท้าความอีกทีครับ ขอเรีบกน้องคนนี้ว่าน้อง ก / น้อง ก คนนี้เป็นเด็กไม่สมประกอบครับ หน้าตาของน้องเขาจะออกแขกหน่อยๆตัวสูงและผิวคล้ำ เป็นคนพูดจาโผงผาง ก้าวร้าวบ้างเป็นบางที แต่ก็ยังเชื่อฟังคำสอนของผู้ใหญ่อยู่บ้าง โดยตัวผมนั้นรู้จักกับน้อง ก ผ่านทางร้านเกม โดยน้องเป็นที่รักของคนในร้าน เพราะมีนิสัยที่กวน พอสมควร จึงเป็นที่จดจำได้ง่าย
กลับมาหลังจากที่ผม หันหน้าหนี แม่ทำท่าทีจะหันจักรยานปั่นกลับบ้าน ( แม่ผมเป็นคนที่กลัวสุดๆ ) ผมสวนทันทีเลยว่าๆ "แม่ๆๆๆ ผมไม่กลับไปส่งผมก่อน ผมจะไปร้านเกมมม" แม่สวนกลับมาอย่างไวว่า "กลับเถอะ ไว้แม่มาพาใหม่" ผมหัวไวสวนแม่กลับ "แต่งานผมต้องปิ้นส่งพรุ่งนี้นะแม่" ผลก็คือ แม่ปั่นไปส่งร้านเกม แต่สายตามองผมแบบเอาเรื่องเลย 55 ผมก็ขอบคุณแม่ ก่อนจะมองแม่ปั่นกลับ และเดินเข้าร้านเกม หลังจากตั้งสติได้ผมทำการเคลียร์งานที่ต้องส่งพรุ่งนี้ให้เสร็จสิ้นก่อนเลย พอเสร็จสิ้นงาน พี่เจ้าของร้านเข้ามาพอดี ขอเรียกว่า พี่ 'ข' ผมก็เดินเข้าไปหาเลย แล้วคุยกับพี่เขาในห้องส่วนตัว เพราะไม่อยากให้คนในร้านโหวกเหวกกันว่าๆ "พี่ ขๆ ไอ้ 'ก' มันตายแล้วนะพี่ รถมอเตอร์ไซประสานงากับรถกระบะ คาที่เลยพี่ ตรงสี่แยกเนี่ย " แต่ ข ก็นิ่งไปเลย ก่อนจะออกจากห้องส่วนตัว และบอกให้พวกวัยรุ่นรุ้ โดยการกระซิบบอกเป็นรายคน เพราะมีเด็กอยู่ในร้านเยอะมาก และทุกคนล้วนรุ้จัก ก เมื่อเทียบตามอายุแล้วผมนี่เป็นลูกพี่หัวโจกเลยครับ 55
หลังจากนั้นผมก็เล่นเกมอย่างสบายใจ จนถึง 6 โมงกว่าๆ เวลาผมหมดพอดี กำลังจะลุกเดินกลับบ้าน เพราะปั่นจักยานไม่เป็น จังหวะเดียวกับที่พี่ ข เดินเข้ามาหา บอกว่า "เฝ้าร้านเกมให้พี่หน่อย พี่ออกไปทำธุระแปปนึง เดะพี่มา" ต้องบอกว่าผมเคยเป็น เด็กคิดเงินครับ วันไหนดูแล ก็ได้เล่นฟรี หลังจากนั้นผมก็นั่งเล่นคอมต่อไป เวลาก็ผ่านไป จนถึงประมาณ 2 ทุ่ม ผมเริ่มใจคอไม่ดี รู้สึกอยากกลับบ้านมาก แต่พี่ ข ก็ยังไม่มาซักที ผมจะทิ้งร้านเขาไว้ก็ไม่ได้ด้วย คนในร้านก็ยังไม่หมด นั่งเล่นเกมไปเครียดไป จนกระทั่งสามทุ่ม พี่ ข กลับบ้าน ผมรีบขอตัวออกจากร้าน ต้องรีบกลับบ้าน (ในใจคิดอยากให้พี่แกไปส่งบ้านมาก แต่ก็ไม่กล้าพูด ศักดิ์ศรีค้ำคอ 5555 และคิดว่าพี่แกคงต้องเฝ้าต่อก็เลยไม่ได้ขอร้องอะไร) บอกต่ออีกหน่อยว่า บ้านผมห่างจากร้านเกมประมาณ กิโลกว่าๆ เรียกได้ว่า ผมนี่เป็นยอดนักเดินตังจริง
ในขณะที่กำลังเดินกลับนึกในใจว่ายังไม่ดึกเท่าไหร่ ปกติจะยังมีคนสัญจรอยู้ๆ เผลอๆจะเพื่อนเดินด้วยซ้ำ แต่ผลปรากฏว่า บนถนนไม่มีใครเลยแม้ซักคนเดียว นาน น๊านที จะมีรถเก๊งวิ่งมาซักคัน ให้พออุ่นใจ ระหว่างก็เดินมาเฉยๆ เรื่อยๆ ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งใกล้จะถึงทางสี่แยกนั้น ผมก็กลั้นใจเดินก้มหน้าและเพิ่มสปีดในการเดิน กะให้พ้นเร็วๆ และอันนี้ไม่ได้โกหกเลยครับ เชื่อไหมครับว่า ขาผมมันก้าวไม่ออก แบบขาขวานำอยู่ แต่ขาซ้ายมันไม่ยอมขยับตาม ผมก็เริ่มกลัว แต่ทำเปนไม่สน ซักพักร่างกายผมมันเย็นมาจากทางซีดกซ้าย (ผมเดินอยู่ฝั่งตรงข้ามของสี่แยก ที่น้องเขาเสีย) จังหวะนั้นเหงื้อตกแต่หน้ายังมองพื้นอยู่ จนไม่รู้อะไรดลใจครับ ลมพัดมา ผมหันหน้าและสายตาไปเล็กน้อย มองไปตนใต้ต้นไม้ใหญ่ ณ ตอนนั้นผมเห็น เงาสีดำยืนนิ่ง อยู่คล้ายๆ ก บริเวรพื้นมี น้ำแดงและอาหารจำนวนมาก ผมยืนมองอยู่จนน้ำตาเริ่มไหล จนเงาดำๆค่อยจางๆ จังหวะนั้นกลัวมาก ว่า เงาจะย้ายมาอยู่ใกล้ๆ รู้สึกตัวอีกทีฉี่ราดแล้วครับ พร้อมกับขาที่มันเริ่มทำงาน เท่านั้นแหละครับ ซอยยับเลยทั้งๆที่ผมเป็นคนอ้วนตุ๊ต๊ะ รู้ตัวอีกที วิ่งเลยมาไกลมากๆ จนมาถึงปากซอยทางเข้าบ้าน หัวโล่งเลยครับ เป็นจังหวะเดียวกันที่รู้ว่าฉี่ราด อายมากครับ
หลังจากนั้นพอถึงบ้านพ่อแม่ทักทันทีด้วยความเป็นห่วง ผมตอบกลับไปว่า ไม่มีอะไร สบายมากๆ พร้อมหน้ายิ้มๆ โชว์เหนือ กลัวเสียหน้า 555 ตามด้วยการอาบน้ำนอน ตื่นเช้ามาผมรีบเล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อหัวเราะสะใจมาก ส่วนแม่นั้นบิ้วหนัก กะให้ผมกลัวไม่ไปเล่นเกม แต่ต้องบอกเลย่วาแม่นั้น ทำอะไรผมไม่ได้แม้แต่น้อย ผมยืนกรานวันนี้ ผมจะไปเล่นเกม บุคคลบริเวณบ้านใกล้เรือนเคียงทำหน้าซีดกันหมด พาเอาผมงง พร้อมมีเสียงเอ่ยขึ้นมาว่า 7 วันแรกอยู่บ้านดีกว่ามั้ง แม่ผมรีบเสริม แต่ผมนั้นไม่หวั่นไหวแต่อย่างใด ไม่มีอะไรมาหยุดการเล่นเกมของผมได้ !! แม่บอกงั้นเดินกลับมาเองแล้วกัน !! ผมไม่หวั่นอยุ่แล้ว แล้วผมก็เจอเหตุการณ์ประมาณเดิมครับ แต่ความอยากมันดันชนะความกลัว ซะได้ !! ฮ่าๆ [ ผมกรวดน้ำไปให้น้องเขาครับ เห็นแบบนั้นอยู่สองสามวัน หลังจากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย ]
*****ขอฝากข้อคิดครับเกี่ยวกับเรื่องความประมาณนะครับ ผิดพลาดครั้งเดียว เราอาจไม่มีโอกาสได้แก้ไขมันอีก มีตัวอย่างให้เห็น เช่น น้อง ก ที่ขับมอเตรอ์ไซค์ออกมาจากซอย ซึ่งไม่ได้หยุดมองรถที่ขับไปมา ก่อนทำการเลี้ยว บวกกับรถกระบะที่เคลื่อนที่มาด้วยความเร็ว แต่ในส่วนนี้ ถือว่า น้อง ก เป็นผู้ผิดนะครับ เพราะ กะบะ ขับมาทางตรง และน้อง ก เป็ฯคนพุ่งออกมาจากซอย แต่ด้วยความที่น้องเขา อาจไม่เหมือนกับเด็กๆทั่วไป ตลอดจน ผู้ขับรถกระบะนั้น ก็เป็นคนดี ช่วยเหลืองานศพและค่าใช้จ่ายให้กับพ่อแม่ น้อง ก
ฝากนะครับ อยากให้ใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท เพราะคนที่เจ็บปวดใจไม่ใช่ใคร คนเบื้อหลังเราเองนั้นแหละครับ ขอบคุณครับ
สุดท้ายนี้ ก็ขอให้น้อง ก ได้เกิดในภพภูมิที่ดีครับ ขอบคุณครับ
คุยเคยเห็นคนตายต่อหน้าต่อตาไหม ?
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่อยู่ใกล้ๆมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อจังหวัดผสมอยู่ในชื่อเต็มถึง 2 จังหวัดครับ
ตอนนั้นเรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งทุกอย่างก็เรียบร้อยดีเป็นปกติ จนกระทั่งเรียนเสร็จนั่งสองแถวกลับถึงบ้านเรียบร้อย ผมไม่รอช้าทำการเปลี่ยนเสื้อผ้า และเตรียมพร้อมที่จะไปร้านเกม โดยให้แม่เป็นคนปั่นจักรยานไปส่ง ( ขอท้าวความนิดนึงครับว่า ผมเป็นคนติดเกมพอสมควร ประมาณว่าต้องเล่นทุกวัน เล่นมากเล่นน้อยไม่เป็นไร ขอให้ได้เล่น พอมานึกถึงตอนนี้เข้าใจได้เลยครับว่า การเล่นที่ร้านเกมมันสนุกแค่ไหน เมื่ออยู่กับเพื่อนๆพี่ๆคนรู้จัก ต้องบอกเลยว่าผมผลาญเงินพ่อแม่ไปมากโขอยู่ แต่ทุกครั้งที่ผมไปจะมีการบ้านเสมอๆ พวกทำรายงาน ปิ้นส่งน่ะครับ พอทำเสร็จก็เล่นเกม เลยรอดตัวจากพ่อแม่ได้ตลอด )
กลับมาต่อครับ หลังจากนั้นแม่ก็ปั่นจักยานไปส่งผมที่ร้านเกม แต่ไปถึงได้แค่กลางทางครับ ซึ่งจักรยานของแม่หยุดอยู่ตรงทาง 4 แยกพอดี (มีแยกหนึ่งเป็นทางตัน) พร้อมกับได้ยินเสียงดังตูม ด้วยตัวที่ผมนั่งซ้อนซ้ายพอแม่เบรก หัวของผมก็ถูหลังของแม่ทันที จึงได้ถามแม่กลับไปว่าหยุดรถทำไม แม่ไม่พูด ผมจึงมองตามสายตาแม่ไป จึงปรากฏภาพของเด็กคนหนึ่งนอนอยู่ใต้รถกระบะ สภาพคอ แขน ขา หัก เสียชีวิตคาที่ ในขณะที่มอเตอร์ไซค์ที่เด็กคนนั้นขับกระเด็นมาอีกฟากของถนน สิ่งต่อมาที่ผมเห็ฯคือ หน้าของน้องนั้นเขียวมาก ดวงตาถนน มีเลือดไหลออกมาจากตา หลังจากนั้นผมหันหน้าหนี ขอเท้าความอีกทีครับ ขอเรีบกน้องคนนี้ว่าน้อง ก / น้อง ก คนนี้เป็นเด็กไม่สมประกอบครับ หน้าตาของน้องเขาจะออกแขกหน่อยๆตัวสูงและผิวคล้ำ เป็นคนพูดจาโผงผาง ก้าวร้าวบ้างเป็นบางที แต่ก็ยังเชื่อฟังคำสอนของผู้ใหญ่อยู่บ้าง โดยตัวผมนั้นรู้จักกับน้อง ก ผ่านทางร้านเกม โดยน้องเป็นที่รักของคนในร้าน เพราะมีนิสัยที่กวน พอสมควร จึงเป็นที่จดจำได้ง่าย
กลับมาหลังจากที่ผม หันหน้าหนี แม่ทำท่าทีจะหันจักรยานปั่นกลับบ้าน ( แม่ผมเป็นคนที่กลัวสุดๆ ) ผมสวนทันทีเลยว่าๆ "แม่ๆๆๆ ผมไม่กลับไปส่งผมก่อน ผมจะไปร้านเกมมม" แม่สวนกลับมาอย่างไวว่า "กลับเถอะ ไว้แม่มาพาใหม่" ผมหัวไวสวนแม่กลับ "แต่งานผมต้องปิ้นส่งพรุ่งนี้นะแม่" ผลก็คือ แม่ปั่นไปส่งร้านเกม แต่สายตามองผมแบบเอาเรื่องเลย 55 ผมก็ขอบคุณแม่ ก่อนจะมองแม่ปั่นกลับ และเดินเข้าร้านเกม หลังจากตั้งสติได้ผมทำการเคลียร์งานที่ต้องส่งพรุ่งนี้ให้เสร็จสิ้นก่อนเลย พอเสร็จสิ้นงาน พี่เจ้าของร้านเข้ามาพอดี ขอเรียกว่า พี่ 'ข' ผมก็เดินเข้าไปหาเลย แล้วคุยกับพี่เขาในห้องส่วนตัว เพราะไม่อยากให้คนในร้านโหวกเหวกกันว่าๆ "พี่ ขๆ ไอ้ 'ก' มันตายแล้วนะพี่ รถมอเตอร์ไซประสานงากับรถกระบะ คาที่เลยพี่ ตรงสี่แยกเนี่ย " แต่ ข ก็นิ่งไปเลย ก่อนจะออกจากห้องส่วนตัว และบอกให้พวกวัยรุ่นรุ้ โดยการกระซิบบอกเป็นรายคน เพราะมีเด็กอยู่ในร้านเยอะมาก และทุกคนล้วนรุ้จัก ก เมื่อเทียบตามอายุแล้วผมนี่เป็นลูกพี่หัวโจกเลยครับ 55
หลังจากนั้นผมก็เล่นเกมอย่างสบายใจ จนถึง 6 โมงกว่าๆ เวลาผมหมดพอดี กำลังจะลุกเดินกลับบ้าน เพราะปั่นจักยานไม่เป็น จังหวะเดียวกับที่พี่ ข เดินเข้ามาหา บอกว่า "เฝ้าร้านเกมให้พี่หน่อย พี่ออกไปทำธุระแปปนึง เดะพี่มา" ต้องบอกว่าผมเคยเป็น เด็กคิดเงินครับ วันไหนดูแล ก็ได้เล่นฟรี หลังจากนั้นผมก็นั่งเล่นคอมต่อไป เวลาก็ผ่านไป จนถึงประมาณ 2 ทุ่ม ผมเริ่มใจคอไม่ดี รู้สึกอยากกลับบ้านมาก แต่พี่ ข ก็ยังไม่มาซักที ผมจะทิ้งร้านเขาไว้ก็ไม่ได้ด้วย คนในร้านก็ยังไม่หมด นั่งเล่นเกมไปเครียดไป จนกระทั่งสามทุ่ม พี่ ข กลับบ้าน ผมรีบขอตัวออกจากร้าน ต้องรีบกลับบ้าน (ในใจคิดอยากให้พี่แกไปส่งบ้านมาก แต่ก็ไม่กล้าพูด ศักดิ์ศรีค้ำคอ 5555 และคิดว่าพี่แกคงต้องเฝ้าต่อก็เลยไม่ได้ขอร้องอะไร) บอกต่ออีกหน่อยว่า บ้านผมห่างจากร้านเกมประมาณ กิโลกว่าๆ เรียกได้ว่า ผมนี่เป็นยอดนักเดินตังจริง
ในขณะที่กำลังเดินกลับนึกในใจว่ายังไม่ดึกเท่าไหร่ ปกติจะยังมีคนสัญจรอยู้ๆ เผลอๆจะเพื่อนเดินด้วยซ้ำ แต่ผลปรากฏว่า บนถนนไม่มีใครเลยแม้ซักคนเดียว นาน น๊านที จะมีรถเก๊งวิ่งมาซักคัน ให้พออุ่นใจ ระหว่างก็เดินมาเฉยๆ เรื่อยๆ ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งใกล้จะถึงทางสี่แยกนั้น ผมก็กลั้นใจเดินก้มหน้าและเพิ่มสปีดในการเดิน กะให้พ้นเร็วๆ และอันนี้ไม่ได้โกหกเลยครับ เชื่อไหมครับว่า ขาผมมันก้าวไม่ออก แบบขาขวานำอยู่ แต่ขาซ้ายมันไม่ยอมขยับตาม ผมก็เริ่มกลัว แต่ทำเปนไม่สน ซักพักร่างกายผมมันเย็นมาจากทางซีดกซ้าย (ผมเดินอยู่ฝั่งตรงข้ามของสี่แยก ที่น้องเขาเสีย) จังหวะนั้นเหงื้อตกแต่หน้ายังมองพื้นอยู่ จนไม่รู้อะไรดลใจครับ ลมพัดมา ผมหันหน้าและสายตาไปเล็กน้อย มองไปตนใต้ต้นไม้ใหญ่ ณ ตอนนั้นผมเห็น เงาสีดำยืนนิ่ง อยู่คล้ายๆ ก บริเวรพื้นมี น้ำแดงและอาหารจำนวนมาก ผมยืนมองอยู่จนน้ำตาเริ่มไหล จนเงาดำๆค่อยจางๆ จังหวะนั้นกลัวมาก ว่า เงาจะย้ายมาอยู่ใกล้ๆ รู้สึกตัวอีกทีฉี่ราดแล้วครับ พร้อมกับขาที่มันเริ่มทำงาน เท่านั้นแหละครับ ซอยยับเลยทั้งๆที่ผมเป็นคนอ้วนตุ๊ต๊ะ รู้ตัวอีกที วิ่งเลยมาไกลมากๆ จนมาถึงปากซอยทางเข้าบ้าน หัวโล่งเลยครับ เป็นจังหวะเดียวกันที่รู้ว่าฉี่ราด อายมากครับ
หลังจากนั้นพอถึงบ้านพ่อแม่ทักทันทีด้วยความเป็นห่วง ผมตอบกลับไปว่า ไม่มีอะไร สบายมากๆ พร้อมหน้ายิ้มๆ โชว์เหนือ กลัวเสียหน้า 555 ตามด้วยการอาบน้ำนอน ตื่นเช้ามาผมรีบเล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อหัวเราะสะใจมาก ส่วนแม่นั้นบิ้วหนัก กะให้ผมกลัวไม่ไปเล่นเกม แต่ต้องบอกเลย่วาแม่นั้น ทำอะไรผมไม่ได้แม้แต่น้อย ผมยืนกรานวันนี้ ผมจะไปเล่นเกม บุคคลบริเวณบ้านใกล้เรือนเคียงทำหน้าซีดกันหมด พาเอาผมงง พร้อมมีเสียงเอ่ยขึ้นมาว่า 7 วันแรกอยู่บ้านดีกว่ามั้ง แม่ผมรีบเสริม แต่ผมนั้นไม่หวั่นไหวแต่อย่างใด ไม่มีอะไรมาหยุดการเล่นเกมของผมได้ !! แม่บอกงั้นเดินกลับมาเองแล้วกัน !! ผมไม่หวั่นอยุ่แล้ว แล้วผมก็เจอเหตุการณ์ประมาณเดิมครับ แต่ความอยากมันดันชนะความกลัว ซะได้ !! ฮ่าๆ [ ผมกรวดน้ำไปให้น้องเขาครับ เห็นแบบนั้นอยู่สองสามวัน หลังจากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย ]
*****ขอฝากข้อคิดครับเกี่ยวกับเรื่องความประมาณนะครับ ผิดพลาดครั้งเดียว เราอาจไม่มีโอกาสได้แก้ไขมันอีก มีตัวอย่างให้เห็น เช่น น้อง ก ที่ขับมอเตรอ์ไซค์ออกมาจากซอย ซึ่งไม่ได้หยุดมองรถที่ขับไปมา ก่อนทำการเลี้ยว บวกกับรถกระบะที่เคลื่อนที่มาด้วยความเร็ว แต่ในส่วนนี้ ถือว่า น้อง ก เป็นผู้ผิดนะครับ เพราะ กะบะ ขับมาทางตรง และน้อง ก เป็ฯคนพุ่งออกมาจากซอย แต่ด้วยความที่น้องเขา อาจไม่เหมือนกับเด็กๆทั่วไป ตลอดจน ผู้ขับรถกระบะนั้น ก็เป็นคนดี ช่วยเหลืองานศพและค่าใช้จ่ายให้กับพ่อแม่ น้อง ก
ฝากนะครับ อยากให้ใช้ชีวิตแบบไม่ประมาท เพราะคนที่เจ็บปวดใจไม่ใช่ใคร คนเบื้อหลังเราเองนั้นแหละครับ ขอบคุณครับ
สุดท้ายนี้ ก็ขอให้น้อง ก ได้เกิดในภพภูมิที่ดีครับ ขอบคุณครับ