แชร์ประสบการณ์ซื้อของให้แม่ครั้งแรก ด้วยเงินเดือนเดือนแรกของตัวเองค่ะ

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ พี่ๆ ชาว pantip ทุกๆคน นี่เป็นกระทู้แรกของหนูนะคะ ผิดพลาดยังไงก็ได้โปรดแนะนำด้วยค่ะ เช่น tag ผิดห้อง หนูอ่านมาระดับนึงแล้วค่ะ ก่อนตั้งกระทู้  

ส่วนlogin นี้หนูยืมพี่มาอีกทีนะคะ ตอนแรกสมัครเองแล้วมันต้องรออนุมัติให้ส่งบัตรประชาชนดูงงๆ อ่ะค่ะ แล้วหนูก็กลัวว่าความประทับใจที่จะเล่ามันจะหายไปซะก่อน เริ่มเลยนะคะ

คือหนูจะมาเล่าความประทับใจ ที่ได้เอาเงินเดือนเดือนแรก ซื้อของให้แม่ค่ะ ตอนแรกจะให้นั่นแหละ แต่แม่ไม่เอา Y_Y
พอดีใกล้วันแม่แล้ว หลายๆ สื่อก็เริ่มยิงคำถามถึงความรัก ความผูกพันกับแม่ ทำให้หนูนึกถึงเรื่องนี้

หนูเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่ค่ะ  มีกันแค่ 2 แม่ลูกนี่แหละ เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว
ถ้าเทียบกับเพื่อนคนอื่นๆ หนูเป็นคนที่หางานอยู่นานมากค่ะ กว่าจะได้ทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน (หนูจบพวกสายนิเทศน์โฆษณา ถนัดทำกราฟฟิกได้บ้างค่ะ) แต่มีงาน นอกมาให้ทำอยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่เรียนจบ แม้จะไม่มากมาย แต่ก็ถือว่าดูแลตัวเองได้เพราะยังอยู่บ้านกับแม่ยังทานข้าวกับแม่แทบไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร

หนูเลยค่อนข้างเลือกงานค่ะเด็กจบใหม่เขาให้หมื่นห้าหนูก็รู้สึกว่ามันน้อยเรามีประสบการณ์ฮ่าๆๆ ในความคิดส่วนตัว

พอได้งานประจำ การทำงาน มันเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตมากๆ เลยค่ะ มันทำให้หนูรู้สึกรักแม่มากขึ้น
ตอนได้งานที่แรกไปทำงาน 3 วัน ก็อยากจะลาออก ทำไมมันไกลแบบนี้บ้านอยู่แถวๆ พระราม 2 หนูต้องนั่งรถเมล์ปอ. ขึ้นทางด่วน ไปลงอนุสาวรีย์ชัยแล้วต้องต่อรถเมล์อีก 1 สายไปทำงาน ที่นั่นเขาให้เงินเดือน เกือบ 2 หมื่น แต่พอเทียบกับการเดินทางแล้วมันช่างไกลเหลือเกิน เกือบ 2 ชั่วโมง เกิดอาการท้อ พอมาบ่นกับแม่ แม่ก็บอกว่าลาออกก็ได้นะ หนูก็ลาออกเลยค่ะ

ก็ลองไปสมัครดูอีก 2-3 ที่ค่ะ เข้ามาเดือนที่ 7 - 8 ตอนนี้เริ่มเครียดแล้ว เพราะเพื่อนที่จบมาพร้อมกันเริ่มได้งานประจำแล้ว เมื่อสองสามเดือนก่อนบริษัทใกล้บ้านเรียกไปสัมภาษณ์หนูเลยตัดสินใจไปสัมภาษณ์ดู สรุปว่า เค้าเลือกหนู  แม้จะไม่ตรงสาขา 100 % ประมาณว่าต้องเรียนรู้งาน AE ด้วย ช่วยซัพพอร์ทเป็นหลัก ทำพรีเซ็นเทชั่นเสนอลูกค้า แล้วบางครั้งต้องออกหน้างานด้วยเวลาพี่ๆ ไปขายงาน หนูเลยลองดู อยากพิสูจน์ตัวเองให้แม่เห็นว่าเราเป็นคนไม่เลือกงานเราจะเลี้ยงดูแม่ได้ แม่ก็เริ่มแก่ไปทุกวัน จริงๆ แม่ก็ดูชิลๆ นะคะ แต่สงสารแม่ เพื่อนบ้านก็เริ่มถาม ลูกทำงานอะไร งี้

--------- ได้ทำงานแล้ว ----------------

พอมาทำงาน ความรักแม่มันมากขึ้นทวีคูณ ++++++
จริงๆ ค่ะสำนวนอาจจะดูโบราณหน่อย555+++ แต่มันใช่มากๆเลย คือแม่เป็นแม่ค้าขายของ เป็นแผงธรรมดา ในซอยใกล้ๆ บ้าน ต้องตื่นแต่เช้ามาเตรียมของ แล้วออกไปขายตอนใกล้ๆ เที่ยง เป็นแผงกาแฟสดและเครื่องดื่มต่างๆ ที่ขายให้กับคนทำงานโรงงาน และออฟฟิส ยิ่งตอนพักเที่ยงเนี่ยลูกค้ามารุมหน้าร้านเต็มเลยแม่ก็ยืนชงๆๆ อย่างเดียว หนูเคยไปช่วย เมื่อยมากๆ แดดก็ร้อนเราทำงานสบายอยู่ในห้องแอร์ทำไมทำแค่นี้จะทนไม่ได้
    
ความคิดแบบนี้ก็มักจะลอยมาเตือนสติตลอดเวลาที่รู้สึกเหนื่อย และอยากจะลาออกก็จะมีภาพแม่ขึ้นมาเสมอเสมอจนเราทำงานมาได้ครบ 1 เดือนเลยรู้สึกว่าเฮ้ย เราทำได้ เหมือนลบคำสบประมาทตัวเอง เด็ก Gen Y แบบหนูนี่ ตัวผอมๆ ขาวๆ ซีดๆ คนเห็นหน้าก็คิดแล้วว่า ไม่สู้งานแน่ๆ 5555 หนูว่าจะลองทำให้ครบ 1 ปี เอาประสบการณ์ไปก่อน (หรือ ไม่แน่อาจอยู่ยาวเลย เป็นเรื่องของอนาคต)

-------- วันเงินเดือนออก --------------

พี่หัวหน้าที่ทำงานก็ถามว่า ดีใจไหม ได้เงินเดือนก้อนแรก ?
โห ดีใจสุดๆ เลยค่ะ เป็นเงินที่หาได้มากที่สุดในชีวิตแล้ว พี่เค้าบอกว่าเงินเดือนก้อนแรกให้แม่ดิ เจริญนะ
เราก็โห.... ทำงานมาแทบตาย ให้หมดเลยหรอ … ให้แล้วก็ขอได้ 555 พี่เค้าแซว
เราก็เออ เนอะ ตกเย็นวันเงินเดือนออก กดเงินมาหมดเลยค่ะ
เอามาใส่ซอง แล้วจะให้แม่ 555 ตอนยื่นซองขาวๆ ให้แม่นี่ตื่นเต้นมาก แต่แม่บอกไม่เอา เก็บไว้ใช้เถอะ แป่ว ! ทำไมไม่ซึ้งเหมือนที่พี่เค้าเล่า นึกว่าจะมีฉากน้ำตาไหล แม่เข้ามากอด  

เลยถามว่า แม่อยากได้อะไร?  แม่ก็บอกไม่มีอะไรที่อยากได้ ไม่เอา
เลยบอกแม่ว่า งั้นเราไปทานข้าวกันนะ มื้อพิเศษ หนูเลี้ยงเอง
แม่ตอบตกลง เลยนัดกัน วันหยุด ออกไปทานข้าวด้วยกัน

ตอนไปทานข้าว แม่ก็กลัวเสียตังค์เยอะ 5555 ชวนเข้าร้านอะไรก็ไม่ยอมเข้า จนมาตกลงกันได้ ที่ MK ทานเสร็จ เดินลงมาชั้นล่าง มีบูธงานเซลล์สินค้าลดราคา ของรองเท้า แม่ก็จ้องไม่วางตา

พอถามว่า แม่อยากได้รองเท้าสักคู่ไหม แม่บอกไม่หรอก แต่สายตาแม่มันบอกว่า แม่ต้องการมันมาก
เลยชวนแม่ไปดู พอเห็นป้ายราคาลด เราก็คิดว่า น่าจะจ่ายไหวนะ ราคาดูไม่แพง ยี่ห้อนี้เคยเห็นเป็น ช็อปบ่อยๆ ไม่เคยแวะดูเลย

ใจอยากซื้ออะไรให้แม่อยู่แล้ว เลยลองถามแม่อีกครั้ง ว่า แม่เอาไหม ? รองเท้าแม่เก่าแล้วนะ (จริงๆ เรานึกรองเท้าแม่ไม่ออกเลย ทำไมไม่เคยมองเท้าแม่เลยน๊า ว่าแม่ชอบใส่รองเท้าอะไรเป็นประจำ จำได้แต่ว่า มันอยู่ติดกับรองเท้าเราที่ชั้นวาง เป็นสีน้ำตาล และมันค่อนข้างเก่าแล้ว แต่นึกไม่ออกจริงๆ แต่พูดออกไปก่อน ให้ดูสมเหตุสมผลที่แม่จะต้องให้ลูกสาวซื้อให้ ) เอาน่าแม่... เดี๋ยวหนูช่วยเลือก

เลือกดูคู่ที่แม่น่าจะชอบ ให้ 1 คู่ สีน้ำตาล มีส้นนิดหน่อย
แม่ลองใส่ แล้วแซวตัวเองว่า เนี่ยเป็นแม่ค้า ใส่รองเท้าซะสวยเกินหน้าเกินตาเลย สรุปว่าแม่เอา (ก็ได้)
เราไปจ่ายเงิน ในราค 2 หรือ  3 ร้อยบาท หนูไม่แน่ใจ

รู้สึก ภูมิใจมาก เงินเดือนก้อนแรก ในชีวิต ได้เลี้ยงข้าวแม่ แล้วยังได้ซื้อรองเท้าให้แม่อีก  ปกติเงินที่หาได้ เคยซื้อแต่ให้ตัวเอง แถมขอแม่เพิ่มถ้าไม่พอ
แต่ ที่พีคที่สุดคือ ตอนกลับมาที่บ้าน แอบมาดูรองเท้าคู่โปรดของแม่ เห็นสภาพแล้วเราแทบจะร้องไห้ มันเก่า มันเยินมากจริงๆ แม่คงใส่มานานแล้วอ่า คู่นี้

ขอโทษ MK ด้วยนะคะ ที่ถ่ายรูปมาไม่น่ากินเลย 555 พอดี ถ่ายเล่นๆ ส่งไปให้พี่ที่ทำงานดูน่ะค่ะ ว่าพาแม่มากินข้าว เน้นสาย สุขภาพมาก เผ็ด ผักเต็มไปหมด แต่ถัดมาจานที่ 2 คือ อารายย

ทานกัน 2 คนหมดแค่นี้แหละ ดีใจจังได้จ่ายค่าอาหารให้แม่ มื้อใหญ่ด้วย ปกติ กินแต่บุฟเฟ่ต์กับเพื่อน

งานนี้ล่ะค่ะ น่าจะเป็น เคลียร์แร้นซเซลล์ ลดล้างสต๊อก ขอโทษบาจาด้วยนะคะ ภาพเบลอมาก ถ้าแม่ใช้ดีจะมารีวิวนะคะ
กว่าจะทานข้าวเสร็จ ก็ปาไป 2 ทุ่มกว่าแล้วค่ะ คนเริ่มบางตา แต่ยังมีคนเลือกอยู่บ้าง

มาดูรองเท้าแม่บนชั้น จาร้องไห้ แม่ ... ทำไมมันเก่าแบบนี้ ถ้าไม่ซื้อให้ต้องเสียใจแน่เลย

นี่รองเท้าใหม่ของแม่ค่ะ สวยไหมคะ
ให้ดูอีกมุม

จบแล้วค่าาาา ถ้าวันนั้น หนูไม่ซื้อคู่นี้ มาให้แม่ แล้วกลับมาเจอ สภาพรองเท้าแม่แบบนี้ เราคงเสียใจมาก
แม่บอกว่าถึงเก่าแต่ก็ยังใช้ได้อยู่ แต่แม่ต้องใส่คู่ใหม่ด้วยนะ แม่บอกโอเค  
หวังว่า รองเท้าจะทนนะคะ  ยอมรับว่า ตอนเห็นมันลดราคาไม่ค่อยวางใจ ใครมีประสบการณ์ซื้อรองเท้าเซลล์แบบนี้บ้าง รองเท้าคู่แรกที่ซื้อให้แม่ ก็อยากให้แม่ใส่นานๆ 555 แต่ก็น่าจะทนนะคะ ยี่ห้อเดิมเลย แม่น่าจะชอบยี่ห้อนี้

เขียนมาซะยืดยาว ขอบคุณมากๆ ค่ะ ที่อ่านความประทับใจของหนูจนจบ
แล้วพี่ๆ เพื่อนๆ ล่ะคะ เงินเดือน เดือนแรก ให้แม่ หรือ ซื้ออะไรให้แม่บ้างไหมคะ

สุขสันต์แม่ทุกๆ คนค่าาา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่