สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เราเคยค่ะ
เพราะความจน ทำให้ดิ้นรนทุกอย่างตั้งแต่ส่งตัวเองเรียนมัธยมยันมหาลัย...เราไม่แคร์ใคร ไม่สนคำพูดคนอื่นๆ ประมาณว่ามั่นใจในตัวเองมาก
แบบกรูต้องเรียนดี กรูต้องจบ กรูต้องมีงานทำดีๆ
1 พอเรียนจบในวัย 21 และเร่ิมทำงานทันที (รับราชการค่ะ) เราก็ทำงานมุมานะมาก แค่ผ่านทดลองงาน ปลายปีเราก็ได้ 2 ขั้น
ทั้งที่ทำงานได้แค่ 8 เดือน (เรามารู้ทีหลังว่ารุ่นพี่ในที่ทำงานนินทาเรากันจม)
2อต่อมา เราเริ่มมีครอบครัว เราก็ยังทำงานหนักอย่างเดิม เพิ่มเติมคือ..หลังเลิกงาน เราไปเปิดร้านขายของในตลาดนัด
เราขับรถไปกลับ 200 กิโลค่ะ เพื่อไปขายของในตัวเมืองหลังเลิกงาน เพื่อหารายได้เพิ่มจากงานประจำ
3 พอเราเหนื่อยกับงานมากๆ เราเริ่มขยับขยายเปลี่ยนแปลง คราวนี้เช่าตึกในตัวอำเภอที่เราทำงานประจำค่ะ...เลิกงานราชการ 5 โมง เรา
จะไปเปิดร้านขายของที่ตัวอำเภอ ซี่งอยู่ห่างจากบ้านพักเรา 12 กิโล...ชิวๆค่ะ สบายๆ พอปิดร้าน 4 ทุ่มกลับมานั่งทำบัญชีถึงเที่ยงคืน
แถมตอนนั้น เริ่มหัดเขียนนิยายด้วย ...สรุปเรานอนตี 3 ทุกวัน
4 เราทำงานแบบนี้เรื่อยๆ ...เช้า-เย็น ทำงานราชการ....หกโมงเย็น-4 ทุ่ม อยู่ร้าน....ห้าทุ่ม-ตีสามเขียนหนังสือ
ชีวิตเราเป็นแบบนี้หลายปีมาก...และเราเริ่มละเลยครอบครัว ทำแต่งานค่ะ
5 เราเริ่มนอนไม่หลับ ต้องไปหาหมอและขอยานอนหลับ และเรากินยานอนหลับเป็นปีๆ ถ้าไม่กินไม่นอนค่ะ
6 สุดท้าย หมอบอกว่าเรามีอาการคล้ายคนเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ คงต้องรักษา...เงินมีเต็มมือ กิจการมี อาชีพมั่นคง แต่เราเกลียดตัวเอง
รู้สึกตัวเองไร้คุณค่า รู้สึกเหมือนว่าเราเอา
เปรียบคนอื่นๆในที่ทำงาน (ทั้งที่เราทำงานปกติ แต่เรารู้สึกว่า งานเราด้อยกว่าเดิม)
7 หมอแนะนำให้เราคุยกับคนอื่น คุยกับเพื่อนที่สนิทๆ ระบายทุกข์บ้าง แต่เราไม่เคยคุยเปิดใจกับใครเลย เราบอกแต่ว่าเราไม่เครียด
(ทั้งที่เรานอนไม่หลับติดต่อกันหลายวัน และต้องใช้ยาตลอด)
8 ชีวิตเริ่มล่มจมค่ะ...สามีและลูกห่างเรา เนื่องจากเราทำตัวห่างเค้า เราหาแต่เงิน แฟนจะเตือนยังไงเราก็ไม่ฟัง เราเอาแต่ใจตัวเอง
พอไปทำงาน เราจะแยกตัวออกจากเพื่อนร่วมงานเพราะเห็นว่าเพื่อนๆน่าเบื่อ...ตกเย็นไปร้าน เราก็เคี่ยวข็ญลูกจ้าง
9 จู่ๆ เราเริ่มท้อ เริ่มเห็นตัวเองไร้ศักยภาพ...ทำงานไม่เป็นไปตามใจ ไม่ได้อย่างนึก...สุดท้ายเราอาการหนัก ทำงานไม่ไหว ร้องไห้ จิตตก
10.เราเกลียดตัวเอง พยายามฆ่าตัวตาย แต่สามีดีมากช่วยเหลือปลอบโยนเราตลอด คอยพาเราห่างออกจากสิ่งเครียดๆ พาหาหมอ
11 เราเป็นโรคซึมเศร้าเต็มรูปแบบ ทำงานไม่ได้ จนเราต้องออกจากงานประจำ เพราะเราเกลียดตัวเองที่ไร้ประสิทธิภาพ ทั้งที่ที่ทำงาน
เค้าพยายามรั้งเรากันไว้ แต่เราทนไม่ได้...พอเราลาออก เราหยุดหมดทุกอย่างทั้งงานเขียน ทั้งร้าน...เราไม่เอาอะไรเลย
12 เรารักษาตัวอยู่เกือบ 4 ปีค่ะ กว่าจะหายจากโรคนี้ และตอนนี้เราเร่ิมดีขึ้นเกือบ 100 เปอร์แล้วค่ะ เริ่มกลับมาทำงานได้แล้ว
...เตือนน้องนะคะ...อย่าดิ้นรนเกินจำเป็น อย่ามุ่งมั่นเอาชนะความจนมากจนเกินไป...ถ้าเป็นไปได้ค่อยๆทำค่ะ เงินไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่สุด
พี่เคยผ่านมาแล้ว กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ พี่เกือบฆ่าตัวตายไปหลายครั้ง เนื่องจากทำงานหนักและไม่สนใจคำเตือนของใครๆ
เพราะความจน ทำให้ดิ้นรนทุกอย่างตั้งแต่ส่งตัวเองเรียนมัธยมยันมหาลัย...เราไม่แคร์ใคร ไม่สนคำพูดคนอื่นๆ ประมาณว่ามั่นใจในตัวเองมาก
แบบกรูต้องเรียนดี กรูต้องจบ กรูต้องมีงานทำดีๆ
1 พอเรียนจบในวัย 21 และเร่ิมทำงานทันที (รับราชการค่ะ) เราก็ทำงานมุมานะมาก แค่ผ่านทดลองงาน ปลายปีเราก็ได้ 2 ขั้น
ทั้งที่ทำงานได้แค่ 8 เดือน (เรามารู้ทีหลังว่ารุ่นพี่ในที่ทำงานนินทาเรากันจม)
2อต่อมา เราเริ่มมีครอบครัว เราก็ยังทำงานหนักอย่างเดิม เพิ่มเติมคือ..หลังเลิกงาน เราไปเปิดร้านขายของในตลาดนัด
เราขับรถไปกลับ 200 กิโลค่ะ เพื่อไปขายของในตัวเมืองหลังเลิกงาน เพื่อหารายได้เพิ่มจากงานประจำ
3 พอเราเหนื่อยกับงานมากๆ เราเริ่มขยับขยายเปลี่ยนแปลง คราวนี้เช่าตึกในตัวอำเภอที่เราทำงานประจำค่ะ...เลิกงานราชการ 5 โมง เรา
จะไปเปิดร้านขายของที่ตัวอำเภอ ซี่งอยู่ห่างจากบ้านพักเรา 12 กิโล...ชิวๆค่ะ สบายๆ พอปิดร้าน 4 ทุ่มกลับมานั่งทำบัญชีถึงเที่ยงคืน
แถมตอนนั้น เริ่มหัดเขียนนิยายด้วย ...สรุปเรานอนตี 3 ทุกวัน
4 เราทำงานแบบนี้เรื่อยๆ ...เช้า-เย็น ทำงานราชการ....หกโมงเย็น-4 ทุ่ม อยู่ร้าน....ห้าทุ่ม-ตีสามเขียนหนังสือ
ชีวิตเราเป็นแบบนี้หลายปีมาก...และเราเริ่มละเลยครอบครัว ทำแต่งานค่ะ
5 เราเริ่มนอนไม่หลับ ต้องไปหาหมอและขอยานอนหลับ และเรากินยานอนหลับเป็นปีๆ ถ้าไม่กินไม่นอนค่ะ
6 สุดท้าย หมอบอกว่าเรามีอาการคล้ายคนเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ คงต้องรักษา...เงินมีเต็มมือ กิจการมี อาชีพมั่นคง แต่เราเกลียดตัวเอง
รู้สึกตัวเองไร้คุณค่า รู้สึกเหมือนว่าเราเอา
เปรียบคนอื่นๆในที่ทำงาน (ทั้งที่เราทำงานปกติ แต่เรารู้สึกว่า งานเราด้อยกว่าเดิม)
7 หมอแนะนำให้เราคุยกับคนอื่น คุยกับเพื่อนที่สนิทๆ ระบายทุกข์บ้าง แต่เราไม่เคยคุยเปิดใจกับใครเลย เราบอกแต่ว่าเราไม่เครียด
(ทั้งที่เรานอนไม่หลับติดต่อกันหลายวัน และต้องใช้ยาตลอด)
8 ชีวิตเริ่มล่มจมค่ะ...สามีและลูกห่างเรา เนื่องจากเราทำตัวห่างเค้า เราหาแต่เงิน แฟนจะเตือนยังไงเราก็ไม่ฟัง เราเอาแต่ใจตัวเอง
พอไปทำงาน เราจะแยกตัวออกจากเพื่อนร่วมงานเพราะเห็นว่าเพื่อนๆน่าเบื่อ...ตกเย็นไปร้าน เราก็เคี่ยวข็ญลูกจ้าง
9 จู่ๆ เราเริ่มท้อ เริ่มเห็นตัวเองไร้ศักยภาพ...ทำงานไม่เป็นไปตามใจ ไม่ได้อย่างนึก...สุดท้ายเราอาการหนัก ทำงานไม่ไหว ร้องไห้ จิตตก
10.เราเกลียดตัวเอง พยายามฆ่าตัวตาย แต่สามีดีมากช่วยเหลือปลอบโยนเราตลอด คอยพาเราห่างออกจากสิ่งเครียดๆ พาหาหมอ
11 เราเป็นโรคซึมเศร้าเต็มรูปแบบ ทำงานไม่ได้ จนเราต้องออกจากงานประจำ เพราะเราเกลียดตัวเองที่ไร้ประสิทธิภาพ ทั้งที่ที่ทำงาน
เค้าพยายามรั้งเรากันไว้ แต่เราทนไม่ได้...พอเราลาออก เราหยุดหมดทุกอย่างทั้งงานเขียน ทั้งร้าน...เราไม่เอาอะไรเลย
12 เรารักษาตัวอยู่เกือบ 4 ปีค่ะ กว่าจะหายจากโรคนี้ และตอนนี้เราเร่ิมดีขึ้นเกือบ 100 เปอร์แล้วค่ะ เริ่มกลับมาทำงานได้แล้ว
...เตือนน้องนะคะ...อย่าดิ้นรนเกินจำเป็น อย่ามุ่งมั่นเอาชนะความจนมากจนเกินไป...ถ้าเป็นไปได้ค่อยๆทำค่ะ เงินไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่สุด
พี่เคยผ่านมาแล้ว กว่าจะผ่านจุดนั้นมาได้ พี่เกือบฆ่าตัวตายไปหลายครั้ง เนื่องจากทำงานหนักและไม่สนใจคำเตือนของใครๆ
แสดงความคิดเห็น
มีใครเกลียดความจน และกำลังดิ้นรน โดยไม่สนใจคำคนอื่นบ้างครับ
ผมกำลังจะเริ่มต้นกิจการในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
ตั้งมั่นเลยว่าจะต้องสะสมความมั่นคงไปเรื่อยๆ
แล้วเพื่อนๆหล่ะครับ มีมุมมองต่อชีวิตตนเองอย่างไร
และการจัดการชีวิต เช่น เวลาให้คู่ครองครอบครัว
ทำอย่างไรให้มันสมดุลครับ