รบกวนช่วยแนะนำ หุ้น Growth Stock ให้หน่อยครับ

กระทู้คำถาม
รบกวนช่วยแนะนำ หุ้น Growth Stock ให้หน่อยครับ กี่ตัวก็ได้ครับเดี๋ยวผมจะได้เอาไปศึกษาต่อครับ

ขอบคุณครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
เอาจริง ๆ ห้องนี้ถ้าตอบกันเละ ๆ สนุกมือแบบนี้อีกหน่อย สินธร/หุ้น คงไม่ใช่ที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอะไรทั้งนั้นแล้วนะ


ลองดู CBG ครับ

1) เป็นแบรนด์ไทยแบรนด์เดียวในตลาดหุ้นเวลานี้ที่จะ Go Global แบรนด์อื่นเช่น เถ้าแก่น้อย, อิชิตัน, ซอสXO, UFC, บลาๆๆ แค่ส่งออกไปขายต่างประเทศ แต่ไม่มีใครทำการตลาดจริงจัง ซึ่งเท่ากับเวลานี้มีคาราบาวลุยตลาดโลกเจ้าเดียว เป็นหุ้นที่มีความทะเยอทะยานสมกับเป็น Growth Stock

2) ผมชอบผู้บริหารที่กล้าแบกรับความเสี่ยงไว้เอง คือคาราบาวมีแพลนจะบุกตลาดจีนในช่วงที่ Red Bull กำลังมีปัญหาที่นู่น ซึ่งมันต้องลงทุนประมาณ 7,000 ล้านบาทกับตัวแทนจำหน่ายที่จีน เป็นพาร์ทเนอร์กัน ซึ่งคุณเสถียรเขาตัดสินใจลงทุนส่วนนั้นเองโดยไม่ให้ CBG ต้องมาแบกรับความเสี่ยงดังกล่าว แต่ว่าถ้าอนาคตมีกำไร เขาก็จะกลับมาขายหุ้นคืนบริษัทในราคา fair price

3) เชื่อในการตลาดของคาราบาวแดง และมั่นใจในศักยภาพที่ผ่านมา ไม่มีใครคาดคิดว่าคาราบาวจะเป็นเบอร์สองเครื่องดื่มชูกำลังในไทยเหนือกว่ากระทิงแดง และเป็นเบอร์หนึ่งของกัมพูชา ด้วยส่วนแบ่ง 66% (ถ้าตัวเลขไม่ผิดนะ) และการตลาดที่ไปซื้อสิทธิ์ลีกคัพของอังกฤษเป็นชื่อคาราบาวคัพ + สปอนเซอร์ชุดซ้อมเชลซี มันก็เห็นผลในการได้ตัวแทนจำหน่ายในอังกฤษมากกว่า 70% ที่เหลือคือยอดขายจะได้ตามเป้าไหม นอกจากนี้แล้วยังมี potential ในการบุกตลาดบราซิล ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังใหญ่ที่สุดในโลก ล่าสุดเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์หน้าอกสโมสรฟุตบอลฟลาเมนโก ทีมหัวแถวของลีกบราซิลเป็นระยะเวลา 4 ปี (2018-2022) ซึ่งก็บ่งบอกได้ว่าตัวแทนจำหน่ายที่บราซิลเขาไม่ได้เอาไปขายเล่น ๆ

เท่ากับคาราบาวตอนนี้คือ Go Global ของจริง โดยลุย 3 ตลาดใหญ่ ๆ คือ อังกฤษ, จีน, บราซิล และยังมีตลาดในอาเซียนกับอัฟกานิสถาน ซึ่งก็อาจจะครอง market share ในประเทศเหล่านั้นแต่ยอดขายคงไม่เท่าส่วนเล็ก ๆ ใน 3 ประเทศใหญ่ที่ว่ามา

ไปดูที่เป้าของบริษัท ตอนนี้ผู้บริหารตั้งเป้าที่ยอดขาย 30,000 ล้านภายใน 5 ปี ปัจจุบันขายได้อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท กำไรสุทธิประมาณ 1,500 ล้าน ซึ่งในระยะสั้นมองว่ายอดขายน่าจะโตจากการส่งออก แต่กำไรจะถูกกดดันด้วยหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ตอนนี้ CBG ต้องลงทุนสร้างโรงงานผลิตขวดและกระป๋องเพิ่ม โดยช่วงนี้ออร์เดอร์เกินกำลังผลิตไปมากทำให้ต้องไปจ้างโรงงานอื่นช่วยผลิต อันนี้เป็นปัจจัยนึงที่ทำให้มาร์จิ้นในช่วง 1-2 ปีนี้จะต่ำแน่นอน อีกปัจจัยนึงคืองบในการส่งเสริมการขาย ซึ่งตามแพลนของผู้บริหารเขาบอกว่าที่อังกฤษจะขาดทุนในช่วง 1-2 ปีนี้ค่อนข้างแน่นอน แต่จะทำให้ได้กำไรที่จีนมาชดเชยกัน

ตอนนี้ผมมองว่า CBG ประสบความสำเร็จในด่านแรกแล้วคือส่งของไปแล้วมีที่วางขายในอังกฤษและจีน คือมีตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่ครอบคลุม โดยในอังกฤษตัวเลขที่ผู้บริหารเคลมไว้คือ 70% ส่วนที่จีนยังไม่มีข้อมูลเพราะเพิ่งเริ่มสั่งออร์เดอร์ไป แต่ทีมที่กระจายสินค้าคือทีมที่ดึงตัวมาจาก Red Bull (market share 68% ในจีน) และเขาจะวางขายทั้งประเทศจีนเลย แต่ตอนนี้ Red Bull มีปัญหาในจีนทำให้เครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์อื่น ๆ กำลังพยายามฉวยโอกาสแย่งส่วนแบ่งตรงนี้ ซึ่งคาราบาวแดงก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่จะเข้าไปสู้กับเขาโดยคุณเสถียรใช้เงินส่วนตัวลงทุน (แล้วค่อยมาขายคืนบริษัททีหลังในราคา fair price)

ส่วนด่านที่สองสำหรับ CBG คือเมื่อได้ไปวางจำหน่ายแล้ว จะสามารถทำการตลาดในประเทศจีนและอังกฤษให้ขายได้ถึงระดับที่น่าพอใจไหม ซึ่งเบื้องต้นเราซูฮกการไปเป็นสปอนเซอร์ลีกคัพและสโมสรเชลซี ตรงนี้มีผลมาก ๆ ต่อความเชื่อมั่นของตัวแทนจำหน่ายในอังกฤษ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ กล้ารับสินค้าไปขาย และการเป็นสปอนเซอร์บอลถ้วยก็สามารถนำไปใช้ในการตลาดประเทศอื่น ๆ เช่นจีนและไทยได้อีก ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มในสายตาผมนะ

ส่วนถ้าถามว่าราคาหุ้น CBG เวลานี้แพงไหม ก็จะบอกว่าแพงในฐานะ growth stock น่ะแหละ แต่จะมีสักกี่หุ้นที่เป็น growth จริง ๆ แบบนี้ ตัวอื่นเทรดกันที่ p/e 30-40 เท่าหรือมากกว่านี้ยังดูไม่มีวี่แววจะกำไรเติบโตเหมือนอย่าง CBG เลยนะ ยิ่งถ้าการตลาดประสบความสำเร็จตามเป้าหมายนี่คาราบาวแดงจะขึ้นไปเทียบชั้นพวก monster, rockstar, lucozade และ burn เลยนะ (ส่วน Red Bull ไม่ต้องไปเทียบเพราะเขาแกร่งจริงสมกับเป็นเบอร์หนึ่ง)


มีหุ้นแล้วอาจมี bias ในการแสดงความเห็นครับ ผิดพลาดตรงไหนแย้งได้เลยครับเผื่อผมมองข้ามไป

ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่