คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจฟรุ้งฟริ้ง รู้สึกดูแล้วได้อะไรเยอะดีนะ

ช่อง 3 ไม่มีละครแนวครอบครัวมาพักใหญ่ มาถึงเรื่องนี้ ค่ายเจ้าของเดียวกับวัยแสบสาแหรกขาด
คิดว่าจะเป็นละครโทนดราม่าจัดๆแบบเรื่องที่แล้ว แต่ไม่ใช่ คือ ดราม่าก็มี โรแมนติกชุ่มชื้นหัวใจก็มี คอมมาดี้ก็เยอะ อบอุ่น
เป็นละครที่ดูแล้วไม่น่าจะสนุกเลย แต่ดูแล้วสนุกดี 555

อยากขอเขียนเกี่ยวกับความประทับใจที่มีจากการได้ดู - ความน่าสนใจต่างๆ



   -   ละครส่วนใหญ่เล่าว่าความสัมพันธ์จากเริ่มจนแฮปปี้เอนดิ้งได้ยังไง แต่ละครเรื่องนี้เล่าถึงความไม่แฮปปี้เอนดิ้งในชีวิตคนว่าจะข้ามผ่านมันมาอย่างไร (และเริ่มต้นใหม่อย่างไร)  ความรักไม่ได้มีแค่เรื่องหนุ่มสาวที่ได้คบหาแต่งงานเท่านั้น แต่มีเฟสต่อไปคือชีวิตครอบครัว ความสัมพันธ์เริ่มต้นอาจจะไม่ยากมาก แต่การรักษาไว้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งอาจจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ได้  รวมถ่ายทอดเรื่องของลูก คนที่อยู่ตรงกลางระหว่างความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ โดยเฉพาะพ่อแม่ที่หย่าร้าง  เป็นพลอตละครทีไม่ค่อยมีใครหยิบมานำเสนอนัก นางเอกท้องกับแฟน มีลูกเลยแต่งงาน แต่สุดท้ายก็มาหย่ากันแบบไม่สวย ละครอาจจะไม่ได้ให้ประโยชน์แบบเชิงข้อมูลจิตวิทยาเป๊ะๆแบบวัยแสบ แต่คิดว่าละครก็ให้แแง่คิดในการใช้ชีวิต การมีความรัก มีความครอบครัวกับหลายๆคน เวลาดู หลายครั้งถามตัวเองบ่อยมากว่า ถ้าสมมติเราเจอแบบนี้บ้างจะทำยังไงดี จะทำเหมือนนางเอกมั้ย อินและลุ้น555


-    ละครสะท้อนการใช้ชีวิตที่เร่งรีบของคนทำงานและครอบครัวในยุคนี้ การทานอาหารบนรถ กินอาหารร้านสะดวกซื้อ การทานอาหารสำเร็จรูป (อุ่นไมโครเวฟ) การให้ลูกเล่นแท็บเลต ฝากลูกกับรถโรงเรียน ต่างๆ ซึ่งบางครั้งเราก็มองไม่เห็นว่ามันมีข้อเสียอะไร แต่หลายๆอย่างก็มีทางออก ให้ชีวิตช้าลงแบบไม่สุดโต่งนะ เช่น การผูกปิ่นโต (แต่คนส่งอาจจะไม่หล่อเหมือนตี๋)

  -   ละครฉายให้เห็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องปรับชีวิตใหม่ในการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวไปพร้อมๆกับการทำงานในที่ใหม่ ต้องเจอปัญหา ต้องกดดันทั้งเรื่องคน งาน เงิน โดยเฉพาะในภาพของการเป็นคุณแม่และเป็นแม่ที่เลี้ยงเดี่ยว แต่สิ่งที่ทำให้ผ่านไปได้ ไหวอยู่ คือการมีเพื่อนที่ดีคอยช่วยเหลือ มีเพื่อนร่วมงานหลายๆคนที่เข้าใจเธอ      นอกจากนั้นละครก็เล่าถึงทางออกอื่นๆ อย่างการหากำลังใจที่เริ่มด้วยตัวเองได้ อย่างการฟังแง่คิดจากรายการวิทยุดีเจพี่แสด 555หรือในหลายๆครั้งก็จะมีบทพูดว่านางเอกอยากไปปรึกษาจิตแพทย์ (ไปหาจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย)  คิดว่าการดูละครเรื่องนี้น่าจะช่วยถ่ายทอดให้เห็นสิ่งที่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องเผชิญ และช่วยทำให้เราเข้าใจคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเพิ่มขึ้น

       อีกเรื่องที่ชัดตลอดคือ เห็นความรักของแม่ที่มีต่อลูกผ่านเรื่องเล็กน้อยๆเสมอ เล่านิทานให้ลูกฟัง ดูแลลูกไปโรงเรียน ไปรับไปส่ง ห่มผ้าให้ลูก สอนลูกให้เป็นคนดี  เป็นอะไรที่อบอุ่นใจมากๆเวลาดู รวมถึงค่อยๆเล่าเรื่องการเลี้ยงดูอย่างไรเมื่อพ่อแม่แยกทางกัน


  -  ตัวละครในเรื่อง มีหลายโทนสีดี ชีวิตแต่ละครมีกรอบที่คอยครอบอยู่และปมที่ไม่เหมือนเหมือนชีวิตคนจริงๆ ไม่ได้เกิดมาเลวสีดำสนิทและไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรี

         -  พงศ์พิสุทธิ์ (คริน) เป็นผู้ชายฐานะดีลูกเจ้าของร้านเพชร ทำอาชีพผู้กำกับแต่ยังต้องพึ่งพาเงินแม่ เป็นคนเจ้าชู้ ทำอะไรใช้อารมณ์ เวลาโกรธจะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ เป็นตัวละครสีเทาๆหน่อย แต่ก็ไม่ได้เลวไปหมด ถามว่ารักลูกมั้ยก็ดูรัก เคยคิดกลับตัวบ้างรึเปล่าก็อาจจะคิด แต่สิ่งปฏิบัติจริงคือการไม่มีวุฒิภาวะต่อการจะเป็นพ่อและสามีที่ดีได้ กลับตัวไม่ได้ แก้ปัญหาไม่เป็นและไม่มีที่ปรึกษาที่ดี ที่จะคอยบอกว่าควรทำยังไง

         -  มุลิลา (จ๊ะ) มู่ลี่ สาวมั่นใจในตัวเอง เป็นคนค่อนข้างแรง  อารมณ์ร้อนบ้างแต่ก็ไม่ถึงขาดสติ แม้เธอจะผิดพลาดที่มีแฟนแ
ล้วท้องจึงต้องแต่งงาน แต่เธอก็พยายามเป็นแม่ที่ดีทำงานเลี้ยงลูก ไม่ได้พึ่งพาแต่สามี เป็นคนไม่ได้โลกสวยและอ่อนต่อ ปากร้าย มีเพื่อนสาวคนสนิทคือต้องตา ที่มีแฟนชื่อพี่ยักษ์  เป็นเหมือนกัลยาณมิตรคอยซัพพอร์ตให้คำปรึกษาและดูแลลูกตลอดมา เป็นเพื่อนอะไรที่ดีก็บอกว่าดี ไม่ดีก็บอก เธอรู้ว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรต่อใครที่เข้ามาอย่างชิษณุ แต่เพราะเรื่องที่ผ่านมามีเยอะเลยยังไม่พร้อมเปิดใจ รวมถึงมีน้องปลิ้มแล้วด้วย

         - ชิษณุ (วิลลี่) คนที่ดูมีชีวิตเพอร์เฟค แก่ใจดีสปอร์ตกทม. 555  เป็นมีความเป็นผู้ใหญ่ทั้งนิสัยและชีวิตจริง เจ้าของธุรกิจร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ กับเรื่องงาน จริงจัง เฉียบขาด เนี้ยบ  วางตัวเป็นผู้บริหารเสมอ โปรไฟล์หกดาวแบบพี่หญิงต้องวิ่งตามแต่กลับชอบผู้หญิงที่มีลูกติดอย่างมุลิลา แต่กับเรื่องหัวใจดูจะใบ้กินไม่ได้เก่งแบบเรื่องงาน ยังมีความประหม่าจนต้องปรึกษากับพี่ยักษ์ มีกรอบที่คอยต้องคำนึงถึง เพราะมีอุปสรรคทั้งตรีดาวคนที่ครอบครัวอยากให้แต่งงานเพราะความเหมาะสมและธุรกิจคอยเป็นกรอบ ทั้งความเป็นเจ้านายลูกน้อง ความคาดหวังของครอบครัว หรือแม้แต่มู่ลี่เองที่ไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ จะแสดงออกอะไรก็ยาก เป็นกำแพงในการสร้างความสัมพันธ์ (ดูแล้วอึกอัดแทนมาก 555)

        - อัศวิน (เก้า) หนุ่มน้อยอารมณ์ดี แต่อาจจะมีความกวนบาทานิดหน่อย แต่เป็นคนมีน้ำใจ อัศวินดูเป็นคนมีปมน้อยที่สุดแล้ว แต่จริงๆก็โตมาไม่มีพ่อ แต่ก็มีอาม่า แม่ และพี่สาวเป็นครอบครัวที่อบอุ่น
  

-  สะท้อนเรื่องการเป็นแม่

            ไม่ใช่แค่นางเอก แต่เราจะเห็นแม่หลายๆแบบ ทุกคนมีจุดร่วมเหมือนกันคือเลี้ยงลูกมาโดยไม่มีสามี เรียกได้ว่าเรื่องนี้มีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายรุ่นนะ55 แต่ก็เป็นแม่ที่ไม่เหมือนกัน มีทั้งแม่ที่เป็นแสงสว่างให้ลูกได้เหมือนแสงอาทิตย์ แม่ที่เป็นแค่ดาวเคราะห์ หรือแม่ที่เหมือนอมราหู (และได้ลูกที่ออกมาไม่เหมือนกัน)

             เริ่มที่ “แม่ของพงศ์สามีเก่านางเอก นอกจากเป็นแม่ที่ไม่ได้ช่วยให้คำปรึกษาให้ปัญญาให้สติกับลูกชายได้ ยังช่วยเติมไฟด้วย เราจะเห็นได้จากเวลานางเอกกับสามีทะเลาะกันก็จะเสริม แต่เสริมแบบเสียดสีถากถางเหมือนสาดน้ำมันเข้ากองไฟ  และเป็นคนแก่ที่เอาแต่ใจตัวเอง จะเอาหลานมาอยู่กับตัวไม่เอาแม่แม้จะเป็นการแยกแม่แยกลูก คิดหากลอุบายเอาหลานกลับมาเรียกได้ว่าส่งเสริมลูกไปในทางชั่วกันเห็น 55 เลี้ยงลูกด้วยเงิน เอาเงินฟาดลูก ตัวแม่เองก็มีปมที่ถูกสามีทิ้ง จะบอกว่าพงศ์เป็นแบบนี้เพราะแม่มีส่วนด้วยก็อาจจะได้ หลายๆครั้งเวลาดู คิดว่าถ้าพงศ์มีแม่ที่ดี พงศ์อาจจะไม่ถลำลึกขนาดนี้และถูกทิ้งให้คว้าง

            แม่ของมุลิลา อาจจะไม่มีอำนาจชี้นำควบคุมลูกสาว-ต้องพึ่งพาเงินลูก และเพราะด้วยความลำบากได้การเลี้ยงลูกมาคนเดียว เลยทำให้ดวงใจให้คุณค่ากับเรื่องเงินมากกว่าเรื่องอื่น ไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองเลิกกับสามี แต่มู่ลี่แม้ตัดสินใจผิดหรือผิดพลาดในหลายเรื่อง แต่ก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่รับผิดชอบชีวิตดูแลตัวเองและลูกได้   

            ส่วนแม่ของอัศวิน ดูเป็นแม่ที่ปกติธรรมดาที่สุด อาจจะเพราะสามีจากไปแบบป่วยด้วย คอยสนับสนุนให้คำปรึกษาลูก เป็นแม่ที่อบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่เข้าไปยุ่มย่ามกับชีวิตลูกให้ลูกตัดสินใจเอง อัศวินก็ดูเป็นคนอีคิวดี เป็นที่รักของคนรอบๆตัว


  
  ขอบคุณที่ติดตามกระทู้ค่ะ ชวนกันดูและมาเม้าท์ๆกับตัวละครค่ะ ละครดีและสนุก มุกเยอะนะ 5555
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่