Ciao~ Hallo~
ทักทายทุกคนด้วยสไตล์อิตาเลี่ยนกะเยอรมัน
อยากมาเม้ามอยถึงประสบการณ์
" เที่ยวคนเดียวครั้งแรกในต่างแดน!! "
ณ ประเทศอิตาลีและเยอรมัน ระยะเวลา 20 วัน
เจอทั้งเรื่องที่น่าจดจำ สนุกสนาน รวมไปถึงเรื่องช็อค ซินิม่า
ครบทุกรสจริงอะไรจริงเลยแหละ ทริปเนี้ยย!!
กลับมาพร้อมมิตรภาพ ได้เพื่อนใหม่เยอะแยะเลย !!!
เรื่องนี้มันเฟรชมากข่าาา สดๆร้อนๆ
เพราะพึ่งถึงไทยเมื่อตอน10โมงเช้า แล้วอินี่พึ่งตื่น
พอตื่นปุ๊ปก็อยากเม้าปั๊ป ฮร่าาาา
อ่านกันโล้ดดดดด กับ
{ ART SCENE }
Italy-Germany 20days #ฟฟทริปเดือด2017
05/08
ระหว่างนั่งเครื่องกลับประเทศไทยก็รู้สึกใจหายแปลกๆ...
เพราะเครื่องบินตกหลุมอากาศ!! กำ ไม่ใช่ๆ
มันคือความรู้สึกแบบ.. นี่ครบ20วันแล้วหรอ?!! ฮือออออ งอแง โวยวาย ความรู้สึกมันเหมือนพึ่งเหยียบอิตาลีเมื่อวานเองแต่แค่ความกลัวในวันแรกที่จะเดินทางได้หายไปหมดแล้ว
ทุกอย่างเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเลย แผนที่วางไว้ก็ถูกปรับตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทริปนี้ก็เช่นกัน เดือดเหมือนน้ำต้ม ปุ๊ดๆ ปีที่แล้วยังวางแผนไปจะNew Yorkอยู่เลย กลับกลายเป็นว่า3เดือนที่ผ่านมาก็พับแผนการแรกเข้ากรุมุ่งหน้ามายุโรปแทน ไอ่เราตัดสินใจอยู่คนเดียวไม่ได้บอกป๊า
โอ่ยย มาบอกเอาเดือนสุดท้ายเนี้ยแหละก่อนจองตั๋วเครื่องบิน ก่อนหน้านั้นก็แย้บๆที่ละประโยคไป เนี้ยเวนิสมีงานนน อีกอาทิตย์ก็หูวว เยอรมันมีงานนน สุดยอดมากเลยย ฮ่าๆ ส่วนVISAก็เดือดเบาๆทำ15วันก่อนไป เอกสารรับรองนักศึกษาชื่อผิดอีก ต้องไปแก้ที่ระบบมหาลัย ไม่ทันแน่ๆ
ตู้วหูวว ชีวิตมันจะเร้าใจไปล้ะ แต่วีซ่าก็ผ่านฉลุยยยย
ทั้งหมดนี้ก็เพราะอภิ-มหา-มหกรรม-นิทรรศการศิลปะที่อิตาลีและเยอรมันนำพา ~ จะไม่ให้มาได้ยังไงละ !!
Venice biennale 3 ปีมี1ครั้งที่ Venice, Italy
Documenta 5 ปีมี1ครั้งที่ Kassel, Germany
สุดท้าย skulpture project 10ปี มี1ครั้งที่ Münster, Germany ยังไม่รวม Historical museum กะ contemporary art museum ละก็ gallery
อีกเป็นตัน ไม่มาไม่ได้จีๆ
ตอนแรกเสล่อคิดว่ามีปี2018
นานๆมันจะชนกันหนะ เกือบพลาดล้ะ 😱
ที่จริงนัดกลับเพื่อนไว้ดิบดี 3 คน บอกป๊าเรียบร้อย สรุปเหลือตัวคนเดียว เพื่อนตารางไม่แน่นอน ติดไปช่วยทำวิจัย เลยเอาเงินไปซื้อเปียโนแม่ม ส่วนอีกคนเดี๋ยวไปรัสเซียกับที่บ้าน เออออ ดั้ยยยยส์ คนเดียวก็คนเดียว ปกติก็เที่ยวคนเดียวอยู่แล้วตอนอยู่ที่ไทย ครั้งแรกนั่งรถไฟไปหัวหินคนเดียวแล้วค่อยโทรมาบอกที่บ้านว่าไม่กลับบ้านนะ อยู่หัวหินแหละ อิอิ ช็อคทั้งบ้าน แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มชิน ว้าบไปเชียงใหม่บ้าง ว้าบไปนู้นี่นั้นบ้าง แต่อันนี้มันไกล มันข้ามทวีปเลยแกร
บุพการีจะต้องเงิบส์แน่ๆ
ป๊า : อะไรนะ! ไปคนเดียว?!!!
ฟฟ : จ้ายย เพื่อนไม่ว่างแล้วว ไม่เป็นไรไปคนเดียวได้ มีเพื่อนคนเยอรมันกับพี่คนไทยอยู่ สบายม่ากกกกกกกกกกกกกกก
ป๊า : .... *อาแปะคิ้วชนกันพร้อมทำหน้าครุ่นคิส*
ฟฟ :.... *ได้แต่ทำยิ้มแห้ง อย่าห้ามหนูววว*
หลังจากนั้นอาแปะของหนูก็อัพลง Facebook ตัวเองว่า
5555555555555555555555555555555
หลังจากนั้นก็เตรียมตัว พอเวลาผ่านไป เวลาเดินทางใกล้ขึ้นมา2 วันก่อนจะไปพึ่งมารู้สึกตัวว่า
เห้ยยยยย นี่ชั้นทำอะไรลงไป !!!
อีกไม่กี่วันก็บินแล้ว ไม่เคยเที่ยวคนเดียวนานขนาดนี้มาก่อน ปกติมากสุดก็1อาทิตย์ นี้มัน20วันเลยนะเหวยยย
ภาษาอังกฤษจะรอดมั้ยว้ะ จะตกเครื่องมั้ยเนี้ย ของครบมั้ย เอกสารต้องเตรียมอะไรอีก จะเริ่มต้นคุยกับคนอื่นยังไง จะหลุดทำอะไรโง่ๆมั้ยนะ (ใช่หลุด.. เยอะด้วย เฉิ่มสลัดด)
ทั้งตื่นเต้นทั้งparanoidในเวลาเดียวกัน
เตรียมตัวอะเตรียมแว้วแต่ยังไงไม่พร้อมอยู่ดี
อ่ากกกกกก กกก กก ก ก ก ก
16/07
และแล้ววันนั้นก็มาถึง..
ตุก ตัก ตุก ตัก ตุก ตัก ~ ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรัวๆตอนที่เท้าเหยียบสุวรรณภูมิ ไฟล์ท11.40
ถึงสนามบิน 10 โมง ตอนเช้าก็เช็คของแล้วเช็คของอีก ย้ำคิดย้ำทำมากไปหน่อย สายเลย ฮี่ๆ เช็คอินปุ๊ปพุ่งเข้าช่องแดงปั๊ป
ช่อง "Premium late" แถมขออนุญาตฝรั่งแซงคิวจนลูกชายถาม ฮืออ เจ้ผิดไปแล้วเจ้ขอแซงนะหนูและวิ่งร้อยเมตรเพื่อไปที่เกตทันที มายก้อดดด เหมือนวิ่งจากกรุงเทพไปชานเมือง คือเกตอยู่สุดติ่งสนามบิน จิตใจทำด้วยอารายย
ระหว่างที่วิ่งก้าวไม่ยั้ง
ความรู้สึกตอนนั้นมันเกม tale runner ชัดๆ
เสียงตอนที่ออกวิ่งอ่ะ มันติดหูมากเลยแบบ
" 3 2 1 ! เอ้าาา วิ่ง วิ่ง วิ่งงง *ฮึ้บ* "

เหมือนกันเป๊ะ หลบหลีกมวลมนุษย์ชิลที่shoppingในduty free และสิ่งกีดขวางต่างๆ ฮร่าาา
พอวิ่งได้สักพักก็เห็นเกตอยู่ข้างหน้า
Finally !! ทันเวลาเป๊ะ
ได้นั่งพักหายใจเข้าหายใจออกอีกนิดโหน่ยก่อนจะขึ้นเครื่อง
เกตยังไม่ปิด แหม่ะ เริ่มต้นก็เร้าซะหายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว
ครั้งนี้เลือกสายการบิน British airways
ขาไปก็ Bangkok -> London -> Venice
ขากลับ กลับจากBerlin -> London->Bangkok
เปลี่ยนเครื่องที่londonเจยๆ อยากจะว้าบเหมือนกัน
แต่ต้องไปทำวีซ่าเพิ่ม พ้อยด์คือไม่มีกะตัง จอบอนะ กระซิก
ตั๋วไปกลับมันถูกสุดล้ะ ในช่วงเวลานั้น ปกติจะซื้อตั๋วล่วงหน้านานๆ จะได้ราคาโดนใจ ไม่เกิน 25,000 บาท แต่นี้มันทริปเดือด 32,000 ไปอีก ตรงกับช่วงทัวร์ลงแร้ง ซัมเมอร์ฤดูท่องเที่ยวไสยๆ ต้องไปไฟว้กับบรรดาทัวร์
"Let the force be with you" อะ เอื้อออ
ใช้เวลาบินทั้งประมาณ 15 ชั่วโมง จนถึงเวนิส~
รวมเวลาต่อเครื่องที่ลอนดอนแว้ววว
ระหว่างการเดินทางไกล โชคดีเจอสาวบริติชรุ่นราวคราวเดียวกัน เลยได้เม้านิดหน่อยตอนช่วงใกล้ๆถึงลอนดอนเพราะนางพึ่งตื่นตอนนั้นละ อ่าาาาาาาาาา
สำเนียงบริติช พ่ายแพ้ ชอบบบ 💙
Nstace สาวลอนดอนพึ่งแบกเป๋าเที่ยวไทยแล้วก็อยากไปอีก
ชอบกินข้าวเหนียวมะม่วงและอาหารไทยพวกstreet food ฮ่าๆ ชุ้นเลยได้โอกาสขอแลกอีเมล
เผื่อนางมาไทยอีกจะพาไปตะลุยกินตามสไตล์เด็กอ้วล
นางเลยบอกว่ามาลอนดอนก็บอกนางน้า ได้เยยย
แต่ไม่รู้เหมือนไหร่ ทริปยุโรปใช้เงินมหาศาล
น่าจะอีกสักพักใหญ่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เทคนิคฉบับฟฟคือการขออีเมลเนี้ยแหละ
มันกลางดีๆ ถ้าขอ facebook เลยมันจะดูรุกแรงไปหน่อย เพราะบางทีคุยกันแป๊ปเดียว บางทีเจอผู้ชายเงี้ยย
หูวว เดี๋ยวกลายเป็นอ้อล้อไป ฮ่าๆ ชุ้นไม่ได้คิดอะไรร🙄
แต่ถ้าเค้าอยากรู้จักเราต่อหรือเม้าถูกคอ เค้าก็จะให้ facebook เองนั้นแหละ อิอิ
ผ่านมา12ชั่วโมงเครื่องลงลอนดอน ชั้นต้องไปตามหาเกตถัดไปเพื่อไปเวนิส มันต้องไปทางไหนว้าา ก็เดินจ้ำๆตามฝรั่งไป ฝรั่งเดินไปขึ้นรถไฟ ชิ้ทท ไปไหนกันว้ะ ด้วยความกลัวว่ารถไฟมันจะพาไปตม.ลอนดอน เลยตัดสินใจเดินตามป้ายไป จากเกตC ไป เกตA ทำไมทางเดินมันเงียบเหงาจังว้ะ ซักพักเจอผู้ชายอินเดียอยู่ข้างหน้า 1 คนเค้าเลยหันคุยกันและเราไปเกต A เหมือนกัน ชาวอินเดียวัยกลางคนได้งานอีกเมืองในอังกฤษ เป็นคนอินเดียที่ไม่เหมือนคนอินเดีย สำเนียงก็ไม่เอ่โด๋เลย ชื่อไม่ได้ถามเพราะเดี๋ยวก็แยกกันล้ะ 😂😂😂
เค้าทำงานเกี่ยวกับพวกวิศวะคอม ละก็เม้ามอย คือคุยกันเยอะมากก็ยังไม่ถึงเกตA ซักที ยิ่งเดินยิ่งไม่มีคน เจ้าหน้าที่ก็ไม่มี อ่ากกกก ยังไงซะเราจะหลงทางไปด้วยกัน!! ฮ่าๆ
อารมณ์เหมือนเดินทะลุอุโมงอวกาศ บรรยากาศมันจะสลั่วๆหน่อย แล้วเห็นปลายทางสว่างสดใสอยู่ลิบๆ เดินไปเม้าไปฆ่าเวลาจนถึงแสงสว่าง เจอเจ้าหน้าที่แล้ว!!! ย่ะฮู้วว พุ่งเข้าไปถามทางไปเกตA เลยทำให้รู้ว่ารถไฟอ่ะมันไม่ได้พาไปตม มันพาไปเกตโว้ย เพราะเกต A B C มันอยู่ไกลมาก อินี้ก็งงกับระบบอะ แต่ขากลับชุ้นจะไม่พลาดแน่!!! หึ้ย! เมื่อเดินมาถึงปลายทางเราต้องไปขึ้นเกตที่บินไปเวนิส ส่วนindian guyคนนั้นไปขึ้นอีกเกตนึง เลยแยกย้ายและร่ำลากัน เค้าก็ประมาณว่าเที่ยวให้สนุกน้าา เราก็ขอให้มีวันที่ดีน้าา 😆🌈
ภายในตัวเกตที่ลอนดอนอลังการณ์งานสร้างมาก duty free ยาวสุดลูกหูลูกตา แล้วยังมีshop ของ Harry potter อีก บอกเลยว่าไม่เข้า... ถ้าเข้าได้ของแน่ๆ มาเที่ยวอิตาลีกะเยอรมันนะเห่ยย ตั้งสติๆ เง้ออออ น้องอยากเข้า น้องอยากเข้าาา หลังจากชะเง้อไกลๆเรียบร้อย มุ่งหน้าสู่เป้าหมายต่อไป เวนิส!
เวนิสจ๋าา ชุ้นมาแว้วววว ~
ต่อเครื่องรอบสุดท้ายก่อนที่จะลงเวนิสตอนเที่ยงคืน นี้สาเหตุที่ตั๋วมันถูกกว่าอันอื่น 🙄
เดินขึ้นเครื่อง นั่งที่นั่ง รัดเข็มขัดเรียบร้อย!
ข้างๆมีสาวผมดำผิวแทนคนนึงนั่งอยู่ เลยเริ่มต้นบทสนทนาด้วยคำถาม ซึ่งมันเป็นเรื่องง่ายมากกับการถาม
ฟฟ : ขอโทษคะ มีบัสตอนเที่ยงคืนที่สนามบินมั้ย?
สาวผมดำ : โอ้ว ไม่รู้เหมือนกัน ชั้นไม่เคยมาเวนิสเลย พอดีมาเที่ยวกับพี่ชาย ชั้นมาจากตุรกี
หลังจากนั้นบทสนทนาก็ยาวอยู่ๆก็คุยเรื่องของกินตามสไตล์เด็กอ้วล ต่อด้วยของกินที่ประหลาด เช่น แมงป่องเสียบไม้ที่ขายที่ข้าวสาร สมองลิงบ้าง เนื้อหมาบ้าง เลอะเทอะมาก 55555 แล้วก็เรื่องภาษาอังกฤษ ที่เราคุยกันรู้เรื่อง รู้สึกประหลาดใจ คือถ้าคุยกับ English speaker อ่ะ เราจะมีปัญหาหลักๆ คือ พูดเร็วมาก อิห่าน ฟังไม่ทัน
แล้วก็ Idiom มาเป็นตั้ง ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ดี ได้แค่เบสิคๆ ตามสไตล์เด็กไม่ตั้งใจเรียนตอนมัธยม มันเป็นกรรมที่แท้จริง อยากกระโดดถีบตัวเองตอนนั้น ฮ่าๆๆ
ในส่วนของคนที่ไม่ได้มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่
เราก็จะเข้าใจกันง่ายเพราะเราใช้คำง่ายๆ ประโยคง่ายๆ 😂
ด้วยความเพลียจากการนั่งเครื่องบิน12ชั่วโมงทำให้เราหลับและอดเม้าต่อ พอถึงที่หมายก็ตื่นมาร่ำลาและอวยพรก่อนแยกย้ายยย ไว้เจอกันที่ไทยนะ ถ้าเธอมาา!!!!
สถานีต่อไป เวนิเซียยยย ชุ้นมาแว้วววววว ~
เดี๋ยวไปกินเนื้อย่างก่อน โหยมากกกก แล้วจะมาเม้าต่อ ฮี่ฮี่
{ ART SCENE } Italy-Germany 20days #ฟฟทริปเดือด2017
ทักทายทุกคนด้วยสไตล์อิตาเลี่ยนกะเยอรมัน
อยากมาเม้ามอยถึงประสบการณ์
" เที่ยวคนเดียวครั้งแรกในต่างแดน!! "
ณ ประเทศอิตาลีและเยอรมัน ระยะเวลา 20 วัน
เจอทั้งเรื่องที่น่าจดจำ สนุกสนาน รวมไปถึงเรื่องช็อค ซินิม่า
ครบทุกรสจริงอะไรจริงเลยแหละ ทริปเนี้ยย!!
กลับมาพร้อมมิตรภาพ ได้เพื่อนใหม่เยอะแยะเลย !!!
เรื่องนี้มันเฟรชมากข่าาา สดๆร้อนๆ
เพราะพึ่งถึงไทยเมื่อตอน10โมงเช้า แล้วอินี่พึ่งตื่น
พอตื่นปุ๊ปก็อยากเม้าปั๊ป ฮร่าาาา
อ่านกันโล้ดดดดด กับ
{ ART SCENE }
Italy-Germany 20days #ฟฟทริปเดือด2017
05/08
ระหว่างนั่งเครื่องกลับประเทศไทยก็รู้สึกใจหายแปลกๆ...
เพราะเครื่องบินตกหลุมอากาศ!! กำ ไม่ใช่ๆ
มันคือความรู้สึกแบบ.. นี่ครบ20วันแล้วหรอ?!! ฮือออออ งอแง โวยวาย ความรู้สึกมันเหมือนพึ่งเหยียบอิตาลีเมื่อวานเองแต่แค่ความกลัวในวันแรกที่จะเดินทางได้หายไปหมดแล้ว
ทุกอย่างเกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเลย แผนที่วางไว้ก็ถูกปรับตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทริปนี้ก็เช่นกัน เดือดเหมือนน้ำต้ม ปุ๊ดๆ ปีที่แล้วยังวางแผนไปจะNew Yorkอยู่เลย กลับกลายเป็นว่า3เดือนที่ผ่านมาก็พับแผนการแรกเข้ากรุมุ่งหน้ามายุโรปแทน ไอ่เราตัดสินใจอยู่คนเดียวไม่ได้บอกป๊า
โอ่ยย มาบอกเอาเดือนสุดท้ายเนี้ยแหละก่อนจองตั๋วเครื่องบิน ก่อนหน้านั้นก็แย้บๆที่ละประโยคไป เนี้ยเวนิสมีงานนน อีกอาทิตย์ก็หูวว เยอรมันมีงานนน สุดยอดมากเลยย ฮ่าๆ ส่วนVISAก็เดือดเบาๆทำ15วันก่อนไป เอกสารรับรองนักศึกษาชื่อผิดอีก ต้องไปแก้ที่ระบบมหาลัย ไม่ทันแน่ๆ
ตู้วหูวว ชีวิตมันจะเร้าใจไปล้ะ แต่วีซ่าก็ผ่านฉลุยยยย
ทั้งหมดนี้ก็เพราะอภิ-มหา-มหกรรม-นิทรรศการศิลปะที่อิตาลีและเยอรมันนำพา ~ จะไม่ให้มาได้ยังไงละ !!
Venice biennale 3 ปีมี1ครั้งที่ Venice, Italy
Documenta 5 ปีมี1ครั้งที่ Kassel, Germany
สุดท้าย skulpture project 10ปี มี1ครั้งที่ Münster, Germany ยังไม่รวม Historical museum กะ contemporary art museum ละก็ gallery
อีกเป็นตัน ไม่มาไม่ได้จีๆ
ตอนแรกเสล่อคิดว่ามีปี2018
นานๆมันจะชนกันหนะ เกือบพลาดล้ะ 😱
ที่จริงนัดกลับเพื่อนไว้ดิบดี 3 คน บอกป๊าเรียบร้อย สรุปเหลือตัวคนเดียว เพื่อนตารางไม่แน่นอน ติดไปช่วยทำวิจัย เลยเอาเงินไปซื้อเปียโนแม่ม ส่วนอีกคนเดี๋ยวไปรัสเซียกับที่บ้าน เออออ ดั้ยยยยส์ คนเดียวก็คนเดียว ปกติก็เที่ยวคนเดียวอยู่แล้วตอนอยู่ที่ไทย ครั้งแรกนั่งรถไฟไปหัวหินคนเดียวแล้วค่อยโทรมาบอกที่บ้านว่าไม่กลับบ้านนะ อยู่หัวหินแหละ อิอิ ช็อคทั้งบ้าน แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มชิน ว้าบไปเชียงใหม่บ้าง ว้าบไปนู้นี่นั้นบ้าง แต่อันนี้มันไกล มันข้ามทวีปเลยแกร
บุพการีจะต้องเงิบส์แน่ๆ
ป๊า : อะไรนะ! ไปคนเดียว?!!!
ฟฟ : จ้ายย เพื่อนไม่ว่างแล้วว ไม่เป็นไรไปคนเดียวได้ มีเพื่อนคนเยอรมันกับพี่คนไทยอยู่ สบายม่ากกกกกกกกกกกกกกก
ป๊า : .... *อาแปะคิ้วชนกันพร้อมทำหน้าครุ่นคิส*
ฟฟ :.... *ได้แต่ทำยิ้มแห้ง อย่าห้ามหนูววว*
หลังจากนั้นอาแปะของหนูก็อัพลง Facebook ตัวเองว่า
5555555555555555555555555555555
หลังจากนั้นก็เตรียมตัว พอเวลาผ่านไป เวลาเดินทางใกล้ขึ้นมา2 วันก่อนจะไปพึ่งมารู้สึกตัวว่า
เห้ยยยยย นี่ชั้นทำอะไรลงไป !!!
อีกไม่กี่วันก็บินแล้ว ไม่เคยเที่ยวคนเดียวนานขนาดนี้มาก่อน ปกติมากสุดก็1อาทิตย์ นี้มัน20วันเลยนะเหวยยย
ภาษาอังกฤษจะรอดมั้ยว้ะ จะตกเครื่องมั้ยเนี้ย ของครบมั้ย เอกสารต้องเตรียมอะไรอีก จะเริ่มต้นคุยกับคนอื่นยังไง จะหลุดทำอะไรโง่ๆมั้ยนะ (ใช่หลุด.. เยอะด้วย เฉิ่มสลัดด)
ทั้งตื่นเต้นทั้งparanoidในเวลาเดียวกัน
เตรียมตัวอะเตรียมแว้วแต่ยังไงไม่พร้อมอยู่ดี
อ่ากกกกกก กกก กก ก ก ก ก
16/07
และแล้ววันนั้นก็มาถึง..
ตุก ตัก ตุก ตัก ตุก ตัก ~ ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นรัวๆตอนที่เท้าเหยียบสุวรรณภูมิ ไฟล์ท11.40
ถึงสนามบิน 10 โมง ตอนเช้าก็เช็คของแล้วเช็คของอีก ย้ำคิดย้ำทำมากไปหน่อย สายเลย ฮี่ๆ เช็คอินปุ๊ปพุ่งเข้าช่องแดงปั๊ป
ช่อง "Premium late" แถมขออนุญาตฝรั่งแซงคิวจนลูกชายถาม ฮืออ เจ้ผิดไปแล้วเจ้ขอแซงนะหนูและวิ่งร้อยเมตรเพื่อไปที่เกตทันที มายก้อดดด เหมือนวิ่งจากกรุงเทพไปชานเมือง คือเกตอยู่สุดติ่งสนามบิน จิตใจทำด้วยอารายย
ระหว่างที่วิ่งก้าวไม่ยั้ง
ความรู้สึกตอนนั้นมันเกม tale runner ชัดๆ
เสียงตอนที่ออกวิ่งอ่ะ มันติดหูมากเลยแบบ
" 3 2 1 ! เอ้าาา วิ่ง วิ่ง วิ่งงง *ฮึ้บ* "
พอวิ่งได้สักพักก็เห็นเกตอยู่ข้างหน้า
Finally !! ทันเวลาเป๊ะ
ได้นั่งพักหายใจเข้าหายใจออกอีกนิดโหน่ยก่อนจะขึ้นเครื่อง
เกตยังไม่ปิด แหม่ะ เริ่มต้นก็เร้าซะหายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว
ครั้งนี้เลือกสายการบิน British airways
ขาไปก็ Bangkok -> London -> Venice
ขากลับ กลับจากBerlin -> London->Bangkok
เปลี่ยนเครื่องที่londonเจยๆ อยากจะว้าบเหมือนกัน
แต่ต้องไปทำวีซ่าเพิ่ม พ้อยด์คือไม่มีกะตัง จอบอนะ กระซิก
ตั๋วไปกลับมันถูกสุดล้ะ ในช่วงเวลานั้น ปกติจะซื้อตั๋วล่วงหน้านานๆ จะได้ราคาโดนใจ ไม่เกิน 25,000 บาท แต่นี้มันทริปเดือด 32,000 ไปอีก ตรงกับช่วงทัวร์ลงแร้ง ซัมเมอร์ฤดูท่องเที่ยวไสยๆ ต้องไปไฟว้กับบรรดาทัวร์
"Let the force be with you" อะ เอื้อออ
ใช้เวลาบินทั้งประมาณ 15 ชั่วโมง จนถึงเวนิส~
รวมเวลาต่อเครื่องที่ลอนดอนแว้ววว
ระหว่างการเดินทางไกล โชคดีเจอสาวบริติชรุ่นราวคราวเดียวกัน เลยได้เม้านิดหน่อยตอนช่วงใกล้ๆถึงลอนดอนเพราะนางพึ่งตื่นตอนนั้นละ อ่าาาาาาาาาา
สำเนียงบริติช พ่ายแพ้ ชอบบบ 💙
Nstace สาวลอนดอนพึ่งแบกเป๋าเที่ยวไทยแล้วก็อยากไปอีก
ชอบกินข้าวเหนียวมะม่วงและอาหารไทยพวกstreet food ฮ่าๆ ชุ้นเลยได้โอกาสขอแลกอีเมล
เผื่อนางมาไทยอีกจะพาไปตะลุยกินตามสไตล์เด็กอ้วล
นางเลยบอกว่ามาลอนดอนก็บอกนางน้า ได้เยยย
แต่ไม่รู้เหมือนไหร่ ทริปยุโรปใช้เงินมหาศาล
น่าจะอีกสักพักใหญ่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เทคนิคฉบับฟฟคือการขออีเมลเนี้ยแหละ
มันกลางดีๆ ถ้าขอ facebook เลยมันจะดูรุกแรงไปหน่อย เพราะบางทีคุยกันแป๊ปเดียว บางทีเจอผู้ชายเงี้ยย
หูวว เดี๋ยวกลายเป็นอ้อล้อไป ฮ่าๆ ชุ้นไม่ได้คิดอะไรร🙄
แต่ถ้าเค้าอยากรู้จักเราต่อหรือเม้าถูกคอ เค้าก็จะให้ facebook เองนั้นแหละ อิอิ
ผ่านมา12ชั่วโมงเครื่องลงลอนดอน ชั้นต้องไปตามหาเกตถัดไปเพื่อไปเวนิส มันต้องไปทางไหนว้าา ก็เดินจ้ำๆตามฝรั่งไป ฝรั่งเดินไปขึ้นรถไฟ ชิ้ทท ไปไหนกันว้ะ ด้วยความกลัวว่ารถไฟมันจะพาไปตม.ลอนดอน เลยตัดสินใจเดินตามป้ายไป จากเกตC ไป เกตA ทำไมทางเดินมันเงียบเหงาจังว้ะ ซักพักเจอผู้ชายอินเดียอยู่ข้างหน้า 1 คนเค้าเลยหันคุยกันและเราไปเกต A เหมือนกัน ชาวอินเดียวัยกลางคนได้งานอีกเมืองในอังกฤษ เป็นคนอินเดียที่ไม่เหมือนคนอินเดีย สำเนียงก็ไม่เอ่โด๋เลย ชื่อไม่ได้ถามเพราะเดี๋ยวก็แยกกันล้ะ 😂😂😂
เค้าทำงานเกี่ยวกับพวกวิศวะคอม ละก็เม้ามอย คือคุยกันเยอะมากก็ยังไม่ถึงเกตA ซักที ยิ่งเดินยิ่งไม่มีคน เจ้าหน้าที่ก็ไม่มี อ่ากกกก ยังไงซะเราจะหลงทางไปด้วยกัน!! ฮ่าๆ
อารมณ์เหมือนเดินทะลุอุโมงอวกาศ บรรยากาศมันจะสลั่วๆหน่อย แล้วเห็นปลายทางสว่างสดใสอยู่ลิบๆ เดินไปเม้าไปฆ่าเวลาจนถึงแสงสว่าง เจอเจ้าหน้าที่แล้ว!!! ย่ะฮู้วว พุ่งเข้าไปถามทางไปเกตA เลยทำให้รู้ว่ารถไฟอ่ะมันไม่ได้พาไปตม มันพาไปเกตโว้ย เพราะเกต A B C มันอยู่ไกลมาก อินี้ก็งงกับระบบอะ แต่ขากลับชุ้นจะไม่พลาดแน่!!! หึ้ย! เมื่อเดินมาถึงปลายทางเราต้องไปขึ้นเกตที่บินไปเวนิส ส่วนindian guyคนนั้นไปขึ้นอีกเกตนึง เลยแยกย้ายและร่ำลากัน เค้าก็ประมาณว่าเที่ยวให้สนุกน้าา เราก็ขอให้มีวันที่ดีน้าา 😆🌈
ภายในตัวเกตที่ลอนดอนอลังการณ์งานสร้างมาก duty free ยาวสุดลูกหูลูกตา แล้วยังมีshop ของ Harry potter อีก บอกเลยว่าไม่เข้า... ถ้าเข้าได้ของแน่ๆ มาเที่ยวอิตาลีกะเยอรมันนะเห่ยย ตั้งสติๆ เง้ออออ น้องอยากเข้า น้องอยากเข้าาา หลังจากชะเง้อไกลๆเรียบร้อย มุ่งหน้าสู่เป้าหมายต่อไป เวนิส!
เวนิสจ๋าา ชุ้นมาแว้วววว ~
ต่อเครื่องรอบสุดท้ายก่อนที่จะลงเวนิสตอนเที่ยงคืน นี้สาเหตุที่ตั๋วมันถูกกว่าอันอื่น 🙄
เดินขึ้นเครื่อง นั่งที่นั่ง รัดเข็มขัดเรียบร้อย!
ข้างๆมีสาวผมดำผิวแทนคนนึงนั่งอยู่ เลยเริ่มต้นบทสนทนาด้วยคำถาม ซึ่งมันเป็นเรื่องง่ายมากกับการถาม
ฟฟ : ขอโทษคะ มีบัสตอนเที่ยงคืนที่สนามบินมั้ย?
สาวผมดำ : โอ้ว ไม่รู้เหมือนกัน ชั้นไม่เคยมาเวนิสเลย พอดีมาเที่ยวกับพี่ชาย ชั้นมาจากตุรกี
หลังจากนั้นบทสนทนาก็ยาวอยู่ๆก็คุยเรื่องของกินตามสไตล์เด็กอ้วล ต่อด้วยของกินที่ประหลาด เช่น แมงป่องเสียบไม้ที่ขายที่ข้าวสาร สมองลิงบ้าง เนื้อหมาบ้าง เลอะเทอะมาก 55555 แล้วก็เรื่องภาษาอังกฤษ ที่เราคุยกันรู้เรื่อง รู้สึกประหลาดใจ คือถ้าคุยกับ English speaker อ่ะ เราจะมีปัญหาหลักๆ คือ พูดเร็วมาก อิห่าน ฟังไม่ทัน
แล้วก็ Idiom มาเป็นตั้ง ภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ดี ได้แค่เบสิคๆ ตามสไตล์เด็กไม่ตั้งใจเรียนตอนมัธยม มันเป็นกรรมที่แท้จริง อยากกระโดดถีบตัวเองตอนนั้น ฮ่าๆๆ
ในส่วนของคนที่ไม่ได้มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่
เราก็จะเข้าใจกันง่ายเพราะเราใช้คำง่ายๆ ประโยคง่ายๆ 😂
ด้วยความเพลียจากการนั่งเครื่องบิน12ชั่วโมงทำให้เราหลับและอดเม้าต่อ พอถึงที่หมายก็ตื่นมาร่ำลาและอวยพรก่อนแยกย้ายยย ไว้เจอกันที่ไทยนะ ถ้าเธอมาา!!!!
สถานีต่อไป เวนิเซียยยย ชุ้นมาแว้วววววว ~
เดี๋ยวไปกินเนื้อย่างก่อน โหยมากกกก แล้วจะมาเม้าต่อ ฮี่ฮี่