พลิกรักจากหลังไมค์ ตอนที่ 11 ค่ะ ;)

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา....

เสียงโทรศัพท์มือถือของภัทรก็ดังขึ้นมา ขณะที่ตัวเขากำลังนั่งทานข้าวและฟังเพลงไปด้วย
อยู่อย่างสบายอารมณ์ พอร่างสูงเดินมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็เห็นว่าเป็นเบอร์ของริน
เขาจึงรีบปิดเพลงและกดรับสายทันที

“ฮัลโหล ริน โทร. มามีอะไรรึเปล่า?” ร่างสูงกรอกเสียงลงไปตามสาย

“สวัสดีค่ะ คุณภัทรใช่ไหมคะ?” พยาบาลสาวรีบกรอกเสียงลงไปตามสาย

“ครับ” ภัทรอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ที่มีเสียงผู้หญิงคนอื่นดังมาตามสาย

‘หรือว่าเป็นสาวคนที่ยายรินแอบคบอยู่โทร. มาถล่มเขารึเปล่านะ’  ภัทรแอบมโนไปเอง

“คือ... คู่หมั้นของคุณ รถมอเตอร์ไซค์ล้มน่ะค่ะ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล S” พยาบาลสาว
พูดต่อ

“หา.. อะไรนะครับ แล้วเธอเป็นอะไรมากรึเปล่าครับ” พอได้ยินแบบนั้นก็อดตกใจไม่ได้
เขาจึงเผลอร้องถามคำถามออกไปชนิดเสียงดังกว่าปกติ

‘เป็นอะไรมากรึเปล่านะ ยายริน ก็เล่นหนังหุ้มเหล็กซะขนาดนั้น เห้อ ถ้ายายรินขับรถยนต์ก็
คงจะไม่น่าเป็นห่วงขนาดนี้’

ภัทรแอบนึกกังวลอยู่ในใจ เพราะไม่รู้ว่ารินบาดเจ็บมากขนาดไหน และตอนนี้อาการจะ
เป็นอย่างไรบ้าง

“คุณหมอกำลังดูอาการอยู่นะคะ แต่พอดีติดต่อพ่อแม่ของทางผู้ป่วยไม่ได้ ทางเราก็
เลยโทรมาหาคุณแทนน่ะค่ะ” คุณพยาบาลรีบตอบคำถามภัทร และชี้แจงเหตุผลที่เธอ
โทรหาชายหนุ่ม

“เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละครับ รบกวนคุณช่วยบอกคร่าวๆ ได้ไหมครับ ว่าโรงพยาบาล
ตั้งอยู่ตรงไหน” ภัทรรีบถามทาง และเมื่อร่างสูงได้ข้อมูลมาแล้ว เขาก็รีบไปอาบน้ำ
เปลี่ยนเสื้อผ้า และหยิบกระเป๋าสตางค์ ก่อนจะออกจากห้อง เพื่อเดินทางไปหารินที่
นครปฐมทันที





ณ ห้องพักผู้ป่วยของโรงพยาบาล S

เมื่อภัทรเดินเข้ามาในห้อง เขาก็เห็นคู่หมั้นกำมะลอกำลังนอนหลับตาหน้าซีดเซียว และ
ถูกให้น้ำเกลืออยู่บนเตียงของโรงพยาบาลอย่างน่าสงสาร แถมเธอยังมีเฝือกที่แขนขวา
อันเบ้อเริ่มห้อยคอยู่ด้วย

‘โชคดีไปนะที่หัวไม่ฟาดพื้นเพราะใส่หมวกกันน็อกกับสนับเข่าสนับศอกเอาไว้ แต่ขนาด
นี้ก็เจ็บน้อยซะที่ไหนล่ะ ยังดีนะที่แขนหักไปแค่ข้างเดียวเนี่ย แต่จะว่าไปยายนี่ก็แอบใจดี
อยู่นะ ยอมเลี้ยวหลบตัวเงินตัวทอง ซะตัวเองรถล้มจนต้องมาบาดเจ็บขนาดนี้เนี่ย’

ภัทรแอบคิดในใจอยู่คนเดียว





กลางดึกคืนนั้น…

แกร๊กๆ...แกร๊กๆ

‘คุณพระ... นี่เล่นกันตั้งแต่คืนแรกเลยเรอะ!’   

ยิ่งเมื่อมีเสียงฟ้าร้องคำรามดังครืนๆ แว่วมาผสมเพิ่ม บรรยากาศก็ยิ่งทวีความน่ากลัวขึ้นไปอีก
ภัทรซึ่งตื่นเต็มตาแล้ว ก็ได้แต่นอนลืมตาโพลงมองผนังตรงหน้า ที่มีแสงไฟจากระเบียง
สาดส่องเข้ามาเพียงรำไรๆ โดยยังไม่กล้าหันไปทางต้นเสียง

ชั่วขณะนั้นเอง ในหัวของเขาก็เริ่มมีภาพผีในหนังสยองขวัญทุกเรื่องที่เคยดูมา ตั้งแต่เรื่อง
ภาพติดผี แฝดผี สวนสนุกผี ฯลฯ ไหลวนเข้ามาจนเหมือนกับว่าเขากำลังได้ดูหนังซ้ำอีกรอบ
แต่รอบนี้นั้นเขาก็รู้สึกเหมือนว่ากำลังจะได้มีส่วนร่วมแสดงด้วยอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ชายหนุ่ม
รู้สึกหนาวยะเยือกจนขนหัวลุกชันไปหมด แต่สักชั่วประเดี๋ยวเดียว เสียงโลหะกระทบกันก็
เงียบหายไป แล้วมันก็กลับเริ่มมีเสียงผู้หญิงร้องดังขึ้นมาแทน











...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่