สวัสดีครับ สมาชิกทุกคน
ต้องขอโทษที่ห่างหายไปนานมาก 555 คือ ปกติผมไม่ค่อยเข้าพันทิปเท่าไหร่ งานยุ่ง แต่เรื่องลึกลับนี้ก็เจอตลอด เล่ายังไงก็ไม่หมด เป็นคนชอบเล่ามากกว่าชอบพิมพ์ซะด้วยสิ เลยไม่ค่อยเข้ามา
อ่ะ! มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า วันนี้ขอมาเล่าเรื่องเกี่ยวข้องกับความรักที่เหนี่ยวรั้งวิญญาณไว้เรื่องนึงก่อนละกาน
เรื่อง เด็กหนุ่มปี 3 ที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายคนนั้น
เมื่อ 2 ปีก่อนขณะที่ผมได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม. ตอนช่วงพักเที่ยงผมและเพื่อนๆ 10 คนได้ไปกินข้าวที่โรงอาหารคณะหนึ่ง ซึ่งคนก็เยอะแยะ ระหว่างทางที่เดินไปนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกจากข้างบนตึกว่า “พี่ๆ ช่วยผมหน่อย มาคุยกับผมหน่อย” พอหันขึ้นไปเท่านั้นแหละครับ เห็นวิญญาณเด็กนึกศึกษาผู้ชาย สภาพน่ากลัวมาก หัวเละๆ แบนๆ ผมเปียกๆเลืออด หน้าก็แดงๆช้ำเขียวๆด้วย เสื้อสีขาวก็เปื้อนเลือดผสมดิน เอ่อะ!!! น่ากลัวเนอะ นัยน์ตาเศร้าสร้อย ยืนอยู่บนชั้น 3 ของตึก ซึ่งจริงๆก็ไม่สูงมาก
จากนั้นเป็นไงครับ ให้ทาย.... แน่นอนกระโดดลงมาต่อหน้าเลย หล่นโบ๊ะที่พื้น สภาพเละๆอย่างนั้นเลย แล้วก็ขึ้นไปใหม่ ด้วยความที่คนเยอะ และอยู่กับเพื่อน ก็เลยไม่ได้พูดอะไร เด๋วๆเพื่อนๆจะกลัวเนอะ ก็เลยบอกไปว่า “ไว้วันหลัง เด๋วพี่มาคุยด้วยนา วันนี้ไม่สะดวก” เขาก็โอเค 555 มีการต่อลองวิญญาณด้วย
ต่อมาผ่านมาอีก 1 สัปดาห์ ผมก็เลยแวะไปหา ณ จุดเดิม ก็กระโดดซ้ำอีก แล้วก็มาคุยสภาพนั้น ได้ใจความว่า “ผมเป็นนักศึกษาปี 3 ที่เรียนที่นี้ แต่กระโดดตึกฆ่าตัวตายเมื่อ 8 ปีก่อน เพราะแฟนสาวของผมทิ้งผมไปมีคนอื่น ผมพยายามขอร้องและอ้อนวอนแล้วแต่เขาก็จะทิ้งผมไป ผมเลยบอกถ้าทิ้งไปจะฆ่าตัวตายนะ แต่เขาก็คิดว่าผมไม่ทำจิรงหรอก ผมเลยพิสูจน์ความรักให้เขาดู แต่ตอนนี้ผมติดอยู่กับเรื่องนี้ ไปไหนไม่ได้ นักศึกษาคนอื่นเขามีชีวิตที่ดี มีการมีงาน ได้เลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ผมนี่สิกลับมาจมอยู่กับความรักโง่ๆ ห็นภาพเลห่านี้ซ้ำๆในหัวทุกวันๆ มันแย่มาก แย่กลัวตอนมีชีวิตซะอีก พี่ช่วยผมหน่อยนะครับ”
หลังจากผมฟังก็รู้สึกเห็นใจและสงสารมากครับ ผมได้แอบไปถามคณาจารย์กับเจ้าหน้าที่ว่าที่ตึกนี้ ชั้น 3 มี นักศึกษากระโดดตึกจริงไหม คำตอบ คือจริง ออกข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ด้วย เมื่อ 7-8 ปีก่อน ตอนนั้นอาจารย์ท่านก็สอนอยู่ชั้น 5 แล้วก็ได้ยินเสียงดังจากข้างนอก พอออกไปดูก็มีเด็กกระโดดตึกจากชั้น 3 ซึ่งไม่สูงมาก แต่เอาหัวลงพื้น ก็เลยเสียชีวิตทันที แต่ไม่ทราบว่าเพราอะไร
ผมก็แอบตกใจนิดๆ และก็ชัดเจนแล้วว่าเรื่องที่เล่าตรงกัน
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ความรักเป็นทั้งสุขและทุกข์ เราไม่ควรที่จะจริงจังหรือทุ่มเทจนมากเกินไป ควรเผื่อใจและแบ่งใจไว้บ้าง หรือถ้าจะทุ่มเทให้กับความรักจริงๆ หันไปทุ่มเทให้กับรักแท้น่าจะดีกว่า ซึ่งก็คือพ่อแม่ คนที่รักเรา และที่สำคัญคือ ตัวเอง ไม่เช่นนั้นหากพลาดพลั้ง ตายก่อนวัยอันควรหรือตายโหง!!! นั่นเอง ก็จะต้องมาวนเวียนอยู่กับเรื่องหรือสิ่งที่ค้างคาในใจ บางคนอาจเรียกว่า บ่วงเวรบ่วงกรรม กลายเป็นวิญญาณอาฆาตและรอคนรักข้ามภพข้ามชาติต่อไป อย่างกรณีนี่เอง
สำหรับวิธีช่วยที่ผมพอทำได้ คือ ปลอบใจ คอยเป็นเพื่อนกับพี่เขา (น่าจะเป็นพี่ผม เพราะเป็นนักศึกษาปี 3 เมื่อ 8 ปีก่อน) ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้ เพื่อสอนให้เข้าใจธรรมะ จนเขาสามารถปล่อยวาง ให้อภัยตนเอง และคนรัก ซึ่งจะทำให้หลุดพ้นและไปเกิดในภพหน้าต่อได้นั้นเอง
ปล.ก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมดนาครับ พี่เขา (วิญญาณ) ก็อนุญาตให้เล่าต่อเพื่อเป็นสิ่งเตือนใจแล้ว ไม่มีเสริมเติมแต่งแน่นอน เพราะไม่มีเหตุที่ต้องทำแบบนั้น ผมมุ่งเน้นแบ่งปันข้อคิด ธรรมะและสิ่งดีๆแก่กันมากกว่า แต่ก็ไม่ค่อยได้เข้าพันทิปเนอะ เอาเป็นว่า ใครสงสัย อยากปรึกษาและแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเรื่องลึกลับ สามารถติดต่อได้ทาง e-mail: maneerat.anan@gmail.com ครับ น่าจะเร็วกว่า ฟรี ไม่คิดเงินและยินดีอย่างยิ่ง ขอบคุณครับ
เรื่อง เด็กหนุ่มปี 3 ที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายคนนั้น
ต้องขอโทษที่ห่างหายไปนานมาก 555 คือ ปกติผมไม่ค่อยเข้าพันทิปเท่าไหร่ งานยุ่ง แต่เรื่องลึกลับนี้ก็เจอตลอด เล่ายังไงก็ไม่หมด เป็นคนชอบเล่ามากกว่าชอบพิมพ์ซะด้วยสิ เลยไม่ค่อยเข้ามา
อ่ะ! มาเข้าเรื่องของเราดีกว่า วันนี้ขอมาเล่าเรื่องเกี่ยวข้องกับความรักที่เหนี่ยวรั้งวิญญาณไว้เรื่องนึงก่อนละกาน
เรื่อง เด็กหนุ่มปี 3 ที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายคนนั้น
เมื่อ 2 ปีก่อนขณะที่ผมได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม. ตอนช่วงพักเที่ยงผมและเพื่อนๆ 10 คนได้ไปกินข้าวที่โรงอาหารคณะหนึ่ง ซึ่งคนก็เยอะแยะ ระหว่างทางที่เดินไปนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกจากข้างบนตึกว่า “พี่ๆ ช่วยผมหน่อย มาคุยกับผมหน่อย” พอหันขึ้นไปเท่านั้นแหละครับ เห็นวิญญาณเด็กนึกศึกษาผู้ชาย สภาพน่ากลัวมาก หัวเละๆ แบนๆ ผมเปียกๆเลืออด หน้าก็แดงๆช้ำเขียวๆด้วย เสื้อสีขาวก็เปื้อนเลือดผสมดิน เอ่อะ!!! น่ากลัวเนอะ นัยน์ตาเศร้าสร้อย ยืนอยู่บนชั้น 3 ของตึก ซึ่งจริงๆก็ไม่สูงมาก
จากนั้นเป็นไงครับ ให้ทาย.... แน่นอนกระโดดลงมาต่อหน้าเลย หล่นโบ๊ะที่พื้น สภาพเละๆอย่างนั้นเลย แล้วก็ขึ้นไปใหม่ ด้วยความที่คนเยอะ และอยู่กับเพื่อน ก็เลยไม่ได้พูดอะไร เด๋วๆเพื่อนๆจะกลัวเนอะ ก็เลยบอกไปว่า “ไว้วันหลัง เด๋วพี่มาคุยด้วยนา วันนี้ไม่สะดวก” เขาก็โอเค 555 มีการต่อลองวิญญาณด้วย
ต่อมาผ่านมาอีก 1 สัปดาห์ ผมก็เลยแวะไปหา ณ จุดเดิม ก็กระโดดซ้ำอีก แล้วก็มาคุยสภาพนั้น ได้ใจความว่า “ผมเป็นนักศึกษาปี 3 ที่เรียนที่นี้ แต่กระโดดตึกฆ่าตัวตายเมื่อ 8 ปีก่อน เพราะแฟนสาวของผมทิ้งผมไปมีคนอื่น ผมพยายามขอร้องและอ้อนวอนแล้วแต่เขาก็จะทิ้งผมไป ผมเลยบอกถ้าทิ้งไปจะฆ่าตัวตายนะ แต่เขาก็คิดว่าผมไม่ทำจิรงหรอก ผมเลยพิสูจน์ความรักให้เขาดู แต่ตอนนี้ผมติดอยู่กับเรื่องนี้ ไปไหนไม่ได้ นักศึกษาคนอื่นเขามีชีวิตที่ดี มีการมีงาน ได้เลี้ยงดูพ่อแม่ แต่ผมนี่สิกลับมาจมอยู่กับความรักโง่ๆ ห็นภาพเลห่านี้ซ้ำๆในหัวทุกวันๆ มันแย่มาก แย่กลัวตอนมีชีวิตซะอีก พี่ช่วยผมหน่อยนะครับ”
หลังจากผมฟังก็รู้สึกเห็นใจและสงสารมากครับ ผมได้แอบไปถามคณาจารย์กับเจ้าหน้าที่ว่าที่ตึกนี้ ชั้น 3 มี นักศึกษากระโดดตึกจริงไหม คำตอบ คือจริง ออกข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ด้วย เมื่อ 7-8 ปีก่อน ตอนนั้นอาจารย์ท่านก็สอนอยู่ชั้น 5 แล้วก็ได้ยินเสียงดังจากข้างนอก พอออกไปดูก็มีเด็กกระโดดตึกจากชั้น 3 ซึ่งไม่สูงมาก แต่เอาหัวลงพื้น ก็เลยเสียชีวิตทันที แต่ไม่ทราบว่าเพราอะไร
ผมก็แอบตกใจนิดๆ และก็ชัดเจนแล้วว่าเรื่องที่เล่าตรงกัน
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า ความรักเป็นทั้งสุขและทุกข์ เราไม่ควรที่จะจริงจังหรือทุ่มเทจนมากเกินไป ควรเผื่อใจและแบ่งใจไว้บ้าง หรือถ้าจะทุ่มเทให้กับความรักจริงๆ หันไปทุ่มเทให้กับรักแท้น่าจะดีกว่า ซึ่งก็คือพ่อแม่ คนที่รักเรา และที่สำคัญคือ ตัวเอง ไม่เช่นนั้นหากพลาดพลั้ง ตายก่อนวัยอันควรหรือตายโหง!!! นั่นเอง ก็จะต้องมาวนเวียนอยู่กับเรื่องหรือสิ่งที่ค้างคาในใจ บางคนอาจเรียกว่า บ่วงเวรบ่วงกรรม กลายเป็นวิญญาณอาฆาตและรอคนรักข้ามภพข้ามชาติต่อไป อย่างกรณีนี่เอง
สำหรับวิธีช่วยที่ผมพอทำได้ คือ ปลอบใจ คอยเป็นเพื่อนกับพี่เขา (น่าจะเป็นพี่ผม เพราะเป็นนักศึกษาปี 3 เมื่อ 8 ปีก่อน) ทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้ เพื่อสอนให้เข้าใจธรรมะ จนเขาสามารถปล่อยวาง ให้อภัยตนเอง และคนรัก ซึ่งจะทำให้หลุดพ้นและไปเกิดในภพหน้าต่อได้นั้นเอง
ปล.ก็เป็นเรื่องจริงทั้งหมดนาครับ พี่เขา (วิญญาณ) ก็อนุญาตให้เล่าต่อเพื่อเป็นสิ่งเตือนใจแล้ว ไม่มีเสริมเติมแต่งแน่นอน เพราะไม่มีเหตุที่ต้องทำแบบนั้น ผมมุ่งเน้นแบ่งปันข้อคิด ธรรมะและสิ่งดีๆแก่กันมากกว่า แต่ก็ไม่ค่อยได้เข้าพันทิปเนอะ เอาเป็นว่า ใครสงสัย อยากปรึกษาและแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเรื่องลึกลับ สามารถติดต่อได้ทาง e-mail: maneerat.anan@gmail.com ครับ น่าจะเร็วกว่า ฟรี ไม่คิดเงินและยินดีอย่างยิ่ง ขอบคุณครับ