เกี่ยวกับประเด็นถกเถียงกันเรื่องพระทำอาหาร

ขอออกความเห็นส่วนตัว ช่วงน้ำท่วมสกลนครมีภาพพระวัดป่าสุธาวาสนำอาหารไปแจก ฆราวาสญาติโยม เลยมีเสียงวิจารณ์แยกเป็นสองฝ่ายตามมาว่าไม่เหมาะสมผิดพระวินัย แต่อีกฝั่งก็บอกว่าทำได้ ผมเลยลองไปค้นดูว่าเป็นยังไง โดยสรุปมี 3 ประเด็นหลักๆคือ
1. บางคนก็ว่าเป็นการประจบญาติโยม ข้อนี้หนักเอาการนะครับต้องอาบัตสังฆาทิเสสเลยทีเดียว จะแก้อาบัติได้ต้องอยู่ปริวาส และมีอีกหลายขั้นตอนกว่าจะกลับเข้าหมู่สงฆ์ได้
http://www.84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=1&item=621&items=1&preline=0&pagebreak=0
2. ทำอาหารเอง อันนี้มีหลายแง่
2.1 ภิกษุฉันอาหารที่ปรุงเองต้องอาบัติทุกกฎ http://www.84000.org/tipitaka/read/?5/49
2.2 มีอนุบัญญัติให้ภิกษุทำอาหารเองได้ถ้าเกิดทุพภิกขภัย (สภาวะของการขาดแคลนอาหารอย่างกว้างขวาง) และน่าจะฉันได้ด้วย จากข้อความ “ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตอามิสที่เก็บไว้ในภายในที่อยู่ ที่หุงต้มในภายในที่อยู่ และ
ที่หุงต้มเอง” http://www.84000.org/tipitaka/read/?5/51
3. อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้, เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์ http://www.84000.org/tipitaka/read/?2/105-108 แล้วพระเอาเงินมาจากไหนมาซื้อเครื่องปรุงอาหาร ตรงนี้มีอนุบัญญัติตามาเรียกว่าเฆนฑกานุญาต http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=05&A=2169&Z=2363 “มีอยู่ ภิกษุทั้งหลาย ชาวบ้านที่มีศรัทธาเลื่อมใส เขามอบเงินทองไว้ในมือกัปปิยการก สั่งว่า สิ่งใดควรแก่พระผู้เป็นเจ้า ขอท่านจงถวายสิ่งนั้นด้วยกัปปิยภัณฑ์นี้. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ยินดีของอันเป็นกัปปิยะจากกัปปิยภัณฑ์นั้นได้ แต่เรา มิได้กล่าวว่า พึงยินดี พึงแสวงหาทองและเงินโดยปริยายไรๆ เลย.”

ผมสรุปเลยก็แล้วกัน ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัยมาก กรณีข้อ 3 ท่านก็ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด ถ้าใครเคยถวายทานกับพระวัดป่าจะรู้ดี การที่ท่านนำอาหารและอามิสต่างๆไปแจกชาวบ้านน่าจะมาจากความเมตตากรุณาต่อผู้เดือดร้อนจากน้ำท่วมมากกว่า หาได้มาจากการที่จะไปประจบประแจงญาติโยมตามข้อ 1. ไม่ ส่วนข้อ 2. ตีความให้แตกนะครับ “ฉันอาหารที่หุงต้มเอง” หุงต้มเองไม่ได้ฉันแต่เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นเข้าข่ายไหม ??? พระวินัยข้อนี้น่าจะเพื่อป้องกันไม่ให้พระแยกออกจากฆราวาสแบบขาดกันเลยและไม่ให้หลงในของกิน และจริงๆแล้วจากรูปที่แชร์กันก็ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่าท่านปรุงหรือทำอาหารเองด้วยซ้ำไป มีแค่รูปตักอาหารกับถือกล่องอาหาร หมายเหตุไว้ก่อนว่า ถ้าพระปรุงอาหารเองจะหมิ่นเหม่ต่อการผิดพระวินัยเพิ่มอีกหลายข้อ พระวัดป่าเท่าที่ผมสัมผัสมา ท่านไม่ทำ เพราะครูบาอาจารย์ไม่เคยพาทำ

อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากๆ พระบางองค์อาจเป็นพระอริยะไปแล้ว บางองค์อาจเป็นพระอรหันต์ กิจที่พระอรหันต์ทำในเวลาที่เหลืออยู่เราไม่สามารถคาดเดาได้ โดยส่วนมากท่านจะทำเพื่อยังประโยชน์ให้กับโลก ท่านเป็นอิสระจากบาป-บุญแล้ว หากเราไปตำหนิท่านมันจะเกิดอะไรขึ้น แม้สมมติสงฆ์ท่านทำไปด้วยเมตตากรุณาต่อญาติโยมเราไปตำหนิมันก็ไม่เป็นผลดีกับเรา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าอยากตำหนิใครซักคนให้ตำหนิตัวเองดีกว่า เพราะสิ่งที่เรียกว่า “เกิดอะไรขึ้น. ทั้งหมดทั้งปวงเป็นแค่ อายตนะภายนอก (รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์) มากระทบกับอายตนะภายใน (ตา หู จมูก ลิ้น ผิวกาย ใจ) เท่านั้น เราไปงับมาเป็นของตัวเองนั่นต่างหากคือต้นตอปัญหา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่