มีผู้ร้องต่อสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน
ว่าการที่ ป.ป.ช. จ้างสภาทนายความเป็นผู้ฟ้องนายกฯสมชาย ในคดีสลายพันธมิตรไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เรื่องนี้ไม่ถึงไหน แต่คดีที่โดนกล่าวหาว่าจ้างฟ้องมิชอบจะพิพากษาในวันนี้แล้ว
คดีนี้ อัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
ป.ป.ช. จึงฟ้องเอง ด้วยการว่าจ้างสภาทนายความ
ก็มีผู้ร้องว่า การกระทำของ ป.ป.ช. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จ้างสภาทนายความฟ้องให้ไม่ได้
ป.ป.ช. อ้างว่า ทำได้ ตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 มาตรา 8
ที่ได้กำหนดให้สภาทนายความมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาทนายความ
มาตรา 8 พ.ร.บ. ทนายความ บัญญัติไว้ว่า
มาตรา 8 สภาทนายความมีอํานาจหนาที่ดังตอไปนี้
(1) จดทะเบียนและออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
(2) ดาเนินการใหเปนไปตามวัตถุประสงคของสภาทนายความ และตามอํานาจหนาที่ซึ่งกาหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
แต่เมื่อดูวัตถุประสงค์ของสภาทนายความตามกฎหมายนี้แล้ว ก็งง ๆ
เพราะวัตถุประสงค์ แห่ง พ.ร.บ. ทนายความ 2528 บัญญัติไว้ว่า
มาตรา 7 สภาทนายความมีวัตถุประสงคดังตอไปนี้
(1) ส่งเสริมการศึกษาและการประกอบวิชาชีพทนายความ
(2) ควบคุมมรรยาทของทนายความ
(3) สงเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิกสภาทนายความ
(4) สงเสริมและจัดสวัสดิการใหแกสมาชิกสภาทนายความ
(5) ส่งเสริม ชวยเหลือแนะนํา เผยแพรและใหการศึกษาแกประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมาย
ก็งุนงงและสงสัยครับ ว่า มีตรงไหน ยังไง ที่ให้ ป.ป.ช. จ้างสภาทนายความได้
ก็อย่างว่าครับ
ขนาดระดับกรณีนายภักดี โพธิศิริ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. (หมดวาระไปเมื่อต้นปี 59)
ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. หลังรัฐประหาร 2549
แต่นายภักดี ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 11 เรื่องลาออกจากบริษัทภายใน 15 วัน
นายภักดี ยังนั่งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนครบวาระ
ฉะนั้น เรื่องจ้างสภาทนายความแบบขัด พ.ร.บ. ทนายความนี่
จิ๊บจ๊อยมากว์
ใครจะทำไม !!!
คดีนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะมีคำพิพากษาวันนี้ แต่ข้อเคลือบแคลงเรื่อง ป.ป.ช. จ้างสภาทนายความฟ้องคดีนี้ยังไม่ถึงไหน
ว่าการที่ ป.ป.ช. จ้างสภาทนายความเป็นผู้ฟ้องนายกฯสมชาย ในคดีสลายพันธมิตรไม่ชอบด้วยกฎหมาย
เรื่องนี้ไม่ถึงไหน แต่คดีที่โดนกล่าวหาว่าจ้างฟ้องมิชอบจะพิพากษาในวันนี้แล้ว
คดีนี้ อัยการสูงสุด มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง
ป.ป.ช. จึงฟ้องเอง ด้วยการว่าจ้างสภาทนายความ
ก็มีผู้ร้องว่า การกระทำของ ป.ป.ช. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จ้างสภาทนายความฟ้องให้ไม่ได้
ป.ป.ช. อ้างว่า ทำได้ ตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 มาตรา 8
ที่ได้กำหนดให้สภาทนายความมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาทนายความ
มาตรา 8 พ.ร.บ. ทนายความ บัญญัติไว้ว่า
มาตรา 8 สภาทนายความมีอํานาจหนาที่ดังตอไปนี้
(1) จดทะเบียนและออกใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
(2) ดาเนินการใหเปนไปตามวัตถุประสงคของสภาทนายความ และตามอํานาจหนาที่ซึ่งกาหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้
แต่เมื่อดูวัตถุประสงค์ของสภาทนายความตามกฎหมายนี้แล้ว ก็งง ๆ
เพราะวัตถุประสงค์ แห่ง พ.ร.บ. ทนายความ 2528 บัญญัติไว้ว่า
มาตรา 7 สภาทนายความมีวัตถุประสงคดังตอไปนี้
(1) ส่งเสริมการศึกษาและการประกอบวิชาชีพทนายความ
(2) ควบคุมมรรยาทของทนายความ
(3) สงเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิกสภาทนายความ
(4) สงเสริมและจัดสวัสดิการใหแกสมาชิกสภาทนายความ
(5) ส่งเสริม ชวยเหลือแนะนํา เผยแพรและใหการศึกษาแกประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมาย
ก็งุนงงและสงสัยครับ ว่า มีตรงไหน ยังไง ที่ให้ ป.ป.ช. จ้างสภาทนายความได้
ก็อย่างว่าครับ
ขนาดระดับกรณีนายภักดี โพธิศิริ อดีตกรรมการ ป.ป.ช. (หมดวาระไปเมื่อต้นปี 59)
ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. หลังรัฐประหาร 2549
แต่นายภักดี ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 11 เรื่องลาออกจากบริษัทภายใน 15 วัน
นายภักดี ยังนั่งเป็นกรรมการ ป.ป.ช. แบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนครบวาระ
ฉะนั้น เรื่องจ้างสภาทนายความแบบขัด พ.ร.บ. ทนายความนี่
จิ๊บจ๊อยมากว์
ใครจะทำไม !!!