ผมไม่เข้าใจระบบติดตามหนี้ของของกยศ.เลยครับ 10ปีที่ผ่านมาไม่มีการติดต่อผู้ค้ำประกันให้มาชำระหนี้ รู้ครั้งแรกคือตอนจะยึดทรัพย์ เรื่องมีอยู่ว่าพี่ของผมมันเรียนไม่จบ ติดยา ทำงานรับจ้างทั่วไป เรียกได้ว่าเป็นภาระของครอบครัวเลย และผมก็เคยบอกให้มันไปติดต่อชำระเงินกู้ มันก็ไม่ยอมไป บอกว่ารอขึ้นศาลเหมือนคนอื่นเขา แล้วก็จ่ายเดือนละพัน สองพัน แต่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมามีหมายศาลปี50 มีคำสั่งให้ทางพี่ของผมชดใช้เงินทั้งหมด หรือทางกยศ.เรียกว่าปิดบัญชี ซึ่งไม่สามารถผ่อนได้ ต้องจ่ายทั้งหมดเลย เพราะครบกำหนดชำระ10ปี แต่ในระหว่างปี50จนถึงเดือนมีนาคม60ไม่มีการแจ้งเตือนมายังแม่ของผมที่เป็นคนค้ำประกันเลยตลอด10ปี จนเมื่อมีนาคม60 มีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทนายความเอาเอกสารถึงแม่ผม จะมายึดทรัพย์แม่ผมที่เป็นคนค้ำประกัน ด้วยยอดทั้งหมด178,000บาท ในนี้เป็นค่าปรับประมาณ76,000บาท แต่สิ่งที่ผมสงสัยในระบบการติดตามหนี้คือ
1. ก่อนที่จะมีคำสั่งศาลปี50 ทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่มาติดต่อเหมือนตอนจะยึดทรัพย์เลยครับ ผมปรึกษาทนาย เขาบอกว่าอาจจะส่งไปรษณีย์มาแล้วเสียบไว้หน้าบ้าน แล้วก็อาจจะหายไป หรือส่งผิดบ้านก็ได้ พอพี่ผมไม่ไปตามหมายเรียกศาลก็ตัดสินให้ชดใช้เป็นเงินก่อนเลย
2.นับตั้งแต่ปี50ที่มีคำสั่งศาลเป็นต้นมาไม่มีจดหมายติดตามหนี้ของกยศ.ที่ส่งถึงแม่ผมซึ่งเป็นคนคำประกัน มาเลยสักครั้ง จนเมื่อเดือนมีนาคม 60 มีเจ้าหน้าที่จะมายึดทรัพย์นี่แหล่ะ ถึงได้รู้ว่าจะต้องใช้หนี้ นับเป็นครั้งแรกเลยที่แม่ผมได้รับการติดต่อจากกยศ.
3.นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ได้ไปติดต่อที่ธ.กรุงไทย สาขาวังน้อย อยุธยา เพื่อที่จะขอทยอยใช้หนี้ได้ไหม ได้รับคำตอบเพียงว่าให้ปิดบัญชีด้วยจำนวนเต็มทั้งหมด ไม่สามารถลดค่าปรับหรือทยอยจ่ายให้ได้ บอกเพียงว่าให้ไปติดต่อที่ทางกยศ. หรือทางศาลเอง
4.ทางธ.กรุงไทย สาขาวังน้อย อยุธยาไม่ได้แจ้งด้วยว่าถ้าชำระก่อน30เมษายนจะได้ส่วนลดค่าปรับ ก็จะเป็นยอดเงินกู+ดอกเบี้ยเป็นเงินประมาณ90,000กว่าบาท ซึ่งคงจะพอสามารถหยิบยืมคนรู้จักได้
5.จากคำแนะนำของธ.กรุงไทย สาขาวังน้อย อยุธยา ก็ได้ทำการโทรไปติดต่อที่ กยศ. ซึ่งโทรไปหลายครั้งมากๆ เกิน10ครั้ง ไม่มีคนรับสายเลย ก็เลยต้องไปติดต่อที่ศาล ก็จะไปศาลก็ไม่รู้จะติดต่อศาลยังไงเลยไปปรึกษาทนาย ทนายความก็บอกว่าน่าจะไกล่เกลี่ย ประนีประนอมได้ ผมไม่รู้ว่าทนายเขาดำเนินการติดต่อกับกยศ.และศาลยังไง ก็ได้นัดวันไกล่เกลี่ยเป็นวันที่31กรกฎคม ซึ่งเป็นวันสุดทายของการผ่อนผันชำระหนี้ แต่พอไปที่ศาลตามวันนัดศาลก็ได้บอกว่าเรื่องนี้ศาลไม่มีอำนาจตัดสิน ทำได้เพียงมาคู่กรณีมาเจรจากันเท่านั้น แต่ศาลก็ได้บ่นกับทางทนายที่ติดตามหนี้ของกยศ.ว่าเวลาตั้ง20ปีไม่ติดตามหนี้ พอครบกำหนดก็มาเร่งรัดกับผู้ค้ำประกัน แบบนี้ทางผู้ค้ำก็ลำบากสิ สรุปว่าจากการไปศาลไม่สามารถทยอยจ่ายได้ ต้องปิดบัญชีอย่างเดียวเลย ทางทนายความของกยศ. ก็บอกว่าให้ลองมาติดต่อทางกยศ.โดยตรง เพราะทางเขาเป็นส่วนที่ติดตามยึดทรัพย์ไม่มีอำนาจในการเจรจาต่อรอง
6.ไปติดต่อที่กยศ. ที่รัชดาก็ได้รับคำตอบเช่นเดิม แต่ที่สงสัยคือระบบของการติดต่อสื่อสารนี่ใช้ไม่ได้เลยใช่ไหมครับ ต้องมาติดต่อที่กทมโดยตรงเลย ไม่มีสาขาที่ตจว.เลยเหรอครับ ดีที่ผมอยู่แค่อยุธยา ถ้าไกลกว่านี้ก็จะเป็ภาระเพิ่มเติมซ้ำไปอีก
7. สุดท้ายครับ ถ้าไอ้คนกู้มันมีแนวโน้วที่จะไม่จ่ายคืนเงินกู้ ทำไมไม่ติดตามที่คนค้ำประกันตั้งแต่ปี50 ให้คนค้ำประกันได้ทยอยใช้หนี้ไปตามกำลังของแต่ละคนไป พอมารู้ตัวอีกทีจะโดนยึดทรัพย์ ทางบ้านไม่มีเงินมากมายที่พอจะปิดยอดได้ในงวดเดียวครับ
สุดท้ายถ้าท่านใดมีข้อแนะนำที่จะให้ทางแม่ ซึ่งจริงๆก็เป็นผมนี่แหล่ะที่ต้องรับภาระตรงนี้ ให้สามารถทยอยจ่ายหนี้ได้จะขอบพระคุณมาก
และหากจะบอกว่าเวลาตั้งหลายปีทำไมไม่ยอมไปติดต่อชำระหนี้ ผมก็บอกได้เลยว่าพี่ผมมันภาระของครอบครัว ติดยา ถ้ามันมีหัวคิดก็คงไม่ไปติดยาหรอกครับ เคยพาไปบำบัดแล้วหลายครับด้วย เอาตรงๆผมเองไม่ได้สนใจหรือคิดว่ามันเป็นพี่ด้วยซ้ำเพราะพอมันไม่มีเงินก็มาลักข้าวของในบ้านไปขายแต่ที่ต้องมาวุ่นวายก็เพราะจะยึดทรัพย์แม่ผม ก็ที่ดินที่ผมใช้ทำมาหากินอยู่ทุกวันนี้แหล่ะครับ ถึงต้องมารับภาระแบบนี้ ถ้าให้คนกู้มันติดคุกได้เลยจะดีมากๆ
การติดตามหนี้ของ กยศ. ที่ทำให้คนค้ำประกันหรือพ่อแม่ของคนกู้ลำบาก
1. ก่อนที่จะมีคำสั่งศาลปี50 ทำไมไม่มีเจ้าหน้าที่มาติดต่อเหมือนตอนจะยึดทรัพย์เลยครับ ผมปรึกษาทนาย เขาบอกว่าอาจจะส่งไปรษณีย์มาแล้วเสียบไว้หน้าบ้าน แล้วก็อาจจะหายไป หรือส่งผิดบ้านก็ได้ พอพี่ผมไม่ไปตามหมายเรียกศาลก็ตัดสินให้ชดใช้เป็นเงินก่อนเลย
2.นับตั้งแต่ปี50ที่มีคำสั่งศาลเป็นต้นมาไม่มีจดหมายติดตามหนี้ของกยศ.ที่ส่งถึงแม่ผมซึ่งเป็นคนคำประกัน มาเลยสักครั้ง จนเมื่อเดือนมีนาคม 60 มีเจ้าหน้าที่จะมายึดทรัพย์นี่แหล่ะ ถึงได้รู้ว่าจะต้องใช้หนี้ นับเป็นครั้งแรกเลยที่แม่ผมได้รับการติดต่อจากกยศ.
3.นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ได้ไปติดต่อที่ธ.กรุงไทย สาขาวังน้อย อยุธยา เพื่อที่จะขอทยอยใช้หนี้ได้ไหม ได้รับคำตอบเพียงว่าให้ปิดบัญชีด้วยจำนวนเต็มทั้งหมด ไม่สามารถลดค่าปรับหรือทยอยจ่ายให้ได้ บอกเพียงว่าให้ไปติดต่อที่ทางกยศ. หรือทางศาลเอง
4.ทางธ.กรุงไทย สาขาวังน้อย อยุธยาไม่ได้แจ้งด้วยว่าถ้าชำระก่อน30เมษายนจะได้ส่วนลดค่าปรับ ก็จะเป็นยอดเงินกู+ดอกเบี้ยเป็นเงินประมาณ90,000กว่าบาท ซึ่งคงจะพอสามารถหยิบยืมคนรู้จักได้
5.จากคำแนะนำของธ.กรุงไทย สาขาวังน้อย อยุธยา ก็ได้ทำการโทรไปติดต่อที่ กยศ. ซึ่งโทรไปหลายครั้งมากๆ เกิน10ครั้ง ไม่มีคนรับสายเลย ก็เลยต้องไปติดต่อที่ศาล ก็จะไปศาลก็ไม่รู้จะติดต่อศาลยังไงเลยไปปรึกษาทนาย ทนายความก็บอกว่าน่าจะไกล่เกลี่ย ประนีประนอมได้ ผมไม่รู้ว่าทนายเขาดำเนินการติดต่อกับกยศ.และศาลยังไง ก็ได้นัดวันไกล่เกลี่ยเป็นวันที่31กรกฎคม ซึ่งเป็นวันสุดทายของการผ่อนผันชำระหนี้ แต่พอไปที่ศาลตามวันนัดศาลก็ได้บอกว่าเรื่องนี้ศาลไม่มีอำนาจตัดสิน ทำได้เพียงมาคู่กรณีมาเจรจากันเท่านั้น แต่ศาลก็ได้บ่นกับทางทนายที่ติดตามหนี้ของกยศ.ว่าเวลาตั้ง20ปีไม่ติดตามหนี้ พอครบกำหนดก็มาเร่งรัดกับผู้ค้ำประกัน แบบนี้ทางผู้ค้ำก็ลำบากสิ สรุปว่าจากการไปศาลไม่สามารถทยอยจ่ายได้ ต้องปิดบัญชีอย่างเดียวเลย ทางทนายความของกยศ. ก็บอกว่าให้ลองมาติดต่อทางกยศ.โดยตรง เพราะทางเขาเป็นส่วนที่ติดตามยึดทรัพย์ไม่มีอำนาจในการเจรจาต่อรอง
6.ไปติดต่อที่กยศ. ที่รัชดาก็ได้รับคำตอบเช่นเดิม แต่ที่สงสัยคือระบบของการติดต่อสื่อสารนี่ใช้ไม่ได้เลยใช่ไหมครับ ต้องมาติดต่อที่กทมโดยตรงเลย ไม่มีสาขาที่ตจว.เลยเหรอครับ ดีที่ผมอยู่แค่อยุธยา ถ้าไกลกว่านี้ก็จะเป็ภาระเพิ่มเติมซ้ำไปอีก
7. สุดท้ายครับ ถ้าไอ้คนกู้มันมีแนวโน้วที่จะไม่จ่ายคืนเงินกู้ ทำไมไม่ติดตามที่คนค้ำประกันตั้งแต่ปี50 ให้คนค้ำประกันได้ทยอยใช้หนี้ไปตามกำลังของแต่ละคนไป พอมารู้ตัวอีกทีจะโดนยึดทรัพย์ ทางบ้านไม่มีเงินมากมายที่พอจะปิดยอดได้ในงวดเดียวครับ
สุดท้ายถ้าท่านใดมีข้อแนะนำที่จะให้ทางแม่ ซึ่งจริงๆก็เป็นผมนี่แหล่ะที่ต้องรับภาระตรงนี้ ให้สามารถทยอยจ่ายหนี้ได้จะขอบพระคุณมาก
และหากจะบอกว่าเวลาตั้งหลายปีทำไมไม่ยอมไปติดต่อชำระหนี้ ผมก็บอกได้เลยว่าพี่ผมมันภาระของครอบครัว ติดยา ถ้ามันมีหัวคิดก็คงไม่ไปติดยาหรอกครับ เคยพาไปบำบัดแล้วหลายครับด้วย เอาตรงๆผมเองไม่ได้สนใจหรือคิดว่ามันเป็นพี่ด้วยซ้ำเพราะพอมันไม่มีเงินก็มาลักข้าวของในบ้านไปขายแต่ที่ต้องมาวุ่นวายก็เพราะจะยึดทรัพย์แม่ผม ก็ที่ดินที่ผมใช้ทำมาหากินอยู่ทุกวันนี้แหล่ะครับ ถึงต้องมารับภาระแบบนี้ ถ้าให้คนกู้มันติดคุกได้เลยจะดีมากๆ