เชื่อไหม ที่ติดดอยเพราะยึดติด และไม่ยอมรับความจริง

กระทู้สนทนา
เคยได้ยินคำพูดนี้จากใครสักคนในวงการลงทุน ซึ่งมันจริงมาก จริงจนไม่รู้จะจริงยังไง เขาบอกว่า คนเราติดดอยเพราะยึดติด ไม่ยอมรับความจริง

วันนี้เห็นหลาย comment ติดหุ้น ktc แล้วกลับมาคิดเลย ทำไมคนเหล่านี้จึงติดหุ้นก็เจอข้อคิดที่เคยได้ฟังมาว่า คนเราติดดอยเพราะยึดติดไป และไม่ยอมรับความจริง (หรือบางคนอาจจะถือไว้เพราะวิเคราะห์มาดีแล้วอันนี้ก็ไม่ว่ากัน)

ผมเองพูดในฐานะของคนที่ลงทุนแบบ fundamental มาก่อน เจอข้อจำกัดหลายอย่าง การไล่อ่านงบมีความยกลำบากมาก เหนื่อยมาก บางทีอ่านแล้วต้องวิเคราะห์อีกว่าแล้วออกมาแบบนี้ ดีหรือไม่ดี คือมันเป็นอะไรที่วัดผลยากและค่อนข้างใช้ "วิจารณญาณ" ส่วนตัวมากๆ และต้องเสพข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งผมนั้นขี้เกียจแล้วหละเอาตามตรง บางทีหุ้นดีจริงๆ แต่ราคาไม่ perform ก็มีถมเถไป ผมเกิดคำถามนี้ขึ้นในใจทำยังไงจะแก้ปัญหานี้ดี

พอลบตัวตนที่เราคิดว่าเราเป็นออกแล้วเปิดใจลองมองแนวทางอื่นๆ ส่วนตัวผมพบว่า trend follower ยิ่งดูมันยิ่งใช่ ยิ่งเอามาใช้ยิ่งได้กำไร ยิ่งขึ้นมันยิ่งต้องซื้อ ยิ่งลงมันยิ่งต้องขาย ไม่เห็นต้องถือหุ้นขาลงเลย ไม่จำเป็นต้องติดหุ้นเลย(ถ้าวางแผนมาดี) ยกตัวอย่าง bafs, aot ใครๆก็บอกว่าแพง แต่ยิ่งแพงยิ่งขึ้น ถ้าใช้กรอบความคิดด้าน fundamental แล้วดูยังไงก็ไม่มีโอกาสได้ซื้อเลย แม้แต้ย้อนกลับไปตอนมันร้อยกว่าบาทตอนนั้นเชื่อไหมก็บ่นว่าแพงกันอยู่ดี สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อหรอกเพราะเรากรอบความคิดเราไว้แล้วยังไงหละ แต่หุ้นก็วิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ...

สรุปสาเหตุที่ติดดอยกันก็คือเรามีความยึดติดกันไปเอง
ยึดติดในกรอบความคิดตัวเอง
ยึดติดกับอนาคตที่คิดเอาไว้ว่ามันคงจะดีขึ้น
ยึดติดว่ามันจะไปราคาที่เราหวัง
ยึดติดว่าเราซื้อมาแล้วจะไม่ขาย(ไม่นับคนที่หาข้อมูลมามากพอจนถือหุ้นได้แบบมั่นใจ)
ยึดติดว่าหุ้นนี้ต้องเป็นของฉัน ลงมาอีกก็ซื้อเพิ่มอีก ทั้งๆที่เราไม่รู้อะไรเลย
ยึดติดว่าทำการบ้านมาแล้วยังไงก็ต้องซัดตัวนี่แหละ เชื่อในตัวเองมากเกินไป

สิ่งที่อยากบอกคือ ลองดูว่า ถ้าเราอยู่กับปัจจุบัน กราฟแท่งปัจจุบัน แนวโน้มราคาปัจจุบัน เทรดตามที่เราเห็น ลดจินตนาการวาดฝันถึงอนาคตลง มันจะไม่มีอะไรยากเลย มีแผนการเข้าออกที่ชัดเจน ทำตามแผนซะ อย่ารักหุ้นมากเกินไป ดูภาพรวมพอร์ทเป็นหลัก ตัวไหนไม่ perform ทางราคาก็ขายซะ กัดฟันหาตัวใหม่ อย่าขี้เกียจแล้วทิ้งเงินลงแม่น้ำ ไม่มีตัวสวยก็อยู่เฉยๆ รอจังหวะดีดีก็ค่อยเข้าก็ได้

ปล. ผมใช้ time frame week เป็นหลัก ช้าๆได้พร้าเล่มงาม และเป็นแค่แนวทางหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้บอกว่าเป็นทางที่ดีที่สุดของทุกๆคน ที่สำคัญลองสำรวจตัวเองว่าเรายึดติดเกินไปไหม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่