เราเลิกกะพ่อของลูกสาวตั้งกะลูกอายุ 1ขวบ 1เดือน (ลูกคุ้นชินกะการที่พ่อไม่ได้อยู่ด้วยตลอดตั้งกะเกิด พ่อจะมาเยี่ยม และกลับไปทำงานแบบนี้ เป็นความคุ้นชินของคนรอบข้างและคนในหมู่บ้านด้วย ที่เห็นภาพแบบนี้มาตั้งแต่ลูกยังเล็กจนโต พอพ่อมาทีก็จะมีคนมาทักมาแซว พ่อมาพาเที่ยวไหนไรงี้ เด็กไม่แปลกใจอะไร เพราะเค้าชินแบบนี้มาตั้งกะเกิดแล้ว ก็เลยไม่มีคำถามว่าทำไมพ่อไม่อยู่ด้วย เพราะเค้ารู้ว่าพ่อกลับไปทำงานทุกครั้งที่พ่อกลับ พ่อเค้าจะบอกลูกว่าพ่อไปทำงานก่อนนะ )
พ่อของลูกมีคนใหม่ ก็พอจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงมาซักพักก่อนเลิก(ทางผู้ ญ ก็ชอบทิ้งของไว้บนรถให้ดูด้วยสิคะ)พ่อของลูกก็บอกเพื่อนกันมาทำงานด้วยกัน พอเราแอบดูในมือถือ เราก็รู้ละว่ามันเกินเพื่อน ก็คุยกันเราขอให้เลิกกะทางนั้นหลังรู้ความจริงกะเราเค้าบอกว่าแค่รับผิดชอบ แต่กะทางนั้นรัก งั้นทำเพื่อลูกได้ไหม เค้าว่า ทางนั้นก็กำลังท้องได้3เดือน ไม่คิดว่าขนาดนี้ เราเลยเลิกให้(ศีลไม่เสมอกันมันก็อยู่กันไม่ได้) เพราะเราเองก็ไม่สามารถติดตามเขาไปถึงหนองคายได้ เค้าได้คนใหม่เป็นคนบ้านเดียวกัน ก็ดีแล้วมีคนแบ่งเบาภาระ(55ขำๆนะคะ)
เราเองมาคลอดและเลี้ยงลูกที่บ้านแม่กะพ่อที่จันทบุรี แล้วเราก็พบว่าแม่กะพ่อควรมีคนอยู่ดูแลเราเลยเลือกที่จะอยู่ที่นี่ (พ่อเราเป็นอัลไซเมอระยะแรก แม่เป็นกระดูกทับเส้นผ่ามาแล้ว2รอบ) ตอนเลิกตกลงกันว่าจะปิดคนนอก แต่บอกเฉพาะคนในบ้าน และเพื่อนสนิท ของแต่ละคน เหตุผลของเราที่ปิดก็อยากให้ลูกมีพ่อเหมือนคนอื่น จะได้ไม่มีใครมาล้อมาแซวลูกให้มีปมด้อย โลกสวยวัยเด็กไปก่อน และกอดพ่อได้แบบไม่รู้สึกแปลกอะไร เพราะเค้าเล็กเกินกว่าจะเข้าใจ
แม้สถานะสามีภรรยาจะจบแล้ว แต่ความรักของแม่กะพ่อที่ให้หนูยังคงอยู่และคงอยู่ตลอดไป พ่อของลูกจะมาเยี่ยมลูก 1-2เดือนครั้ง ก่อนเลิก มันเลยไม่แปลกอะไรสำหรับลูกที่พ่อจะมาเยี่ยม 3-4เดือนครั้งหลังเลิก ก็มีบ้างทิ้งของใช้ลูกไว้บนรถแต่แค่ไม่กี่ชิ้น เราก็บอกไปให้เก็บ ก็เก็บ อันนี้ช่วงลูก 1ขวบย่าง2ขวบ
ตอนนี้ลูก4ขวบ7เดือน และฉลาดมาก เราเลี้ยงเองสอน2ภาษา เค้าจึงเป็นเด็กช่างจด ช่างจำช่างสังเกต เอาแค่เราคุยกะหลานที่อายุห่างจากลูกเรา4ปี ตอนเล่นขานศัพท้ภาษาอังกฤษแล้วตีการ์ดใครตีได้ๆ(หลาน"ทำไมอา j ถึงบอกว่าอ่อนให้baby " อา" ก็คนขานการ์ดจะรู้ว่าการ์ดอยู่ตรงไหนนี่คะ" หลังจากนั้นลูกเราวัย4ขวบ6เดือน ที่นั่งฟังแม่คุยกะพี่ ก็ขอเป็นคนขานการ์ดเอง และเล่นชนะแม่ตลอด5555555ทุกครั้ง เพราะลูกเล่นขานยังไม่จบก็ตีการ์ดแล้ว555)
ล่าสุดที่พ่อเด็กมาเยี่ยมคือเดือนกรกฎานี้ แบบของใช้เมีย และลูกเกลื่อนรถกว่า 10ชิ้น ทั้งเสื้อคลุมแม่ รองเท้าลูกกะแม่ หมวก ของเล่น คราวที่แล้วที่มาก็มีแต่ไม่เยอะเท่านี้เพียงแต่เราไม่พูดเพราะเราคิดว่าคนเราน่าจะรู้อะไรควรไม่ควร แล้วลูกก็เห็นรูปลูกชายเค้า ตัวพ่อยังมีหน้ามาเล่าแบบหน้าระรื่นว่าลูกถามว่ารูปพ่อNตอนเด็กหรือ แล้วก็เล่าเรื่องพี่ชายคนโตมีเมียใหม่ให้เราฟังต่อหน้าลูก เราก็นิ่งๆไม่ได้ลงความเห็นอะไร น่าจะคนที่6 (ก็พอจะทราบว่าพี่คนนี้มีเมียมา4คนละตั้งกะก่อนที่เราจะเลิกกะพ่อของลูก เราไม่เห็นอยากฟังหรือรับรู้เรื่องพี่ชายเขาเลย) คราวก่อนมาก็เล่าเรื่องเพื่อนตั้งกะสมัยเรียน มีเมียคนใหม่ แบบแย่งเมียน้องที่ทำงานเดียวกัน เราไม่เห็นอยากฟังหรือรับรู้เรื่องเพื่อนด้วย พอจะเข้าใจเขานะอยากให้ลูกไปเทียวหนองคาย แต่สภาพแบบนั้น เราคนพุทธนะ ให้เห็นดอกบัวเป็นดอกบัวไปก่อน ดีไหม ไม่ใช่ให้เด็กเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เราสอนธรรมะลูกแต่เด็ก ไม่ว่าจะเรื่องแก่ เจ็บ ตาย ให้เห็นยายแก่ อีกหน่อยแม่ก็แก่แบบยาย ชวนไปงานศพ ให้ไหว้ศพคนรู้จักที่จากไป บางคนลูกเคยคุย เคยไหว้ เคยเล่นด้วย ให้รู้ว่าทุกชีวิตต้องตาย ชวนดูงู คางคก โดนรถทับ ให้ไม่ประมาท ข้ามถนนต้องระวังตั้งกะเดินได้
แต่สังคมบ้านเขากะบ้านเรามันต่างกันบ้านเราไม่มีเรื่องนอกใจ แต่บ้านเขาพี่น้อง8คน มี4คนที่ เปลี่ยนผัวเปลี่ยนเมีย นอกใจบ้าง มีใหม่บ้าง เรื่องปกติเหรอ เค้ายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจความเป็นจริง ธรรมะ แยกถูกผิด ซึ่งเราจะบอกอยู่แต่คงมัธยม เพื่อเข้าใจโลก ไม่ได้เพื่อเกลียดชัง แต่มันควรแล้วหรือที่จะให้เด็กวัยนี้รู้ตอนนี้
แก้ไขเพิ่มเติม 31 กรกฏาคม 2560
เนื่องจากท่านสมาชิคหมายเลข3888890 คุณถามเราถึงตอบ และสิทธิของคุณค่ะที่จะทิ้งอะไรไว้ในรถด้วยความเคารพเลย แต่เราไม่ได้ไปสั่งเมียใครให้เก็บอะไรใครที่หลงประเด็นช่วยกลับไปอ่านด้านบน เราแค่ถามหาสำนึกจากคนเป็นพ่อที่มาเยี่ยมลูกว่าอะไรควร อะไรไม่ควร
เราเป็นsingle mum แบบมึนๆ เลี้ยงลูกแบบ ก็ใช้ธรรมมะสอนลูกบ้าง สอนภาษาอังกฤษลูกตั้งกะเค้า7เดือน ลูกได้2ภาษา สับสน งง ว่าจะบอกลูกตอนไหนดี คนเรามันต้องมีครั้งแรกอะนะ เริ่มยังไง อยากได้คนมีประสบการณ์ผ่านจุดนั้นจะสอนลูก ในฐานะพ่อหรือแม่ก็เอา หรือตอบในฐานะลูก ก็ดี มาตอบ มาช่วยชี้แนะ ด่าได้ แต่อย่าแรงถ้าเห็นต่าง เข้าใจตรงกันนะคะ
แก้ไขเพิ่มเติม 2สิงหาคม ตอบคุณขนมปังอบชีสนะคะ จะได้ไม่มีใครหลงประเด็นแบบคุณ
ตั้งแต่วันที่เลิกกัน หน้าที่สามีภรรยาก็จบลงตรงนั้นค่ะ และใน1ปีหลังเลิกเราต้อง เจอและแก้ไขอะไรบ้าง อันนี้เป็นอุทาหรณ์ให้single mumsท่านอื่นระวังFace bookของคุณให้ดี เพื่อปกป้องลูกคุณ ล็อคความเป็นส่วนตัวให้เห็นเฉพาะเพื่อนนะคะ จะได้ไม่เจอแบบเรา
เราบอกเพื่อน บอกญาติเรา และใช้ชีวิตปกติอยู่บ้าน จนวันนึงเพื่อนเราบอกface book เมียเขาให้เราไปเปิดดู (เราไม่ได้บอกเพื่อนไปดูไปสืบ เราไม่ได้อยากรู้จัก เมียใหม่เขา เบอร์โทรเขาเราก็ไม่ไปตามหา เราอยู่ของเราดีๆ มา7เดือน เน้นนะคะแบบสงบๆด้วย แต่ตัวเพื่อน โกรธแทนและอยากรู้ว่า เอาเขามาสวมให้เราเมื่อใหร่ )เพื่อนบอกว่าไม่เห็นพวกเขาอายอย่างที่ฉันบอกเลย ว่าเคาอายคน เห็นพวกเขาพากันไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วซึ่งห่างจากบ้านเราไม่ถึง10กิโล (หลังจากกลับจากมาเยี่ยมลูกเรา) พร้อมหน้าพ่อแม่กะลูกที่เพิ่งเกิดได้ 1เดือน และนอกจากนั้นในเฟสบุคเขาสิ่งที่เราเจอแล้วโมโหสุดๆคือ รูปเรากะลูกโดนโพสลงทามไลม์ เมียเขา คืออะไรคะ เป็นญาติกันเมื่อไหร่ สิทธิส่วนบุคคล เราล็อคความเป็นส่วนตัวหลังจากเหตุการณ์นั้นทันทีให้เห็นได้เฉพาะเพื่อน เราบอกพ่อของลูก คือมันล้ำเส้นไปไหม เค้าทะเลาะกัน พ่อของลูกเข้าเฟสตัวเองไม่ได้ สมัครเฟสใหม่มาขอแอดเฟรนเรา เราไม่รับ เพื่อความสบายใจของเราเองและเมียเขา เมียเขาก็บ้าดี ยังมีหน้ามาขอแอดเฟรนเฟสเราอยู่เลยตอนนี้ เราห้ามพ่อของลูกมาเยี่ยมลูก4เดือน (แต่ผู้ใหญ่ในบ้านบอกเราว่าเราไม่มีสิทธิ ห้ามพ่อพบลูก เพราะมันเป็นสิทธิของพ่อที่จะได้มาเยี่ยมมาเจอลูก)
หลังเลิกไม่กี่เดือน ต้องไปโรงพักลงบันทึกประจำวันเรื่องรถ รถที่เขาขับชื่อเรา ตอนที่เป็นสามีภรรยากันเขาขอออกรถในชื่อเรา เพราะเขาเองติดเครดิตบูโร ออกรถชื่อเขาไม่ได้ เราโอนลอยให้ ให้รีบเปลี่ยนชื่อเอาชื่อเราออกเร็วๆ คนในบ้านเราพี่เราว่าเราว่าโง่ ไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้เหรอเยอะแยะที่ต้องขึ้นโรงพัก เราเคยได้ยิน แต่ไม่คิดไงว่าสุดท้ายจะต้องเป็นsingle mum
พ่อของลูกชวนเราไปทำงานต่างประเทศร้านอาหาร ของเพื่อน เราเลยบอกเพื่อนเขาที่ทำร้านอาหารว่าเลิกกันแล้วถามเพื่อนเขาว่ารู้เห็นเป็นใจในการชวนด้วยไหมถ้ารู้จะได้อันเฟรนบนเฟสบุค พี่เขาไม่ทราบเลย ไม่มีการจัดฉากใดๆ และพี่คนนี้คือคนที่เคยให้พ่อของลูกยืมเงินมาแต่งฉัน ฉันบอกเขาว่าหนี้สินใหม่หากมายืม ฉันไม่รับรู้ด้วยแล้วนะ เมียพี่เขาโทรสายตรงมาจากต่างประเทฯศเลย เสียงสั่นละล่ำระลัก อยากรู้ความจริงให้เราเล่า เพราะสามีพี่เขาเพิ่งให้พ่อของลูกเรายืมเงินก้อนโต ที่โตกว่ายืมครั้งก่อนไปได้ไม่นาน คนแบบนี้ยืมเงินยังปิดแม้กระทั่งเพื่อนตัวเอง เค้าให้ยืมเพราะเห็นว่าของเก่าใช้คืน แบบมีเราเป็นแบค คนให้ยืมก็กลัวละนะ
พอเพื่อนๆกลุ่มจะมีทติ้งกัน พ่อของลูกมาชวนเราไปบอกเพื่อนจะมาจากต่างประเทศด้วยนะ เผื่อเราอยากเจอ เราไม่ไปค่ะ เราบอกเค้าว่าให้เอาเมียเค้าไป เมียพี่ไม่ใช่เมียเก็บอีกต่อไปแล้ว เอาเธอไปออกหน้าออกตาเถอะเธออยากมีหน้ามีตา ในสังคมในฐานะเมีย ทีนี้มีทติ้งเพื่อนเค้าเลยรู้กันหมด เพราะเราบอกเมียเพื่อนๆเขาว่าเราไม่ไปนะ และคิดถึงพี่ๆทุกคน เราสละให้เมียเขาไปทำหน้าที่ จริงๆตัวพ่ออายเพื่อน แต่ทำไมตอนทำอะไรลงไปไม่อายคะ เราไม่ใช่คนที่จะต้องอายนะขอย้ำเราไม่อายที่จะบอกเมียๆเพื่อนเขาเลย เราอยากจบ อยากถอย ไม่ข้องแวะใดๆ
เค้าทะเลาะกันอีก และคุณเมียขอคืนสามีให้แต่เรานิ่ง ไม่รับคืนหรอกนะของแบบนี้ 5555
พอเข้าใจตัวตนของเรากันละนะคะ ไม่รู้จริง อย่าวิจารณ์ใครค่ะ เราหยุดแล้วแต่เขาและคุณสิยังไม่หยุด
เราย้ำว่าเราถามหาสำนึกจากคนเป็นพ่อ
แต่ตอนนี้ เราได้คำตอบแล้วว่า อย่าไปถามหาสำนึกอะไร กับคนศีลไม่เสมอกัน มุสา กาเม ปล่อยวางดีสุด และยังยืนยันคำเดิมค่ะ ขอพื้นที่ให้ คุณพ่อคุณแม่คุณลูกที่มีประสบการณ์ผ่านจุดนี้มาแนะนำ เราจะเอาไว้เป็นแนวทางสอนลูกเรา ใครอยากให้กำลังใจ ขอบคุณค่ะ ใครเห็นต่าง ไม่ว่าค่ะแต่ช่วยเข้าใจตัวตนเราจริงๆ สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามของลูก เราไม่ได้อยากมาอธิบายเรื่องทั้งหมดเลย แต่นั่นแหละเราเข้าใจโลกมากขึ้น เราห้ามความคิดคนไม่ได้ เราห้ามคำพูดคนก็ไม่ได้ สุดแล้วแต่ปัญญาของแต่ละคนจะพิจารณาเอาค่ะ
แก้ไขเพิ่มเติม 4 สิงหาคม
ถ้าเหยียบเข้ามาบ้านเรามันเป็นสิทธิของเราเหมือนกันที่จะปกป้องตัวเราและลูกเราเข้าใจตรงกันนะ
เรารักลูกเรามาก เราเลี้ยงมากับมือ กะคนที่มาเยี่ยมปีละ3ครั้งๆละ2-3วันแล้วมาสร้างความกังวลเราควรปล่อยไปหรือควรบอกขอบเขตให้รับทราบ เรามีสิทธิที่จะปกป้องลูกเรา จากสิ่งไม่ดี จำเป็นด้วยหรือที่เราจะต้องติดป้ายบอกหน้าบ้านว่ากรูโสด เพื่ออะไรคะ ประกาศทำไมรู้แต่คนในบ้านญาติสนิทมิตรสหายที่หวังดี เพื่อนบ้านข้างๆที่มีศีลเสมอกันก็พอมั๊ง บ้านเราเป็นร้านค้ากลางหมู่บ้าน ใครๆที่มาซื้อของรู้จักลูกเรา เข้ามาแวะมาคุยเราขายของอยู่ตรงไหนลูกเราก็อยู่ตรงนั้น เราไม่สามารถขังลูกเราไว้ไม่ให้เจอคนได้ฉันใดก็ฉันนั้น การที่เราจะเลือกคนดีๆเข้ามาซื้อของย่อมเป็นไปไม่ได้ ลูกค้าจึงมีร้อยพ่อพันแม่ การที่เราปิดไม่ได้แปลว่าเราอาย เราปกป้องลูกเราจากคำพูดไม่ดีที่จะมากระทบใจลูกเรา เราอยากให้เค้ารู้จากปากเราก่อน ให้ลูกมีความคิดของตัวเองไม่หวั่นไหวกับคำพูดใคร เมื่อนั้นเราพร้อม
และขอบคุณ คุณท่านที่มาตอบในฐานะลูกๆที่เคยผ่านประสบการณ์มาแชร์(ท่านสมาชิก DRMFSLTD , plankton_t และ1102358) เราได้มุมมองเยอะเลย เรากะจะบอกลูกตอนประถมละคะ ถ้าพ่อเค้ามาคราวหน้าจะบอกว่าไม่ต้องเก็บของลูกกะเมีย ให้เหี้ยนรถนะมายังไงมาอย่างนั้นเลยค่ะ ฉันพร้อม( แต่ถ้ามันไม่มีมา คุณพ่อต้องหามาวางให้เห็นชินตาลูกนะ )เ อาไว้ให้ลูกถามของใคร แล้วให้ช่วยกันตอบว่า ของภรรยาพ่อลืมไว้(เมีย) ของลูกอีกคนพ่อลืมไว้(น้อง) ฉันบอกลูกว่าแม่เลิกเป็นสามีภรรยากะพ่อ (การบอกเลิกพ่อของลูกเมื่อ4ปีที่แล้วมันง่ายยยยย.....เหมือนปลอกกล้วย แตกต่างกับการบอกลูก ณ ตอนนี้ ที่ฉันเอง กลัว กังวล ถึงขั้นเครียดนอนไม่หลับ คิดแทนลูกไปต่างๆนานา ห่วงความรู้สึกคนตัวน้อยมาก) แต่ความรักของแม่กะพ่อที่มีต่อหนูยังเหมือนเดิม สถานะพ่อ กะแม่ยังเหมือนเดิม แม่ให้อภัยพ่อแล้ว และพ่อก็รับผิดชอบค่าเลี้ยงดูหนูไม่เคยทอดทิ้ง เพราะบทเรียนชีวิตที่ลูกควรรู้คืออภัย อภัยทาน คือทานอันยิ่งใหญ่ พ่อก็ยังคงมาพาเที่ยวเหมือนเดิม ก็แค่นั้นเอง อยากให้เขาแข้มแข็ง และแข็งแรงทั้งกายและใจ เพราะฉันคงดูแลลูกได้ไม่ตลอดไป ซักวันฉันต้องตายจาก ฉันอยากให้ลูกอยู่บนโลกใบนี้อย่าง เข้าใจความเป็นไปของโลก และไม่หลงโลก ยังรอคำตอบอยู่นะคะ
ควรแล้วหรือที่พ่อของลูก(อดีตสามี)าเยี่ยมลูกแล้วจะทิ้งของใช้เมียและลูกปัจจุบันไว้แบบเกลื่อนรถ
พ่อของลูกมีคนใหม่ ก็พอจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงมาซักพักก่อนเลิก(ทางผู้ ญ ก็ชอบทิ้งของไว้บนรถให้ดูด้วยสิคะ)พ่อของลูกก็บอกเพื่อนกันมาทำงานด้วยกัน พอเราแอบดูในมือถือ เราก็รู้ละว่ามันเกินเพื่อน ก็คุยกันเราขอให้เลิกกะทางนั้นหลังรู้ความจริงกะเราเค้าบอกว่าแค่รับผิดชอบ แต่กะทางนั้นรัก งั้นทำเพื่อลูกได้ไหม เค้าว่า ทางนั้นก็กำลังท้องได้3เดือน ไม่คิดว่าขนาดนี้ เราเลยเลิกให้(ศีลไม่เสมอกันมันก็อยู่กันไม่ได้) เพราะเราเองก็ไม่สามารถติดตามเขาไปถึงหนองคายได้ เค้าได้คนใหม่เป็นคนบ้านเดียวกัน ก็ดีแล้วมีคนแบ่งเบาภาระ(55ขำๆนะคะ)
เราเองมาคลอดและเลี้ยงลูกที่บ้านแม่กะพ่อที่จันทบุรี แล้วเราก็พบว่าแม่กะพ่อควรมีคนอยู่ดูแลเราเลยเลือกที่จะอยู่ที่นี่ (พ่อเราเป็นอัลไซเมอระยะแรก แม่เป็นกระดูกทับเส้นผ่ามาแล้ว2รอบ) ตอนเลิกตกลงกันว่าจะปิดคนนอก แต่บอกเฉพาะคนในบ้าน และเพื่อนสนิท ของแต่ละคน เหตุผลของเราที่ปิดก็อยากให้ลูกมีพ่อเหมือนคนอื่น จะได้ไม่มีใครมาล้อมาแซวลูกให้มีปมด้อย โลกสวยวัยเด็กไปก่อน และกอดพ่อได้แบบไม่รู้สึกแปลกอะไร เพราะเค้าเล็กเกินกว่าจะเข้าใจ
แม้สถานะสามีภรรยาจะจบแล้ว แต่ความรักของแม่กะพ่อที่ให้หนูยังคงอยู่และคงอยู่ตลอดไป พ่อของลูกจะมาเยี่ยมลูก 1-2เดือนครั้ง ก่อนเลิก มันเลยไม่แปลกอะไรสำหรับลูกที่พ่อจะมาเยี่ยม 3-4เดือนครั้งหลังเลิก ก็มีบ้างทิ้งของใช้ลูกไว้บนรถแต่แค่ไม่กี่ชิ้น เราก็บอกไปให้เก็บ ก็เก็บ อันนี้ช่วงลูก 1ขวบย่าง2ขวบ
ตอนนี้ลูก4ขวบ7เดือน และฉลาดมาก เราเลี้ยงเองสอน2ภาษา เค้าจึงเป็นเด็กช่างจด ช่างจำช่างสังเกต เอาแค่เราคุยกะหลานที่อายุห่างจากลูกเรา4ปี ตอนเล่นขานศัพท้ภาษาอังกฤษแล้วตีการ์ดใครตีได้ๆ(หลาน"ทำไมอา j ถึงบอกว่าอ่อนให้baby " อา" ก็คนขานการ์ดจะรู้ว่าการ์ดอยู่ตรงไหนนี่คะ" หลังจากนั้นลูกเราวัย4ขวบ6เดือน ที่นั่งฟังแม่คุยกะพี่ ก็ขอเป็นคนขานการ์ดเอง และเล่นชนะแม่ตลอด5555555ทุกครั้ง เพราะลูกเล่นขานยังไม่จบก็ตีการ์ดแล้ว555)
ล่าสุดที่พ่อเด็กมาเยี่ยมคือเดือนกรกฎานี้ แบบของใช้เมีย และลูกเกลื่อนรถกว่า 10ชิ้น ทั้งเสื้อคลุมแม่ รองเท้าลูกกะแม่ หมวก ของเล่น คราวที่แล้วที่มาก็มีแต่ไม่เยอะเท่านี้เพียงแต่เราไม่พูดเพราะเราคิดว่าคนเราน่าจะรู้อะไรควรไม่ควร แล้วลูกก็เห็นรูปลูกชายเค้า ตัวพ่อยังมีหน้ามาเล่าแบบหน้าระรื่นว่าลูกถามว่ารูปพ่อNตอนเด็กหรือ แล้วก็เล่าเรื่องพี่ชายคนโตมีเมียใหม่ให้เราฟังต่อหน้าลูก เราก็นิ่งๆไม่ได้ลงความเห็นอะไร น่าจะคนที่6 (ก็พอจะทราบว่าพี่คนนี้มีเมียมา4คนละตั้งกะก่อนที่เราจะเลิกกะพ่อของลูก เราไม่เห็นอยากฟังหรือรับรู้เรื่องพี่ชายเขาเลย) คราวก่อนมาก็เล่าเรื่องเพื่อนตั้งกะสมัยเรียน มีเมียคนใหม่ แบบแย่งเมียน้องที่ทำงานเดียวกัน เราไม่เห็นอยากฟังหรือรับรู้เรื่องเพื่อนด้วย พอจะเข้าใจเขานะอยากให้ลูกไปเทียวหนองคาย แต่สภาพแบบนั้น เราคนพุทธนะ ให้เห็นดอกบัวเป็นดอกบัวไปก่อน ดีไหม ไม่ใช่ให้เด็กเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เราสอนธรรมะลูกแต่เด็ก ไม่ว่าจะเรื่องแก่ เจ็บ ตาย ให้เห็นยายแก่ อีกหน่อยแม่ก็แก่แบบยาย ชวนไปงานศพ ให้ไหว้ศพคนรู้จักที่จากไป บางคนลูกเคยคุย เคยไหว้ เคยเล่นด้วย ให้รู้ว่าทุกชีวิตต้องตาย ชวนดูงู คางคก โดนรถทับ ให้ไม่ประมาท ข้ามถนนต้องระวังตั้งกะเดินได้
แต่สังคมบ้านเขากะบ้านเรามันต่างกันบ้านเราไม่มีเรื่องนอกใจ แต่บ้านเขาพี่น้อง8คน มี4คนที่ เปลี่ยนผัวเปลี่ยนเมีย นอกใจบ้าง มีใหม่บ้าง เรื่องปกติเหรอ เค้ายังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจความเป็นจริง ธรรมะ แยกถูกผิด ซึ่งเราจะบอกอยู่แต่คงมัธยม เพื่อเข้าใจโลก ไม่ได้เพื่อเกลียดชัง แต่มันควรแล้วหรือที่จะให้เด็กวัยนี้รู้ตอนนี้
แก้ไขเพิ่มเติม 31 กรกฏาคม 2560
เนื่องจากท่านสมาชิคหมายเลข3888890 คุณถามเราถึงตอบ และสิทธิของคุณค่ะที่จะทิ้งอะไรไว้ในรถด้วยความเคารพเลย แต่เราไม่ได้ไปสั่งเมียใครให้เก็บอะไรใครที่หลงประเด็นช่วยกลับไปอ่านด้านบน เราแค่ถามหาสำนึกจากคนเป็นพ่อที่มาเยี่ยมลูกว่าอะไรควร อะไรไม่ควร
เราเป็นsingle mum แบบมึนๆ เลี้ยงลูกแบบ ก็ใช้ธรรมมะสอนลูกบ้าง สอนภาษาอังกฤษลูกตั้งกะเค้า7เดือน ลูกได้2ภาษา สับสน งง ว่าจะบอกลูกตอนไหนดี คนเรามันต้องมีครั้งแรกอะนะ เริ่มยังไง อยากได้คนมีประสบการณ์ผ่านจุดนั้นจะสอนลูก ในฐานะพ่อหรือแม่ก็เอา หรือตอบในฐานะลูก ก็ดี มาตอบ มาช่วยชี้แนะ ด่าได้ แต่อย่าแรงถ้าเห็นต่าง เข้าใจตรงกันนะคะ
แก้ไขเพิ่มเติม 2สิงหาคม ตอบคุณขนมปังอบชีสนะคะ จะได้ไม่มีใครหลงประเด็นแบบคุณ
ตั้งแต่วันที่เลิกกัน หน้าที่สามีภรรยาก็จบลงตรงนั้นค่ะ และใน1ปีหลังเลิกเราต้อง เจอและแก้ไขอะไรบ้าง อันนี้เป็นอุทาหรณ์ให้single mumsท่านอื่นระวังFace bookของคุณให้ดี เพื่อปกป้องลูกคุณ ล็อคความเป็นส่วนตัวให้เห็นเฉพาะเพื่อนนะคะ จะได้ไม่เจอแบบเรา
เราบอกเพื่อน บอกญาติเรา และใช้ชีวิตปกติอยู่บ้าน จนวันนึงเพื่อนเราบอกface book เมียเขาให้เราไปเปิดดู (เราไม่ได้บอกเพื่อนไปดูไปสืบ เราไม่ได้อยากรู้จัก เมียใหม่เขา เบอร์โทรเขาเราก็ไม่ไปตามหา เราอยู่ของเราดีๆ มา7เดือน เน้นนะคะแบบสงบๆด้วย แต่ตัวเพื่อน โกรธแทนและอยากรู้ว่า เอาเขามาสวมให้เราเมื่อใหร่ )เพื่อนบอกว่าไม่เห็นพวกเขาอายอย่างที่ฉันบอกเลย ว่าเคาอายคน เห็นพวกเขาพากันไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วซึ่งห่างจากบ้านเราไม่ถึง10กิโล (หลังจากกลับจากมาเยี่ยมลูกเรา) พร้อมหน้าพ่อแม่กะลูกที่เพิ่งเกิดได้ 1เดือน และนอกจากนั้นในเฟสบุคเขาสิ่งที่เราเจอแล้วโมโหสุดๆคือ รูปเรากะลูกโดนโพสลงทามไลม์ เมียเขา คืออะไรคะ เป็นญาติกันเมื่อไหร่ สิทธิส่วนบุคคล เราล็อคความเป็นส่วนตัวหลังจากเหตุการณ์นั้นทันทีให้เห็นได้เฉพาะเพื่อน เราบอกพ่อของลูก คือมันล้ำเส้นไปไหม เค้าทะเลาะกัน พ่อของลูกเข้าเฟสตัวเองไม่ได้ สมัครเฟสใหม่มาขอแอดเฟรนเรา เราไม่รับ เพื่อความสบายใจของเราเองและเมียเขา เมียเขาก็บ้าดี ยังมีหน้ามาขอแอดเฟรนเฟสเราอยู่เลยตอนนี้ เราห้ามพ่อของลูกมาเยี่ยมลูก4เดือน (แต่ผู้ใหญ่ในบ้านบอกเราว่าเราไม่มีสิทธิ ห้ามพ่อพบลูก เพราะมันเป็นสิทธิของพ่อที่จะได้มาเยี่ยมมาเจอลูก)
หลังเลิกไม่กี่เดือน ต้องไปโรงพักลงบันทึกประจำวันเรื่องรถ รถที่เขาขับชื่อเรา ตอนที่เป็นสามีภรรยากันเขาขอออกรถในชื่อเรา เพราะเขาเองติดเครดิตบูโร ออกรถชื่อเขาไม่ได้ เราโอนลอยให้ ให้รีบเปลี่ยนชื่อเอาชื่อเราออกเร็วๆ คนในบ้านเราพี่เราว่าเราว่าโง่ ไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้เหรอเยอะแยะที่ต้องขึ้นโรงพัก เราเคยได้ยิน แต่ไม่คิดไงว่าสุดท้ายจะต้องเป็นsingle mum
พ่อของลูกชวนเราไปทำงานต่างประเทศร้านอาหาร ของเพื่อน เราเลยบอกเพื่อนเขาที่ทำร้านอาหารว่าเลิกกันแล้วถามเพื่อนเขาว่ารู้เห็นเป็นใจในการชวนด้วยไหมถ้ารู้จะได้อันเฟรนบนเฟสบุค พี่เขาไม่ทราบเลย ไม่มีการจัดฉากใดๆ และพี่คนนี้คือคนที่เคยให้พ่อของลูกยืมเงินมาแต่งฉัน ฉันบอกเขาว่าหนี้สินใหม่หากมายืม ฉันไม่รับรู้ด้วยแล้วนะ เมียพี่เขาโทรสายตรงมาจากต่างประเทฯศเลย เสียงสั่นละล่ำระลัก อยากรู้ความจริงให้เราเล่า เพราะสามีพี่เขาเพิ่งให้พ่อของลูกเรายืมเงินก้อนโต ที่โตกว่ายืมครั้งก่อนไปได้ไม่นาน คนแบบนี้ยืมเงินยังปิดแม้กระทั่งเพื่อนตัวเอง เค้าให้ยืมเพราะเห็นว่าของเก่าใช้คืน แบบมีเราเป็นแบค คนให้ยืมก็กลัวละนะ
พอเพื่อนๆกลุ่มจะมีทติ้งกัน พ่อของลูกมาชวนเราไปบอกเพื่อนจะมาจากต่างประเทศด้วยนะ เผื่อเราอยากเจอ เราไม่ไปค่ะ เราบอกเค้าว่าให้เอาเมียเค้าไป เมียพี่ไม่ใช่เมียเก็บอีกต่อไปแล้ว เอาเธอไปออกหน้าออกตาเถอะเธออยากมีหน้ามีตา ในสังคมในฐานะเมีย ทีนี้มีทติ้งเพื่อนเค้าเลยรู้กันหมด เพราะเราบอกเมียเพื่อนๆเขาว่าเราไม่ไปนะ และคิดถึงพี่ๆทุกคน เราสละให้เมียเขาไปทำหน้าที่ จริงๆตัวพ่ออายเพื่อน แต่ทำไมตอนทำอะไรลงไปไม่อายคะ เราไม่ใช่คนที่จะต้องอายนะขอย้ำเราไม่อายที่จะบอกเมียๆเพื่อนเขาเลย เราอยากจบ อยากถอย ไม่ข้องแวะใดๆ
เค้าทะเลาะกันอีก และคุณเมียขอคืนสามีให้แต่เรานิ่ง ไม่รับคืนหรอกนะของแบบนี้ 5555
พอเข้าใจตัวตนของเรากันละนะคะ ไม่รู้จริง อย่าวิจารณ์ใครค่ะ เราหยุดแล้วแต่เขาและคุณสิยังไม่หยุด
เราย้ำว่าเราถามหาสำนึกจากคนเป็นพ่อ
แต่ตอนนี้ เราได้คำตอบแล้วว่า อย่าไปถามหาสำนึกอะไร กับคนศีลไม่เสมอกัน มุสา กาเม ปล่อยวางดีสุด และยังยืนยันคำเดิมค่ะ ขอพื้นที่ให้ คุณพ่อคุณแม่คุณลูกที่มีประสบการณ์ผ่านจุดนี้มาแนะนำ เราจะเอาไว้เป็นแนวทางสอนลูกเรา ใครอยากให้กำลังใจ ขอบคุณค่ะ ใครเห็นต่าง ไม่ว่าค่ะแต่ช่วยเข้าใจตัวตนเราจริงๆ สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการเตรียมคำตอบสำหรับคำถามของลูก เราไม่ได้อยากมาอธิบายเรื่องทั้งหมดเลย แต่นั่นแหละเราเข้าใจโลกมากขึ้น เราห้ามความคิดคนไม่ได้ เราห้ามคำพูดคนก็ไม่ได้ สุดแล้วแต่ปัญญาของแต่ละคนจะพิจารณาเอาค่ะ
แก้ไขเพิ่มเติม 4 สิงหาคม
ถ้าเหยียบเข้ามาบ้านเรามันเป็นสิทธิของเราเหมือนกันที่จะปกป้องตัวเราและลูกเราเข้าใจตรงกันนะ
เรารักลูกเรามาก เราเลี้ยงมากับมือ กะคนที่มาเยี่ยมปีละ3ครั้งๆละ2-3วันแล้วมาสร้างความกังวลเราควรปล่อยไปหรือควรบอกขอบเขตให้รับทราบ เรามีสิทธิที่จะปกป้องลูกเรา จากสิ่งไม่ดี จำเป็นด้วยหรือที่เราจะต้องติดป้ายบอกหน้าบ้านว่ากรูโสด เพื่ออะไรคะ ประกาศทำไมรู้แต่คนในบ้านญาติสนิทมิตรสหายที่หวังดี เพื่อนบ้านข้างๆที่มีศีลเสมอกันก็พอมั๊ง บ้านเราเป็นร้านค้ากลางหมู่บ้าน ใครๆที่มาซื้อของรู้จักลูกเรา เข้ามาแวะมาคุยเราขายของอยู่ตรงไหนลูกเราก็อยู่ตรงนั้น เราไม่สามารถขังลูกเราไว้ไม่ให้เจอคนได้ฉันใดก็ฉันนั้น การที่เราจะเลือกคนดีๆเข้ามาซื้อของย่อมเป็นไปไม่ได้ ลูกค้าจึงมีร้อยพ่อพันแม่ การที่เราปิดไม่ได้แปลว่าเราอาย เราปกป้องลูกเราจากคำพูดไม่ดีที่จะมากระทบใจลูกเรา เราอยากให้เค้ารู้จากปากเราก่อน ให้ลูกมีความคิดของตัวเองไม่หวั่นไหวกับคำพูดใคร เมื่อนั้นเราพร้อม
และขอบคุณ คุณท่านที่มาตอบในฐานะลูกๆที่เคยผ่านประสบการณ์มาแชร์(ท่านสมาชิก DRMFSLTD , plankton_t และ1102358) เราได้มุมมองเยอะเลย เรากะจะบอกลูกตอนประถมละคะ ถ้าพ่อเค้ามาคราวหน้าจะบอกว่าไม่ต้องเก็บของลูกกะเมีย ให้เหี้ยนรถนะมายังไงมาอย่างนั้นเลยค่ะ ฉันพร้อม( แต่ถ้ามันไม่มีมา คุณพ่อต้องหามาวางให้เห็นชินตาลูกนะ )เ อาไว้ให้ลูกถามของใคร แล้วให้ช่วยกันตอบว่า ของภรรยาพ่อลืมไว้(เมีย) ของลูกอีกคนพ่อลืมไว้(น้อง) ฉันบอกลูกว่าแม่เลิกเป็นสามีภรรยากะพ่อ (การบอกเลิกพ่อของลูกเมื่อ4ปีที่แล้วมันง่ายยยยย.....เหมือนปลอกกล้วย แตกต่างกับการบอกลูก ณ ตอนนี้ ที่ฉันเอง กลัว กังวล ถึงขั้นเครียดนอนไม่หลับ คิดแทนลูกไปต่างๆนานา ห่วงความรู้สึกคนตัวน้อยมาก) แต่ความรักของแม่กะพ่อที่มีต่อหนูยังเหมือนเดิม สถานะพ่อ กะแม่ยังเหมือนเดิม แม่ให้อภัยพ่อแล้ว และพ่อก็รับผิดชอบค่าเลี้ยงดูหนูไม่เคยทอดทิ้ง เพราะบทเรียนชีวิตที่ลูกควรรู้คืออภัย อภัยทาน คือทานอันยิ่งใหญ่ พ่อก็ยังคงมาพาเที่ยวเหมือนเดิม ก็แค่นั้นเอง อยากให้เขาแข้มแข็ง และแข็งแรงทั้งกายและใจ เพราะฉันคงดูแลลูกได้ไม่ตลอดไป ซักวันฉันต้องตายจาก ฉันอยากให้ลูกอยู่บนโลกใบนี้อย่าง เข้าใจความเป็นไปของโลก และไม่หลงโลก ยังรอคำตอบอยู่นะคะ