สวัสดีครับสมาชิกทุกท่าน
จากที่ไม่ได้เข้ามาเขียนนานเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โดนยึดอมยิ้ม 
วันนี้เปิดตัว Login ใหม่
พร้อมกับประสบการณ์ขี่รถดีๆ ที่ตั้งใจเอามาแบ่งปันกัน ในช่วงหยุดยาวที่เพิ่งจะไปมาเมื่อไม่นานมานี้
ก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดนึงซึ่งไม่เคยไปมาก่อน แต่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนมาก
นั่นก็คือ "ทุ่งดอกกระเจียว" ของจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งที่นี่มีจุดท่องเที่ยวหลายที่ หนึ่งในนั้นก็มีที่นึง
ที่เรามักได้เห็นภาพบน Social Media กันบ่อยๆ กับ "ผาหั๋มหด" ลองไปดูว่า "มันหด" จริงรึป่าวกันครับ
เปิดตัวด้วยภาพ ณ อช.ภูแลนคา

อุทยานแห่งชาติไทรทอง
ระยะการเดินทางจากกทม. ประมาณ 340 กม. โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 - 21 - 205 - 2354 -225
จากที่ไปมาเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 60 ถนนถือว่าเดินทางไม่ลำบาก ทางค่อนข้างดี มีหลุมบ้างเล็กน้อยแต่ไม่มาก
รถบรรทุกใหญ่จะเยอะเส้น 205 และ 2354 เวลาขี่แซงให้ขาด อย่าขี่ตามหรือตีคู่นะ
ขี่มาเรื่อยๆ ก็จะถึง อช.ไทรทอง โดยที่นี่จะมีจุดกางเต๊นท์หลักๆ 2 แห่ง คือบริเวณที่ทำการอุทยาน
และด้านบนซึ่งต้องลุยน้ำผ่าเข้าไป รถที่ไม่ยกสูงมากไม่ควรเสี่ยงด้วยประการทั้งปวง
สำหรับเราที่เป็นสาย Touring เรื่อยลุยขอผ่าน กางบริเวณที่ทำการอุทยานครับ

บริเวณนี้ค่อนข้างกว้างนะ มีหลายจุดที่สามารถกางได้ คนเยอะพอประมาณครับ
แต่เสียงก็ไม่ดังมากจนเกินไป สามารถพักผ่อนกันได้ตามอัธยาศัยเลย
หลังจากกางเต๊นท์เสร็จก็มืด ถึงเวลาอาหารกันละ ที่นี่จะมีร้านสวัสดิการของอุทยานฯ
สามารถสั่งอาหารตามสั่งมาทานกันได้ ราคาถือว่าถูกพอสมควร หมดนี้ลองทายกันดูว่าเท่าไหร่


ส้มตำมีให้กินทุกที่ จานนี้ 40 บาท

ปลาเผา 120 บาท ถือว่าใหญ่เลยล่ะ แต่ถ่ายมาทำไมดูเล็กจังหว่า

ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ชามนี้ 50 บาท
นอกจากนี้มีข้าว และน้ำ รวมมือนี้เบาๆ 250 บาท กินกัน 2 คน พุงจาแตก


ให้ดูลูกสาวนิด เวลากินข้าว เค้าจะนั่งเฉยๆ แบบนี้เสมอ เพราะว่าอาหารคนหมากินไม่ได้
จากนั้นกลับเข้าเต๊นท์รีบนอน เพราะต้องตื่นไปผาหด และดูดอกกระเจียวแต่เช้า
พอกลับถึงเต๊นท์ จัดแจงที่นอนได้ ลูกสาวก็มีสภาพตามที่เห็น

ยึดผ้าห่ม ถุงนงถุงนอน เอาไปคนเดียวซะหมดเบย
เช้าตื่นมาปุ๊บ รีบล้างหน้าแปรงฟัน แล้วไปซื้อตั๋วรถพาขึ้นไปผาหด คนละ 30 บาท
ซื้อแล้วให้เก็บตั๋วไว้ให้ดี เพราะต้องใช้ตอนลง ลองชมบรรยากาศขณะเดินทางกันดูครับ
ทางน้ำผ่านที่ต้องใช้รถยกสูงลุย เลี้ยวมาเจอเลย เห็นมี ER กับ CBR ข้างบนด้วย ไม่รู้ขึ้นกันยังไง

คลิบนั่งรถขาขึ้น

ที่แรกหลังจากที่เรานั่งรถขึ้นมาถึง เดินประมาณ 200 เมตร ก็จะเจอผา "หด" กันก่อนเบย


คลิบบรรยากาศขาขึ้น

หลังจากแวะที่ผาหดแล้ว จะเป็นการเดินเพื่อไปชมดอกกระเจียวกันต่อ
โดยจะมีทุ่งอยู่ 2-3 ที่ ระยะทางประมาณ 2 กม. ทางเดินสบาย ไม่ขึ้นเขาหรือลุยโขดหินอะไรมาก



บริเวณนี้มีหมอกตลอด เดินไปหายใจเอาอากาศเข้าไปเยอะๆ ไม่ต้องรีบ
พอมาได้สักระยะนึง ก็จะเริ่มเห็นทุ่งดอกกระเจียวแบบนี้


ในช่วงที่ไปเมื่อวันที่ 8-10 ก.ค. 60 เจ้าหน้าที่แจ้งว่าแบบนี้บานประมาณ 75%
ณ วันนี้ที่เขียน 30 ก.ค. 60 คิดว่าน่าจะเกือบ 100% ละครับ




มาถึงนี้แล้วก็ถ่ายแม่หมากับลูกหมากันหน่อย

ซักพักคนเริ่มเยอะ

พอคนเริ่มเยอะ คนที่มักอะไรง่ายๆ ก็จะเริ่มมีมาบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เดินลงไปในทุ่งแม่มเบย ตะโกนบอกไปยังมีเถียงอีก
ชมบรรยากาศทุ่งดอกกระเจียวเต็มที่ละ ก็เดินกลับทางเดิม
ตรงนี้จะมีคนที่ขับรถขึ้นมาอีกทาง อย่าหลงไปกลับทางนั้นล่ะ

สลับกับแม่หมาแบกลูกสาว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ห้ามเอาเค้าลงเด็ดขาด

ขากลับคนที่นอนตื่นสายก็จะเริ่มมากัน สิ่งที่พวกเค้าพลาดกันก็คือหมอกในตอนเช้า
ดังนั้นคนที่มาเที่ยว อย่าตื่นสายกันนะครับ

ลงมาแวะซื้อเสื้อยืดที่ระลึกนิดหน่อย

สภาพลูกสาวตอนที่ซื้อเสื้อกัน

หลังจากที่ลงมากันแล้ว ก็รีบจัดแจงอาบน้ำเก็บเต๊นท์ เพื่อที่จะไปกันต่อ
ตอนแรกกะว่าจะไปนอนที่ "มอหินขาว" กัน แต่พอไปถึงปรากฏว่าคนเยอะมาก
และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ก็ได้ข้อมูลมาว่าตอนกลางคืนมีวัยรุ่นมารวมกันเยอะ
และไม่มีเจ้าหน้าที่เลย จึงขี่รถขึ้นไปต่อยังภูแลนคา ซึ่งเงียบและปลอดภัยกว่า
พอขี่ขึ้นมาแล้วก็ถ่ายภาพกันก่อนเบย

เบื้องหลัง 555

อีกมุมนึง

แว้ก !!

เอาใหม่ๆ ไอติมลุกขึ้นมาจิ

อะเคผ่าน !! จากนั้นก็มาขี่รถไล่ดูว่าจะกางเต๊นท์ตรงไหนดี บรรยากาศดีจริงๆ นะ

แล้วเราก็ได้จุดกางเต๊นท์กันริมผากันเลยทีเดียว ภาพมา !!

จุดนี้คือจุดชมวิวดงสน ซึ่งสามารถกางเต๊นท์ได้นั่นเอง

เราสามารถจอดรถได้ที่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งจะมีห้องน้ำและจุดซักล้างไว้บริการ แต่ไม่มีไฟส่องสว่างให้นะ

ย้อนไปชมความป่วนของลูกสาวตอนกางเต๊นท์กัน

วิ่งเข้าวิ่งออกอยู่นั่น ไม่อยู่เฉยซะที

จับได้แล้ว แฮ่ !! ทำไงดีเนี่ย ฮึ

โยนลงผาไปเลยซะดีมั้ยเนี่ย จะอยู่เฉยๆ ได้ยัง

ซักพักอยู่นิ่งๆ ได้ซะที ดูทำหน้าเข้า เหนื่อยจริงวุ้ย

บรรยากาศยามเย็น ที่จุดชมวิวดงสน


อากาศมันน่านอนจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ยลูกสาว

มื้อเย็นวันนี้คืออาหารสุดหรู ที่พลาดไม่ได้เมื่อมากางเต๊นท์ 555


จากนั้นก็รีบนอนเพื่อที่จะได้ตื่นมาชมบรรยากาศยามเช้ากัน

ที่นี่จะมีจุดชมวิว ผาหัวนาค ซึ่งสามารถเดินมากันได้ง่ายเพียง 400 เมตร
ป้ายทางขึ้นจุดชมวิว

เดินขึ้นมาแป๊ปนึง เจอป้ายนี้เลย คงมีคนมาบินกันเยอะ


เดินขึ้นมาแป๊ปเดียวก็ถึงกันละครับ

บรรยากาศจุดชมวิว ผาหัวนาค




จากนั้นก็เตรียมตัวกลับกันละ เส้นทางที่ใช้ก็เหมือนเดิมได้เลย ทางดีวิ่งสบายๆ ไม่เหนื่อยครับ

หวังว่ากระทู้ #หมาน้อยTouring พาลุยฝนกางเต๊นท์ อช.แห่งชาติไทรทอง + อช.ภูแลนคานี้
พอจะเป็นข้อมูลให้กับสมาชิกที่สนใจ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนทริปของตัวเองได้
ขอขอบคุณ Altrax ที่สนับสนุนหมวกกันน็อคที่ใช้ในการเดินทาง
อ่านรีวิวได้ตามลิงค์
https://pantip.com/topic/36718213

และขอขอบคุณ Koala Rider ที่สนับสนุน Clover ถุงมือสำหรับคอ Touring ตัวจริงครับ
อ่านรีวิวได้ตามลิงค์
https://pantip.com/topic/36717073

ไว้เจอกันทริปหน้า จะเป็นที่ไหนคอยติดตามรับกันด้วยนะครับ
สวัสดีครับ

#หมาน้อยTouring
#หมาน้อยTouring พาลุยฝนกางเต๊นท์ อช.แห่งชาติไทรทอง + อช.ภูแลนคา
จากที่ไม่ได้เข้ามาเขียนนานเลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ วันนี้เปิดตัว Login ใหม่
พร้อมกับประสบการณ์ขี่รถดีๆ ที่ตั้งใจเอามาแบ่งปันกัน ในช่วงหยุดยาวที่เพิ่งจะไปมาเมื่อไม่นานมานี้
ก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวจังหวัดนึงซึ่งไม่เคยไปมาก่อน แต่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนมาก
นั่นก็คือ "ทุ่งดอกกระเจียว" ของจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งที่นี่มีจุดท่องเที่ยวหลายที่ หนึ่งในนั้นก็มีที่นึง
ที่เรามักได้เห็นภาพบน Social Media กันบ่อยๆ กับ "ผาหั๋มหด" ลองไปดูว่า "มันหด" จริงรึป่าวกันครับ
เปิดตัวด้วยภาพ ณ อช.ภูแลนคา
อุทยานแห่งชาติไทรทอง
ระยะการเดินทางจากกทม. ประมาณ 340 กม. โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 - 21 - 205 - 2354 -225
จากที่ไปมาเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 60 ถนนถือว่าเดินทางไม่ลำบาก ทางค่อนข้างดี มีหลุมบ้างเล็กน้อยแต่ไม่มาก
รถบรรทุกใหญ่จะเยอะเส้น 205 และ 2354 เวลาขี่แซงให้ขาด อย่าขี่ตามหรือตีคู่นะ
ขี่มาเรื่อยๆ ก็จะถึง อช.ไทรทอง โดยที่นี่จะมีจุดกางเต๊นท์หลักๆ 2 แห่ง คือบริเวณที่ทำการอุทยาน
และด้านบนซึ่งต้องลุยน้ำผ่าเข้าไป รถที่ไม่ยกสูงมากไม่ควรเสี่ยงด้วยประการทั้งปวง
สำหรับเราที่เป็นสาย Touring เรื่อยลุยขอผ่าน กางบริเวณที่ทำการอุทยานครับ
บริเวณนี้ค่อนข้างกว้างนะ มีหลายจุดที่สามารถกางได้ คนเยอะพอประมาณครับ
แต่เสียงก็ไม่ดังมากจนเกินไป สามารถพักผ่อนกันได้ตามอัธยาศัยเลย
หลังจากกางเต๊นท์เสร็จก็มืด ถึงเวลาอาหารกันละ ที่นี่จะมีร้านสวัสดิการของอุทยานฯ
สามารถสั่งอาหารตามสั่งมาทานกันได้ ราคาถือว่าถูกพอสมควร หมดนี้ลองทายกันดูว่าเท่าไหร่
นอกจากนี้มีข้าว และน้ำ รวมมือนี้เบาๆ 250 บาท กินกัน 2 คน พุงจาแตก
จากนั้นกลับเข้าเต๊นท์รีบนอน เพราะต้องตื่นไปผาหด และดูดอกกระเจียวแต่เช้า
พอกลับถึงเต๊นท์ จัดแจงที่นอนได้ ลูกสาวก็มีสภาพตามที่เห็น
เช้าตื่นมาปุ๊บ รีบล้างหน้าแปรงฟัน แล้วไปซื้อตั๋วรถพาขึ้นไปผาหด คนละ 30 บาท
ซื้อแล้วให้เก็บตั๋วไว้ให้ดี เพราะต้องใช้ตอนลง ลองชมบรรยากาศขณะเดินทางกันดูครับ
ทางน้ำผ่านที่ต้องใช้รถยกสูงลุย เลี้ยวมาเจอเลย เห็นมี ER กับ CBR ข้างบนด้วย ไม่รู้ขึ้นกันยังไง
คลิบนั่งรถขาขึ้น
ที่แรกหลังจากที่เรานั่งรถขึ้นมาถึง เดินประมาณ 200 เมตร ก็จะเจอผา "หด" กันก่อนเบย
คลิบบรรยากาศขาขึ้น
หลังจากแวะที่ผาหดแล้ว จะเป็นการเดินเพื่อไปชมดอกกระเจียวกันต่อ
โดยจะมีทุ่งอยู่ 2-3 ที่ ระยะทางประมาณ 2 กม. ทางเดินสบาย ไม่ขึ้นเขาหรือลุยโขดหินอะไรมาก
บริเวณนี้มีหมอกตลอด เดินไปหายใจเอาอากาศเข้าไปเยอะๆ ไม่ต้องรีบ
พอมาได้สักระยะนึง ก็จะเริ่มเห็นทุ่งดอกกระเจียวแบบนี้
ในช่วงที่ไปเมื่อวันที่ 8-10 ก.ค. 60 เจ้าหน้าที่แจ้งว่าแบบนี้บานประมาณ 75%
ณ วันนี้ที่เขียน 30 ก.ค. 60 คิดว่าน่าจะเกือบ 100% ละครับ
มาถึงนี้แล้วก็ถ่ายแม่หมากับลูกหมากันหน่อย
ซักพักคนเริ่มเยอะ
พอคนเริ่มเยอะ คนที่มักอะไรง่ายๆ ก็จะเริ่มมีมาบ้าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชมบรรยากาศทุ่งดอกกระเจียวเต็มที่ละ ก็เดินกลับทางเดิม
ตรงนี้จะมีคนที่ขับรถขึ้นมาอีกทาง อย่าหลงไปกลับทางนั้นล่ะ
ขากลับคนที่นอนตื่นสายก็จะเริ่มมากัน สิ่งที่พวกเค้าพลาดกันก็คือหมอกในตอนเช้า
ดังนั้นคนที่มาเที่ยว อย่าตื่นสายกันนะครับ
ลงมาแวะซื้อเสื้อยืดที่ระลึกนิดหน่อย
หลังจากที่ลงมากันแล้ว ก็รีบจัดแจงอาบน้ำเก็บเต๊นท์ เพื่อที่จะไปกันต่อ
ตอนแรกกะว่าจะไปนอนที่ "มอหินขาว" กัน แต่พอไปถึงปรากฏว่าคนเยอะมาก
และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ก็ได้ข้อมูลมาว่าตอนกลางคืนมีวัยรุ่นมารวมกันเยอะ
และไม่มีเจ้าหน้าที่เลย จึงขี่รถขึ้นไปต่อยังภูแลนคา ซึ่งเงียบและปลอดภัยกว่า
พอขี่ขึ้นมาแล้วก็ถ่ายภาพกันก่อนเบย
อีกมุมนึง
อะเคผ่าน !! จากนั้นก็มาขี่รถไล่ดูว่าจะกางเต๊นท์ตรงไหนดี บรรยากาศดีจริงๆ นะ
แล้วเราก็ได้จุดกางเต๊นท์กันริมผากันเลยทีเดียว ภาพมา !!
จุดนี้คือจุดชมวิวดงสน ซึ่งสามารถกางเต๊นท์ได้นั่นเอง
เราสามารถจอดรถได้ที่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งจะมีห้องน้ำและจุดซักล้างไว้บริการ แต่ไม่มีไฟส่องสว่างให้นะ
ย้อนไปชมความป่วนของลูกสาวตอนกางเต๊นท์กัน
วิ่งเข้าวิ่งออกอยู่นั่น ไม่อยู่เฉยซะที
โยนลงผาไปเลยซะดีมั้ยเนี่ย จะอยู่เฉยๆ ได้ยัง
ซักพักอยู่นิ่งๆ ได้ซะที ดูทำหน้าเข้า เหนื่อยจริงวุ้ย
บรรยากาศยามเย็น ที่จุดชมวิวดงสน
อากาศมันน่านอนจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ยลูกสาว
มื้อเย็นวันนี้คืออาหารสุดหรู ที่พลาดไม่ได้เมื่อมากางเต๊นท์ 555
จากนั้นก็รีบนอนเพื่อที่จะได้ตื่นมาชมบรรยากาศยามเช้ากัน
ที่นี่จะมีจุดชมวิว ผาหัวนาค ซึ่งสามารถเดินมากันได้ง่ายเพียง 400 เมตร
ป้ายทางขึ้นจุดชมวิว
เดินขึ้นมาแป๊ปนึง เจอป้ายนี้เลย คงมีคนมาบินกันเยอะ
เดินขึ้นมาแป๊ปเดียวก็ถึงกันละครับ
บรรยากาศจุดชมวิว ผาหัวนาค
จากนั้นก็เตรียมตัวกลับกันละ เส้นทางที่ใช้ก็เหมือนเดิมได้เลย ทางดีวิ่งสบายๆ ไม่เหนื่อยครับ
หวังว่ากระทู้ #หมาน้อยTouring พาลุยฝนกางเต๊นท์ อช.แห่งชาติไทรทอง + อช.ภูแลนคานี้
พอจะเป็นข้อมูลให้กับสมาชิกที่สนใจ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนทริปของตัวเองได้
ขอขอบคุณ Altrax ที่สนับสนุนหมวกกันน็อคที่ใช้ในการเดินทาง
อ่านรีวิวได้ตามลิงค์ https://pantip.com/topic/36718213
และขอขอบคุณ Koala Rider ที่สนับสนุน Clover ถุงมือสำหรับคอ Touring ตัวจริงครับ
อ่านรีวิวได้ตามลิงค์ https://pantip.com/topic/36717073
ไว้เจอกันทริปหน้า จะเป็นที่ไหนคอยติดตามรับกันด้วยนะครับ
สวัสดีครับ
#หมาน้อยTouring