ช่วงหยุดสามวันของสัปดาห์นี้ได้มีโอกาสไปพักโรงแรมนี้มาครับ ได้อ่านจากคอลัมน์ของ The Cloud แล้วสนใจตัวโรงแรมกับอยากเดินเที่ยวแถวถนนราชดำเนินเลยได้เจียดวันหยุดไปเดินเล่นแถวนั้นหนึ่งวันกับหนึ่งคืนเลยเก็บภาพกับเล่าประสบการณ์การไปพักกันครับ
ตัวโรงแรม Bangkok Publishing Residence เดิมที่เป็นโรงพิมพ์ของนิตยสารบางกอก ที่เป็นนิตยสารนิยายที่ก่อตั้งประมาณหกสิบปีที่แล้วได้รับความนิยมอย่างมากจากนิยายที่ลงตีพิมพ์ ซึ่งตัวนิตยสารเพิ่งจะปิดตัวลงไปเมื่อปีที่แล้วพร้อมกัยนิตยสารอื่นๆจากความนิยมของสื่อออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นแล้วครอบครัวรุ่นหลานได้รับตึกเก่าแก่ของครอบครัวมา Renovate เป็นโรงแรมขนาดแปดห้อง
ตัวโรงแรมตั้งอยู่ยริเวณหัวถนนหลานหลวงตรงข้ามสำนักงานการบินไทย สามารถใช้เรือคลองแสนแสบมาจากประตูน้ำขึ้นที่ท่าผ่านฟ้าลีลาศ หรือใครมีรถสามารถไปจอดที่ปั๊มน้ำมัน Susco ได้ครับ
จากนี้ไปเป็นภาพยาวๆของตัวโรงแรมละครับ ตัวโรงแรมตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของนิตยสารไปในที ด้วยสารพัดอุปกรณ์เกี่ยวกับการพิมพ์ที่ตั้งอยู่ในหลายๆจุด แต่ก็ทำให้เป็นสไตล์เฉพาะตัวมากๆครับ
ตัวโรงแรมจากด้านนอกครับ ชั้นแรกจะทึบๆไม่เห็นในตัว Lobby ค่อนข้างเพิ่มความเป็นส่วนตัวแขกที่มาเยี่ยมเยือน

บริเวณ Lobby ที่เป็นเคาเตอร์ Reception

อีกด้านของ Lobby มีทั้งเปียโน กับตู้โชว์เครื่องพิมพ์ดีดตกแต่งด้วยรูปจากปกนิตยสารบางกอกกับแทนพิมพ์ต่างๆ หลังจากเชคอินแล้วพนักงานต้อนรับจะพาเราเดินชมตัวโรงแรมพร้อมแนะนำสถานที่คร่าวๆก่อนที่จะพาไปห้องพักครับ

จาก Lobby จะมีประตูกั้นเปิดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางชั้นหนึ่ง มีโต๊ะทำงานที่จำลองโต๊ะของเจ้าของ ตู้ชั้นหนังสือด้านในเก็บนิตยสารบางกอกเล่มเก่าๆไว้เยอะมาก สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้หากอยากดูอยากอ่าน กับ Showcase นิตยสาร คนที่เป็นแฟนของนิตยสารฉบับนี้คงจะฟินกันระดับนึงเลยครับ ข้างๆโซนนี้มีเครื่องดื่มพวกน้ำเปล่าชากาแฟบริการ ใครเป็นแขกที่มาพักสามารถหยิบได้เลยโดยไม่เสียค่าบริการเพิ่ม

ชั้นสองชั้นสามของโรงแรมเป็นส่วนของห้องพักทั้งแปดห้องของโรงแรมครับ กรุหน้าต่างโปร่งขึ้นไปตามความสูงของตึก ตกแต่งออกแนว Industrial มีสารพัดของแต่งเกี่ยวกับหนังสือเช่นกัน บนชั้นสองมีนิตยสารเก่าให้เปิดอ่านเหมือนชั้นแรก

ชั้นสามทางเดินจะติดกับหน้าต่างคนละด้านกับชั้นสองที่ติดด้านห้องพัก มองลงถึงพื้นที่ชั้นหนึ่งได้พอดี

ชั้นสี่บนสุดเป็นโซนส่วนกลางเหมือนชั้นแรกครับ มีทั้งห้องหนังสือ ดาดฟ้าไว้สำหรับนั่งชิลล์ หรืออ่างน้ำวนก็มี ติดต่อพนักงานได้หากอยากใช้ครับ

มาดูห้องพักกันครับ ที่ผมพักจองห้อง Junior Suite ไป มีอีกเลเวลที่หรูกว่า พนักงานบอกว่า ห้องแปดห้องของที่นี่ตกแต่งไม่เหมือนกันด้วย ขนมน้ำในห้องกับในตู้เย็นของห้องนี้ก็สามารถกินได้เลยเช่นกันครับ ไม่ชาร์จเพิ่มเช่นกันครับ รวมถึงกาแฟแคปซูล เตียงของโรงแรมนี้คือเตียงจริงๆ ไม่ใช่เอาฟูกสองก้อนซ้อนกันแล้วเอาหัวเตียงแปะผนัง แล้วเตียงก็นุ่มนอนสบายมากๆเลยครับ หลับยาวอิ่มถึงเช้า

ในส่วนของห้องน้ำก็ตกแต่งสีขาวสบายตา กว้างขวาง ส้วมมีสายฉีดให้ด้วย ^o^

หลักๆที่ถ่ายมาก็จะประมาณนี้ครับ
ส่วนอาหารเช้าของโรงแรมก็รวมอยู่ในค่าที่พักเช่นกันครับ ไลน์อาหารไม่ได้เยอะแต่ก็ดีในระดับหนึ่ง ส่วนตัวเองจริงไม่ได้หยิบเลย พนักงานมาคอยถามตลอดเลยว่าเอาโน่นเอานี่มั้ย ^^"
โดยรวมแล้วเป็นโรงแรมที่ประทับใจมากๆครับ ทั้งการตกแต่งจนมีเรื่องราวของตัวเองโดยเฉพาะไม่ซ้ำกับที่ไหนๆ แล้วสามารถสัมผันได้ด้วยผ่านสารพัดของตกแต่งของโรงแรม พนักงานเองก็บริการดีมากๆเลยครับ อาจจะเพราะว่าด้วย Cap ของโรงแรมที่มีแค่แปดห้อง เลยสามารถดูแลได้แขกที่มาแบบทั่วถึง
เป็นตัวเลือกแนะนำเพื่อนจากที่อื่นๆหรือต่างประเทศพักได้แบบระดับดีมากๆที่หนึ่ง หรือใครที่อยากได้ที่พักสำหรับเปลี่ยนบรรยากาศดีๆก็น่าสนใจเช่นกัน ช่วงนี้โรงแรมทำ Soft Opening ราคาห้องครึ่งหนึ่งจนถึงช่วงกันยา (อย่าง Junior ของผมที่พักจาก 4800 เหลือ 2400 ) เป็นโอกาสดีที่จะได้ไปลองใช้บริการ แต่ช่วงนี้โรงแรมยังไม่รับบัตรเครดิต เตรียมเงินไปเผื่อด้วยนะครับ
[CR] Review - Bangkok Publishing Residence โรงแรมสไตล์เฉพาะตัวกลางย่านเมืองเก่า
ตัวโรงแรม Bangkok Publishing Residence เดิมที่เป็นโรงพิมพ์ของนิตยสารบางกอก ที่เป็นนิตยสารนิยายที่ก่อตั้งประมาณหกสิบปีที่แล้วได้รับความนิยมอย่างมากจากนิยายที่ลงตีพิมพ์ ซึ่งตัวนิตยสารเพิ่งจะปิดตัวลงไปเมื่อปีที่แล้วพร้อมกัยนิตยสารอื่นๆจากความนิยมของสื่อออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้นแล้วครอบครัวรุ่นหลานได้รับตึกเก่าแก่ของครอบครัวมา Renovate เป็นโรงแรมขนาดแปดห้อง
ตัวโรงแรมตั้งอยู่ยริเวณหัวถนนหลานหลวงตรงข้ามสำนักงานการบินไทย สามารถใช้เรือคลองแสนแสบมาจากประตูน้ำขึ้นที่ท่าผ่านฟ้าลีลาศ หรือใครมีรถสามารถไปจอดที่ปั๊มน้ำมัน Susco ได้ครับ
จากนี้ไปเป็นภาพยาวๆของตัวโรงแรมละครับ ตัวโรงแรมตกแต่งให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของนิตยสารไปในที ด้วยสารพัดอุปกรณ์เกี่ยวกับการพิมพ์ที่ตั้งอยู่ในหลายๆจุด แต่ก็ทำให้เป็นสไตล์เฉพาะตัวมากๆครับ
ตัวโรงแรมจากด้านนอกครับ ชั้นแรกจะทึบๆไม่เห็นในตัว Lobby ค่อนข้างเพิ่มความเป็นส่วนตัวแขกที่มาเยี่ยมเยือน
บริเวณ Lobby ที่เป็นเคาเตอร์ Reception
อีกด้านของ Lobby มีทั้งเปียโน กับตู้โชว์เครื่องพิมพ์ดีดตกแต่งด้วยรูปจากปกนิตยสารบางกอกกับแทนพิมพ์ต่างๆ หลังจากเชคอินแล้วพนักงานต้อนรับจะพาเราเดินชมตัวโรงแรมพร้อมแนะนำสถานที่คร่าวๆก่อนที่จะพาไปห้องพักครับ
จาก Lobby จะมีประตูกั้นเปิดเข้าไปจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางชั้นหนึ่ง มีโต๊ะทำงานที่จำลองโต๊ะของเจ้าของ ตู้ชั้นหนังสือด้านในเก็บนิตยสารบางกอกเล่มเก่าๆไว้เยอะมาก สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้หากอยากดูอยากอ่าน กับ Showcase นิตยสาร คนที่เป็นแฟนของนิตยสารฉบับนี้คงจะฟินกันระดับนึงเลยครับ ข้างๆโซนนี้มีเครื่องดื่มพวกน้ำเปล่าชากาแฟบริการ ใครเป็นแขกที่มาพักสามารถหยิบได้เลยโดยไม่เสียค่าบริการเพิ่ม
ชั้นสองชั้นสามของโรงแรมเป็นส่วนของห้องพักทั้งแปดห้องของโรงแรมครับ กรุหน้าต่างโปร่งขึ้นไปตามความสูงของตึก ตกแต่งออกแนว Industrial มีสารพัดของแต่งเกี่ยวกับหนังสือเช่นกัน บนชั้นสองมีนิตยสารเก่าให้เปิดอ่านเหมือนชั้นแรก
ชั้นสามทางเดินจะติดกับหน้าต่างคนละด้านกับชั้นสองที่ติดด้านห้องพัก มองลงถึงพื้นที่ชั้นหนึ่งได้พอดี
ชั้นสี่บนสุดเป็นโซนส่วนกลางเหมือนชั้นแรกครับ มีทั้งห้องหนังสือ ดาดฟ้าไว้สำหรับนั่งชิลล์ หรืออ่างน้ำวนก็มี ติดต่อพนักงานได้หากอยากใช้ครับ
มาดูห้องพักกันครับ ที่ผมพักจองห้อง Junior Suite ไป มีอีกเลเวลที่หรูกว่า พนักงานบอกว่า ห้องแปดห้องของที่นี่ตกแต่งไม่เหมือนกันด้วย ขนมน้ำในห้องกับในตู้เย็นของห้องนี้ก็สามารถกินได้เลยเช่นกันครับ ไม่ชาร์จเพิ่มเช่นกันครับ รวมถึงกาแฟแคปซูล เตียงของโรงแรมนี้คือเตียงจริงๆ ไม่ใช่เอาฟูกสองก้อนซ้อนกันแล้วเอาหัวเตียงแปะผนัง แล้วเตียงก็นุ่มนอนสบายมากๆเลยครับ หลับยาวอิ่มถึงเช้า
ในส่วนของห้องน้ำก็ตกแต่งสีขาวสบายตา กว้างขวาง ส้วมมีสายฉีดให้ด้วย ^o^
หลักๆที่ถ่ายมาก็จะประมาณนี้ครับ
ส่วนอาหารเช้าของโรงแรมก็รวมอยู่ในค่าที่พักเช่นกันครับ ไลน์อาหารไม่ได้เยอะแต่ก็ดีในระดับหนึ่ง ส่วนตัวเองจริงไม่ได้หยิบเลย พนักงานมาคอยถามตลอดเลยว่าเอาโน่นเอานี่มั้ย ^^"
โดยรวมแล้วเป็นโรงแรมที่ประทับใจมากๆครับ ทั้งการตกแต่งจนมีเรื่องราวของตัวเองโดยเฉพาะไม่ซ้ำกับที่ไหนๆ แล้วสามารถสัมผันได้ด้วยผ่านสารพัดของตกแต่งของโรงแรม พนักงานเองก็บริการดีมากๆเลยครับ อาจจะเพราะว่าด้วย Cap ของโรงแรมที่มีแค่แปดห้อง เลยสามารถดูแลได้แขกที่มาแบบทั่วถึง
เป็นตัวเลือกแนะนำเพื่อนจากที่อื่นๆหรือต่างประเทศพักได้แบบระดับดีมากๆที่หนึ่ง หรือใครที่อยากได้ที่พักสำหรับเปลี่ยนบรรยากาศดีๆก็น่าสนใจเช่นกัน ช่วงนี้โรงแรมทำ Soft Opening ราคาห้องครึ่งหนึ่งจนถึงช่วงกันยา (อย่าง Junior ของผมที่พักจาก 4800 เหลือ 2400 ) เป็นโอกาสดีที่จะได้ไปลองใช้บริการ แต่ช่วงนี้โรงแรมยังไม่รับบัตรเครดิต เตรียมเงินไปเผื่อด้วยนะครับ