สวัสดีค่ะทุกคนที่กำลังอ่านกระทู้นี้อยู่ ก่อนอื่นอยากบอกก่อนเลยว่าที่จขกท.ทำขึ้นเพื่อยากที่จะ
แชร์ประสบกาณ์หรือเรียกว่าการเล่าสู่กันฟังเท่านั้นนะจ้ะ

ถ้ามันเผลอไปกระทบใครก็โซซอรี่นะเบ้บ ยิ้มอ่อนและยอมรับสันดานตัวเองนะ ถ้าที่เราพิมพ์ไปไม่ใช่ความจริง โทรมาด่าเราได้ เรายังใช้เบอร์เดิม


เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี2559 มีรุ่นพี่ผู้ชายคนนึง ขอแทนชื่อว่า c ละกันนะ ทักเฟสบุ้คเรามาเผื่อขอไลน์ แต่ตอนนั้นจขกท.ไม่ได้เพราะว่าเป็นคนแปลกหน้า(ดูโลกสวยเนอะ5555555) แล้วเขาก็หายไปจนกระทั่งปลายเดือนธันวา2559 เขาได้ทักมาอีกครั้ง เราเลยได้คุยกัน (ความโลกสวยเมื่อ7เดือนที่แล้วหายไปไหนวะ?) ตอนนั้นพี่c อยู่รร.เอกชนแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเมืองเอก รังสิต สายดนตรี(พอเนอะ สงสารรร.มีคนแบบนี้เคยเรียน) เขาเป็นรุ่นพี่เรา3ปี ตอนนั้นพี่เขาอายุ19ปี เรา17ปี แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้พี่เขาอยู่ม.6 ตลอดเวลาที่เราได้คุยกับพี่c เขาเป็นคนน่ารักในระดับนึง เขาเปิดเผยมุมดีๆให้เราเห็น มันทำให้เรารู้สึกว่าคนนี้เขาน่าจะเป็นผู้ชายที่ใช้ได้คนนึง เราคบกันตอนเดือนปลายเดือนมกราคม2560 จขกท.ต้องบอกไว้ก่อนว่าเราเป็นคนที่ไม่เคยเช็คโทรศัพท์ และเชื่อในทุกสิ่งที่เขาบอก คงเป็นเพราะความไว้ใจ+กับสิ่งที่เขาทำให้เราเชื่อด้วยแหละมั้ง หรือโง่555555 มีอยู่ครั้งนึงเราสองคนก็ไปเที่ยวตามปกติ ตอนนั่งกินไอติมเขาบอกว่าขอไปเข้าห้องน้ำ พอผ่านไป10นาที เราก็เริ่มแปลกใจที่หายไปนาน เราก็ไม่ได้โทรตามนะ อาจจะแบบทำธุระหนัก555555 จนเกือบครึ่งชม.ผ่านไป เราเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ เลยคิดว่าจะออกไปตามเขาก็เดินกลับมาพอดี เขาให้เหตุผลกับเราว่าที่บ้านโทรมาคุยธุระนิดหน่อยเลยหายไปนาน เราก็เชื่อและไมาสะกิดใจใดๆทั้งสิ้น จนวันนั้นกลับบ้านไป เราก็คอลไลน์หากันตามปกติทุกๆคืน แต่วันนั้นเขากลับดูเงียบๆผิดปกติ เหมือนคนกำลังทำอะไรสักอย่างที่ไม่ได้คุยกับเราอย่างเดียว เราเลยถามไปว่า ' ทำอะไรอยู่ป่าว เดี๋ยวค่อยคุยก็ได้นะ ' เขาก็บอกว่ามีอะไรจะสารภาพ เขาบอกกับเราว่าที่บอกว่าที่บ้านโทรมา เขาโกหก ที่จริงเป็นแฟนเก่าเขาโทรมาเพื่อที่จะง้อ ตอนนั้นใจเรากระตุกวู้บเลย ใจนึงก็เสียใจที่เขาโกหก อีกใจก็ยังเลือกที่จะเข้าข้างว่าอย่างน้อยเขาก็สารภาพ นั่นคงแปลว่าเขาคงไม่อยากปิดบังเรา เราก็เลยถามว่าแล้วเธอคิดยังไง พี่c บอกว่าไม่ได้คิดอะไรแล้ว ละไม่คิดจะกลับไปยุ่ง แต่เป็นตัวผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมจบ พี่c ขอโทษและบอกว่าจะไม่โกหกอีก นั้นเป็นครั้งแรกที่เราให้อภัยและให้โอกาสให้เขาแก้ตัว ตอนนั้นเรายอบรับว่าเราเกลียดผู้หญิงคนนั้นมาก เราเลยถามว่าจะให้เคลียร์ให้มั้ย พี่c เขาบอกว่าเขาจัดการเรียบร้อยแล้ว เราก็โอเคเชื่อใจเหมือนเดิม เราเล่าเรื่องให้กลุ่มเพื่อนเราฟัง เพื่อนเราพูดประมาณว่า อย่าเชื่อพี่c ร้อย% ถ้าอยากมั่นใจให้ทักไปหาตัวญ.เองเลย ยอมรับอย่างใจหมาเลยว่าไม่กล้า กลัวว่าความจริงจะไม่เป็นแบบที่หวัง เราเลยเลือกที่จะมั่นใจในสิ่งที่พี่c พูด เราก็ไม่เช็ค ไม่ถามเกี่ยวกับเรื่องผู้ญ.คนนั้นอีก จนกระทั่งเพื่อนเราได้ไป sneaker party และแฟนเก่าของพี่c ก็ไปงานนั้นเหมือนกัน ทำให้เราและผู้ญ.คนนั้นได้คุยกัน เราเปิดใจและถามไปตรงๆเกี่ยวกับพี่C ผู้ญ.คนนั้นเล่าว่าพี่C เป็นผู้ชายเจ้าชู้ ตลอดเวลาที่คบกับผู้ญ.คนนั้นมีเรื่องคนอื่นเข้ามาให้ปวดหัวตลอด เราก็ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องที่พี่c เคยเล่าให้เราฟัง ปรากฎว่าสิ่งที่พี่c พูดมันคือเรื่องโกหกทั้งหมด เขาสองคนเลิกกันเมื่อต้นเดือนธันวา ซึ่งผู้ญ.เป็นคนบอกเลิกเพราะทนกับสิ่งที่พี่c คนอื่นไม่ไหว ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้พี่c เป็นคนตามง้อตลอด คอยส่งไลน์ โทรตาม เพื่ออยากให้ผู้ญ.คนนั้นกลับไปคบ ถึงแค่จุดนั้นเราจุก จุกจนไม่รู้จะตอบอะไร เราโทรไปหาเพื่อน เล่าเรื่องทุกอย่าง ก็ตามประสาเพื่อนอะเนอะมันก็บอกว่า ' กูเตือนแล้ว ' เรากลับมานั่งคิดทบทวนกับตัวเองว่าทำอะไรผิดพลาดอะไรไปตรงไหน เป็นแฟนที่ไม่ดีพอรึเปล่า จึงทำให้เขากลับไปคิดถึงคนเก่า เราไม่เคยโทษว่าเป็นเพราะสันดานเลวๆของเขาเลย พอพี่c รู้ว่ารู้เรื่องทั้งหมดจากแฟนเก่าแล้ว เขาก็ขอโทษและขอโอกาส นั้นก็เป็นครั้งที่2 ที่เขาขอโอกาส (อย่าพึ่งคิดด่าจขกท.ในใจนะ ยังมีอีกเย้อะ55555555555) หลังจากนั้นเขาก็คอยพูดย้ำๆกับเราทุกวันว่าเขาลืมไม่ได้ เขายังคิดถึง แต่เขาก็ไม่อยากให้เราไปไหน ในตอนนั้นยอมรับว่าเรารักเขามากจริงๆ มากจนยอมมองข้ามความรู้สึกตัวเองว่ามันแย่และเจ็บปวดกับคำพูดและการกระทำของเขามากน้อยแค่ไหน เขาบอกว่าอยากให้รอ รอวันที่เขาสามารถลืมคนคนนั้นได้หมดใจ และพร้อมจะเริ่มใหม่กับเราอย่างเต็มใจ แต่เราก็ยังอยู่ในสถานะแฟน(?) เราอยู่กับความชัดเจนในสถานะแต่ไม่ชัดเจนเลยกับความรู้สึก
เดี๋ยวจขกท.มาต่อเด้ออ (ถ้ามีคนสนใจนะ55555555) พิมพ์ไปก็แช่งมันไป ละก็ฝากข้อคิดเล็กๆให้คนที่คิดจะหยุดคนเจ้าชู้ด้วยรักจริงนะคะ เลิกฝันดีกว่านะ ถีบมันออกไปจากชีวิตและเอาความรักของเราที่มีมารักตัวเองให้มากๆ สักวันเราเริ่มต้นใหม่กับคนดีๆได้ สิ่งที่จะหยุดคนพวกนี้ได้ ไม่สิบล้อก็HIVแหละค่ะ บรัยยยย
ไม่ได้แฉ แค่อยากแชร์ประสบการณ์ :)
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนปี2559 มีรุ่นพี่ผู้ชายคนนึง ขอแทนชื่อว่า c ละกันนะ ทักเฟสบุ้คเรามาเผื่อขอไลน์ แต่ตอนนั้นจขกท.ไม่ได้เพราะว่าเป็นคนแปลกหน้า(ดูโลกสวยเนอะ5555555) แล้วเขาก็หายไปจนกระทั่งปลายเดือนธันวา2559 เขาได้ทักมาอีกครั้ง เราเลยได้คุยกัน (ความโลกสวยเมื่อ7เดือนที่แล้วหายไปไหนวะ?) ตอนนั้นพี่c อยู่รร.เอกชนแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเมืองเอก รังสิต สายดนตรี(พอเนอะ สงสารรร.มีคนแบบนี้เคยเรียน) เขาเป็นรุ่นพี่เรา3ปี ตอนนั้นพี่เขาอายุ19ปี เรา17ปี แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้พี่เขาอยู่ม.6 ตลอดเวลาที่เราได้คุยกับพี่c เขาเป็นคนน่ารักในระดับนึง เขาเปิดเผยมุมดีๆให้เราเห็น มันทำให้เรารู้สึกว่าคนนี้เขาน่าจะเป็นผู้ชายที่ใช้ได้คนนึง เราคบกันตอนเดือนปลายเดือนมกราคม2560 จขกท.ต้องบอกไว้ก่อนว่าเราเป็นคนที่ไม่เคยเช็คโทรศัพท์ และเชื่อในทุกสิ่งที่เขาบอก คงเป็นเพราะความไว้ใจ+กับสิ่งที่เขาทำให้เราเชื่อด้วยแหละมั้ง หรือโง่555555 มีอยู่ครั้งนึงเราสองคนก็ไปเที่ยวตามปกติ ตอนนั่งกินไอติมเขาบอกว่าขอไปเข้าห้องน้ำ พอผ่านไป10นาที เราก็เริ่มแปลกใจที่หายไปนาน เราก็ไม่ได้โทรตามนะ อาจจะแบบทำธุระหนัก555555 จนเกือบครึ่งชม.ผ่านไป เราเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ เลยคิดว่าจะออกไปตามเขาก็เดินกลับมาพอดี เขาให้เหตุผลกับเราว่าที่บ้านโทรมาคุยธุระนิดหน่อยเลยหายไปนาน เราก็เชื่อและไมาสะกิดใจใดๆทั้งสิ้น จนวันนั้นกลับบ้านไป เราก็คอลไลน์หากันตามปกติทุกๆคืน แต่วันนั้นเขากลับดูเงียบๆผิดปกติ เหมือนคนกำลังทำอะไรสักอย่างที่ไม่ได้คุยกับเราอย่างเดียว เราเลยถามไปว่า ' ทำอะไรอยู่ป่าว เดี๋ยวค่อยคุยก็ได้นะ ' เขาก็บอกว่ามีอะไรจะสารภาพ เขาบอกกับเราว่าที่บอกว่าที่บ้านโทรมา เขาโกหก ที่จริงเป็นแฟนเก่าเขาโทรมาเพื่อที่จะง้อ ตอนนั้นใจเรากระตุกวู้บเลย ใจนึงก็เสียใจที่เขาโกหก อีกใจก็ยังเลือกที่จะเข้าข้างว่าอย่างน้อยเขาก็สารภาพ นั่นคงแปลว่าเขาคงไม่อยากปิดบังเรา เราก็เลยถามว่าแล้วเธอคิดยังไง พี่c บอกว่าไม่ได้คิดอะไรแล้ว ละไม่คิดจะกลับไปยุ่ง แต่เป็นตัวผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมจบ พี่c ขอโทษและบอกว่าจะไม่โกหกอีก นั้นเป็นครั้งแรกที่เราให้อภัยและให้โอกาสให้เขาแก้ตัว ตอนนั้นเรายอบรับว่าเราเกลียดผู้หญิงคนนั้นมาก เราเลยถามว่าจะให้เคลียร์ให้มั้ย พี่c เขาบอกว่าเขาจัดการเรียบร้อยแล้ว เราก็โอเคเชื่อใจเหมือนเดิม เราเล่าเรื่องให้กลุ่มเพื่อนเราฟัง เพื่อนเราพูดประมาณว่า อย่าเชื่อพี่c ร้อย% ถ้าอยากมั่นใจให้ทักไปหาตัวญ.เองเลย ยอมรับอย่างใจหมาเลยว่าไม่กล้า กลัวว่าความจริงจะไม่เป็นแบบที่หวัง เราเลยเลือกที่จะมั่นใจในสิ่งที่พี่c พูด เราก็ไม่เช็ค ไม่ถามเกี่ยวกับเรื่องผู้ญ.คนนั้นอีก จนกระทั่งเพื่อนเราได้ไป sneaker party และแฟนเก่าของพี่c ก็ไปงานนั้นเหมือนกัน ทำให้เราและผู้ญ.คนนั้นได้คุยกัน เราเปิดใจและถามไปตรงๆเกี่ยวกับพี่C ผู้ญ.คนนั้นเล่าว่าพี่C เป็นผู้ชายเจ้าชู้ ตลอดเวลาที่คบกับผู้ญ.คนนั้นมีเรื่องคนอื่นเข้ามาให้ปวดหัวตลอด เราก็ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องที่พี่c เคยเล่าให้เราฟัง ปรากฎว่าสิ่งที่พี่c พูดมันคือเรื่องโกหกทั้งหมด เขาสองคนเลิกกันเมื่อต้นเดือนธันวา ซึ่งผู้ญ.เป็นคนบอกเลิกเพราะทนกับสิ่งที่พี่c คนอื่นไม่ไหว ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้พี่c เป็นคนตามง้อตลอด คอยส่งไลน์ โทรตาม เพื่ออยากให้ผู้ญ.คนนั้นกลับไปคบ ถึงแค่จุดนั้นเราจุก จุกจนไม่รู้จะตอบอะไร เราโทรไปหาเพื่อน เล่าเรื่องทุกอย่าง ก็ตามประสาเพื่อนอะเนอะมันก็บอกว่า ' กูเตือนแล้ว ' เรากลับมานั่งคิดทบทวนกับตัวเองว่าทำอะไรผิดพลาดอะไรไปตรงไหน เป็นแฟนที่ไม่ดีพอรึเปล่า จึงทำให้เขากลับไปคิดถึงคนเก่า เราไม่เคยโทษว่าเป็นเพราะสันดานเลวๆของเขาเลย พอพี่c รู้ว่ารู้เรื่องทั้งหมดจากแฟนเก่าแล้ว เขาก็ขอโทษและขอโอกาส นั้นก็เป็นครั้งที่2 ที่เขาขอโอกาส (อย่าพึ่งคิดด่าจขกท.ในใจนะ ยังมีอีกเย้อะ55555555555) หลังจากนั้นเขาก็คอยพูดย้ำๆกับเราทุกวันว่าเขาลืมไม่ได้ เขายังคิดถึง แต่เขาก็ไม่อยากให้เราไปไหน ในตอนนั้นยอมรับว่าเรารักเขามากจริงๆ มากจนยอมมองข้ามความรู้สึกตัวเองว่ามันแย่และเจ็บปวดกับคำพูดและการกระทำของเขามากน้อยแค่ไหน เขาบอกว่าอยากให้รอ รอวันที่เขาสามารถลืมคนคนนั้นได้หมดใจ และพร้อมจะเริ่มใหม่กับเราอย่างเต็มใจ แต่เราก็ยังอยู่ในสถานะแฟน(?) เราอยู่กับความชัดเจนในสถานะแต่ไม่ชัดเจนเลยกับความรู้สึก
เดี๋ยวจขกท.มาต่อเด้ออ (ถ้ามีคนสนใจนะ55555555) พิมพ์ไปก็แช่งมันไป ละก็ฝากข้อคิดเล็กๆให้คนที่คิดจะหยุดคนเจ้าชู้ด้วยรักจริงนะคะ เลิกฝันดีกว่านะ ถีบมันออกไปจากชีวิตและเอาความรักของเราที่มีมารักตัวเองให้มากๆ สักวันเราเริ่มต้นใหม่กับคนดีๆได้ สิ่งที่จะหยุดคนพวกนี้ได้ ไม่สิบล้อก็HIVแหละค่ะ บรัยยยย