วิ่ง-ปั่น ปันน้ำใจ
การปั่นจักรยานไม่ได้เป็นความชอบและความตั้งใจแต่อย่างใด
แต่เนื่องจากสถานที่ทำงานของ จขกท นั้นการเดินทางไม่ได้สะดวก จะขาดความต่อเนื่องของรถโดยสาร
และด้วยความอินดี้ ก็เห็นว่าเส้นทางเข้าสำนักงานมีเพียงเกือบ 2 km เท่านั้น
จึงซื้อจักรยานธรรมดาๆ มีเกียร์นิดหน่อยพอปั่นขึ้นลงเนิน เพื่อเข้าไปทำงานและกลับออกมา
จึงเป็นที่มาของการมีจักรยานคันนี้
รุ่น black hawk เชียวนา xD
เส้นทางการปั่น
บรรยากาศระหว่างทาง
ระหว่างทางจะฮัมเพลงนี้ตลอด "กลางดง พงป่า เขาลำเนาไพรไกล สังคม มีแดน รื่นรมย์ แสนชื่นชมมี เสรี" 555
จะดีไม่น้อย ถ้าไม่มีความเปียกซ่กจาก sweat dripping down our dirty laundry
หลังจากนั้นก็เริ่มมีความสุขกับการถ่ายวีดีโอไปด้วย ปั่นจักรยานไปด้วย
หลังจากนั้นก็มีพี่ที่ทำงานพูดถึงการ วิ่ง ปั่น ปันน้ำใจของ 3 สถาบันแพทย์ เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารเพื่อผู้ป่วยยากไร้
ซึ่งการปั่นนั้นจะมี 2 โปรแกรมในวันสุดท้ายคือ 7 km และ 27 km
โดยปกติแล้วเรานั้นก็ปั่นที่ 10 km แบบชิวๆ ไม่เหนื่อยเท่าไร
(ต้องจินตนาการว่าปั่นไปถ่ายวีดีโอไป บรรยากาศเช้าตรู่ ชิวๆ ไม่เร่งรีบ บริหารเวลาเอง)
ก็เลยคิดว่า 7 km นั้น ไม่ท้าทาย ชิวๆ
ลง 27 จ้า
ลงทะเบียนด้วยความไม่คิดอะไร ฉันไปได้ ทำได้
รู้เส้นทางนะว่ามันไกล แต่ที่ไม่รู้คือ
จะปั่นเร็วกันไปไหนนนนนนนนนนนน ฮือออออออ :’(
เหตุการณ์ดำเนินมาจนจะถึงวันจริง
เตรียมความพร้อมด้วยการมีกางเกงปั่นที่ดี ปลอกแขน กระเป๋าติดรถ กระบอกใส่น้ำนี่ซื้อแล้วนะ
รวมถึงที่ติดกระบอก แต่ยังไม่ได้ติด เลยหนีบกับที่นั่งหลังคนขับไป บ้านๆ สุดๆ
รถก็ไม่ได้เช็คลมยาง 555+
เอาว่ะ ไม่ไหวก็หยุด ไม่เห็นจะยาก
ยังๆ ยังไม่พอ ไปคนเดียวด้วยน๊า มั่นพร๊อพให้ห้ามั่นหน้าให้ล้าน 555
พอไปถึงสถานที่จริง ก็ต้องหัวเราะเยาะตัวเองในใจ
ตูมาทำไมฟร่ะ!
แต่ละคน ช่างดูเป็นนักปั่นลมกรด
ทุกคนทักทายกันละกันอย่างมีความสุขสนุกสนาน
ช่วยกันติดป้ายที่ด้านหลังของกันและกัน
ส่วนตัวเรานั้น มาคนเดียวก็ติดข้างหน้าเอา
บางคนมีการกระซิบบอกให้ดูรถเทพกัน
ส่วนตัวเรานั้น พยายามมองหาจักรยานแบบเดียวกัน
ไม่มีใครเลยยยยยยยยยยยย 5555555555
แต่...ไม่ได้ เราจะไม่ยอมแพ้
แล้วภาพการ์ตูนวัยเด็กก็ผุดขึ้นมาขณะเขียนกระทู้นี้
การ์ตูนญี่ปุ่นตาหวานที่นางเอกไปท้าแข่งรถกับพระเอก
ซึ่งพระเอกเป็นนักซิ่งมอไซด์ แต่นางเอกเอาเสือภูเขาไปสู้ 555+
ยูเมะยังสู้เลย เราต้องสู้ 555+ (หัวเราะแบบดีเจนุ้ย)
เรามาเพื่อความบ้าของตัวเอง เพราะคิดว่า 27 โล ไม่ไกล
คนปั่นเยอะ ไม่อันตราย
แรกๆ ก็ชิวๆ กันมา ปั่นกับกลุ่มแรกๆ ดูกลุ่มหลังๆ ไม่เร่งรีบ
พิธีกรก็บอก ไม่มีการแข่งขันนะครับ ปั่นช้าๆ เรื่อยๆ
ตัวเรานั้นไม่ได้ศึกษาเส้นทางมาอีก เพราะเป็นคนพื้นที่
รู้ว่าจะไปที่หมายได้ยังไง แต่ไม่รู้ว่าเค้าใช้เส้นทางไหนกัน
แต่ด้วยความโลกสวย เกาะกลุ่มกันไป ไม่ต้องดูเส้นทางก็ได้
แค่เลยมาประมาณกิโลเมตรที่ 5 -6 เท่านั้น
กลุ่มจักรยานเริ่มทยอยแซงไปเรื่อยๆ แซงไปเรื่อยๆ
มีลุงคนนึงขับมาทักว่า เหลือเราสองคนแล้วมั้งเนี่ย
ไอ้เราก็อยากคุยนะ แต่เหนื่อยมั้ย
แรงจะพูดยังไม่มี หันไปยิ้ม บอกว่า..หนูมาปั่นครั้งแรกด้วยค่ะ
ลุงบอก ไม่เป็นไรๆ ไปด้วยกัน ไปเป็นเพื่อนลุง
ซักพัก ลุงพูดเสร็จก็แซงไปคุยกับคนข้างหน้า
ลุงงงงงงงงงงงงง!!!!
และไปจนลับตา
อ้าว....เฮ้ยยยยยยย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า
555+
ยิ้มเยาะให้กับความบ้าบิ่นของตัวเอง
และแล้วเราอยู่ลำดับท้ายสุดอย่างเป็นทางการ
สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนนนนนน
เห็นหลังคนหน้าแบบไกลๆ ไกล๊....ไกล
ขอบคุณภาพเส้นทางจากพี่กู
เวลานี้นึกถึงสภาพกระต่ายกับเต่ากันที
แต่ก็คิดในใจว่า ใครจะไปเร็วเท่าไรก็ไป เราก็รักษาความเร็วของเรา
ด้วยความที่ยังไม่เคยใส่กางเกงจักรยานจริงจัง
และกล้ามเนื้อก็ไม่เคยปั่นต่อเนื่องนานขนาดนี้
มีความรู้สึกว่ากางเกงรัดมาก อึดอัดมาก
เลือดจะไหลเวียนได้มั้ย
อ่านมาเล็กน้อยในการเตรียมตัวปั่น ว่าอาจจะเป็นตะคริว จะเป็นมั้ย?
แต่ไม่มีใครให้ปรึกษา คนเข้าร่วมปั่นที่อยู่ด้านหน้าเห็นหลังไวๆ น่าจะห่างกันมากกว่า 400 เมตร
รถพยาบาลก็ไกลออกไป มีแต่รถกระบะที่คอยกันรถคันอื่นและรถมอเตอร์ไซด์รายงานสถานการณ์ตามจุด
ในใจคิดจะขอติดรถไปด้วย เอาจักรยานขึ้นกระบะ แต่อีกใจก็อยากไปต่อ
ปั่นมาเรื่อยๆ อย่างโดดเดี่ยว...(ผู้น่ารัก)
จนมาถึงทางแยกที่เราไม่เห็นใคร
ไม่รู้จะตามใคร คิดว่าเค้าไปกันทางนี้เลยเลี้ยวมา
ระหว่างทางตั้งแต่ที่ทุกคนแซงไปหมด ก็คิดยอมแพ้มาตลอดทาง
เดี๋ยวแวะจอดศาลาหน้า โทรให้น้องมารับ
แล้วก็ผ่านไปศาลาแล้วศาลาเล่า ปั้มแล้วปั้มเล่า
คิดว่าจะหยุดปั่น คิดว่าไกลเกินไป ไม่สำเร็จแน่ๆ
ผ้าบ่ง ผ้าบัฟก็ไม่มีกะเค้า ฝุ่นกระจายยยย
รถบนถนนก็คันใหญ่ๆ เค้าคงจะขัดใจจักรยานต้วมเตี้ยมของเรา
ในระหว่างที่คิดจะยอมแท้
ในหัวก็มองเห็นภาพของการเข้าเส้นชัย
จะต้องไปถ่ายรูปที่เส้นชัยให้ได้
จังหวะที่เลี้ยวผิดทางมาเข้าแหล่งชุมชน ก็คิดจะแวะกินข้าวตลอด 555
คอแห้งมากแต่ไม่อยากหยุด กลัวว่าถ้าหยุดแล้วกล้ามเนื้อขาจะปั่นต่อยาก
นี่คือเส้นทางการปั่นจริง
และนี่คือเส้นทางการหลงจริง 555
เพิ่งมาดูเส้นทางการปั่นของกิจกรรมวันนี้ มาเทียบให้เห็นกันจะๆ ก็จะเห็นว่า
เฮ้ยยย...เรามาทางลัดนี่หว่า cheating 555+
ก็ว่าอะไรจะไม่มีร่องรอยการปั่นระหว่างทางขนาดน๊านนน
Staff ก็ไม่บอกว่ามาผิด เราก็ยิ้มให้กันอยู่นะระหว่างทาง
เค้าคงจะคิดว่าเราแวะกลับบ้าน
ม๊ายยยยนะ หนูหลงงงงงงงง ฮืออออออออ
นางเอกสู้เพื่อชนะพระเอก และจะได้มีโอกาสรู้จักกัน
แต่เราสู้เพื่อชนะใจตัวเอง 555+ #มันก็จะทุลักทุเลหน่อย
อุตส่าห์หลงมาทางลัด ยังจะมาถึงหลังคนอื่นอีก
เข้าประตูผิดอีก ก็ว่าทำไมมันเงียบเชียบ
ปั่นมั่วๆ จนไปเข้าเส้นชัย
มีเหล่านักศึกษา คณะแพทย์ มอ. ตั้งแถวรอรับ และร้องเย้! ให้กำลังใจ
เราเข้าเส้นชัยมาโดยไม่มีใครแย่งซีน
เพราะตรูมั่วมาคนเดียว 555+
รวมถึงพิธีกรตอนที่ปล่อยตัวตอนเช้ายังตะโกนมาถาม
จักรยานหมดแล้วใช่มั้ยครับบบบ?
ตอบไปว่า น่าจะหมดแล้วนะคะ 555+
I made it!
ในการ์ตูน นางเอกกับพระเอกมาถึงเส้นชัยใกล้ๆ กัน เพราะนางเอกใช้ทางลัด
แต่นางเอกเบรคแตก พระเอกเลยขับแซงไปจอดรถแล้วคว้านางเอกไว้
ส่วนรถนางเอกก็ไหลต่อไปจนถึงเส้นชัย 555+
ความรู้สึกตอนถึงคือใช่เลย แบบนี้เลย
เรามาถึงก่อนทีมนักวิ่งที่สตาร์ทที่เดียวกัน ตอนตีห้าครึ่ง (จักรยานสตาร์ท หกโมงครึ่ง)
ถึงก่อนประมาณ 10 นาที
ฮ่าๆ โชคดี ที่ยังมาถึงก่อน
5555555555555555555555555+
Finishto bananitoooo!!!
เหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้รู้ว่า...
การเอาชนะใจตัวเองยากที่สุดแต่จะสร้างความประทับใจมากที่สุด
ถามว่ามาอีกมั้ย...?
คำตอบคือ...ไม่!
ขอแบบไม่เร่งรีบ ชมวิวไป ถ่ายวีดีโอไป
ศรีไม่ใช่สายล
การปั่นจักรยาน (อีกไกลแค่ไหนถึงจะใกล้สักที) ครั้งแรก #วิ่งปั่นปันน้ำใจ