ฉันร้องไห้ เพราะอาชีพ หมอ (แพทย์)

สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้ที่ ๒ ของผม แล้วครับ และขอขอบคุณทุกๆท่านที่ติดตามและแชร์เรื่องราว กระทู้แรกของผมไปครับ ชีวิตแพทย์ พยาบาล มีแต่ให้และให้ แม้ว่าบางครั้งจะผิดพลาดบ้าง หรือ มาจากตัวบุคคลเอง แต่นั่นเป็นภาพลักษณ์รวมทั้งองค์กร (โรงพยาบาล) หลังจากที่มีข่าวเกี่ยวโรงพยาบาลหนึ่งที่คนไข้รอจนเสียชีวิต และ มีอีกข่าวหลายข่าวด้วยหลังจากนั้น จนทำให้แพทย์ พยาบาล โดนด่า บ้างหมดกำลังใจ ลาออกก็มี ผมเข้าใจความรู้สึกทั้ง 2 ฝ่าย อย่างดีในฐานะแพทย์คนหนึ่งที่เพิ่งจบ แม้จะไม่มีประสบการณ์อะไรมากมาย

ผมขอเล่าชีวิตความยากลำบากของชีวิตแพทย์ของผม ซึ่งหลายคนอาจมองว่าผมโกหก ลวงข่าวขึ้นมา อะไรต่างๆนานา ผมเรียนจบแพทย์โดยทุนของรัฐในมหาวิทยาลัยชั้นนำ จริงๆแล้วผมสอบติดแพทย์ทหาร แต่ผมปฏิเสธ สมัยเรียน ม.๖ ไปเที่ยวจังหวัดในภาคเหนือเจอความเป็นอยู่ และวิถีชีวิตของพี่น้องชาวไทยแถวนั้น ทำให้ความคิดผมเปลี่ยน เพราะผมสอบติดแพทย์หลายสถาบัน ทั้ง กพสท. และ โควต้ามหาวิทยาลัย และต่างประเทศ แต่ผมเลือกเรียนที่จะเรียนประเทศไทย เพราะจะได้เข้าใจปัญหาให้ดียิ่งขึ้นครับ

หลังจากผมเรียนจบมหาวิทยาลัย จับสลากแพทย์ใช้ทุน ผมได้ลงในโรงพยาบาลชนบทแห่งหนึ่งดังที่กล่าวในกระทู้แรกครับ โรงพยาบาลที่ผมไปทำงานมีแพทย์เพียง ๓ คน รวมผมครับ  พยาบาล ไม่ถึง ๓๐  รวมกับ ผู้ช่วยพยาบาล พวกเราทำงานหนักบางคืนไม่ได้นอนเพราะมีคนไข้ทยอยเข้ามารักษา คนไข้เปรียบเสมือนญาติพี่น้อง เหมือนตนเอง ในวันที่อ่อนแอเพราะต้องการกำลังใจและการดูแล เหมือนเราๆท่านๆล่ะครับ หลายๆครั้งที่ไม่สามารถทำการรักษาได้ จนสูญเสียชีวิต นั่นหมายความว่า ชีวิตผมพังไปด้วยไม่เพียงแต่ญาติ ในครอบครัวของผู้วัยชนน์ แต่นั่นหมายถึงผม ในฐานะแพทย์ เสียใจ และเศร้าโศกไม่ต่างกันเลย หลายครั้งแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำก็มี

หลายครั้งที่ทำการรักษาคนไข้ให้หาย พอกลับมาเยี่ยมขอบคุณเรา วันนั้นเหมือนเราได้รางวัลชีวิตมาเติมเต็มส่วนที่หายไป พร้อมด้วยรอยยิ้มเปี่ยมด้วยน้ำตาจากข้างใน โรงพยาบาลที่ผมอยู่นอกจากมีแต่พี่น้องชาวเขาส่วนใหญ่มารักษาคนไข้หลายๆคนมาไกลมาก ต้องเดินด้วยเท้า ยิ่งช่วงนี้การเดินทางลำบากหมู่บ้านไกลต้องแบกคนไข้เดินเท้ามาหาหมอ ส่วนหมอก็มีงานล้นมือไม่สามารถออกไปพบคนไข้ในที่ๆห่างไกลได้ ทำงานแข่งกับเวลา อุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงยา ก็อย่างที่เห็น (ไม่ขอพูดถึง) พยาบาลก็น้อยนิด บางครั้งผมรู้สึกสมเพชชีวิตตนเอง ที่ทำอะไรไม่ได้ วันหยุดพวกเราไม่ได้หยุดแต่พวกเราไม่ได้เรียกร้องอะไร ผมมีความฝันอยากแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนรินทรา พระบรมราชชนนี  (พอ.สว.) มาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าจะเจอปัญหาอุปสรรค ต่างแต่ผมแค่เห็นภาพตามผนังผมมีแรงขึ้นที่จะทำงานเพื่อประชาชนโดยไม่แบ่งแยก   และบางครั้งเจอปัญหา อุปสรรคเกินกว่าที่รับไว้ได้ และนั่นคือ สิ่งที่ผม "ร้องไห้ เพราะอาชีพหมอ (แพทย์)"

สุดท้ายนี้ผมขออัญเชิญพระราชดำรัส สมเด็จพระราชบิดา และ พระบรมรูป สมเด็จย่า สมเด็จพระพี่นางฯ และ สมเด็จเจ้าฟ้าหญิง พระผู้ทรงเป็นพลังแห่ง ชาว พอ.สว.

“อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ  แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ไม่อดตาย
ถ้าใครอยากร่ำรวยก็ควรเป็นอย่างอื่นไม่ใช่แพทย์
อาชีพแพทย์นั้นจำต้องยึดมั่น ในอุดมคติ เมตตากรุณาคุณ”

สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุยเดชวิกรม พระบรมราชชนก



แม่ชีเทเรซา เป็น Idol ของผมในความเป็นแพทย์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่